เชอร์ล้อค ดอร์มมม~
เมื่อวานมีเรื่องที่ตึกนิดหน่อยค่ะ..
แปดโมงเช้า แม่บ้านโทร.มาแจ้ง ว่าน้องที่มาพักรายวันที่ตึก "โดนงัดห้อง" เมื่อคืน..
อิชั้นสอบถามคร่าว ๆ ได้ความว่า น้องผู้หญิงมาพักสองคนหนึ่งในนั้นเป็นนิสิตที่เช้านี้จะต้องไปสอบ ส่วนน้องอีกคนเป็นญาติกัน โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก และมาอยู่เป็นเพื่อนกันช่วงน้องกลับมาสอบและส่งงานที่มหาวิทยาลัยเฉย ๆ
ของที่หายไปก็มี กระเป๋าสตางค์ โทรศัพย์มือถือ เครื่องเล่น mp 3
อิชั้นบอกน้องให้ไปสอบเถอะ แล้วเดี๋ยวจะแวะไปแจ้งให้ทาง ตร.แวะมาดูสถานที่เกิดเหตุ
สี่โมงเช้า อิชั้นแวะไปสถานีตำรวจค่ะ..แต่ทางตำรวจบอกว่า ต้องให้เจ้าทุกข์ มาแจ้งเอง อิชั้นก็เลยต้องแบกหน้าจืด ๆ ไปตามน้องที่ตึก..
ไปถึงที่ตึก..แม่บ้านเล่าให้ฟังว่า..เมื่อคืน น้องทั้งสองคนนอนราว ๆ ตี 1 ซึ่งเป็นหลังจากที่ประตูรั้วหน้าหอพัก ปิดเรียบร้อยแล้ว นั่นก็หมายความว่า คนภายนอก ไม่น่าจะเข้ามาได้ (นอกจากพี่ยามจะอนุญาต)
น้องคนที่เป็นนิสิตนอนก่อน ส่วนน้องที่มาอยู่เป็นเพื่อนนอนทีหลัง และยืนยันทั้งสองคน ว่า ล้อกประตูหน้า ใส่กลอน แน่นหนาดีแล้ว
อิชั้นขึ้นไปสอบถามและดูสภาพห้องพัก พบว่า การเข้าทางประตูหน้า โดยการงัด ฝ่าด่านลูกบิดที่ล้อค และกลอนประตูด้านในเข้าไปเป็นไปไม่ได้เลย เพราะนอกจากจะทำเสียงดังจนทำให้น้องทั้งสองคนซึ่งเป็น จข.ห้องตื่นแล้ว สภาพประตูห้อง..ยังเนี๊ยบบบบ~ไม่บุบสลาย แม้แต่น้อย (ประตูไม้อัดค่ะ แน่นอนว่าหากงัด..ต้องบิ..เสียหายแน่ ๆ )
ตัดประเด็นเข้าด้านหน้า..มาดูทางระเบียงหลัง ซึ่งมีห้องที่ระเบียงติดกับเค้าแค่ห้องเดียว..และเผอิญว่า ห้องนั้น เป็นห้องว่าง ที่แม่บ้านยืนยัน นอนยัน ว่า ทำความสะอาดและล้อคประตูแน่นหนาแน่นอน (มีน้องอีกคนที่เป็นเด็กในหอ.มาเป็นพยาน ตอนแม่บ้านไขเข้าไปดูสภาพห้องว่าง)
แถมประตูระเบียงยังเป็นมุ้งลวด ชนิดสองตอน คือ ถ้าขโมยจะเข้าห้องน้องผู้เสียหายจริง ต้องดันมุ้งลวดจากภายนอก จนมุ้งลวดหลุดตกลงมากระทบพื้นกระเบื้อง..ซึ่งต้องดังแน่...แต่น้อง ๆ ที่อยู่ห้องติดกัน นอนตี 4 ไม่ได้ยินอะไรเลย
..ที่สำคัญ..ห้องนี้อยู่ชั้น 4 ค่ะ...สูงมาก ๆ และระเบียงที่ติดกันก็ไม่มีราวอะไรให้ยึดเกาะพอที่จะข้ามมาได้เลย แค่มองลงไปก็เสียววาบแย้วอ่ะ..
ข้างหลัง..ก็น่าจะเข้าไม่ได้แน่นอน..
แล้วโขมย..มันเข้ามาขโมยของได้ยังไงล่ะ.................
บ่ายสาม..น้องแจ้ง ขอย้ายออกก่อนกำหนด..อิชั้นยินดีคืนเงินส่วนต่างที่จ่ายล่วงหน้าไว้ให้ แต่ก็ยังตะหงิด ๆ ใจเรื่องนี้พอควร เริ่มสงสัย น้องที่เป็นเมทกันขึ้นมาแล้ว..อิชั้นจี้ให้น้องที่เป็น นิสิต ไปแจ้งความ..อิชั้นจะรอ..
บ่ายสี่..น้องนิสิต กับเพื่อน พาตำรวจสองนาย มาตรวจสถานที่เกิดเหตุ..น้องนิสิตเดินขึ้นไปที่ห้องพักกับผู้หมวดก่อน แต่นายตำรวจคนหลัง เรียกอิชั้นเข้าไปกระซิบถาม..
แน่นอนว่า..ตำรวจคิดเหมือนอิชั้น..แม่บ้าน..และยาม..งานนี้..น้องคนที่ไม่ใช่นิสิต น่าสงสัยมาก เพราะท่าทางเครียดมากขึ้นทุกที แถมตอนอิชั้นสอบถามเรื่องของหาย ก็ตอบไม่ตรงกันกับน้องที่เป็นนิสิต..
..ที่สำคัญ อิชั้นเพิ่งจะรู้..ว่าแม่บ้านสังเกตุว่าน้องที่ไม่ใช่นิสิต ท้องอ่อน ๆ อยู่..??!!!
ตำรวจดูสภาพห้อง ซึ่งไม่มีร่องรอยงัดแงะอะไรเลย ตัดความเป็นไปได้เรื่องการปีนหลังห้อง แล้วก็สรุป..ให้ทั้งสองคนค้นข้าวของในห้องพักกันเองอีกที..
แต่..ไม่เจอของที่หายไปแม้แต่ชิ้นเดียวค่ะ..
ตำรวจได้แต่ลงรับแจ้งความไว้..แล้วก็กลับไป สน. ส่วนน้องนิสิต รับเงินส่วนต่างคืนจากอิชั้น..น้องคนที่ท้องอ่อน ๆ บอกจะกลับบ้านวันนี้เลย..
หลังจากน้องนิสิตไปส่งญาติที่ท้องที่ท่ารถแล้ว ก็ย้อนกลับมาเก็บกระเป๋า และทำการคืนห้องพัก
เกือบหกโมงเย็นแล้วค่ะ..แม่บ้านโทร.มาบอก..ว่าน้องเจอ เครื่องเล่น mp 3 ที่น้องแจ้งว่าหายแล้ว..!!..สถานที่เจอก็ อเมซิ่งมาก..เพราะ อัปเปหิไปอยู่ในกล่องสบู่เปล่า ที่ซุกตัวอยู่ในถังขยะในห้องพักน้องนั่นเอง..
น้องนิสิตรีบวิ่งมาบอก ว่ากำลังจะเอาถังขยะในห้องมาเท..แต่ได้ยินเสียงกระพรวนที่คล้องไว้กับเครื่องเล่น อยู่ในถังขยะ..ก็เลยรื้อขยะออกมาดู..
แจ๊คพ็อตแตกค่ะ...จากที่เคยยืนยันว่า "เป็นญาติกัน" ไม่น่าจะขโมยกันเอง..งานนี้ถึงกับพูดไม่ออก..
คาดว่าเงินและมือถือ คงอยู่ในพุงกลม ๆ ของคนท้องนั่นแหละ..แต่เครื่องเล่นนี่ คงเอาไปไม่ทัน เพราะตำรวจเอย แม่บ้านเอย ยามเอย อิชั้นเอย เดินทั่วห้องกันให้ขวัก..
น้องนิสิตเล่าว่า..น้องที่เป็นญาติกันที่ท้องคนนี้(อายุยังน้อยอยู่เลยอ่ะค่ะ) ท้อง 6 เดือนแล้ว และฝ่ายชายไม่ยอมรับ..ลูกในท้องของฝ่ายหญิง เนื่องจากฝ่ายชายเคยไปทำผู้หญิงอื่นท้องแล้วเอาลูกมาให้พ่อแม่ฝ่ายชายเลี้ยงคนนึงแล้ว..
ผู้ชายแบบนี้เมื่อไหร่จะซื้อตั๋วลงนรกไปให้หมดซะทีก็ไม่รู้สินะคะ..รักสนุก แต่ก่อทุกข์ถนัดให้กับผู้หญิงและเด็กตาดำ ๆ ที่จะต้องลืมตาออกมาดูโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้ แบบไร้ความรับผิดชอบ..
อิชั้นว่า การที่น้องที่ตั้งท้อง ลักของ ญาติเค้าไป ก็คงเพราะความจำเป็นเรื่องเงินนี่แหละค่ะ..(เฮ้อ)
สงสารก็สงสารแหละ แต่ก็อดโมโหตงิด ๆ ไม่ได้อ่ะ (เล่นเอาอิชั้นวิ่งวุ่นทั้งวันเลย)
สรุปก็คืองานนี้..หอพัก..พ้นมลทินไป ตั้งแต่เปิดตึกมา 6 ปี ก็เพิ่งจะเจอเคสนี้แหละ..
...คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ...อ่ะนะคะ..
อื้มม~
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2549 9:12:16 น. |
Counter : 1315 Pageviews. |
|
|
|
เกือบแย่ไปค่ะ...