BlogGang.com : : คนอุบล : ผมเองครับ..ที่เจอพิษ ปรส...และขอคุยเรื่อง"เพื่อน"ด้วยคน..????{แตกประเด็นจาก P11888079}

ผมเองครับ..ที่เจอพิษ ปรส...และขอคุยเรื่อง"เพื่อน"ด้วยคน..????{แตกประเด็นจาก P11888079}

กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก P11888079

2-3 วันนี้ผมเดินทางตลอดไม่มีเวลาแบบเต็มๆมาอ่านหรือตอบกระทู้....
พอดีมีพี่ที่รักส่งกระทู้นี้ไปให้....เพราะปกติ..บอกตรงๆไม่ค่อยได้เปิดอ่านหรอกครับ..

เห็นคำถามที่ว่า...
"..กล้าตอบด้วยการยกเอาตัวอย่างความจริงมาว่ากันหรือไม่ หรือดีแต่บิดเบือนปั้นตัวเลขไปเรื่อยๆ"

ก็เลยต้องเข้ามาตอบเพราะตนเองมีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องนี้...
จริงๆเรื่องนี้ถ้าจำไม่ผิดผมเคยเล่าไปแล้ว..แต่จะยกมาใหม่ก็ได้ครับ...
ผมทำธุรกิจที่อุบล..ผมเป็นลูกค้าหลายแบงค์..ตามแบบของคนที่ชอบหมุนเงิน..
ปึ 38-39 ก็มีบริษัทเงินทุนนครหลวงมาให้ผมกู้เงินก้อนใหญ่..ด้วยที่ดิน 2 แปลง..
แปลงแรกเนื้อที่ 17 ไร่อยู่ชานเมือง..อีกแปลง 2 ไร่อยู่กลางชุมชน..
แปลงแรกได้มา 17 ล้านส่วนอีกแปลงได้มา 7 ล้าน..
และแน่นอน..ปี 40 โรคตัมยำกุ้ง..นครหลวงถูกปิด..และต่อมาก็ปิดถาวร..
ช่วงนั้นคงไม่ต้องอธิบายว่า..คนทำธุรกิจลำบากขนาดไหน..
แถมมีนายแบ๊งค์บ้าคนหนึ่งขึ้นดอกเบี้ยแบ๊งค์ไปที่ 22% โหดแบบสุดๆ(ปัจจุบันอยู่ที่ 7.5%)
ต่อมาประมาณปี 42-43 ก็ได้ยินว่าหน่วยงานที่ชื่อ ปรส.ขายทรัพย์สินให้กับฝรั่ง..
ชื่อ "กองทุนรวมแคปปิตอล"..และอีกไม่นานผมก็ได้รับการติดต่อซื้อที่ดินแปลงแรก..
สนนราคาคือตามเงินที่ผมกู้มาจากนครหลวงและขอดอกเบี้ยที่ค้างจ่ายด้วย..
ผมบอกกับคนไทยที่มาติดต่อว่า..เค้าลงข่าวไปทั่วว่าคุณซื้อมาแค่ 20%..
(ผมรู้สึกว่าที่ดินแปลงนี้เป็นแปลงใหญ่ที่ผมยังต้องการ..)
และโชคดีีฝรั่งต้องการปิดเร็วๆเพื่อหอบเงินกลับบ้าน..และคนไทยพูดช่วย..
เลยจบกันที่ 10 ล้านถ้วน..แต่แค่นั้นผมก็วิ่งหาเงินจนรองเท้าสึก...
และโชคดีอีกเหมือนกัน..ที่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเมตตาให้ยืมเงิน..
เพราะช่วงนั้น..แบ๊งค์ไหนก็ไม่ปล่อยครับ..
อีกไม่นาน..ผมก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทคนไทยที่มีตัวย่อว่า.."เคเค"
บอกว่าให้มาไถ่ที่ดินที่ผมเป็นหนี้อยู่ 7 ล้านและขอดอกเบี้ยอีก 2 ล้าน..รวม 9 ล้าน..
ผมต่อรองเหมือนเดิมแต่รายนี้ใจแข็งไม่ยอมลดแม้แต่บาทเดียว..
สุดท้ายคือการฟ้องร้องให้ศาลตัดสิน..ผมคิดว่าผมน่าชนะเพราะต้นทุนเค้าแค่ 20-25%..
จะมาเอา 100% พร้อมดอกเบี้ยได้ยังไง..แต่กลับเป็นว่า..เค้าชนะ..ผมต้องจ่าย 9 ล้าน..
แน่นอนครับ..ผมหาที่ไหนก็ไม่ได้..เพราะแปลงแรกก็พึ่งไปยืมเค้ามา..
ก็เลยคุยกันว่า..ผมยอมให้ยึดที่ดินแปลงนั้นไป..เค้าโอเค..
คนที่ติดต่อแบ๊งค์จะรู้ดีว่า..หากหลักทรัพย์ไม่คุ้มครองหนี้การจบด้วยการยึดทรัพย์นั้น..เป็นไปได้ยาก..
และกรณีแบบนี้ในอุบลก็มีเพื่อนผมที่ต้องถูกยึดที่ดินไปเหมือนกัน...

วันนี้ที่ดินแปลงแรกที่ผมซื้อมา 10 ล้าน..ราคาน่าจะประมาณ 40-50 ล้าน..(ไร่ละ 2 ล้าน..ผมไม่ขายครับ..)
ส่วนแปลงที่สองที่ถูกยึดไปก็น่าจะอยู่ราวๆ 10-12 ล้านเป็นอย่างน้อย..
เรื่องที่เล่ามา..คงเป็นคำตอบให้กับคนที่ถามนะครับ..

............................................................................................................................

มาอีกเรื่องที่กำลังร้อนแรงในห้อง รดน. คือคำว่า"เพื่อน"...
ผมเป็นอีกคนที่ค่อนข้างจะจำกัดคำว่า"เพื่อน"ไว้ค่อนข้างสำคัญ..
ผมจึงมี"เพื่อน"หลายแบบ..บางคนเป็นเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อนแค่."คนรู้จัก..."
และแน่นอนหลังเกิดเสื้อสี..เพื่อนผมหลายคนก็ไม่สนิทกันเหมือนเดิม..
บางครั้งผมก็มานั่งคิดเหมือนกันว่า..สีเสื้อทำไมต้องให้เราเสียเพื่อนด้วย..
คนที่สนิทกันที่ไปกรุงเทพต้องโทรไปหาและไปกินข้าวกัน..เดียวนี้ก็เลิกโทรหา....
คนที่ตีกอล์ฟด้วยกันก็เกิดเบื่อๆ..ไม่ไปตีด้วย..แม้ว่าจะไม่ได้คุยการเมืองกัน..
ผมเสียเพื่อน(สนิท)ไปเพราะความคิดทางการเมืองไปไม่น้อย...
แน่นอนครับ..เรายังคบหากัน(บ้าง)แต่..ในใจมันเกิดเบื่อๆที่จะคุยด้วย..
จึงไม่แปลก..สำหรับคนในห้องนี้ที่อยู่คนละสี..ไม่ใช่เพื่อนผมแน่นอน...
ผมเคยบอกทุกคนในห้องนี้ว่า..ถ้าสีเดียวกันมาอุบลผมยินดีต้อนรับ..
แต่ถ้าคนละสี..ก็อย่าคิดว่า..จะเจอผมเลย..ผมไม่ต้องการเสวนาด้วย..
เพราะสำหรับผม..การเมืองคือพื้นฐานของความคิด..ว่าคิดอย่างไร???
เมื่อคิดต่างกัน..การคบหากันก็คงไม่มีอะไรให้คุยด้วย..คุยไปก็ทะเลาะกันเปล่าๆ..
จึงเห็นด้วยกับ คุณทองรำไร ครับว่า..เสื้อต่างสี(แค่)คบกันได้ครับ..แต่เป็น"เพื่อน"นี่คงเป็นเรื่องยาก..
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์เมื่อสองปีทีผ่านมา..ที่สีแดงถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำอีก..
จะให้ไปดี้ด้ากับอีกสี..ผมว่า..สำหรับผมแล้วทำใจยากครับ...

ท่านอาจารย์ผมท่านเคยพูดเสมอๆว่า..ประเทศไทยนี่เป็นดินแดนน่าอัศจรรย์..
มีความขัดแย้งเรื่องการเมือง..เรื่องศาสนา..ถึงขนาดนี้..แต่ก็ยังสามารถอยู่ร่วมกันได้..
แน่นอนครับ..เราคนไทย..เราสามารถอยู่ร่วมกันได้..แต่..ไม่ใช่"เพื่อน"ครับ...
มันสำคัญว่า..คุณเข้าใจและให้ความสำคัญกับคำว่า"เพื่อน"แค่ไหน?????
คำว่า"เพื่อน"ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน...นี่ต่างหาก..ที่แตกต่างกัน.....?????

...........................................................................................................................

Create Date : 28 มีนาคม 2555

Last Update : 28 มีนาคม 2555 6:37:40 น.

5 comments

Counter : 1523 Pageviews.

โดย: Borkum_Monet

วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:8:37:58 น.

โดย: magic-women

วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:10:01:41 น.

แวะมาทักทายค่ะ ^_-

โดย: andrex09

วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:14:39:37 น.

สุดยอดแห่งความเป็นจริง

คุณคือคนเก่ง คนกล้า คนจริง เลื่อมใสและนับถือ ขอคารวะจากใจ

โดย: พรไม้หอม

วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:20:00:23 น.

หวัดดีครับ ..คุณโบคุ่ม...ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจครับ...

ขอบคุณคุณเมจิควูแมนเช่นกัน..

และขอบคุณกับอาหารน่ากินๆนะครับคุณนก..น่าจะเป็นแกงเขียวหวานใช่ไม๊เอ่ย..

และขอบคุณกับคำชมของคุณพรไม้หอมครับ...

โดย: คนอุบล

วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:5:08:52 น.