|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตะพาบๆ กม.ที่ 301 "เรื่องที่อยากเล่า"
ตะพาบๆ กม.ที่ 301 "เรื่องที่อยากเล่า" by คุณ toor36 
อยากบอกว่า. .ชอบตะพาบหัวข้อนี้มากเลย . . เพราะมันทำให้เราสามารถเข้ามาเล่าเข้ามาบ่น เข้ามาพร่าม เรื่องอะไรก็ได้ เรื่องที่อยากจะเล่าในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเราเอง เราเชื่อว่าแต่ละคนก็มีปมในใจบางอย่าง . . ที่บางทีอาจจะดู เป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับคนอื่น แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ในใจเราอะไรแบบนั้น. . เรามีปมเรื่องความอ้วนน่ะ . . เป็นปมที่พยายามจะเค้น มันออกไปจากตัวเรา พยายามมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่ก็ยังทำไม่ได้ จนตอนนี้ อายุก้าวเข้าเลข 4 มาได้สักระยะแระ . . ถือว่าเป็นสาวแก่ได้แระ ก็ยังไม่สามารถหลุด ออกมาจากปมนี้ได้ . . จริงๆ ไอ้ปมอ้วนก็ส่วนนึงแต่ที่เราขาดคือ ความมั่นใจ ใช่ เรามีปมเรื่องขาดความมั่นใจสูงมาก . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ยกตัวอย่างเช่น . . แต่ก่อนเราสนิทกับเพื่อนคนนึง มันเรียนหอการค้า ส่วนเราเรียนมอนอใช่มะ ก็จะไม่เจอกันเพราะว่า เราเรียนกันคนละจังหวัด ดังนั้น ส่วนมากเราก็จะกลับมาเจอกันที่บ้าน ตอนวันหยุด . . มีครั้งนึง นางเอาของมาให้ แต่เราช่วงนั้นคือ อ้วนอืดสิวขึ้นไม่อยากเจอ . . เราก็เลยบอกให้นางวางของไว้หน้าบ้าน นั่นแหละ . . แล้วก็กลับไปซะ . . คือไร ไอ้ปมนี้มันทำให้ทำเสียมารยาท กับเพื่อนต่างเพศคนนึงที่เค้าทำดีกับเราขนาดนี้ . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ยกตัวอย่างที่ 2 ย้อนไปก่อนหน้านี้สักสี่ห้าปี . . มีพี่คนนึง ที่เราเคยรู้จักตอนไปฝึกงานที่ลำปาง เค้าคล้ายๆ กับว่าโทรมาจีบเรา ตั้งใจโทรมาในวันเกิดเลยด้วย . . พี่คนนี้ ตอนสมัยไปฝึกงานนั้น เราค่อนข้างสนิทกันมาก เพราะตอนนั้นเรามีปัญหากับเพื่อนใช่ไหม เราก็ชอบไปบ่นๆให้เค้าฟัง บางทีก็ไม่ได้บ่นหรอก แต่ชอบไปนั่งจับเจ่ากับเขา นางมีสกิลที่แบบทำให้คนอื่นสบายใจได้โดยไม่ต้องพยายาม แถมแกร เป็นคนสูงด้วย สูงจะ 190 ได้ ไอ้ปมอ้วนๆอย่างเราจะชอบคนสูงๆ เพราะเวลายืนด้วยแล้วเราจะรู้สึกตัวเล็ก 555+ นั่นแหละ . . เค้าก็โทรมาจีบ เราก็คุยกันๆ คุยกันแทบทุกวันเลย . . คุยกันสี่ห้าเดือนได้ สุดท้ายก็เหมือน จะคล้ายๆ คนคบกันแหละ แต่ยังไม่เจอกันนะ . . เราเหมือนไม่กล้าไปเจอเค้า ทั้งๆ ที่ตอนนั้น เราก็อยู่ปิ่นเกล้า แล้วเค้าอยู่แถวดินแดง . . นางก็ไม่ได้เร่งรัด เอาที่เราพร้อมอยากเจอก็เจอ . . เอาจริงก็ยอมทุกอย่าง แต่ . . สุดท้าย ด้วยความบ้าบอของเรา ก็ทำให้ต้องเลิกคุยกันไป ทั้งๆ อย่างนั้น . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เอาจริงๆ เราไม่ควรจะเอาความอ้วนมาเป็นสาเหตุให้ตัวเอง ทำนิสัยแย่ๆ กับคนอื่น . . เราเบื่อตัวเองที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน ความจริงแล้วมันไม่เกี่ยวกับเรื่องอ้วนไม่อ้วนหรอก มันเกี่ยวกับ เรื่องความมั่นใจมากกว่า . .
ช่วงนี้ . . อารมณ์นี้กลับมาอีกครั้ง . . มันเหมือนอยู่ดีๆ ก็คล้ายกับโดนขยี้แผลเก่าไม่รู้ตัว แล้วมันก็ทำให้เราต้องกลับมานั่งถามตัวเองว่า จะต้องเป็นแบบนี้ ไปอีกนานแค่ไหน . . จะให้เป็นจนถึงอายุหกสิบเลยหรือไง . . เราอยากกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง . . แบบที่พร้อมจะเจอผู้คนใหม่ๆ อย่างเริงร่า . . ซึ่ง สมัยก่อนเราเป็นคนแบบนั้นนะ . . แบบที่เริงร่าท้าชน อะไรอย่างนั้นอ่ะ . . แต่ไม่รู้ว่า มันเปลียนจากแบบนั้น กลายเป็นอย่างทุกวันนี้ ตอนไหนก็ไม่รู้ . . .
ไอ้ปมนี้ . . ทำให้ช่วงนี้เราซึมๆ และเหมือนจะเครียดโดยไม่รู้ตัว มันเป็นอาการคล้ายๆ กับเราอยากจะตะโกนถามตัวเองดังๆ ว่า"เมริงต้องการอะไรจากโลกใบนี้กันวะ . ."
ความเครียด ทำให้คอติซอลหลั่ง จากนั้น . . ค่าน้ำตาลมันก็ขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้แดรกน้ำตาลนี่แหละ ไอ้ปัญหาเกี่ยวกับสภาวะทางด้านจิตใจแบบนี้ มันยิ่งทำให้ ภารกิจรักษาเบาหวานของเรา ง่อนแง่นเหลือเกิน บ้าบอ . . เป็นปม . . ที่ใครก็รักษาให้เราไม่ได้ นอกจากใจของเราเอง!!- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
หยุดสามวัน ตัดสินใจหลุดคีโตซีส (สภาวะที่ร่างกายใช้ไขมัน เป็นพลังงานแทนน้ำตาล) คือ ปล่อยให้ตัวเองออกจากเผ่า อย่างสมบูรณ์ แล้วไปเที่ยวกับเพื่อน . .
30 เมย. กินกุ้งยุดยา . . ความจริงแล้ว คือต้้งใจไปกินหมูทะด้วย ที่ครั้งที่แล้วไปแล้วร้านปิดอ่ะ แต่ว่า จะกินทั้งกุ้งทั้งหมูทะก็ไม่น่าไหว รอบนี้ร้านไม่ปิด แต่ทั้งกลุ่มตัดสิ้นใจเทหมูทะทิ้งไปเพราะอยากฟาดกุ้งกันเยอะๆ

เราเลือกที่จะกินกับให้เต็มที่ ทุกอย่างกินได้หมด แค่เลือกไม่กินข้าว ไม่กินขนม ไม่กินน้ำหวาน คือ ก็ยังอยากจะเซพตัวเองหน่อยอะนะ ไปกันห้าคนสั่งกุ้งประมาณ สิบตัวโล มาสามกิโล หอยหวานโลนึง

หอยแครงครึ่งโล ต้มยำปลา
 ปลาช่อนแปะซะ ยำก้านคะหน้า
 ลาบปลาหมึก ไม่ต้องถามว่าหมดไหม . . ไม่เหลือสักอย่าง แถมกุ้งจุ่มน้ำจิ้มไปสองถ้วย . . 555+

เดินพุงกลางออกมาจากตลาดกลางกันทุกคน เพื่อนอีกคนบอก สรุปวันนี้พวกเมริงมายุดยาเพื่อกินกุ้ง เพื่อนบ้านแม่มหลอกให้เอารถนางมา บอกว่าจะพามาไหว้พระ ละยังไง . . ถึงยุดยาปุ๊บแวะตลาดกลางก่อนเลย . . 555+

ดังนั้น จึงต้องเปิดโทรศัพท์เซิซหาวัดใกล้ๆ แถวนี้สักหน่อย ได้วัดนี้ . . วัดป้อมรามัญ ลงจากรถปั๊บได้ยินพวกพ่อค้าลอตเตอรี่พูดว่า ดารามาๆ เราก็งง เค้ามีงานไรกันหรอ ถึงมีดารา . . สรุปบ่าววว . . ที่นี่เป็นวัดที่ดาราชอบมาลง นะหน้าทอง เพื่อเสริมเฮงกันเว้ยย เลยเดินเข้ามาต่อคิวกับเขาด้วยแบบ งงๆ . . .

สิ่งที่ได้คือ พระท่านจะเอาทองคำเปลวแปะหน้าผาก จากนั้นก็จะเอาพู่กันละเลงยันต์ทับลงไป นี่ลงแล้ว . . ทองกระเจิดกระเจิงหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ . .

ออกจากวัดไปต่อที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง เพื่อนมันอยากมากินบิงชูบัวลอย

สั่งเค้กมาสองชิ้น . .กับน้ำของแต่ละคน เค้กเครอท พวกนางชิมไปสองคำทิ้งเลย ส่วนเรานั้นกินแต่ อเมริกาโน่เย็น NoSugar ใส่โซดาแทนน้ำ

อยากไปวัดอีกที่ . . แต่ทุกคนอิ่ม และร้อน . . คนขับพาไปวนเข้าทางเข้าวัดใหญ่หนึ่งรอบ ยังไม่ทันลงจากรถ พวกคนบาปทั้งหลายก็บอก เราเปลี่ยนไปหาคาเฟ่เย็นๆ นั่งกันเถอะ . .

ได้จร๊ะ . . คาเฟ่ เย็นๆ ก็มา . . เย็นนี่คือ แอร์เย็นๆ นะจ๊ะ . . สวรรค์ยุดยา อยู่ที่ตรงนี้

เยี่ยมไปเลย . . ที่นี่แอร์เย็นมาก . .

นั่งให้เหงื่อแห้ง . . จะดีมากถ้าได้หมอนสักใบ

เพื่อนบ้านนางหมกมุ่นอยู่กับ หลนปูเค็ม

อีกคนบอก ขนม นี่อร่อย ต้องสั่ง ว่าแต่มันชื่อไรวะ อยู่ดีๆ ก็ลืมชื่อเฉยเลย . . เราไม่ถูกใจสิ่งนี้เพราะมันไม่มีไส้ แต่เพื่อนๆ ชอบมาก นางสั่งกลับไปกินบ้านอีกสองชิ้นแนะ (เฮ้ยยยย จำได้แระ มันคือ สโคนไง . .)

คราวนี้ก็สั่งมั่วเลยสิคะ . . ไม่รู้อะไรเป็นอะไร

ส่วนทางออกของอิชั้นคือ ชาเบอรี่ร้อนๆ กับ สป๊ากกิ้ง แต่ขอโทษ อากาศแบบนี้ใครกินชาร้อนกัน . . ก็เทชาร้อนลงไปในแก้วน้ำแข็งเลยสิค้าาาา . . (แต่มีชิมน้ำหลนปูเค็มไปหนึ่งคำถ้วน)

สรุป . . ทนร้อนไม่ไหว กลับมาเดินช๊อปที่ฟิวเจอร์จนห้างปิด แถวมื้อเย็นยังกินเสต๊กกันอย่างอลังการอีกรอบ . .

ถถถถถ . .

1 พค ฉะเชิงเทรา บ้านตรงข้ามสายมู อยากไปไหว้พระพิฆเนศ

เริ่มต้นมื้อเช้าด้วยเตี๋ยวปากหม้อที่วัด แต่เราไม่ได้กิน สั่งเป็นเกาเหลาโฟ(เอาส่วนที่เป็นแป้งทิ้งไป) กับเล้งมาแทน . .

ไม่ค่อยเลิฟเท่าไร เราทำอร่อยกว่า คิกๆๆๆ (ไม่ค่อยอวยตัวเองเล้ย)

ที่วัดคนเยอะมาก . . ไม่เป็นอันไหว้พระเท่าไร เพราะแม่อิชั้นไม่ชั้นไม่รับโทรศัพท์

ลูกสาวระดม มิสคอลไปล้านๆๆๆๆ สาย . .

สรุปคือ นางไปหาหมอแล้วไม่พกโทรศัพท์ไปด้วย ฮึ่ม!!

ออกจากวัดสมานมาต่อที่อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน

ส่วนตัวแล้วชอบองค์ยืนมากกว่าองค์ชมพู แต่ทั้งสองที่ แดดร้อนไม่ต่างกัน ไหว้เสร็จแล้วเอาพวงมาลัยเดินวนสามรอบ

ถวายเทียน ต่อแถวบูชาไฟ แล้วแยกกับเพื่อนบ้าน ที่ต่อแถวอยู่ด้านหลัง นางอยากเจิมหน้าผากอีกรอบ ส่วนบ้านตรงข้ามอิชั้น ต่อแถวครอบครูกันไปเลยจร้าา . .

เพื่อนคนนึงบอกทนร้อนไม่ไหวชั้นไปรออยู่ร้านกาแฟริมน้ำนะ

ไปจร๊ะ . . ที่นี่มีร่มให้บริการแต่ต้องฉีดแอลเยอะๆ หน่อย
 เดินเลาะริมน้ำไปจนเจอร้านกาแฟ

รอบนี้ อิชั้นสั่ง ชาเขียวมะนาวไม่ใส่น้ำตาลเปลี่ยนน้ำเป็นโซดา

คนขายมองหน้านิดหน่อย . . แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร 55+

เพื่อนๆ หิวโซ . . เราตัดสินใจไปลองร้านเก่าแก่

ที่ชื่อเถ้อแก่ซื้อ บางคล้า

แต่ . . . ไม่ค่อยถูกใจ อาหารค่อนข้างแพง

และมีเมนูให้เลือกน้อย . .

แต่ยังไงซะ. . ทุกอย่างก็หมดเกลี้ยง

เรากินทุกอย่างเหมือนเดิม

แต่ไม่กินข้าว ตัดข้าวทิ้งไปโลดด เก็บโควต้าไว้กินอย่างอื่น . .

ทุกคนออกจากเถ้าแก่ซื้อมาแบบคาใจนิดหน่อย เหมือนยังอยากกินอะไรอยู่ . . ก็เลยแวะบางคล้าคาเฟ่

เฮ้ยยย . . มันดีย์ . . ถ้ารู้ว่าที่นี่มีของกินด้วย ก็คงแวะที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว . .

อย่างไรก็ตาม เราก็สั่งเหมือน ไม่เคยกินอะไรมาก่อนหน้านี้ 55+ ชาเบอรี่เรดต้องมี . .

มื้อ(อะไรที่เท่าไรก็ไม่รู้)ที่นี่ . . มีแอบกินขนมไป 2 คำ

แล้วก็กุ้งโสร่งไป 1 ตัวถ้วน . .

งั่มมมมมมมมม . . แป้งนี่มันฟินจริงๆ เฟร้ยยย

ไม่พอ . . กลับถึงบ้านแล้ว . . ยังไปต่อ น้ำตกซกเล็กกับเพื่อนบ้านอิ๊กกกก. . .

ฟาดให้เรียบบบบ

2 ชั่วโมงหลังจากกิน . .เจาะเลือดเพื่อเช็คว่า ร่างกายสามารถจัดการกับน้ำตาลที่กินเข้าไป ได้หรือไม่ เหยยยย . . ก็ยังได้อยู่นะ . .

2 พค กินข้าวบางแสน ก็ ก็ ก็ เราบ่นแล้วบ่นอีก บ่นแล้วบ่นอีก ตั้งแต่วันไปกินกุ้งยุดยาว่า โควิดทำให้เราไม่เห็นทะเลมาจะสองปีแล้ว สองปีกว่าแล้วหรือเป่านะ . . เรางิ๊ดดๆ และนิ๊ดมาก . . เพื่อนทุกคนก็เลยบอก เทอววว พูดเรื่องนี้ มาเกินสามรอบแล้ว งั้นพวกเราจะสานฝันให้เธอเอง โดยการพาเธอไปกินข้าวบางแสน . . ละกัน ไปเช้าเย็นกลับ

เพราะงั้น . . วันนี้เราก็เลยมาอยู่ที่บางแสนกัน มาถึงอี B2 มันโทรถามคนพื้นที่ เพื่อนมันที่อยู่แถวนี้ แนะนำร้านอาหารบ้านๆ ชื่อว่าครัวน้าติ . .

ยังไม่เห็นทะเลจร้าาา กินก่อนค่อยว่ากัน

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

อาหาร ราคาโอเคเลย เมนูแนะนำคือไข่เจียวเทียมดองใส่ปู

กากหมูผัดพริกขิง

สั่งมาหลายอย่างแหละ

หมดเกลี้ยง

มื้อนี้หมดไป 1070 บาท

จบจากครัวน้าติ เราก็ได้เห็นทะเลแล้วจร้าาา

แดดเปรี้ยง . . . เลยจร้าาาา . .

แต่ก็พอใจแล้ว . . ทะเล ยู้วฮูววว

อี B2 นางอยากกินไอติมร้านที่อยู่หน้าหาด

สุดท้าย อิชั้นก็ได้ฟาดของหวานจริงจังจอกแรกจ้า

โอ๊ยยยย . . น้ำตาลพุ่ง 200 แน่ แถมยัง มีคุกกี้ สายรุ้งฟรุ้งฟริ้งอีกอ่ะพวกเมริ๊งงง . .

ฟาดติมกะคุกกี้ฟรุ้งฟริ้งเกลี้ยงแล้ว . . สุดยอดเพื่อนบ้าน นางอยากสานฝันนั่งเตียงผ้าใบริมหาด . . แต่คือ . .

ค่าเตียงติดหาดคือหกร้อย . . .

นางหันไปถามเพื่อนบางว่าเอามะ . . เพื่อนนางทำหน้าแหยๆ . . แล้วบอกชั้นไม่ชอบ ความรู้สึกเวลาเท้าสัมผัสทรายอ่ะเทอววว . . 555+

อวสานผ้าใบริมหาก เราก็เลยมาปักรากอยู่คาเฟ่ฝั่งตรงข้ามหาดแทน

เธอก็นั่งมอง วิวเตียงผ้าใบเอาก็แล้วกันนะ . . 55+

แต่ใดๆ คือแอร์เย็นมากกก . .

แน่นอนว่าทางออกสำหรับอิชั้นคือ ชาเบอรี่ หลังจากฟาดติมไปจอกนึงแล้วก็ยังจะกล้า กินติม วานิลลาในโทสด้วยหลายคำ จกสตอเบอรี่ไปครึ่งลูก

ส่วนขนมปังราดน้ำผึ้งนั้น บ๊ายย บายยย นะจ๊ะ . . ราดชาร้อนบนน้ำแข็งวนไป 555+ (ไร้อารยธรรมสุดๆ)

หลับสักตื่นก็น่าจะดี . . เดี๋ยววว . . เมิงจะมาหลับในคาเฟ่ไม่ได้

ห้าโมงครึ่ง . . มาปักหลักริมหาดวอน เพื่อนบ้าน ผู้ที่ไม่ได้นั่งเตียงผ้าใบ บอกว่า ผ้าใบไม่ได้ขอแบบนี้แทนได้ไหม ซื้อของมากินริมหาด

ส่วน B2 ผู้อยากกินซาซิมิปลาหมึกแต่ดันหมด แล้วไปโดนหลอกซื้อซาซิมิปลาไทยมาจานเจ็ดร้อยกว่าบาท

โอ๊ยยยยยย . . . บ้าบอ . . แดรกเข้าไปให้หมดเลยนะ

ส่วนเพื่อนบ้านผู้ที่ใฝ่ฝันที่จะปักหมุด อยู่บนเตียงผ้าใบริมหาด นางก็ได้สัมผัสน้ำทะเลแว้ววว . .

ได้นั่งสูดอากาศสดชื่นริมทะเล ดูฟ้าหม่นๆ ยามอาทิตย์อัศดง แค่นี้ ก็สุขใจแล้วล่ะ . .

อย่างไรก็ตาม . . ทุ่มนึงยังไม่ถึงบ้าน เพราะเพื่อนของเพื่อนบ้านนางหิว . . แต่รถติดในซอย พวกนางก็เลยหันหัวรถเข้าร้านหมูกระทะแถวมอบูรฯ มันซะเลย

แบบนี้ก็ด๊ายยยยย หร๊ออววววววววววววววววว . .

ถึงบ้าน . . เจาะน้ำตาลอย่างเร่งด่วน . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ผลจากทริปผ่อนคลายสามวันติดทำให้ตอนนี้ คือ . .
หนึ่ง บนโต๊ะมีชาอยู่สองกล่องละตอนนี้ แช่น้ำร้อนดมๆ หอมๆแล้วเทใส่น้ำแข็งเย็นๆ ได้ทั้งดมได้ทั้งกิน . . ที่สำคัญไม่มีน้ำตาล . . สอง เมื่อวานนี้ กลับเข้าเผ่าได้สำเร็จอีกครั้ง และเริ่มออกกำลังกายแล้วจร้าาาาาาาา . . สุดท้าย หลังจากเที่ยวผ่อนคลายมาสามวัน ปมก็ยังอยู่เหมือนเดิม ความมั่นใจยังไม่กล้บมา . . แต่ตอนนี้ก็เริ่มกล้าที่จะเปิดใจ รับเพื่อนใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น ชวนกันออกกำลังกายแล้ว . . ค่อยเป็นค่อยไปนะ . . 55+ เป็นการเขียนบล็อกสดที่ยาวนาน และน้ำตาลในช่วงฟาสของวันนี้คือ . .
ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ . . ผ่อนบ้างคลายบ้าง . . เชื่อว่าสุขภาพกายจะดี . . ต้องเริ่มจากสุขภาพจิตที่แจ่มใสนั่นแหละนะ!! บันทึกตะพาบโดย . . ตัวหนอนกิ๊วๆ
Create Date : 06 พฤษภาคม 2565 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2565 14:04:43 น. |
|
18 comments
|
Counter : 656 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณทนายอ้วน, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณkatoy, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณเนินน้ำ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณKavanich96, คุณtanjira, คุณnewyorknurse, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:33:37 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:52:55 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:16:24:32 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:16:26:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:17:26:50 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:20:55:59 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:21:20:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:19:28 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 7 พฤษภาคม 2565 เวลา:7:02:22 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 8 พฤษภาคม 2565 เวลา:4:04:42 น. |
|
|
|
โดย: เชเอง IP: 171.97.73.147 วันที่: 9 พฤษภาคม 2565 เวลา:23:53:12 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 11 พฤษภาคม 2565 เวลา:17:46:20 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 12 พฤษภาคม 2565 เวลา:8:57:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่ผมไม่ได้ทานข้าวนะ แค่ไปนั่งชิลๆ รอเวลากินข้าวกลางวัน วันที่ไปอากาศไม่ร้อน นั่ง Outdoor อากาศดีมากๆ
ไว้จะไปกินที่บ้านป้อมเพชรบ้าง อากาศดูน่ากิน
อยากกินกุ้งเผาแบบตัว ๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้กิน
ที่เหลือรอมาเม้นใหม่ ไปทำงานก่อน