ตะพาบๆ กม.ที่ 283 "จุดเปลี่ยน"


ตะพาบๆ กิโลเมตรที่ 283 จุดเปลี่ยน . . จุดเปลี่ยนคืออะไร จุดเปลี่ยน คือ การพลิกผัก หักเห เรื่องใดเรื่องหนึ่งของมนุษย์ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อชีวิตของเราอย่างใหญ่หลวง  มานั่งนึกย้อนดู . . ก่อนหน้านี้ . . ก็มีอยู๋เรื่องหนึ่งเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันเปลี่ยนไปเยอะเลย เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตก็ว่าได้ . .

ย้อนกลับไปสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดฯ หนึ่งแถวปิ่นเกล้า ชีวิตในช่วงเวลานั้น เป็นอะไรที่ชิลมาก . . เช้าคือตื่นมาแบบไม่เร่งรีบเลย เพราะว่า ที่ทำงานอยู่ใกล้คอนโดฯ แค่ 1 กิโลเมตรกว่า แบบว่า . . ถ้าขับรถไปก็คือยูเทินรถหนึ่งรอบไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นที่ทำงานแล้ว . .

ใกล้แบบที่ว่า . . พอเดินออกจากซอย . .

ข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง . .

เราก็มองเห็นตึกสำนักงานที่ออฟฟิตเราเช่าอยู่ได้ . .

ออฟฟิตอยู่ชั้น 15 วิวสวย แถมอยู่ติดห้าง กลางวันสามารถ เข้าไปเดินเล่นในห้างได้ทุกวันเลย เพลินสุดๆ

ใดๆ คือของเซลล์นี่รู้ก่อนเพื่อน . .

นอกจากเดินทางมาทำงานสบายแล้ว การทำงานก็ยังสบายอีก นายใจดี งานไม่กดดัน . . พี่ๆ ที่ทำงานก็ไม่ค่อยมีทะเลอะเบาะแว้งกันหรอกค่ะ

ถ้าเกิดใครทำอะไรให้ร้อนรุ่มใจ เราก็แค่ก้มหน้าลงท่องกลอนพุทธทาสสักรอบ หรือสักสองสามรอบ ใจมันก็หายร้อนแล้ว . . . เหอๆ . .

พอเลิกงาน . . เราก็เดินข้ามฝั่งมาฟิตเนสที่เมเจอร์ฯ เสร็จก็อาบน้ำ เข้าห้องสตรีม เป่าหัวแห้งเรียบร้อย แล้วจึงค่อยๆ เดินกลับบ้าน

บางวัน . . ก็นัดกับพี่ที่ทำงาน ไปว่ายน้ำคอนโดฯ พี่แกรที่อยู่ แถวๆ ทางกลับรถสายใต้เก่า . .

ว่ายน้ำเสร็จสามทุ่มสี่ทุ่ม ยังสามารถแวะฟู้ดแลน . . หน้าปากซอย ตรงทางเข้าคอนโดฯ ได้เลยค่ะ โอ๊ยยย . . สุขสบายอ่ะ . .

เสาร์อาทิตย์ว่างก็ทำความสะอาดห้อง ห้องเล็กๆ ทำความสะอาดง่ายมาก บ้างก็หาทำอะไรอร่อยๆ กิน . .

บ้างปลูกต้นไม้ริมระเบียง . .

ซักผ้าตาก . . ก็ตากตรงริมระเบียงนั่นแหละ . .

อยากเลี้ยงแมวก็เลี้ยงในแอพเอา . . สบ๊ายย ไม่เสียเงิน

ถ้าขี้เกียจก็นอนเปิดแอร์อ่านนิยายแบบไม่ทำอะไรเลย ไม่ออกไปไหนด้วยแบบที่ก้าวขาเข้าห้องไปเย็นวันศุกร์ ก็ยาวเลย ก้าวขาออกมาจากห้อง อีกทีเช้าวันจันทร์

มันก็ผ่านไปแบบนี้ . . วิถี . . ทำงาน กทม. แบบสโลไลฟ์

สยงสยามคืออะไร ไม่ต้องถาม เพราะชั้นไม่ไปไหนวันๆ ผ่านไป ชั้นอยู่แต่ปิ่นเกล้าๆ และปิ่นเกล้า 55+

ใช้ชีวิตในห้องสี่เหลี่ยมอยู่ตัวคนเดียวแบบสงบสุข . . จนวันเวลาผ่านไปนับสิบปี . . 
ใช่ค่ะ . . สิบปี เหมือนนาน แต่ความจริงแล้วผ่านไปไวมาก . . แต่ จุดเปลี่ยน มันเกิดขึ้น . . ในวันที่ท้องฟ้าสดใสวันหนึ่ง เราไปถึงที่ทำงานแล้ว ได้รู้ว่า ออฟฟิตจะย้ายที่ เนื่องด้วยบริษัทแม่ ไปซื้อตึกใหม่ไว้ตรงข้ามกับตึกสำนักงานใหญ่ เค้าก็เลยจะลาก พวกบริษัทลูกๆ ไปอยู่รวมกันไว้ . . เราจะได้ไม่เสียค่าเช่าตึกให้คนอื่นอีก จากคนที่มีบ้านอยู่ใกล้ที่ทำงานแค่ 1.2 กิโลเมตร กลายเป็น 20 กิโลเมตร ในทันทีเลยค่ะ . .

เศร้าเลยค่ะ . . อยู่ดี ก็กลายเป็นคนเมืองเฉ้ยยยย . .

แล้วมันเบื่อค่ะ . . ไปทำงานกลับมาถึงคอนโดฯ ก็เหนื่อยมาก ไม่มีแรงอยากทำอะไร . . กลับมาถึงเข้าห้องนอนแผ่ มองเพดานไม่ทำอะไรเลย เบื่อจนกลัวตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า ผ่านไปเดือนนึงก็ยังไม่หายเบื่อ เหมือนเราไม่พร้อมจะปรับตัว เบื่อที่เรายังต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ แต่ออฟฟิตย้ายหนีไปซะไกล . . มันเหนื่อยมากมันหดหู่ไม่เลิกเลยค่ะ จากตื่นสายได้ ก็ต้องมาตื่นตั้งแต่ตีห้า เพราะว่าถนนเส้นปิ่นเกล้าในช่วงเวลาเร่งด่วน รถติดหนักหน่วงมาก ถ้าอยากไปทำงานให้ทันต้องไปเช้าๆมากๆ ค่ะ

ความเซ็ง เหงาๆ เศร้าๆ เบื่อๆ เป็นเหตุให้ต้องทำอะไรสักอย่าง ซึ่งในตอนนั้น ก็มีความคิดหนึ่งฝุดขึ้นมา . . คือ ซื้อบ้านค่ะ ทำไมต้องซื้อบ้าน นั่นสิ . . อยู่ดีๆ ก็คิดว่า อายุก็เยอะแล้ว ถ้าไม่เริ่มผ่อนตอนนี้ จะเริ่มผ่อนตอนไหน จะรอไปอีกกี่ปี . . ถ้ารอไปจนแก่มากกว่านี้ แล้วจะผ่อนไหวไหม จะสามารถปลดหนี้ได้ก่อนเกษียรไหม . . คือ คิดเท่านั้นแหละ แล้วก็ซื้อเลย 55+ ในใจคือ แค่อยาก ย้ายไปอยู่ในที่ใหม่ๆสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ไปเจอผู้คนใหม่ๆ . .

ส่วนคอนโดฯ ก็ปล่อยเช่าอยู่พักหนึ่ง แล้วรู้สึกเหนื่อยกับปัญหาคนเช่า

คือมีเคยโทรมาตอนตีหนึ่ง บอกว่า . . พี่คะ หนูว่าพื้นมันจะถล่ม มันเหมือนจะทะลุไปชั้นล่างเลยค่ะ บลาๆๆ . .

อีกวันพอไปดู อ่าวเหมือนว่ากระเบื้องมันเด้ง ตูต้องเปลี่ยนกระเบื้องให้อีก พอคนเก่าไป . . อิชั้นก็ต้องมาเก็บห้องกวาดห้อง ไอ้จะไม่ปล่อยเช่า ก็ต้องสู้กับนกพิราบหลังห้อง ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ . .

พอเจอคนเช่าดี ก็อยู่ได้แพรบเดว นางไปได้มรดกเป็นคอนโดจากญาติ ต้องไปทำความสะอาดอิ๊กกกก . . เหนื่อยใจมาก . . สุดท้ายพอมีคน มาถามขอซื้อก็เลยขายไปเลยค่ะ . . ไม่ได้เอากำไรอะไรเลย ได้เพิ่มมา แค่เกือบสี่แสนเอง ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดายนะ อยู่มานานมันก็ผูกพัน แต่ความเหนื่อยมีมากกว่า . . . เราอาจไม่เหมาะกับการทำธุรกิจอะไรแบบนี้

บ้านใหม่ไฮไลกว่าเดิม . .

ครัวใหม่บันเทิง . . จุอุปกรณ์ทำครัวได้อีกเย้อออ . .

พื้นที่ข้างบ้านอันน้อยนิด ที่เวลาโพสต้นไม้ใหม่ๆ ลงเฟสทีไร ก็โดนค่อนขอดว่ามีที่ 200 เอเคอร์มันทุกรอบ . .

ต้นหม่อนสองกระถางเล็กๆ ในวันนั้น วันนี้ เลยหลังคาโรงรถแล้ว

มะนาวต้นเล็กๆ ก็เติบใหญ่ได้กินลูก . . เริ่มปลูกทีละเล็กทีละน้อย จนสุดท้ายก็กลายป่าเต็มข้างบ้าน
เราว่าเรา Happy นะ . . ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี . . เราว่า . . เหมือนเรามีเรื่องให้ทำโน่นนั่นนี่ มากกว่าอยู่คอนโดฯ เยอะเลย มีสังคมเพื่อนบ้านไปเที่ยวไปกินข้าวกัน อยู่คอนโดฯ มาสิบปี นี่คือไม่เคยไปกินข้าวนอกบ้านกับใครเลยนะ มาอยู่บ้านแบบนี้ . . แม่ดูเอนจอยกว่าอยู่คนโดฯ ด้วย มันมีที่ให้นางเดินเล่น ออกไปเม้ามอยหอยสังข์ก้บคุณยายข้างบ้าน 
เราชอบไปเดินตลาดเช้ามาก แถวบ้านเรามีของดี และราคาถูกเยอะมาก ชอบที่มันบ้านๆ บรรยากาศเหมือนอยู่ ตจว. นี่แหละ . .ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใกล้ที่ทำงานก็เหอะนะ ระยะห่างจากบ้านมาที่งานก็ 20 กิโลเมตร เป๊ะ เหมือนตอน อยู่คอนโดฯ แต่มันก็ไม่เลวร้ายหรอก เพราะสุดท้ายแล้ว เราก็ปรับตัวโดยการ แว้นมอไซค์ไปทำงานแทน 555+ ไม่พอ ยังแวะซื้อกินที่ตลาดสดพิกัดที่เป็นทางผ่านได้อีกด้วย . .
แต่ความสุขจากการได้เลาะชอปปิ้งที่ตลาด ก็ต้องจบลงเพราะโควิดค่ะโควิดทำให้เรา WFH ตั้งแต่เดือนเมษายน ยันเดือนสิงหาคม แบบยาวนานกว่าปีที่แล้วเยอะมาก . .

WFH ก็ดี มันทำให้เราได้ปลูกต้นไม้ เวลาว่างจากงาน ได้อยู่ทะเลาะกับเด็กๆ ที่บ้าน . .

และก็นั่งปลงกับความซน

ซน และซน . . ของพวกนาง

ตัวนึงร้องจะอยากไปเที่ยวนอกบ้าน ตัวนึงจะต้องได้กินทูน่าเปียก บันเทิงค่ะบอกเลย . . คนละเรื่องกับการเลี้ยงแมวในแอพเทียบกันแทบไม่ได้ 55+
แต่วันนี้ . . ลูกๆ ต้องเหงาแล้วค่ะ เพราะเราต้องกลับมาทำงานออฟฟิตละ มันมีงานบ้างตัวที่ทำทีบ้านไม่ได้ . . มาถึงออฟฟิตอย่างเช้า รถอย่างโล่ง

ก่อนจะได้รับการอนุญาตให้ขึ้นตึก ก็โดน HR จับตรวจโควิดค่ะ

ผลออกมาคือยังรอดดดด อยู่นะคะ 555+ ก็คิดถึงบรรยากาศในที่ทำงานเยอะอยู่เหมือนกันแหละ . . แต่ข้อเสียของการมาทำงานออฟฟิตคือ ไม่สามารถกินข้าวที่โต๊ะได้ บริษัทไม่อยากให้พนักงานเปิดแมสนานๆ เค้าบอกมันเสี่ยงต่อการติดโควิด

เค้าบอกให้พนักงาน ลงมากินด้านล่างตึก . .

เตรียมที่ไว้ให้แล้ว . แค่พกแอลกอฮอลเสปรย์มาฉีดฆ่าเชื้อเอาเอง . . 

ทดลองไปแล้วเมื่อเช้านี้ . .

ส่วนมื้อกลางวันนั้น . . ขอเป็นนมแล้วกันนะคะ . . มีความกลัวคนเยอะ

เฮ้ออ . . โควิด เป็นจุดเปลี่ยนนึงที่ทำให้วิถีชีวิตของเรา เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากเลยเนอะ . . ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด ทำให้ปัญหาเรื่อง PM2.5 ที่เคยกังวลกลายเป็นเรื่องขี้ประติ๋วเล็กจิ้วริ่ว จนแทบไม่ต้องนึกถึงมันแล้วจริงๆ โควิด . . มันบังคับเราต้อง ปรับตัวหลายสิ่งอย่างมาก ทั้งหมดทั้งมวลนั้น . . ก็เพื่อใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้ ปัจจุบัน . . เราพยายาม หาความบันเทิงให้ตัวเอง ทั้งซีรี่ทั้งต้นไม้ บลาๆ และ บอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า . . จะไม่ย้ำคิดย้ำทำกับเรื่องนี้เด็ดขาด แค่อดทนใช้ชีวิตต่อไป ยังไงก็ได้ ตามที่เราเห็นว่ามันดีย์ทำชีวิตให้เป็นเหมือนศิลปะ . . ปรับเปลี่ยนให้สมดุล บางเรื่องถ้าทำทุกอย่างแล้วก็ยังเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เมื่อถึงจุดนั้นก็จงเปลี่ยนความคิดตัวเองซะ . . มองปัญหาให้เหมือนกับการผ่านด่านเกมส์ . . คนเราเกิดมา . .วันหนึ่ง . .ก็ต้องตายเหมือนกันทุกคนแหละ . . ในเมื่อวันนี้เรายังมีชีวิตอยู่ . . ก็ใช้ซะ . .การปล่อยตัวเอง ให้นั่งอมทุกข์อยู่กับเรื่องราวที่เราแก้ไขไม่ได้ . . ก็เหมือนปล่อยให้ตัวเองตายล่วงหน้า ทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่นั่นแหละ!! บันทึกโดย . . ตัวหนอนกิ๊วๆ
Create Date : 13 สิงหาคม 2564 |
Last Update : 13 สิงหาคม 2564 15:01:35 น. |
|
23 comments
|
Counter : 1570 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณทนายอ้วน, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณตะลีกีปัส, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณRain_sk, คุณSweet_pills, คุณเริงฤดีนะ, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณ**mp5** |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:16:00:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:19:14:06 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:20:15:30 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:21:43:25 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 13 สิงหาคม 2564 เวลา:23:27:51 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:6:19:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:6:28:31 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 14 สิงหาคม 2564 เวลา:7:33:17 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 15 สิงหาคม 2564 เวลา:17:15:24 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:16:56:12 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:20:02:50 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:11:25:58 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 18 สิงหาคม 2564 เวลา:10:09:24 น. |
|
|
|
|
|
จริงๆ การย้ายที่ทำงานพี่น่ะปรับตัวไม่ได้เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรแย่หรอก แถมได้ซื้อบ้านมาให้แม่บันเทิงเริ่งใจ พี่ก็ปลูกต้นไม้ และเลี้ยงแมวที่ไม่ใช่ในแอป
มีบ้านมันก็ดีพี่ เป็นที่ชิล ๆของเรา ตอนนี้ก็แฮปปี้ดี
ถ้าไม่เกิดจุดเปลี่ยน ที่ออฟฟิศย้าย ก็ไม่ได้ขายคอนโดซักที ก็ไม่ได้ซื้อบ้านน่ะนะ
กลับมาทำงานที่ออฟฟิศไม่เวิร์คเลยพี่ อันตรายมากๆ
อยากให้บริษัทพี่นึกถึงความปลอดภัยของพนักงานที่มีปัญหาสุขภาพ ไม่แข็งแรง มากกว่านี้ อันตรายมาจริงๆ
ถ้ามีวิธีไหนที่จะกลับไป WFH ได้ ก็อยากให้ลองดู เลี่ยงเกินไปพี่