|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตะพาบๆ กม.ที่ 286 "ถูกปฏิเสธ"
" ตื่นจากภวังค์ได้แล้ว จะหลอกตัวเองทำไม . . กลับสู่ความจริงได้ไหม เสียดายเวลา
กี่วันที่ฟ้าทุ่มเทใจไป ได้แต่คว้าหัวใจว่างเปล่าคืนมา. . เวลาไม่เคยเป็นใจ . .
ช่วยบอกตัวเองให้ท้อ ให้หมดกำลังใจไป อย่าบอกว่ายังทนไหว เลิกทีพอที หากว่าเขายังคิดจะรักกันจริง คงไม่ทิ้งให้รออยู่นานเป็นปีเหมือนเราไม่มีตัวตน(จบมันไปได้แล้ว) อย่าหยุดอย่าเพ้ออย่าฝันต่อ ที่แล้วๆ มาก็มากพอ ยังจะรอให้ใจต้องช้ำมากมายเพียงไหน (จบมันไปได้แล้ว) อย่าไปรักเขาอีกได้ไหม ไม่มีอะไรให้หวังอีกแล้ว ให้พอกันที อย่าหนีความจริงเลย . . " #การถูกปฏิเสธ ที่รู้สึกว่าตัวเองทำตัวงี่เง่าที่สุดในชีวิต คือตอนโดนผู้ชายบอกเลิกสมัยอยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 3 อาการ ณ เวลานั้นคือเศร้ามาก ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร สมัยนั้นอยู่หอข้างมอ มีเมดที่เป็นเพื่อนเอกฟี่ มาอยู่ด้วยกันคนนึง ตอนนางไม่อยู่ เราก็เอาแต่นอนร้องไห้อยู่บนเตียง ปิดห้องปิดปิดม่าน และฟังเพลงจบมันไปได้แล้วของ ZaZa เป็นล้านรอบ 55+ พอเมดกลับมา . . อีนี่ก็ออกไปนั่งซักผ้า (สมัยก่อนซักมือ) อยู่ริมระเบียง ซักผ้าไป นั่งมองทุ่งนาไปเศร้าไป . ฝนตกตูก็ยังซักอยู่ . . ไม่ได้คิดว่าผ้ามันจะแห้งหรือจะเปียกอะไรยังไง โอ๊ยยย . . บ้าบอมาก . . พอตอนนี้มานึกถึงแล้วรู้สึกว่า ตูนี่ แม่มมมมมม . . ทำตัวเป็นนางเอก MV สุดๆ . .เรื่องมันเกิดจาก . . ช่วงปิดเทอมปีที่ 1 ตอนนั้นเราทำเรื่อง ย้ายมาคณะใหม่ สำเร็จ (ที่เคยเล่าให้ฟังครั้งก่อน) พอใกล้จะเปิดเทอมช่วงนั้นเราเลย กลับมา มหาลัยก่อนกำหนด เพื่อเตรียมตัวย้ายไปคณะใหม่ ตอนนั้น . .มีเพื่อนคณะนี้ (คณะที่เราจะย้ายไป)คนนึง นางเป็นเพื่อนแก้งค์เดียวกับเรา มาตั้งแต่สมัยมัธยม ชวนเราไปกินงานวันเกิด เราก็เลยไป . . ก็เลยไปเจอ . . เพื่อนคนนึงที่เราก็เพิ่งรู้ว่าเค้าคนนี้ เรียนอยู่ เอกเดียวกับที่เราจะย้ายไป . . มันก็มีแบบปาตี้สังสรรค์ร้องเพลง ดีดกีต้ากันใช่มะ (สมัยนั้นเพลงโปรดของเราคือเพลงทะเลใจ ของคาราบาว กับ More Than Word) เฮ้ยยยยยยยยยย . . นางร้องสองเพลงนี้เพราะมาก แถมคุยไปคุยมา อ้าว เราอยู่หอติดกัน ชอบเพลงคล้ายๆ กัน บลาๆ หลายเรื่องช่างบังเอิญ . . แล้วลุคผู้ชายคนนี้สมัยนั้นคือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เลย แบบเนิดๆละมุนๆ อ่า . . รวมหนึ่งสองสามสี่ห้าที่โดนใจ ใช่ค่ะ . . สุดท้าย อิชั้นก็เลยโดนตกไปอย่างรวดเร็ว . . เหมือนเมือใจตรงกัน เวลาก็ไม่สำคัญอีกต่อไป . . เหอะๆ ก็เลยตกลงเป็นแฟนกัน ตั้งแต่ . . ก่อนเข้าเรียนนั่นเลย เปิดเทอมมา . . เรากลายเป็นเด็กหน้าใหม่ของคณะที่ ดันคว้าหนุ่มหน้าตาดีของเค้าไปครอง . . ก็เหมือนจะดีนะ แต่ . . คบกันไปได้สักพัก . . เรารู้สึกเหมือนตัวเอง ไม่ได้อยู่ ในเซฟโซนยังไงก็ไม่รู้ แถมเหมือนโดนเจ้าถิ่นเพ่งเล็งอย่างบอกไม่ถูก ในเอกที่เราย้ายไปนั้น มีนักศึกษาอยู่สิบกว่าคน สามคนเป็นผู้ชาย ส่วนที่เหลือเป็นผู้หญิงหมด และมีหนึ่งในนั้นที่เรียกแฟนเราว่าป๋า หืออ . . คือไร . . เรียนๆ ไปก็รู้สึกว่าคนพวกนั้น ยังสนิทกว่าแฟนเรา มากกว่าเราอีก . . บางวัน นางไม่มาเรียน นางก็ไม่บอกเรา . . มีแฟนก็เหมือนไม่มี รู้สึกว่าโดนทอดทิ้งอยู่บนหิ้ง บวกกับการ ที่ต้องปรับตัวหลายอย่าง แถมตารางเรียนแน่นมาก เพราะเราต้อง ตามเก็บวิชาบางวิชาที่คณะเก่าไม่มีเรียนตอนปีหนึ่ง บางที ไม่มีพักเที่ยง . . เรียนวิชานี้ปั๊บ ต้องวิ่งไปอีกตึก เพื่อไปเรียนอีกวิชา . . หิวก็หิว . . แวะคว้าฮอทดอกทอดใต้ตึก มากินได้สองไม้ . . ได้แค่นั้น . . ชีวิตวุ่นวายมาก . . . แล้วแฟนอยู่ที่ไหน . . เราก็เด็กอ่ะเน้อ . . มีแฟนก็เหมือนไม่มี แล้วจะมีทำไม . . เลิก !!! ใช่ค่ะ . . เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดสุดๆ . . ผิดตรงที่ว่า หลังจากที่เราบอกเลิก 1 วัน . . เพื่อนก็ปั้นปึ่ง . . เพื่อนคนที่ เรียกอดีตแฟนเราว่าป๋า มาพูดว่า วันนั้น . . อดีตแฟนขับรถไปหลังมอ แล้วก็ไปชกเสาไฟฟ้าจนมือแตก (บร๊าาาาา) หลังจากนั้นก็ไม่มาเรียน หลังจากนั้นก็เมาทุกวัน หลังจากนั้นบางวัน ได้ยินว่าเค้าเมา ไม่รู้เรื่องไปนอนที่ป้ายรถเมล์บ้าง (บร้าาาาาา) ตอนนั้นคือ เรา งงมาก งงตรงที่ ทำไมตอนคบกันก็ไม่เห็นใส่ใจเราเท่าไรเลย พอเลิกกัน ไม่เข้าใจเลยว่าเอฟเฟคมันจะรุนแรงอะไรขนาดนี้ . .
* ข อ บ คุ ณ รู ป จ า ก G o o g l eใช่แล้ว . . . เหตุการณ์นี้เปรียบเหมือนช็อคโกแลต ไหลลงในทุ่งข้าวสาลี แล้วก็บุ้มมมม !! ระเบิดเป็นโกโก้ครั้นซ์ เราโดนเพื่อนแบน . . เค้าคนนั้น ไม่มาเรียนอีก . . ดรอปเรียนไป 1 ปี . . พอๆ กันกับที่เราโดนแบนนั่นแหละ . . แต่ . . ไม่ว่าจะโดนรังเกียจหรือโดนกดดันขนาดไหน อีนี่ก็หน้ามึนมาก . . ตอนนั้น มีวิชานึงที่ต้องเรียนคือการถ่ายภาพเบื้องต้น สมัยนั้นเป็นกล้องฟีมเน้ออ . . ที่คณะจะมีกล้องให้ยืม เป็นรุ่น Nikon FM2 คลาสสิคมาก เราชอบวิชานี้มาก แต่ . . . ความซวยคือ โดนเพื่อนแบนไง แล้วถ่ายรูปอ่ะ . . มันก็ต้องมี ล้างฟีล์ม มีอัดรูป บลาๆ ที่คณะจะมีห้องมืดอยู่ห้องนึง ไม่มีเวลาเปิดปิด ใครจะมาใช้เวลาไหนก็มาได้ เพียงแค่ใช้เสร็จ ก็ปิดน้ำปิดไฟให้เค้าด้วย . . เชื่อมะ . . พอเราเดินเข้าห้องมา เพื่อนทุกคนเดินออกหมดเลย . .
* ข อ บ คุ ณ รู ป จ า ก G o o g l eแล้วการล้างรูปอ่ะ มันจะมีขั้นตอนที่เอารูปแช่น้ำยาสร้างภาพ ก่อนจะเอาไปตาก ในขั้นตอนนี้ . . เราต้องเปิดน้ำในอ่างให้ ไหลไปในถาดน้ำยาเรา ในห้องก็จะมีแต่แสงแดงๆ เงียบมาก และมีเสียงน้ำหยดจากก๊อก ลงถาดน้ำยา แหมะ แหมะ แหมะ . . คือ แม่มมมมม . . โคตรหลอน บอกเลย . . แต่ . . ด้วยความมึน . . ผีเผอตอนนั้นไม่คิดเลย ในหัวมีแต่ . . กรูจะไม่เอ็นทรานซ์ใหม่ กรูจะไม่ซิ่ว จะไม่อะไรทั้งนั้น . . จะอยู่หน้ามึนไปแบบนี้แหละ . . จำไม่ได้ว่าเป็นแบบนั้นอยู่กี่อาทิตย์ ที่ต้องนั่งกระดกเบียร์ สามขวดทีเดียวถึงจะหลับไปได้ . .
แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไป . . ความเพียรพยายามในห้องมืด ทำให้เราได้ A วิชา Photo เยี่ยมมาก!! ช่วงปิดเทอมภาคการศึกษานั้น เราก็มีแฟนใหม่ . . รอบนี้ บ้าบอกว่าเดิม . . คือ ผู้ชายคนนี้ เรียนวิดวะไฟฟ้าอยู่ ม.มหานคร แต่มีบ้านอยู่พิษณุโลก ปิดเทอมเค้ากลับบ้าน และนางเป็นเพื่อนบ้านกับแฟนเพื่อนเรา เออดูงงๆ เนอะ55+ ช่วงนั้นนางโสดก็เลย ไปอ้อนเพื่อนเรา ให้แนะนำสาวที่มอให้หน่อย . . พอเพื่อนไม่ยอมแนะนำให้ นางก็เลยเอาโทรศัพท์เพื่อนเรามาจิ้ม . . เบอร์สาวมาเบอร์นึง นั่นก็คือเรา . . แล้วนางก็โทรมาคุย . . แรกๆ ไม่ได้โทรมาจีบ เรียกว่าโทรมาบ้าบอ . . กวนประสาท แล้วก็คุยกันไร้สาระสุดๆ แต่ไปๆ มาๆ . . มันก็เลยต้องโทรคุยกันทุกวัน . . สุดท้าย เมื่อมีผู้ชาย เบียร์หน้ากระจกก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป . . เหอะๆ . . นั่นล่ะ . . จนถึงเทศกาลวันหยุดยาววันนึง เค้ากลับมาพิดโลกใหม่ มาเจอเรา และก็ตกลงเป็นแฟนกัน . .
ด้วยจังหวะที่เรามึนๆ เครียดๆ อยู่ ณ เวลานั้น . . เค้า . . เหมือนแสงสว่างเดียวของเราจริงๆ . . เค้าสามารถทำให้เราลืมเรื่องเครียด ทั้งหมดที่เจอได้ . .

แม้จะเป็นรักทางไกล แต่เราก็คุยกันทุกวัน . . แม่เราถึงขั้นซื้อมือถือเครื่องใหม่ ให้ลูกสาว เพื่อคุยกับผู้ชายแก้เครียดอ่ะคิดดู . . มันเป็นแบบนั้นอยู่ปีกว่า . . วันหยุดยาว เค้าก็กลับมาพิดโลกมาเจอเรา ไปนั่นมานี่ด้วยกัน เรามีความสุขมาก . . จนมีวันนึง ที่เราเพิ่งรู้สึกตัวจริงๆ ว่า เรารักผู้ชายคนนี้ แล้ว คือ . .เฮ้ยยนี่มันคือความรักใช่ไหม . . อะไรแบบนั้น . .
แต่ . . แค่พอรู้สึก "รัก" . . เท่านั้นแหละ . .
จบวันหยุด ณ เวลานั้น นางก็หายไปเลย ไม่มีแม้กระทั่งคำบอกลา !!
เฮ้ยยยย . . คือไร . . จะรักก็บอกว่ารัก จะเลิกก็ต้องบอกว่าเลิกสิ . . หายไปไม่ลาแบบนี้คือไร ทำไมไม่แมนเลย . . . เราเศร้ามาก . . แล้วก็ปิดห้องร้องไห้ พร้อมกับนอนฟังเพลงอกหักเหมือนที่เล่าไว้ตอนต้นนั่นแหละ ยังไม่พอ . . ยังงี่เง่าเราจะดมโทรๆๆๆๆๆๆๆๆ . .ไปหาเค้าอีก โทรจนเค้าต้องปิดเครื่องหนี . .
ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมพอดี . . ปิดเทอมนี้เราต้องเข้ามา กทม. เพื่อมาฝึกงาน ที่บริษัทผลิตโฆษณาแห่งหนึ่งที่อยู่แถวถนนสุโขทัย เราพักอยู่ในซอยสวนอ้อย และเราก็บ้านนอกมาก คือ บ้านนอกเข้ากรุงของแท้ ไม่เคยมาอยู่ กทม.เลย ไปไหนไม่เป็น รถเมล์สายอะไรไปไหนยังไง ไม่เป็นเลย . . ที่คิดไว้ วาดฝันเอาไว้ว่า ตูมีแฟน กทม. สบายละ มีคนพาไปนั่นมานี่แน่ . . จบ ฝันสลาย . . สุดท้ายก็ต้องพึ่ง 184 ไม่พอยังโรคจิตต่อ ก็ยังระดมโทรๆๆๆๆๆๆ . . เหมือนเดิมจร้าาา โทรให้เค้าปิดเครื่องหนี อยู่นั่นล่ะ . . อยากรู้นักว่ามันจะปิดเครื่องไปได้ถึงเมื่อไร . .

เป็นอยู่แบบนั้นเกือบเดือนได้มัง . . มีวันหยุดนึง เราต้องนั่งรถทัวร์กลับบ้าน . . ที่สถานีหมอชิต ระหว่างที่รอรถอยู่นั่น . . เราก็คิดขึ้นมาได้ว่า . . เราจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไรวะ . . แม่มเศร้าว่ะ แต่ตอนนั้นคือ ไม่มีน้ำตาละ (มีแต่ความโรคจิตล้วนๆ) . . พอคิดได้ เราก็แงะฝาโทรศัพท์ (ช่วงนั้นคือโนเกียรุ่นไรวะ) แล้วก็เอาซิมออกมาหักโยนทิ้งไว้บนถนนที่หมอชิตนั่นล่ะ . . พอมาคิดถึงนี้ก็รู้สึกได้เลยว่าเฮ้ยยยย . . บ้าบอ น้ำเน่า ทำตัวเป็นนางเอก MV อีกแล้ว . . .
นั่นล่ะ . . ตอนนั้นคือ สัญญากับตัวเองเลยว่า พอแล้ว ชั้นจะไม่โทรหาผู้ชายคนนี้อีกแล้ว และจะลืมเบอร์ของเค้าไปซะ . .เรื่องงี่เง่าที่สุดในชีวิต . . ก็จบลงไปแบบนี้ . .แม่บอกว่า . . คนเราเมื่อได้มาเจอกัน รักกัน เลิกกัน รู้สึกดีต่อกัน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำร่วมกันมา แต่เมื่อจบช่วงเวลานั้นแล้ว . . ถ้าใครอยากจะเดินจากเราไป ก็ปล่อยให้เค้าไปเถอะ . . อย่าไปสงสัย อย่าไปรั้งเค้าไว้เลย ปล่อยนกปล่อยปลาปล่อยเต่ายังถือว่าเป็นบุญ . .เพราะงั้น"ทำบุญด้วยการปล่อยคนน่ะ ได้บุญที่สุดเลยนะ . ."ตอนนั้นฟังแม่แล้วก็งงๆ คือ คนตัวใหญ่กว่านกกว่าเต่ากว่าปลา เลยบุญเยอะกว่าใช่ไหมแม่ . . จากเหตุการณ์นั้น ทำให้เรารู้ว่า#เมื่อถูกปฎิเสธ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม การที่เรามัวแต่ นั่งโวยวายตีโพยตีพายอยู่นั่น ถือเป็นเรื่องไร้สาระที่สุด และเราจะมานั่งเปลืองพลังงานไปกับสิ่งไร้ค่าทำไม . . ตั้งสติ อยู่กับปัจจุบัน . . อะไรเศร้าก็ไม่ต้องไปนึกถึงมัน หาเรื่องบันเทิงเริงใจทำ ให้มันหมดๆ วันไปซะ . . สุดท้าย . . เวลาก็จะเยียวยารักษาให้เราผ่านมันไปได้เองชีวิตผ่านมาจนถึงตอนนี้ . . มันก็มีเรื่องราวหลายหลากให้จดจำ . . พอแก่ตัวลง . . แล้วย้อนกลับมานั่งเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แม้ว่าตอนนั้นมันจะเศร้าแค่ไหน แต่พอมันผ่านไป . . มันก็เหมือน เรามานั่งเล่าเรื่องขำๆ ฮาๆ ของตัวเองให้เพื่อนฟัง . . มีแต่ความขำ ว่าตอนนั้น ตูก็ทำไปได้เน้อออ . . อะไรแบบนั้น . . ทุกวันนี้ . . เรื่องผู้ชายเป็นเรื่องที่ไกลตัวสุดๆ และ สิ่งที่ทำแล้วสบายใจหายเครียด . . ก็มีแค่ . .       Side Story >> เมื่อปีก่อนผู้ชายที่เคยทิ้งเราไปคนนั้น อยู่ๆ ก็แอดเฟสมา ได้ความว่า . . อยากมาขอโทษเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น นางบอกว่านางรู้สึกผิดมาก ไม่เคยทำกับใครขนาดนี้เลย เหตุผลที่หายไปเลยและไม่ยอมบอกเลิก ก็เพราะกลัวเราเสียใจ บลาๆ กลัวเรารับไม่ได้ และที่ตัดสินใจเลิกตอนนั้นคือ รู้สึกว่าเรา เป็นคนที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เลยรู้สึกว่าคนนี้ไม่ใช่ . .
เราอโหสิกรรมให้เค้าทุกเรื่อง . . และขอบคุณเค้าด้วย ที่ ณ เวลานั้น เค้าทำตัวเป็นกระโถนเกรด A ให้เราอย่างดี . . ทุกวันนี้เรายังเป็นเพื่อนกัน (ในเฟสบุ๊ค) ด้วยดี . . แม้ว่าเราจะไม่ได้ กดติดตามนางไว้ก็ตาม 55+ แต่ก็มีถามสุขทุกข์กันบ้างนานๆ ที . . เรายังคงเชื่อว่า . . มันคงเป็นกรรมของเค้าเหมือนกัน . . ที่ต้องมาคอยรับฟังปัญหางี่เง่าขี้หมูราขี้หมาขี้หมาแห้งของเรา(ทุกเรื่อง) คิดดูว่าถ้าเราต้องมานั่งรับฟังความทุกข์ของคนอื่นๆทุกวันๆ มันจะรู้สึกแย่แค่ไหน เค้าก็คงเป็นแบบนั้น . . แล้วพอเค้าหมดกรรม เค้าก็เลยจากไป . . . 5 5 + ว่าแต่แมวที่บ้านเนี่ยะ ใครทำบุญทำกรรมกันฟระ . . ล่าสุดฉี่ใส่ที่นอนด้วย ท่าจะต้องแล้ว ถึงเวลาต้องตัดไข่แล้วล่ะมั๊ง ถึงจะหมดกรรมกันได้ . . ฮึ่ยยย
บันทึกตะพาบโดย . . ตัวหนอนกิ๊วๆๆๆๆๆ
Create Date : 20 กันยายน 2564 |
Last Update : 20 กันยายน 2564 14:20:30 น. |
|
16 comments
|
Counter : 1410 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณSertPhoto, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณkatoy, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณThe Kop Civil, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณmultiple, คุณ**mp5** |
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:13:04:12 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:13:04:23 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:17:45:37 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:17:50:41 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:20:36:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กันยายน 2564 เวลา:7:08:15 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 กันยายน 2564 เวลา:12:26:47 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 23 กันยายน 2564 เวลา:19:00:37 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 24 กันยายน 2564 เวลา:15:45:44 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 25 กันยายน 2564 เวลา:11:07:18 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 25 กันยายน 2564 เวลา:12:06:26 น. |
|
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#19 |

|
|
|
|
|
|
ไม่ใช่คู่ก็ต้องแคล้วคลาดกันเป็นธรรมดาค่ะ
แต่ก็ยังดีที่มีช่วงเวลากุ๊กกิ๊ก มีความสุข ปนทุกข์ๆ
ก็ช่างมันปะไร จริงด้วยค่ะ