อาหารฝรั่งเศส 3 courses ที่ร้าน ~La Rose des Vents~ กับวิวเมืองชนบทแถบ ST-SYMPHORIEN-DE-MARMAGNE ค่ะ
ฝากร้านนี้ไว้เผื่อใครผ่านมาเที่ยวแถวๆนี้นะคะ
หลายคนบอกว่าอาหารฝรั่งเศสเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก เพราะว่าทั้งวัตถุดิบวิธีทำที่ละเอียดอ่อน ประณีตพิถีพิถันทุกขั้นตอน
แต่ก็ไม่ได้จะอร่อยทุกร้านนะคะ ที่อร่อยๆมีชื่อเสียงมากจริงๆก็ต้องจองคิวเป็นเดือนๆ
แล้วก็แพงมากกกกกกก
แล้วไม่ใช่ว่าจะถูกปากเราเสมอไปอีกด้วย ลิ้นใครลิ้นมัน ต่างความรู้สึกกันไป
ทางเลือกนักเรียนอย่าง Indy ก็ต้องลองไปเรื่อยๆค่ะ
เลือกร้านที่ราคารับได้ เชฟตั้งใจ
แล้วก็ขับรถเล่นไปตามชนบทอย่างนี้ มักจะมีของดีซ่อนอยู่เสมอ
กินตาม Local รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
ร้านนี้อร่อย อาหารหน้าตาดี แล้วก็ใส่ใจในทุกเมนูแบบนี้
... เลยต้องขอมารีวิวหน่อยค่ะ ...
~ La Rose des Vents ~
เมืองนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่คุ้นชื่อนักนะคะ
แต่ถ้าใครได้มีโอกาสมา Road Trip ทัวร์ชิมไวน์แถบ Burgundy (หรือ Bourgogne)
ก็ลองหาโอกาสหลงทางแวะมาลองทานกันดูนะคะ :P
เมนูในแต่ละฤดูกาลจะแตกต่างกันออกไปค่ะ
ให้สอดคล้องกับวัตถุดิบที่มีเพื่ออาหารแต่ละจานจะได้สดและอร่อยที่สุด
ด้านหน้าบริเวณที่จอดรถ มีอนุสรณ์ระลึกถึงสงครามโลก
และวิวด้านหลังที่เป็นเนินเขาเขียวอยู่ลิบๆค่ะ
ที่ฝรั่งเศสร้านอาหารอร่อยหลายๆร้าน จะเป็น Hotel Restaurant ค่ะ
รวมถึง La Rose des Vents ห้องอาหารในโรงแรมเล็กๆแห่งนี้ด้วย
ส่วนของห้องอาหารจะอยู่ด้านหลังที่เป็นกระจกค่ะ ชมวิวกันแบบเต็มๆเลย
ตามเข้าร้านมาเลยค่ะ
ได้โต๊ะหัวมุม บนชั้นลอย
...วิวแบบนี้...
ไว้หน้าหนาว จะมาลองเมนู Winter กับวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะดูบ้าง
ขนมปังมารอแล้ววววว
สั่งอาหารเสร็จ
ไปเดินดูบรรยากาศภายในร้านกันค่ะ
เดินลงมาชั้นล่าง
มีลูกโป่งผูกไว้ที่บันไดด้วย เพราะจะมีเลี้ยงแต่งงานตอนเย็นนี้ค่ะ
วิวจากชั้นล่าง
เค้าเริ่มเตรียมแปลงปลูกดอกไม้ด้านนอกกันแล้วค่ะ
มองขึ้นไปด้านบนกันบ้าง
ที่ชั้นบนจะนั่งสบายกว่าค่ะ วิวมุมกว้างกว่าด้วย
แล้วก็มาแอบดูโต๊ะที่ร้านจัดเตรียมสำหรับงานเลี้ยงแต่งงานคืนนี้
...แบบโต๊ะกลม...
...โต๊ะยาว...
จัดไว้อย่างครบครัน สีชมพูแดงขาว น่ารักดีค่ะ
มีเมนูพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะด้วย แอบดูแล้ว...หลายคอร์สมากๆ
แต่ละที่นั่งจะ fix ชื่อแขกเอาไว้หมดแล้วค่ะ
แล้วก็มีดีเทลต่างกันเล็กๆน้อยๆด้วย ดูพิถีพิถันดีค่ะ
กลับมาด้านบนดีกว่า
เค้ากำลังง่วนจัดงานกันอยู่ เกรงใจนิดนึง (เพิ่งรู้ตัว แฮะๆ)
จักรคลาสสิคตัวจิ๋ว กับเมนูต่างๆของทางร้านค่ะ
มีเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมนูหลัก เมนูของหวาน เมนูพิเศษประจำวัน
กลับมาที่โต๊ะตัวเอง เรียบง่ายยยยย
มื้อนี้เรางดไวน์นะคะ เพราะว่าทานเสร็จจะไปต่องานแต่งงาน
เตรียมไปดื่มฟรีว่างั้น :P
จานรองใบนี้เป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นของศิลปินฝรั่งเศสคนนึง
แต่ว่าชื่ออะไร จำไม่ได้แล้ว ^^’
ถ้าสังเกตดู จานต่อๆไป จะเป็นแนวแก้วใสๆ แบบมีริ้ว
หรือลายลูกฟูกกระเบื้อง ลายเพ้นท์สีแดงในลักษณะเดียวกันทั้งหมดเลยค่ะ
...มาเริ่มต้นความอร่อยกันเลย...
กับ Amuse Bouche หรืออาหารก่อนเข้าเมนู
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Chef’s selection แล้วก็ไม่อยู่ในเมนูที่สั่งไปค่ะ
Crème brûlée au foie gras accompagnée d'une framboise
เป็นฟัวกราส์เครมบลูเล่กับราสเบอรรี่
... สุดยอด ...
แค่เริ่มต้นก็รู้เลยว่าเชฟกำลังจะนำความอร่อยมาให้
ครีมนุ่มๆ รสแบบเค็มๆมันๆ น้ำตาลไหม้หวานกรอบ หอม อร่อยมากๆ ตัดเปรี้ยวนิดๆด้วยราสเบอร์รี่
อยากสั่งมาเป็นเมนูหลักจริงๆเชียว :P
ยังไม่เริ่มก็ถึงกับพร่ำเพ้อ ต่อ Starter จานแรกกันเลย
Carpaccio de Canard aux Agrumes sur son Lit de Jeunes Pousses d'Epinards aux Pines de Pins
ชื่อย้าวยาวววววว
สั้นๆว่าเป็น คาปาโช่เป็ดค่ะ มาพร้อมกับสลัดผักและผลไม้
ชอบดีไซน์และการตกแต่งจาน
สไลด์ได้บางมากๆ นอนเรียงกันอย่างสวยงาม
ทานรวมกันแบบนี้ นุ่มอร่อยๆ สดๆ
อีกหนึ่ง Starter ที่สั่งไปเป็น
Poêlée de Ravioles du Dauphiné aux Noix de Pétoncle
เสริฟได้น่าทานมากๆเช่นกัน มาทั้งกระทะทองเหลืองเลยค่ะ
จานที่รองมาไซด์ของหลุมก็พอดีกันกับไซด์ก้นกระทะเลยค่ะ
เวลาทานจะไม่เลื่อนไปเลื่อนมา
ราวิโอลี่กับหอยเชลล์น่าทานมากๆเลย
ซอสครีมอร่อยยยยย
แต่คนไทยอาจจะเลี่ยนไปนิดกับเมนูนี้
... พักชมวิว ...
ก่อนมาต่อจานหลักค่ะ
Main course มาแล้วววว
Caille aux Asperges Vertes Rôties et ses Oeufs en Ravioles
เป็นนกกระทาค่ะ
วางบนหน่อไม้ฝรั่ง และก็เครื่องเคียงอีกอย่างละนิดละหน่อย
เช่น ก้อนเหลืองๆเนี่ย Flan au cumin รสชาติแปลกนิดนึง กลิ่นเครื่องเทศจัดๆ
มันฝรั่งอบ กลิ่นแบบเนยกระเทียม อร่อยดีค่ะ
ราวิโอลี่สอดไส้ไข่นกกะทา
นกกะทาเนื้อแน่นกำลังดีกินรวมๆกันกับเครื่องเคียงอร่อยทุกอย่างเลย
อีกหนึ่งจานหลักที่สั่งไป
Pavé d'Agneau en Croute de Persil, Jus d'Agneau aux Aulx Confits
ประกอบไปด้วย เนื้อแกะครัสพาร์สลีย์และกระเทียม ส่วนเครื่องเคียงเป็นแบบเดียวกันกับจานก่อนค่ะ
ตั้งใจแปลจากเมนูแล้วไม่ได้เรื่องเลย
แปลตรงๆดูจะเข้าใจยากกว่าแปลรวมๆ ^^’
ชมภาพชัดๆเอาเองดีกว่าค่ะ
หั่นดูด้านใน เรียกว่าเกิน Medium rare ไปแล้ว
แต่ก็ยังนุ่มชุ่มฉ่ำอยู่ค่ะ
ครัสด้านนอกสีเหลืองทอง กรุบกรอบรสชาติดี ทานกับกระเทียมสุกๆ
แทบละลาย
มาต่อเมนูของหวานกันบ้าง
จานแรก
Le Croustillant (Croustillant, Gianduja, mousse au chocolat meringuée)
ดูจากการตกแต่งจาน ใส่ใจมากๆอีกแล้ว นอกจากพื้นจานที่ลงซอสสองสีเป็นลายตาราง
มุมนึงยังแต่งด้วยอัลมอนด์และไอซิ่ง
ส่วนอีกมุม แต่งแบบดูมีมิติ
ที่สำคัญอร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะเมอแรงค์
ส่วนตัวหลักก็ใช่ย่อย
ครูสตียอง สอดไส้ชอคโกแลตแบบ Gianduja และแบบมูส
ชอคโกแลตที่ปักด้านบนก็เข้มถึงใจเลยค่ะ
อีกซักรูปนะคะ
เนื้อเค้กแบบเนี้ย อร่อยล้ำ ใช่เลยยยย
สีจานและรูปแบบจาน Theme เดียวกันหมดเลยค่ะ
ของหวานจานสุดท้ายเป็น
Nougat Glacé au Miel
ไอศครีม Nougat (เรียกตังเมได้มั้ยเนี่ย)
น่าทานมากๆอีกแล้วค่ะ
แถมมีน้ำผึ้งแข็งๆเก๋ไก๋ด้านบนอีกด้วย
ป้อนคำสุดท้ายนะคะ หวานเย็นชื่นใจ
บายๆค่ะ
ดูแล้ว น่าอร่อยทุกจาน ให้การเอาใจใส่เรื่องทำดีมาก
มาเป็นคอร์สๆ งานนี้อิ่มอร่อยกันน่าดูเลย
บรรยากาศก็ดูดีจังค่ะ เป็นธรรมชาติ
ปล. งานแต่งชาวฝรั่งเศสเนี่ย เสิร์ฟกันหลายคอร์สเลยค่ะ อิ่มอร่อย เพื่อนแต่งที่เมืองมองเปลิเย่... คิดแล้วอยากกลับไปอีกจังค่ะ