ตะพาบๆ กม.ที่ 268 ""Blog 2021""
สวัสดีค่ะ . . เจอกันอีกเช่นเคยกับ Blog ตะพาบๆ ในทุกๆ วันพระใหญ่ วันนี้ เป็นโจทย์ของคุณ พระจันทร์สีม่วงง่วงๆ สม่ำเสมอ ในหัวข้อเรื่อง " "Blog 2021"" เล่าเป้าหมาย/ปณิธานในการ เขียน Blog ปีหน้า มีเป้าหมาย/ปณิธานอะไรบอกให้ทุกคนได้รับรู้กัน ปีหน้านี้ . . มีแพลนแบบตั้งมั่นไว้อย่างจริงจัง ว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพค่ะ คือ มานั่งนึกดู จากที่ลองมาหลายแบบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวเองในแบบ อกหักรักคุด 48hr ติด หรือแบบเมาข้ามวันข้ามคืน จากนั้นก็ไปนั่งร้องไห้อยู่หน้าเซเว่น . .แบบเที่ยวผับปีนโต๊ะ เต้นจนรองเท้าขาดก็เอา . . หรือว่าจะเป็นช่วงอินเลิฟ ความรู้สึกหวิวๆ เบาๆ ลอยละล่อง เหอๆ . .ทั้งหมดทั้งมวลนั้น . . เราว่าเราชอบตัวเอง แบบตอนไม่มีผู้ที่สุด . . แบบหัวใจว่างเปล่า ไม่เศร้า เหงานิดๆ สุขพอประมาณแต่ก็ไม่ทุกข์ ไอ้ช่วงเวลาว่างเปล่าที่ว่านี้แหละ . .มันมักจะเป็นช่วงเวลาที่ดี เหมาะสำหรับการโฟกัสเรื่องของตัวเอง . . มีเวลา ให้คิดริเริ่ม พัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้าน . . เราว่า . . ตัวเราเองในเวอร์ชั่นว่างเปล่านี้ มันเป็นอะไรที่ Flow ที่สุดแล้วจริงๆ . . ดังนั้น ถ้าอยากให้ชีวิตของเราออกมาในรูปแบบไหน . . ก็จงปั้นเรื่องราวชีวิต ให้มันเป็นในรูปแบบนั้นเถิด . . คิดๆ ได้เป้าหมายมาหนึ่งอย่าง ที่อยากจะทำให้ดีขึ้น นั่นก็คือ เรื่องสุขภาพค่ะ สุขภาพของตัวเองนี่ล่ะคะ คือมันก็เป็นการ เขียน Diary เหมือนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่จะเป็น Di.. สิงสู่เป้าหมายเดียว คือเรื่องสุขภาพ ย้ำคิดย้ำทำกันไป อ่อ และจะสิงอยู่ในห้องจำศิลนะคะ แน่นอนว่าชื่อก็บอก . . จำศิลๆ จำศิล 55+ จำศิลคือโหมดรักสุขภาพ เป้าหมาย คือ ทำสุขภาพกาย และสุขภาพใจ ให้มันแข็งแรง และเติบโตไปพร้อมๆ กับ ตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้นให้ได้ . . ส่วนภาพรวมการอัพบล็อกในปีนี้ . . เรียกว่าพอไปได้ . . แม้ว่าจะอัพตามความอินดี้มากไปสักหน่อย แต่ก็ยังไม่พลาด เวลานัดตะพาบเลยสักครั้งเลยนะ โฮ๊ะๆ . . ตรงโจทย์มั่งไม่ตรงมั่ง พอถูๆไถๆ กล้อมๆ แกล้มๆ ไปกับเขาได้ . . . น่ะนะ . . **โดยรวม ตะพาบปีนี้นี่ถือว่าทำตัวดีมาก(คิดเอง) ปีหน้าก็จงทำต่อไป - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ** Blog 3F เมนูแต่ละเดือนยังไม่คงที่ได้มากบ้างน้อยบ้างตามความถนัด . . ในปีหน้าตั้งใจจะโพสเมนูอาหารให้ได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 2 Blog - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - มีบล็อกใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ **Blog แมว + Blog เพลง ซึ่งทำยังไม่ได้ดีนัก แพลนไว้ว่า . . ปีหน้าจะเขียนให้ได้เดือนละ 1 Blog - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - จะพยายามเขียน บล็อกสองแสบ เดือนละครั้ง ไม่น้อยไปกว่านี้ . . จริงๆ อยากเขียนเยอะๆ เลยกับ 2แสบ วีรกรรมนางเยอะมาก แต่บางทีรูปเยอะเกิน อีแม่ก็ดันเป็นคนเยอะด้วย อยากบันทึกเยอะ มันก็เลยใช้พลังในการเขียนแต่ละทีมากไปหน่อย . . แหะๆ จบเป้าหมายสำหรับปีหน้า ขอเม้ามอยเรื่องนี้ต่อ . . คืออ่านโจทย์ตะพาบแล้ว ทำให้นึกถึงบล็อกเก่าๆ . . ครึ้มอกครึ้มใจ ย้อนกลับไปอ่าน อ่านแล้วก็เลยอยาก ยกเอาบางส่วนที่เคยเขียนไว้มา Rerun อีกสักครั้ง . . ถ้าการเขียน Diary คือ การบันทึกเรื่องราวของเรา ณ เวลานั้นๆ เพื่อระบายความรู้สึกของเราทั้งดีและไม่ดี บันทึกเก็บเอาไว้แล้ว การได้ย้อนกับไปอ่านมันอีกครั้งหนึ่ง มันคงเหมือนกับเรา ได้นั่งไทม์แมชชีน เปิดประตูเวลาย้อนกลับไปในอดีต . . ได้กลับไปเป็นตัวเรา ณ ตอนนั้น กลับไป Replay Memory กลับไปยังเหตุการ์เก่าๆ ที่บางครั้ง เราก็เผลอลืมมันไปแล้ว . . แหมะ . . . ยิ่งกว่าหนัง Sci-fi อีกคิดดู๊ . . เสน่ห์ของการเขียน Dairy ก็คงจะประมาณนี้กระมัง [ 07 เมย. 2550 Blog แรกของ nonnoigiwgiw ] เริ่มจากที่ฉันลาออกจากที่ทำงานเก่า และไม่ได้เงินเดือน ด้วยเหตุผลที่อ้างว่า ฉันบอกล่วงหน้าเรื่องลาออกแค่ 15 วัน ถึงแม้ฉันจะทำงานเต็มเดือนและเคลียร์งาน ในส่วนของตนเองหมดแล้วก็ตาม ในสภาวะที่รายจ่ายรอบตัวมารุมเร้า ไหนจะค่าหอเก่า ไหนจะค่ากินอยู่ ค่าน้ำค่าไฟ มันทำให้ฉันปวดหัว และเสียใจอย่างหนัก เศษเงินของเขา แต่มันเป็นเงินก้อนของฉัน มีคนบอกว่าให้ฉันไปฟ้องร้อง แต่ก็นะ... คนอย่างฉัน ใครๆ ก็รู้ เกลียดการมีเรื่องมากแค่ไหน ฉันชอบชิวิตที่สงบ ไม่อยากถูกใครเบียดเบียน และไม่เบียดเบียนใคร ฉันแค่เสียใจ ที่ไปสืบทราบมาว่าเค้าตั้งใจ และวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยไปปรึกษาฝ่ายบัญชีไว้เสร็จสรรพ ไม่ใช่ยืดเวลาเพื่ออยากคุยกับฉัน เหมือนที่ฉันคาดการณ์ไว้ในช่วงแรก คนเรามักมองแต่สิ่งที่คนอื่นทำ แต่ไม่ก้มมองตัวเองเป็นธรรมดา ฉันคิดว่าชาติที่แล้ว เราอาจจะเป็นหนี้เค้าอยู่ ชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้ให้หมดกันไป แต่ถึงอย่างไร แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นหนี้ใคร ในชาติที่แล้ว ฉันก็ขออโหสิกรรม เพราะฉันไม่อยากให้ใครมาใช้หนึ้ฉันในชาติหน้า ในขณะที่เค้าคนนั้น ไม่สามารถล่วงรู้เลยว่า ชาติที่แล้วเคยทำอะไรเลวๆ ไว้บ้าง เมื่อการลาออกของฉันเป็นที่สำเร็จลุล่าวแล้ว แม่สุดที่รักก็มาอยู่ด้วย เพื่อมาปลอบใจ และลดค่าใช้จ่าย ให้เหลือแค่ทางเดียว เราสองคน ย้ายออกจากหอพัก ในย่านคลองบางกอกน้อย เพื่อมาอยู่ฝั่งตรงข้าม การตกงานในครั้งแรก ในชีวิตของฉัน มันให้ความรู้สึกสบายอย่างประหลาด ในหนึ่งวันฉันแค่หางาน นอน อ่านนิยาย กิน หางาน สัมภาษณ์งาน นอน สุขโข (ถ้าไม่คิดถึงเรื่องไม่ได้เงินเดือนนะ) หลังจากผ่านภาวะทำงานชั่วครู่ และตกงานเรื้อรังมาเดือนครึ่ง ฉันก็ได้งานทำเสียที สภาวะรอบตัวตอนนี้ จึงมีแต่สิ่งใหม่ให้ได้เริ่มเรียนรู้ ทุกๆ วัน เริ่มจากที่ฉันขายรถ นั่นก็คือหนูแดงสุดที่รักไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันก็ต้องเดินมาทำงานเป็นประจำทุกวัน . . . ในวันที่โลกหมุนคว้าง..ฉันยังยืนอยู่ ในขณะที่รอบข้างหลุดลอย สิ่งที่หลุดลอยไปจากชีวิตฉัน คนเก่าๆ ความสัมพันธุ์ที่เคยดีต่อกัน ปัจจุบันกลายเป็นคนที่เคยรู้จักเท่านั้น ความสนิทที่กลืนหายไปกับกาลเวลา ความเห็นอกเห็นใจกัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กลายเป็นอะไรที่มองไม่เห็น หากสิ่งที่เด่นชัด คือการเอาตัวรอด ความช่วยเหลือที่แฝงมาด้วย ผลประโยชน์ส่วนตน การปัดสวะใส่กัน การใส่หน้ากาก เพื่อให้ตัวเองมีวิตอยู่ในสังคม ได้อย่างไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ.. ฉันยังยืนอยู่ ในขณะที่สิ่งเก่าๆ เหล่านี้ได้เลือนหายไป ห่างหายไป ลบเลือนไปตามกาลเวลาที่เพิ่มมากขึ้น !! [ 20 มิย. 2550 ทำไมถึงมาเขียน Blog ] เคยมีคนถามฉันว่า... นึกยังไงถึงมาเขียนไดอารี่ออนไลด์ ไม่คิดว่ามันแปลกๆ หรือ ที่อยู่ดีๆ จะมีใครก็ไม่รู้มานั่งอ่านเรื่องราวของเรา สำหรับฉันแล้ว... มันเหมือนการแชร์ความรู้สึกกันมากกว่า " Blog " ของฉัน ฉันจึงเปรียบมันเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง ในบ้านหลังนี้ จะมีทั้ง ห้องที่ให้ความสนุกสนาน (ห้องนั่งเล่น) ห้องที่ให้ความผ่อนคลายและปลดทุกข์ (ห้องน้ำ) ห้องที่ให้ความอบอุ่น (ห้องนอน) บางครั้ง...ฉันอาจจะถ่ายทอดเรื่องราว ความรักที่แสนเศร้า หรือบางครั้งฉันอาจจะ เข้ามาระบายปัญหาหนักๆ เพื่อคลายเครียด เข้ามาเล่าเรื่องดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต หรือแม้แต่เรื่องจุกจิกที่ไรสาระ... ฉันชอบเล่าเรื่อง... มันให้ความรู้สึกเหมือนเรา คุยกับใครสักคน คนที่จะเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่เคยได้สบตา หรือแม้แต่ได้ยินเสียง แต่คนเหล่านั้น กลับมีสิ่งดีๆ ให้กัน ความเอื้ออาทรที่สัมผัสได้ " มันเป็นความผูกพันทางตัวหนังสือละมัง... " ฉันคิดว่าทุกคนคงเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ดี และ นี่เองที่ทำให้ฉันมั่นใจว่า ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว บนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ก่อนหน้านี้.... ฉันเคยเขียนไดอารี่ อยู่ในเว็บไซต์ไดอารี่ออนไลด์เว็บหนึ่ง ต่อมาเว็บนั้นก็ดันล่ม ไดอารี่ของฉันสั่งสม เขียนมาเป็นเวลาสองสามปี หายไปในพริบตา ฉันเสียใจมาก และคิดที่จะเลิกเขียนไปนานเลยทีเดียว . . . เริ่มแรก...ฉันเข้ามาเขียน เพราะอยากหาที่ระบาย แต่สิ่งที่ได้ กลับกลายเป็น Comment แปลกๆ ที่สร้างรอยยิ้ม... ฉันเลิก.....ไม่ได้หรอก ฉันติดใจ ความรู้สึกนี้แล้ว มันทำให้ฉันยิ้มได้... ยิ้มกับตัวหนังสือ ยิ้มกับวาจาของใครก็ไม่รู้ !! [ 03 สค. 2550 เจ้าหมาน้อย บันทึกถอดรหัส ] ในวันที่เมฆลอยต่ำ แสงแดดอ่อนๆ ผีเสื้อสีสดใสบินไปมา นกตัวน้อยๆ ร้องจิ๊บๆ ฉันยืนอยู่กลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มองเห็นธารน้ำไหล เหนือขึ้นไปคือต้นก้ามปู แผ่กิ่งก้านให้ความร่มเย็น ดอกสีชมพูแตะตามต้นสวยงามจับใจ ......... ฉันรื่นรมย์...เหลือเกิน สะพานคอนกรีตที่ทอดตัวยาวข้างหน้าฉัน สูงพ้นธารน้ำแห่งนั้น.. แข็งแรง มั่นคง ดุจหินผา มองข้ามไป เห็นมวลไม้ดอกนานาพันธ์ ฉันลังเล.. จะยืนนิ่งเดียวดาย หรือเดินก้าวข้ามไปดีหนอ... ลมโชยพัดมาแผ่วเบา กระทบผิวบนใบหน้า พัดพากลิ่นดอกไม้นั้นมา.. หอมเหลือเกิน ฉันสูดหายใจลึกๆ หนึ่งครั้ง ก่อนก้าวขา แต่เมื่อลมพัดไป ฉันก็วางมันลง พร้อมกับยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น.. การก้าวข้ามไป จะดีจริงหรือ ? หมาน้อยตัวหนึ่งร้องเสียงบ็อกๆ มันวิ่งเล่นซุกซนอยู่หัวสะพานฝั่งโน้น ขนของมันมองดูนุ่ม น่าสัมผัส แววตาของมันสดใส บ้องแบ๊ว มันส่งเสียงร้องเรียกฉัน!!! ........ ถ้าได้วิ่งเล่นกับมันทุกวัน...คงดี คิดได้ดังนั้น.. ฉันจึงเดินข้ามไป สะพานแห่งนั้น มั่นคง ดังใจคิด ...... ฉันยืนอยู่บนนั้น.. บนกลางสะพาน หมาน้อยตัวนั้น.. วิ่งกระโจน เข้าหาฉัน.. ท่าทางตื่นเต้น ดีใจและมีความสุข เราเล่นกันอยู่บนสะพาน ... เล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่ไม่นาน... มันก็กระโดดจากไป!!! ธรรมชาติของหมาน้อย เบื่อง่าย.. และไม่อยู่นิ่ง ฉันยืนอยู่กลางสะพาน มองเห็นเจ้าหมาน้อยอยู่ไกลลิบ มันกำลังชื่นชมกับดอกไม้บานและผีเสื้อ ท่าทางดูมีความสุขยิ่ง.. ฉันยืนนิ่ง ทอดอาลัย เดียวดาย การก้าวข้ามไป... อาจไม่ใช่สิ่งสดใสอยากที่คิด เมฆน้อย.. ล่องลอยผ่าน เหลือทิ้งไว้เพียง แสงแดดแรงกล้า สาดส่องลงมาแผดเผาฉัน สายลมร้อนๆ กระทบผิวหน้า แห้งแล้ง.. เหลือเกิน ฉันยืนรอเจ้าหมาน้อยตัวนั้น ร้อน.. และทรมาน พลันไห้.....หันหลังกลับ มองไปยังก้ามปูต้นนั้น ดูความร่มเย็นใต้ตัวต้น... พลางคิด.. นั่นล่ะ... สิ่งที่ฉันจากมา!!! [ 05 กค. 2550 เมื่ออยากอวยพรวันเกิดให้ใครบางคน แต่ทำไม่ได้ ] "คำอวยพรผ่านตัวหนังสือแสนไกล ลอยล่องไปยังฟากฟ้านิทรานี้ ผ่านสายลมก้อนเมฆยามราตรี แล้วร่วงหล่นตรงที่ฐานถิ่นเธอ วอนสายลมฉ่ำเย็นให้พัดผ่าน กระทบผิวชื่นบานอยู่เสมอ วอนแสงอ่อนยามเช้าเจ้าเพื่อนเกลอ ส่องให้เธออกอุ่นกรุ่นหัวใจ * - * เจ้าผีเสื้อตัวน้อยน้อยลอยมานี้ พาเกสรพันธุ์ดีไปใกล้ๆ เกิดเป็นดอกไม้งามขึ้นทันใด ให้เธอสุขสดใสไม่หมองมัว ขอสายฝนฉ่ำเย็นตกหน้าบ้าน ให้ไม้ดอกนั้นบานไปถ้วนทั่ว ส่งกลิ่นลอยละล่องมิเกรงกลัว หอมกรุ่นไปทั่วทุกทิศทาง * - * แม้ความมืดมัวหมองเข้ากรายใกล้ จะคอยส่งดวงไฟให้สว่าง ส่องไปถึงดวงใจไม่อ้างว้าง หรือเคว้งคว้างเหว่ว้าในอารมณ์ ได้แต่ส่งสิ่งดีดีที่มีใว้ ให้คนไกลคนนั้นไม่ขื่นขม โปรดรู้ไว้ยามโศกเศร้าหรือตรอมตรม ยังมีคนคอยชื่นชมอยู่ในใจ..." ปล. Happy Birthday นะ.. [ 14 พย. 2551 ถึงคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ] ถ้ามีคนมาบอกคุณว่า... คุณมีข้อดีอยู่ 1 ข้อ นั่นคือ การซักกางเกงในให้เขา คุณจะรู้สึกอย่างไร..? แน่นอนว่า.. มันสุดจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้จริงๆ การมีคนเอาเรื่องของเราไปพูดว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แม้ว่า.. มันจะเป็นการพูดเล่นๆ ก็ตามเถอะ แต่พอเราได้รับรู้แล้ว มันแย่จังนะ ความรู้สึกที่ฉันเคยให้ไป เธอรู้ไหมว่า ฉันไม่เคยหวังว่าจะได้อะไร ตอบกลับมาเลยนะ ฉันพยายามอย่างเหลือเกิน.. ไม่ให้ตัวเองเข้าไปใกล้ เธอเกินกว่านี้ กลัวเธออึดอัด.. กลัวเธอจะรำคาญ เธอรู้ไหมว่า.. บางเรื่องที่ฉันต้องเสียใจเพราะเธอ.. พอฉันได้เห็นหน้าเธอ ฉันก็ลืมเรื่องเหล่านั้นไปหมดแล้ว ฉันคงเป็นพวกเจ็บไม่จำสินะ.. นั่นล่ะฉันล่ะ แต่เธอรู้ไหม... ตอนนี้มันสุดทนจริงๆ เมื่อก่อนฉันอาจจะเคยทำให้เธอมาหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้น.. อาจจะมีเรื่องที่เธอกล่าวมาข้างบนนั้นด้วย ฉันไม่เคยเสียใจหรอกนะ.. ฉันทำเพราะอยากทำ.. ถ้าเธอบอกให้ฉันทำ.. ฉันก็กล้าทำ แต่.. ที่เธอพูดมานั้น แม้จะเป็นคำพูดเล่นๆ คำพูดลอยๆ แต่สำหรับฉันมันรุนแรงเหลือเกิน.. ฉันเกลียดการที่ต้องถูกมองว่าเป็นตัวตลกจัง.. ฉันมั่นใจนะ.. ว่าข้อดีของฉันมันมีมากกว่าที่เธอเห็น แล้วไอ้เรื่องที่เธอหยิบยกมากล่าวนั้น.. มันไม่อาจเทียบได้เลย กับคนที่ฉันรัก.. ฉันสามารถทำให้เขาได้มากกว่านี้เสียอีก เวลาได้ยินสิ่งที่เธอพูดมาแล้ว ฉันเสียใจมากเลยนะ ทำไมเธอต้องพูดอย่างนั้นออกมาด้วย ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่บนโลกใบนี้ เหมือนกันนะ ฉันสามารถเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถได้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร แม้กระทั่งเธอ!!! ฉันมีสมองไว้คิด ไว้ทำงาน มีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ฉันคงไม่ต้องมาสาธยายให้เธอรับรู้หรอก ถ้าเธอไม่เคยจะมอง..และรับรู้ถึงมัน พอกันที.. กับอะไรที่ผ่านๆ มา เธอทำให้ฉันรู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกิน.. ที่ต้องมารู้สึกรัก รู้สึกชอบอะไรเว่อเวิน..กับเธอ ฉันคิดว่าฉันจะเลิกรักเธอแล้วล่ะ!!! ฉันคงไม่อาจทน เอาหัวใจ ไปไว้กับคนที่ แทบจะมองไม่เห็นอะไรในตัวฉันเลย ไม่สนใจจะมองด้วยซ้ำไป.. ฉันจะไม่พาตัวเอง ไปอยู่ในวงจรเดิมๆ กับเธออีกแล้ว เธอรู้ไหม เราอาจจะเจอกันเหมือนเดิม พูดคุยกัน ไปไหนด้วยกันเหมือนเดิม ฉันอาจมีรอยยิ้มให้กับเธอ และอาจจะหัวเราะไปกับเธอได้เหมือนๆ เดิม แต่... เธอจงรู้ไว้เถอะ.. หัวใจฉันที่เคยเป็นของเธอ มันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว!!! จากนี้...ฉันจะมุ่งมั่น.. ตั้งใจ และทำอะไรให้ตัวเองดีขึ้น ทั้งตัวและหัวใจ!!! ฉันจะทำให้มันดีมากขึ้น มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่.. เมื่อมันดีขึ้นในระดับที่ฉันพอใจแล้ว ฉันจะเริ่มมองหาแล้วนะ.. คนที่ฉันจะฝากหัวใจไว้ได้น่ะ... ฉันจะเริ่มเปิดใจ มองคนอื่นบ้างแล้ว และไม่นาน ฉันจะลืมเธอให้ได้ในที่สุด แน่นอนว่า.. คนๆ นั้น ต้องเป็นคนมีมองเห็นข้อดีของฉันมากกว่า 1 ข้อ และเชื่อได้ว่า... คนๆ นั้น ต้องไม่ใช่เธอแน่ๆ !!! [ 12 มค. 2553 แค่หมอก บันทึกถอดรหัส ] ตาวัน...ลาลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว อุณหภูมิลดต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว ความมืดมิด...โรยตัวเข้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ แลสองข้างทางดำทะมึน มองไม่เห็นแม้แต่ต้นไม้สักต้น ... ฉันยืนอยู่บนถนนเส้นนั้น สวมรองเท้าคู่โปรดสีเหลืองสด ปลายนิ้วก้อยที่มักจะเลยรองเท้าออกมาเสมอ สัมผัสกับพื้นถนนลาดยาง.. ความเยียบเย็นแทรกซึมเข้ามาในความรู้สึก ก้มหน้ามองลงไป ที่ตรงนั้น.. เต็มไปด้วยน้ำ ช่างเฉอะแฉะเสียจริง ท่าทางฝนจะเพิ่งหยุดตก...ฉันคิด เส้นทางที่ทอดยาว.. ดูไกลลิบ คดเคี้ยว จนแทบไม่รู้ว่า จุดสิ้นสุดนั้น...อยู่ในที่แห่งใด ข้างกายฉัน.. มีนกแก้วตัวหนึ่ง มันกำลังขยับขาไปมา อยู่บนแอ่งน้ำเสียงดังเจอะแจะ ประหนึ่งว่านั่นคือกิจกรรม ที่แสนจะเพลิดเพลินในยามนี้ ลำตัวสีเขียวสดของมันใหญ่เกือบ หนึ่งไม้บรรทัด หางเล็กเรียวยาว จงอยปากอวบอูมสีแดงสด ปลายปากที่ดูงองุ้มนั้นขยับเอื้อนเอ่ยวาจาไม่หยุดนิ่ง ช่างจ้อเสียจริง... คืนวันหมุนผ่านไปนานแค่ไหนแล้วหนอ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่เงียบเหงา และหนาวเหน็บเหลือเกิน ... ฉันพยายามมองหาแสงสว่าง แสงสีอะไรก็ได้ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง มันต้องมีสักสีสิน่า.. ที่จะส่องลงมาเพื่อฉัน สองขาก้าวเดินไปข้างหน้า..ตามหาแสงแห่งนั้น ไม่คิดสักน้อยนิด..ว่าสิ้นสุดหนทางนั้นคือที่ไหน ฉันเดิน เดิน และ เดิน เจ้านกสีเขียวตัวนั้น.. ยังเจื้อยแจ้วไม่หยุด บางเวลาฉันก็สนุก ไปกับเรื่องราวของมัน แต่ในบางครั้ง...ฉันก็แทบไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามันพูดถึงเรื่องอะไร ... บางที...ฉันก็หัวเราะ หากในช่วงเวลาหนึ่ง..สมองฉันกลับว่างเปล่า ... แล้วในทันใด ก็มีแสงหนึ่งสาดส่องลงมาจากท้องฟ้า แสงสีขาวนั้นดูอบอุ่น และสว่างไสวเสียจน ดึงดูดให้ฉัน...วิ่งไปข้างหน้า เพื่อไขว่คว้าหามัน หาใช่สนใจ เพื่อนร่วมทางตัวน้อยนั้นไม่ ... ฉันวิ่ง วิ่ง และ วิ่ง ใกล้เพียงแค่นิดเดียว แสงของฉัน แสงแห่งนั้น แต่แค่เอื้อมมือ .... พลัน...ฉันรู้สึกตัวตื่น ทั้งหมด...แท้จริงนั้น กลับกลายเป็นเพียง คืนหนึ่ง... ในฝัน... เท่านั้นเอง! (แค่นั้นจริงๆ) . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . โฮ๊ะๆๆๆ บล็อกเก่าตู แต่ละอัน ถ้าไม่ใช่บันทึก ที่ต้องถอดความสามตลบ ก็จะต้องแบบ อารมณ์มาเต็มจริงๆ . . ฮ่าา จะว่าไปก็ผ่านมามากกว่าสิบปีแล้วนะกับบ้าน Bloggang หลังนี้ ถือว่าคุ้นเคยมากกว่าบ้านปัจจุบันที่อาศัยอยู่ซะอีก . .หลายครั้ง ที่ได้กลับไปอ่านBlog เก่าๆ ที่เขียนเอาไว้ แม้ในช่วงเวลาเศร้าโคตรๆ แต่มันกลับทำให้เรายิ้มได้ . . ยิ้มบ้าบอเหมือนคนบ้า ยิ้มให้กับตัวเอง ณ เวลานั้นๆ ยิ้มขำชีวิต ณ ปัจจุบัน . . ยิ้มให้กับความรู้สึก ในทุกๆ ปีที่ผ่านพ้นไป . . โอบกอดตัวเองให้แน่นเข้าไว้ . . ปีนี้ไม่ไหว ปีหน้าสู้ใหม่ . . เขียนเป็นบันทึกเก็บเอาไว้ สุขทุกข์ใดๆ ไม่มีอะไร . . คงทนถาวรแท้จริง !! VIDEO พอเริ่มแก่แล้ว อะไรมันก็ไม่สำคัญเท่ากับ สุขภาพของตัวเราเองแล้วจริงๆ แหละ . . ปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ สัญญาว่าจะ พยายามปั้นกำลังใจให้ตัวเองให้มากๆ จะตั้งมั่นอยู่กับเป้าหมายมีระเบียบวินัยและอดทน ตั้งใจพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน เรื่องอนาคตช่างมัน แค่ทำให้ได้ (อย่างที่พูด) อนาคตน่ะหรอ. . เดี๋ยวมันก็จะดีเอง.. เพื่อเป้าหมายคือ . . ' เป็นหนอนที่แข็งแรง . .บึกบึน มาก . . . . . . . . ที่สุดในปฐพี ' ตามนี้นะหนอน ทำให้ได้นะเว่ยยยย . . . ฮึบ !! บันทึกตะพาบโดย . . ตัวหนอนกิ๊วๆ
Create Date : 29 ธันวาคม 2563
Last Update : 29 ธันวาคม 2563 1:30:32 น.
31 comments
Counter : 1786 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSai Eeuu , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณmultiple , คุณเริงฤดีนะ , คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา , คุณkatoy , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณกะว่าก๋า , คุณทนายอ้วน , คุณจันทราน็อคเทิร์น , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณThe Kop Civil , คุณtuk-tuk@korat , คุณMax Bulliboo , คุณmcayenne94 , คุณcomicclubs , คุณชีริว , คุณtoor36 , คุณสองแผ่นดิน , คุณSweet_pills , คุณฟ้าใสวันใหม่
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:5:11:16 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:5:12:52 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:5:17:03 น.
โดย: multiple วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:5:22:55 น.
โดย: katoy วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:5:35:52 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:7:20:37 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:7:28:03 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:10:29:37 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:13:11:18 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:14:44:44 น.
โดย: multiple วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:16:15:27 น.
โดย: mcayenne94 วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:18:42:41 น.
โดย: comicclubs วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:19:23:58 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 ธันวาคม 2563 เวลา:22:00:35 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:7:02:16 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:8:29:55 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:13:38:30 น.
ออกจากงาน กับเรื่่องอืนไล่ลงมา
เรื่องที่ on วันนี้เขียนคล้ายกับผม แฮ่... โปรยนิดแล้วก็
นึกถึงความหลัง(ขออภัยที่ว่าเขียนคล้ายผมเพราะผมเพิ่งอัพบล๊อกก่อนคุณหนอน 1 วัน 555)
ที่เหมือนกัน ผมก็เขียนบล๊อกที่เวฟเพจอื่น น่าจะที่เดียวกับคุณหนอนซะมั้ง หายวับไป ก่อนที่ทีมงานดัง ๆ บาออก
...
ยัง ๆ ครับไม่พอ... คุณหนอนน่าจะเป็นพี่ เอ้ยรุ่นพี่ของ
ผมในการเขียนบล๊อกแห่งนี้
งั้นเรา ๆ เขียนบล๊อกต่อ