อยู่ที่จะคิด.. (ตะพาบๆ กม.127 ผู้ถูกเลือก)
" วันก่อนๆ ที่เราเคยรู้ใจกัน ครั้งก่อนๆ คราวนั้นมีฉันมีเธอ
อยู่ด้วยกัน ใจฉันและเธอ ต่างปนเปรอความรักให้กัน
รักที่เราเคยก่อไว้พร้อมๆ กัน รักที่เราเคยใฝ่หา
รักที่เราเคย ไม่คิดเลิกลา แต่ต้องมาถึงคราว
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
เริ่มมาจากคราวนั้นตัวฉันมัวเพลิน
ให้บางสิ่งมาเดินบนรักในใจ..
อยากเฮฮา ประสาผู้ชาย แบ่งปันใจไปให้สังคม
มีเวลาให้เธอ แต่ให้น้อยเกินไป ฉันทิ้งเธอให้ขื่นขม
ฉันใช้เวลาเพื่อรักษาสังคมดั่งชื่นชมผู้อื่น
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
แล้วก็มาถึงวันที่ผันแปรไป ฉันนั้นเข้าใจถ่องแท้
รู้ว่าผิดของใครทำให้เธอแปร รักแท้ไปยังผู้อื่น
ฉันนั้นคนเดียวผิด ฉันนั้นคนเดียว และฉันคนเดียวที่แพ้
รู้ลึกในใจ ก็สายเกินแก้ แต่ฉันยังรักเธอ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ฉันนั้นคนเดียวผิด ฉันนั้นคนเดียว และฉันคนเดียวที่แพ้
รู้ลึกในใจ ก็สายเกินแก้ แต่ฉันยังรักเธอ
แต่ฉันยังรักเธอ... "
VIDEO
เกิดความรู้สึกอยากเล่าเรื่องนี้ขึ้นมา หลังจากที่ฟังเพลงนี้จบหนึ่งรอบ..
ที่จริงแล้ว..เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยมาเล่าสู่กันฟังหรอก
โดยเฉพาะสังคม Pubblic Online แบบนี้.. 555+ แต่ไม่รู้ทำไม
และทำไม พอเพลงบรรเลงอยู่ในหู.. มัน ก็เกิด อยากจะเล่าเรื่องนี้ขึ้นมาซะอย่างนั้น.. ถือว่า.. เล่าสู่กันฟัง ละกันเนอะ.. กรุณาอ่านกันเบาๆ แบบคิ้วไม่ผูกโบนะทุกท่าน...
เรื่องที่จะนำมาเป็น Topic ตะพาบในวันนี้เป็นเรื่องของแม่หนอน
แน่นอน.. เอาบุพการีมานินทาเหมือนเคย ขอให้บอก.. อิอิ
ที่จริงแล้ว... ถ้าใครเผลอเข้ามาอ่านชีวิตสองแม่ลูกบ่อยๆ
ก็จะรู้ว่า..เราสองคนนี้(โคตรจะ)เป็นแม่ลูกที่ใกล้ชิดกันมาก..
อาจเป็นเพราะนางเลี้ยงหนอนมาแบบเพื่อน แต่เป็นเพื่อนที่นางเป็นใหญ่นะ แม่ทำอะไรไม่เคยผิด ถูกตลอดดดด.. ดังนั้น... ส่วนใหญ่เวลามีเรื่องอะไรเราจึงเล่าสู่กันฟังเกือบทุกเรื่อง..
แทบไม่ค่อยจะมีความลับต่อกันนัก..
ไม่รู้มีคนเคยสงสัยไหม... ว่าทำไม ในบล็อคหนอนถึงมีแต่เรื่องแม่
อัพทีไร มีแต่ ภาพนาง เรื่องนาง ตลอดเลย.. แล้วพ่อล่ะอยู่ไหน..
พิมพ์มาถึงตรงนี้.. ก็ต้องใช้เวลาคิดนิดหนึ่ง
ว่าจะเล่ายังไงดีไม่ให้มันดราม่าหว่า.. เพราะตั้งแต่เกิดมา
หนอนยังไม่เคยรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นปม(ด้อย)ของชีวิตเลยสักครั้ง..
ยังคงเป็นแค่ปมธรรมดา ปมหนึ่งในชีวิตเท่านั้น..
***ซึ่งผลประทบหลักต่อตัวหนอนที่เห็นได้ชัดเลย ก็คือ
เสปคเรื่องผู้ชายที่ชอบ คือ มีผลต่อผู้ชายมีอายุตลอด แบบที่สามารถเป็นได้ทั้งแฟนและพ่อแบบทูอินวัน
ต้องเข้าใจนะ ก็คนมันไม่เคยมีพ่อตั้งแต่เด็ก มันเลยเป็นเช่นนี้ ชอบโดนสั่งสอน ฮ่าๆ
ตั้งแต่โตรู้ความมา.. บ้านเราก็มีกันแค่สองคน เราพอจะรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่ายังไงเมื่อไหร่
จนเมื่อ สมัยเรียนมัธยม... แอบเห็นใบหย่า ที่ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง.. เลยลองนับ พศ. ดู ก็เลยรู้ว่า.. เค้าแยกกันอยู่เมื่อตอนที่เราอายุห้าขวบ รูปในอัลบั้มสุดท้ายที่บ้านเรามีคือรูปนี้
ช่ายยยแล้วววววว..
เค้าเป็นเด็กครอบครัวแตกแยก เลยแหละ... กระซิกๆ
คำว่าครอบครัวแตกแยกเนี๊ยะ มันเป็นคำที่ฟังแล้วดูรุนแรงเนอะ
แต่บ้านเราไม่เป็นแบบนั้น.. อาจะเป็นเพราะว่า.. แม่หนอนไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพ่อ ตั้งแต่เกิดมา
หนอนยังไม่เคยเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเลยสักครั้ง
แม้ในตอนที่เลิกกันแล้ว กลับมาพบกันใหม่ เค้าก็คุยกันดี
สงสัยเพราะสมัยก่อนหนอนเรียบร้อย(เพิ่งมาใจแตกตอนแก่นี่ล่ะ 55+) บวกแม่เป็นครู ที่สามารถสอนลูกให้อยู่ในโอวาทแบบไม่หือไม่อือได้
มันก็เลยไม่เกิดปัญหาหนักอกอะไรในบ้านของเรา...
... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ...
บางครั้งก็คิดนะว่า.. เรื่องทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นกับเรานี้..
มันคงเป็นชะตาชีวิต มันเหมือนกับว่า.. เขากำหนดมาแล้ว..
ใครก็ไม่รู้ โชคชะตา กรรม หรือสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ สักอย่าง
กำหนดให้เราเป็น ผู้ถูกเลือก..
เป็นความสงสัย ว่าต้องเป็นเราเท่านั้นหรือเปล่า ที่ถูกเลือกให้มาเจอสิ่งนี้.. คิดไปคิดมา.. มันก็ตกผลึก
เราเลือกที่จะไม่เจอไม่ได้
แต่.. เลือกที่จะเข้าใจได้..
เลือกได้..
ว่าเราจะเอาสิ่งนั้น มายึด มาถือ มาหน่วงเหนี่ยวจิตใจเราไว้หรือไม่..
ถ้าเอามานึก เอามาถือ ก็เกิดทุกข์ ถ้าไม่นึก ไม่ถือ ไม่คิดเยอะ
เลือกที่จะวาง.. เลือกที่จะเข้าใจ..
เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนรอบข้าง.. มันก็เป็นสุข
ชีวิตก็มีแค่นี้.. สุขทุกข์ใกล้กันนิดเดียว
(ภาพนี้พ่อเป็นคนถ่ายให้ กับการแอคท่าประจำสมัยเด็ก)
ดังนั้น.. เราจึงเป็นเด็กร่าเริง ที่เติบโตมาอย่างเริงร่า..
แม้ว่าในครอบครัวเราจะมีกันแค่สองคนแบบนี้ก็ตาม..
จึงจะขอยกเอาบทเรียนเหล่านี้ มาเล่าสู่กันฟัง
เพราะเรารู้สึกว่า.. ความรักบทนี้ มันเป็นเรื่องเศร้าสอนใจ ที่น่าเรียนรู้
ที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้สรุปได้ว่า.. คนที่ซวยที่สุดคือพ่อหนอนจริงๆ 55+ ขอตั้งชื่อเรื่องว่า.. ไม่น่าเลย
เวงงงง.. เอาเรื่องชีวิตของบุพการีมาล้อเล่น.. แต่เอาเป็นว่าพ่อเราคงเข้าใจ
เพราะเป็นสายฮาเหมือนกัน.. เก๊าขอโทษนะพ่อที่เอาเรื่องชีวิตรักพ่อมาแฉ..
แม่เคยเล่าถึงเหตุผลที่เค้าสองคนเลิกกันให้หนอนฟัง
จริงๆ แล้วพ่อหนอนเป็นคนไม่เจ้าชู้เลย ไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่น
เพียงแต่ว่าเค้ามีข้อเสียข้อหนึ่งที่แม่ไม่ชอบ
นั่นคือ ติดเพื่อนฝูง และห่วงเที่ยวสังคม สังสรรค์เฮฮากับเพื่อน
มากเกินไปเท่านั้น.. นั่งกินข้าวกันอยู่ดีๆ นี่ถ้าเพื่อนโทรมา
แทบจะวางช้อนส้อมเลย พ่อเป็นแบบนั้น..
เที่ยวเยอะกินเยอะ เงินจึงไม่ค่อยเหลือ
ให้ลูกเมีย.. แถมหลังๆ เค้ามักจะมีอุบัติเหตุ
ตอนช่วงสงกรานต์ทุกปี (พระบอกว่าดวงแม่กับพ่อกินกัน)
แม่ต้องใช้สิทธิ์กู้เงินให้เอาไปแก้ไขปัญหาบ้างบ่อยครั้ง..
คิดดูว่า.. เลี้ยงลูกก็ตัวเองเลี้ยง แถมบางทีต้องมาผ่อนหนี้แทนอีก
เพราะเงินเค้าไม่พอใช้.. พอมาบวกกับเรื่องไม่มีเวลาให้ สะสมมาเรื่อยๆ แม่ก็เลยระเบิด.. นางบอกว่า..
"มีผัวก็เหมือนไม่มีแล้วจะมีไปทำไม.."
พอถึงจุดนั้น เวลาทะเลาะกัน บ่อยครั้งที่แม่ชวนพ่อเลิกรา..
ความจริงแล้วพ่อหนอนไม่เคยคิดเลิกกับแม่หรอก
แต่อารมณผู้ชายอ่ะ อีโก้แรง โดนท้ามากๆ เข้า ก็เลยเออวะ เลิกก็เลิก..
บวกกับ.. ตอนนั้นมีเพื่อนครูผัวเมียที่โรงเรียนพ่อคู่หนึ่ง
ทะเลาะกันบ่อยมาก.. แล้วก็ท้ากันเลิก หย่ากัน สักพักก็ไปจดกันใหม่
หย่าๆ จดๆ อยู่อย่างนั้น พ่อเลยคิดว่า.. ท้านักก็ไปหย่าเล๊ยยย..ตามนั้น
เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็สามารถกลับมาดีกันใหม่ได้...ซึ่งผิดมหันต์
แม่เล่าเรื่องวันไปหย่าให้หนอนฟัง.. เล่าไปแกก็ขำไป
(คือจะมีบ้านไหนไหมวะ ที่แม่เล่าเรื่องหย่ากับพ่อให้ลูกฟังเป็นนิทานแบบนี้เนี๊ยะ)
แม่เล่าว่า.. เมื่อพ่อยอมตกลงเรื่องหย่า
เค้าก็คุยกับพ่อเลยว่า.. พอไปถึงคุณไม่ต้องชี้แจงเหตุผลอะไรเลยนะ
ไม่ว่าติ๋ม(แม่เค้าชื่อติ๋มแหละ 55+)จะพูดอะไร คุณพูดครับอย่างเดียวพอ
ทีนี้.. พอไปอำเภอ ก่อนจะหย่าเค้าก็จะมีหว่านล้อมใช่มะ
ว่าให้นึกถึงลูกอย่างนั้นอย่างเพื่อให้คนมาหย่ามีเวลาไตร่ตรองให้รอบคอบ..
ระหว่างที่เค้าหว่านล้อม.. แม่ก็โพล่งขึ้นมาว่า...
"เค้ามีคนใหม่ค่ะ..." ทั้งๆ ที่พ่อไม่ได้มีใครเล้ยยยยยย...
แต่ตามที่คุยกันไว้... พ่อพูดได้คำเดียวว่า...
"ครับ...."
เป็นอันว่าพ่อช้านนนนนนน.. ต้องเลิกกับแม่ด้วยประกาลฉะนี้
โคตรน่าสงสารพ่อเลยว่ามะ...
หลังจากนั้นไม่นาน.. พ่อก็พาญาติผู้เฒ่าผู้แก่ทางบ้านพ่อ
ยกขันหมากมาสู่ขอแม่ใหม่.. แต่แม่เป็นคนที่ใจแข็งมว๊ากกก เว่ออออ
คือนางพอถึงทีสุดแล้ว ได้ตัดแล้ว นางตัดเลย จะไม่มีย้อนกลับไป ณ จุดนั้นอีก
สุดท้ายพ่อเราเลยคอตกกลับไป... เศร้าจัง...
"แม่แกมันไม่มีหัวใจ..." พ่อว่าอย่างนั้น...
หนอนนิโคตรเข้าใจพ่อเลย เพราะถ้าเป็นเรื่องความรัก
ไม่เคยเล้ยยยที่จะได้ความใจแข็งของแม่มาสักนิด..
นิสัยอะไรต่างๆ นาๆ หนอนได้พ่อมาล้วนๆ เรามันเลือดศิลปิน หุๆ
เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ จนผ่านไปหลายปี มาจนวันนึง พ่อรู้ซึ้งแล้วว่า..ยังไงก็ง้อแม่ไม่สำเร็จแล้ว.... พ่อจึงตัดสินใจ แต่งงานใหม่
ก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน แม่บอกว่าพ่อยังเอาก้อนหินมาขว้างหลังคาบ้านเรา
เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแม่ ทั้งๆ ที่บ้านแม่ใหม่ก็อยู่ห่างกันคนละจังหวัด..
ความรักนิมันเข้าใจยากจัง....
**หลังจากที่หย่ากัน เวลาพอแวะมาทีไร เค้าก็จะเอาเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายเราสองแม่ลูกบ้าง พาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือไปนอนบ้านย่าบ้าง
แม่บอกว่าเค้ามีความรับผิดชอบมากกว่าตอนที่ยังอยู่ด้วยกันซะอีก เป็นเช่นนั้นไป
หนอนว่า.. เรื่องนี้มันคงเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตของพ่อเลยทีเดียว
ได้ลองคิดได้ลองนึก ว่าถ้าเปลี่ยนจากแม่เป็นเรา แล้วมันจะเป็นอย่างไร... ตอนที่เค้าแต่งงานกันแม่หนอนอายุยี่สิบเอง
เราตอนอายุเท่านั้นยังไร้สาระอยู่เลย..
เมื่อนึกได้อย่างลึกซึ้งแล้ว.. เราก็สงบ เข้าใจทั้งพ่อ และเข้าใจทั้งแม่...
ความสัมพันธ์ของคนมันไม่มีรูปแบบตายตัว เมื่อความรักลดลง
คนก็ต้องอยู่ด้วยความผูกพันธ์และความอดทนเป็นหลัก
ณ จุดนั้น มันคงไม่ง่ายเลย..
ปัจจุบัน.. พ่อหนอนได้เสียชีวิตลงแล้ว(ตั้งแต่หนอนเรียนอยู่มหาลัยปีที่ 3)
ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ตายในอ้อมกอดพระเลยทีเดียว หนอนยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอ.. ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน
ความรักของบุพการี ก็ยังคงอยู่ หนักแน่น อบอุ่น และสวยงาม ข้ามผ่านกาลเวลา...
แม่ใหม่ที่พ่อเลือกเป็นคนดีมาก นิสัยเหมือนๆ กับแม่หนอนเลย
เพียงแต่ว่าอ่อนกว่านิดหน่อย(หมายถึงไม่ได้ใจแข็งเหมือนแม่น่ะนะ)
ตอนงานศพพ่อ.. มีทั้งเมียเก่าเมียใหม่อยู่ในงาน
หนอน ปลื้มคำพูดแม่ใหม่ประโยคนึง...เรื่องที่มีคนมาบอกแม่ใหม่ว่า
คนโบราณเค้าถือเคล็ด.. หากสามีตาย ให้เมียเผาใบหย่าเข้าไป
ในตอนที่เผาศพด้วย เพราะเผื่อบางทีคนตายอาจจะมารังควาน ไม่ยอมให้คนที่อยู่มีคนใหม่.. พอได้ยินคนมาพูดแบบนี้.. แม่ใหม่ก็พูดกลับไปเลยว่า..
"ไม่จำเป็นหรอกค่ะ.. เพราะชาตินี้ หนูจะมีผัวคนนี้คนเดียว"
โห... ในตอนนั้น หนอนนิรู้สึกว่า.. โคตรเท่ห์เลยอ่ะประโยคนี้ พ่อนิโชคดีจัง
ปัจจุบัน.. บางครั้งเราก็เผลอลืม ยึดถือเอาตัวเองเป็นใหญ่
น้อยใจคนนั้น.. โมโหคนนี้ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
เป็นบ้าบอ อะไรแบบนั้นอยู่บ่อยๆ เพราะเราเผลอเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง..
เมื่อระงับความว้าวุ่น
ดึงความสงบเข้ามาในใจได้
มันก็เลยระลึกได้ว่า..
ความสัมพันธ์ของมนุษย์นี้...บางทีบางครั้ง..
ก็โคตรจะบอบบางเลย ว่าม๊ะ บางคนรู้จักกันมาเป็นสิบปี
บทจะเลิกคบ เลิกคุยเลิกรู้จักกัน ก็เลิกกันไปเลยแบบไม่มีเหตุผล..
นี่ยังไม่นับรวมไปถึงระยะทาง เวลา และเหตุการณ์แวดล้อม
รวมไปถึงปัญหาต่างๆ นาๆ อีกนะ.. ดังนั้น...
ถ้าใครทำอะไรให้เรารู้สึกแย่ หรือเราเผลอไปทำอะไรแย่ๆ กับใคร
ก็จงปล่อยวางซะ ลงก่อนให้ได้.. เรียนรู้ อยู่ด้วยความเข้าใจ
ถ้าผิดก็จงขอโทษซะ.. อย่ามัวแต่ยืดเยื้อ ทิฐิ เพื่อความสัมพันธ์ของพวกเรา จะได้ยืนยาว และไม่ถูกทำลายลง ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง...
ควรทำเช่นนั้น...
โลกหมุนด้วยความรักนะ
จงท่องไว้...ไปละ
จบการบันทึกตะพาบๆ โดย... หนอน อิอิ
ปล1. พอเขียนบลอคจบก็โทรไปง้อเพื่อนบนเรือมา.. หลังจากเล่นแง่กันมาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม
คนนึงไลน์ไปไม่ตอบ อีกคนไลน์มาไม่อ่าน มันโทรมาเราไม่รับ อีกวันเราโทรไปมันก็ไม่รับ too เล่นวิ่งไล่จับนินจากันทั้งคู่.. พอจะคุยกันดีๆ เรือมันก็ลอยไปมาเล
ป๊าดดด ติดต่อกันไม่ได้สักที.. วันนี้ พอละ โทรไปง้อก่อนก้อได้
พอโทรไปมันรับเท่านนั้นล่ะ.. ฮาเลย..
"เมิงกะกรูนิเป็นนิจากันรึไง.." เราว่า..
มันตอบมาเลย.. "ก็เมิงเริ่มก่อนอะ.."
สรุปเราสองคนกวนตรีนกันและกัน... เวง บ้าบอจริง..
ปล2. เออ ยาวง่ะ...ตะพาบวันนี้ นินทาบุพการีล้วนๆ เลย กรรม.. เอิ๊กกกก
Create Date : 01 เมษายน 2558
Last Update : 4 เมษายน 2558 8:50:03 น.
28 comments
Counter : 1786 Pageviews.
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Opey Art Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
nonnoiGiwGiw Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
............................
อ่านทุกตัวอักษรเลยครับ....
ขอแสดงความเสียใจ.. กับคุณพ่อด้วยนะครับ
คุณหนอน.... เข้มแข็งจังเลย... ท่าทางเป็นร่าเริงด้วย
ก็ดีแล้วล่ะครับ ... เป็นเรื่องทั้งน่ารักและน่าเศร้าแต่เราไม่เก็บ
มาคิด ก็อย่างที่คุณหนอนเล่าไว้คุณแม่คงบ่มอบรมมาดีเลยไม่เหงาและแสดงออกในทางลบ..ขอชมเชยคุณแม่มากๆครับ