|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากรักไว้ ในใจเธอ ~
..สายไหมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเห็นเรือนไม้หลังโตตั้งตระหง่านอยู่ในสายตาทันทีที่ก้าวลงมาจากรถประจำทางที่เพิ่งจะจอดป้ายลงเมื่อมาถึง..
ดูเหมือนในระยะสองปีที่หล่อนจากไปนี้..บ้าน..จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด คงมีแต่ความเจริญเท่านั้นกระมังที่คืบคลานเข้ามาทีละเล็กละน้อย จนคนในท้องถิ่นแทบจะไม่รู้สึก
หญิงสาวเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านอย่างเงียบเชียบ แล้วก็ต้องแทบสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ ๆ เสียงวี๊ดว้ายกระตู้วู้ของนมอบ แม่นมวัยห้าสิบแปด ที่ไม่ยอมปล่อยใจให้แก่ไปตามกายก็ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่อเหลือแลจากเรือนใหญ่มาเห็นหล่อนเข้า
"วุ้ย...หนูไหม..มายังไงคะเนี่ย โอ๊ย..ใครก็ได้ออกไปช่วยถือกระเป๋าคุณหนูหน่อยเร้ว..โอย ๆ ๆ ทำไมจะกลับบ้านแล้วไม่โทร.กลับมาก่อนละค้า ป้าจะได้ให้ตาชิดเอารถออกไปรับ"
สายไหมหลุดยิ้มออกมาจนได้ เกือบจะ..รู้สึกอบอุ่นเช่นเดิมขึ้นมาแล้วเชียวเมื่อได้กลับมาบ้านครั้งนี้ มันคงจะดีหากว่าจะไม่มีเงาของความหดหู่ที่ซ่อนอยู่ลึกสุดกู่อยู่ในหัวอก
"ขืนบอกก่อน ไหมก็ไม่ได้ฟังเสียงเซนเซอร์ราวด์รอบทิศทางของป้าน่ะสิ ป่านนี้ชาวบ้านแถวนี้รู้กันหมดแล้วมั๊ง ว่าไหมกลับมาบ้านเนี่ย"
"แหม..ดูพูดเข้าสิ..มาค่ะมา นมจะช่วยถือกระเป๋าให้" นางกระวีกระวาดลงจากเรือนมารับหน้า เมื่อไม่เห็นเด็กรับใช้คนอื่นจะโผล่มาให้ใช้สอย..สงสัยจะอยู่ที่เรือนหลังเล็กกันหมด
"อุ๊ย ไม่ต้องหรอกค่ะ กระเป๋าไหมใบเล็กนิดเดียวเอง ไหมเอาเสื้อผ้ามาไม่มาก เพราะว่าคงจะกลับมาอยู่..ไม่นานน่ะ" ใจของหล่อนแห้งผาก..เมื่อนึกไปถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องกลับมาที่นี่
"....ถ้าพี่เคนจะแต่งงาน อย่าลืมส่งข่าวถึงไหมนะคะ แล้ว..ไหมจะกลับมาแสดงความยินดีด้วย"
ดูเหมือนถ้อยคำของตัวเองเมื่อสองปีก่อน จะสะท้อนให้เห็นความจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
....เขากำลังจะแต่งงาน....
ชายหนุ่มที่อยู่ในความคิดคำนึงของสายไหมเสมอมา..คนนั้น
นึกถึงจดหมายลายมือเป็นระเบียบที่พี่ฝัน..พี่สาวเพียงคนเดียวของหล่อนส่งข่าวคราวไปให้ถึงที่บ้านพักในเมืองใหญ่แล้ว สายไหมก็ได้แต่เจ็บปลาบแปลบอยู่ในอก
"...เจ้าสาวเป็นใครก็ไม่รู้นะไหม แต่ได้ข่าวว่าเขาก็รักของเขามานานแล้วล่ะ ไหมแน่ะ..ถ้าว่างก็กลับมาช่วยงานเค้าหน่อยก็แล้วกัน เคนเค้ากำชับมาว่าต้องมาให้ได้เลยนะ"
สายไหมกระพริบตาถี่ ๆ กลืนความรู้สึกปวดร้าวที่วาบอยู่ในสายตาให้คืนกลับลงมาเป็นศูนย์เช่นเดิม
..ไม่..หล่อนจะไม่ยอมอ่อนแอให้ใครเห็นเป็นอันขาด
"แล้วนี่แม่กับพี่ฝันไปไหนกันหมดคะนม" สายไหมเดินตามนมอบขึ้นไปบนบ้าน แปลกใจเล็กน้อยที่ไม่ยักกะมีใครอยู่รอท่า ทั้ง ๆ ที่หล่อนก็ส่งจดหมายมาบอกล่วงหน้าว่าจะมาถึงวันนี้แล้วแท้ ๆ..
"อ๋อ..คุณแม่หนูไหมกับหนูฝันออกไป..เอ้อ..ทำธุระข้างนอกน่ะค่ะ แต่เดี๋ยวก็คงกลับ หนูไหมมาเหนื่อย ๆ ไปล้างหน้าล้างตาพักผ่อนสักพักดีกว่ามั้ยคะ เดี๋ยวนมจะออกไปหาอะไรเย็น ๆ กับของว่างมาให้น่ะ"
นมอบยิ้มกว้างขวางก่อนจะรีบปลีกตัวเดินดิ่งเข้าครัว ปล่อยให้สายไหมเดินกระปลกกระเปลี้ยเข้าไปในห้องนอนตามลำพัง
ข้าวของทุกอย่างในห้องของหล่อนยังคงจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านเช่นเคย ดูเหมือนว่ามันถูกจัดไว้รอท่าเพื่อคอยการกลับมาของหล่อนทุกเมื่อ
การกลับมา..ซึ่งยากนักหนาที่จะหาโอกาสได้ สำหรับคนที่มีไฟในการทำงานลุกโชนอยู่ในตัวอย่างสายไหมคนนี้
หากแต่ใครเล่าจะล่วงรู้...ว่างานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้ออ้าง ที่จะทำให้หล่อนสามารถหลบหลีกการกลับมาเผชิญหน้ากับเขาคนนั้นได้เท่านั้น
"ทำไมต้องไปทำงานไกลถึงที่โน่นล่ะไหม เราว่า..จริง ๆ แล้วมันไม่จำเป็นเลยสักนิดนะ"
ครั้งหนึ่ง..เพื่อนสนิทของสายไหมที่เติบโตมาด้วยกันเคยถามหล่อน ด้วยรู้ดีว่าคนที่อยู่ในฐานะอย่างสายไหม แม้ไม่ต้องทำงานทำการอะไร ก็พอจะมีกินมีใช้ไปตลอดชาติ..ดังนั้น เมื่อจู่ ๆ สายไหมก็ตัดสนใจไปสมัครงานในบริษัทชั้นนำที่อยู่ในเมืองหลวง หลังจากเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมาได้เพียงสามเดือนเท่านั้น เจ้าหล่อนก็อดที่จะประหลาดใจเสียมิได้
"ไหมอยากได้ประสบการณ์ในการทำงานสิป่าน อยากทำงาน..โดยที่ไม่ต้องมีข้อบังคับของความจำเป็นหนุนหลัง"
"แล้วเรื่องพี่เคนล่ะ"
ความลับ..ที่ไม่อาจปกปิดให้ลับได้สำหรับเพื่อนสนิท ทำเอาสายไหมนิ่งไปนาน..พยายามสงบใจให้ราบเรียบที่สุดแล้วทั้ง ๆ ที่มันยากเย็นนักหนา
"พี่เคนเค้ามาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ เขาก็อยู่ส่วนเขา ไหมก็อยู่ส่วนไหม..อีกอย่าง..เขาก็มีแฟนแล้วนะป่าน เขาไม่ได้มาสนใจไยดีอะไรกับไหมนักหรอก"
...สู้เอาเวลาไปดูแลใส่ใจแฟนสาว..ที่ตามติดกันมาเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลประจำบ้านเกิดคนนั้นเสียมิดีกว่าหรือ..
"..เออ..บ้านเรานี่ดีนะ พอโรงพยาบาลใหม่สร้างเสร็จไม่เท่าไร ก็มีหมอสมัครใจมาอยู่พร้อม ๆ กันถึงสองคนเลยทีเดียว" พี่ฝันพูดยิ้ม ๆ พลางปรายตามามองสายไหม แต่มีหรือที่หล่อนจะแสดงท่าทีอะไรให้ใครได้รู้
"ดู ๆ แล้วเขาสองคนนี่ก็เหมาะกันดีนะแม่ฝัน หมอพรพรรณก็น่ารัก ส่วนตาเคนของเราก็ออกจะรูปหล่อ เนื้อหอม นิสัยดีไม่เบา คนไข้งี้ติดกันเกรียวเชียว หมอกับหมอ..ก็พอเหมาะพอเจาะกันดีอยู่หรอก" มารดาของหล่อนเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ..หากแต่นั่นก็ทำเอาสายไหมต้องผุดลุกยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
"อ้าว..แล้วนั่นจะไปไหนล่ะลูก จะได้เวลาทานข้าวแล้วนะ"
"ไหมยังไม่หิวน่ะค่ะแม่ แม่กับพี่ฝันทานกันก่อนก็แล้วกันนะคะ"
หล่อนกลั้นใจบอก ก่อนจะหลบลี้หนีเข้ามาร้องไห้อย่างหนักแต่เพียงลำพังในห้อง..และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่หล่อนเสียน้ำตาให้เขา..สองปีต่อมา..ก็ดูเหมือนว่าความชินชาจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปเสียแล้ว
"...ตัดสินใจดีแล้วหรือไหม พี่ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องระหกระเหินไปทำงานไกลขนาดนั้นเลยนะ พี่เห็นงานที่ร้านของแม่นงกับฝันก็เยอะแยะเต็มมืออยู่แล้ว ไหมไม่อยากอยู่ช่วยที่บ้านหรือ"
สายไหมพบเขาน้อยมาก..และแต่ละครั้งเมื่อเขาชวนคุย หล่อนก็จะตอบรับอย่างนับคำได้ มีเพียงครั้งสุดท้ายก่อนจากกันนั่นแหละ ที่เขายังอุตส่าห์ปลีกตัวตามมาส่ง ทั้ง ๆ ที่หล่อนเองก็ไม่ได้บอกเขาสักคำเลยด้วยซ้ำ
"ไหมตัดสินใจดีแล้วค่ะ ก็ไหนพี่เคนเคยบอกไหมไว้เมื่อก่อนโน้นไงคะ ว่าคนเราน่ะ ถ้าคิดจะทำอะไรก็ขอให้ตั้งใจทำจริง นี่ไหมก็พยายามทำให้ได้อย่างที่พี่บอกไง" หล่อนฝืนทำเสียงให้ร่าเริงให้สมกับที่เคยเป็นเด็กหญิงสายไหมของพี่ชายคนก่อน ถึงแม้มันจะฝืนความรู้สึกน่าดูก็เถอะ
"แต่ไหมเป็นผู้หญิงนะ แล้วจะไปอยู่ที่นั่นคนเดียวได้ยังไง พี่เป็นห่วง"
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ไหมโตแล้ว..ถึงไหมจะเป็นผู้หญิง แต่ไหมก็ดูแลตัวเองได้นะ พี่เคนคอยเอาใจช่วยให้ไหมประสบความสำเร็จในสิ่งที่ไหมตั้งใจทำก็พอแล้ว..แล้ว..เอ้อ..ถ้าพี่เคนจะมีข่าวดีเมื่อไหร่ ก็ส่งข่าวไหมด้วยละกัน ไหมจะกลับมาแสดงความยินดีด้วย"
หล่อนฝืนจากเขามาทั้ง ๆ ที่น้ำตามันเต็มอก นานหลายเดือนเลยทีเดียวที่หล่อนพยายามใช้งานเป็นข้ออ้างไม่กลับไปเยี่ยมเยียนที่บ้าน หนัก ๆ เข้า..ทุกคนทางนั้นก็รับรู้ว่า..หล่อนมีงานที่ปลีกตัวกลับบ้านได้ยากเย็นยิ่งนัก
...สองปีแล้วสินะ...
สองปี..กว่าที่ความรู้สึกที่มีจะถูกฝังลึกลงไปใปภายใต้ท่าทีที่เข้มแข็ง
และหล่อนก็ภาวนาขอให้มันเป็นเช่นนี้ตลอดไป อย่าให้ใครได้มาล่วงรู้ถึงความจริงที่ซ่อนอยู่
สายไหมถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อนึกมาถึงตรงนี้..
.............
"..เอ้า..ตกลงจะนั่งหน้าหงิกใส่พี่อีกนานแค่ไหนเนี่ยยายไหม นมอบเค้าปรุงรังแตนให้กินก่อนพี่กับแม่จะกลับมากันรึไงฮึ..."
สายไหมช้อนสายตาเคืองขุ่นไปยังพี่ฝัน..ที่นั่งยิ้มร่าหน้าบานอยู่บนเก้าอี้หวายตัวตรงข้าม..ก่อนจะปรายสายตาไปมองร่างสูง ๆ เจ้าของเคราเขียว ๆ ที่นั่งยิ้มระรื่นคุยกับมารดาอยู่ที่ริมหน้าต่างอีกด้านหนึ่ง
..คนบ้า..จู่ ๆ ก็โผล่พรวดตามหลังพี่ฝันกับแม่มาซะงั้น..ฮึ..หล่อนไม่มีเวลาตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าต้องมาพบหน้าค่าตากันเร็วขนาดนี้..
"มาทำไมก็ไม่รู้" หล่อนอุบอิบพอให้ได้ยินกันสองคนกับพี่ฝัน
"ใคร..."
"ก็จะใครซะอีกล่ะ ถามจริง ๆ เถอะพี่ฝัน ไปเจอเขาอิ่ท่าไหนเข้า แล้วมันยังไง..เขาถึงตามมาด้วยแบบเนี้ยะ"
"ก็ไม่ยังไง พอพี่บอกว่าไหมจะกลับมาวันนี้นะ เขาก็รีบขอตามาด้วยเลยเท่านั้นแหละ" พี่ไหมอมยิ้ม
..เฮอะ..ทำยังกับว่าเห็นหล่อนเป็นคนสำคัญนักหนายังงั้นแหละ ระวังเถ้ออ..ว่าที่เจ้าสาวเค้าจะแหกอกตัวเองเข้า
นึกเหน็บเขาอยู่ในใจแล้ว ก็ไม่วายทำร้ายตัวเองอีกรอบ
"เอ้า..แม่ฝัน ไปช่วยแม่กับนมอบดูของกินในครัวให้น้องดีกว่าลูก ทางนี้เดี๋ยวให้ยายไหมคุยกับตาเคนไปพลาง ๆ ก่อนก็ได้ ไม่ได้เจอกันนานเลยนี่"
มารดาของหล่อนกวักมือเรียกพี่ฝัน..ซึ่งรายนั้นก็ทันใจดีเหมือนกันที่รีบลุกพรวดตามไป ทิ้งให้สายไหมนั่งอ้าปากค้างอยู่กับที่ แล้วก็ต้องรีบตีสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อเก้าอี้ที่เพิ่งจะว่างลงอยู่เมื่อครู่ มีคนมานั่งแทนกันในชั่วเวลาไม่ถึงอึดใจหนึ่ง
"ไงจ๊ะ..ไม่พูดไม่จากับพี่เลยนะ สบายดีรึเปล่าไหม"
สายไหมเบือนสายตาไปชมนกชมไม้เอาเสียดื้อ ๆ
"เอ..ถามแล้วไม่ตอบซะด้วย นี่พี่ทำอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย"
..ผิดสิ ผิดมากเลยด้วย ผิดที่ไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพี่นี่ไง
"ว่าไง..ฮึ"
"ก็..." หล่อนถอนใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตอบ "..ไหมไม่รู้จะตอบพี่ยังไงนี่คะ พี่เคนก็เห็นอยู่แล้วว่าไหมสบายดี..ว่าแต่ ลุงนิคกับป้าเพ็ญล่ะคะ สบายดีรึเปล่า"
หล่อนถามถึงพ่อกับแม่ของเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมานิดนึง อย่างน้อยทั้งพ่อกับแม่ของเขาก็เป็นผู้ใหญ่ที่หล่อนรักและเคารพมาตั้งแต่เด็ก
"สบายดี..สบายดีกันทั้งคู่นั่นล่ะ แม่กับพ่อยังถามถึงไหมอยู่บ่อย ๆ เลย ว่าแต่ว่า..ไม่ถามพี่บ้างเหรอ ว่าสบายดีรึเปล่า"
"ไม่จำเป็นมั๊งคะ..คนเป็นหมอน่ะ คงป่วยยาก อีกอย่างตอนนี้พี่เคนก็ดูสบายดียิ่งกว่าตอนไหน ๆ ซะอีก ใกล้วันงานแล้วนี่คะ..แล้วไหนล่ะ ว่าที่เจ้าสาว ไม่เห็นพามาอวดไหมมั่งเลย"
"อีกสามวันได้เห็นแน่จ้ะ..อย่ารีบหนีกลับก่อนก็แล้วกัน"
เป็นคำตอบที่ทำเอาหล่อนยิ้มไม่ออกเลยจริง ๆ "..กำหนดวันแต่งแล้วหรือคะ"
"ยังหรอก พี่ตั้งใจจะหมั้นไว้ก่อนน่ะ งานแต่งคงอีกสักพักมั๊ง"
สายไหมพยักหน้าช้า ๆ หัวใจชาดิก
"ยินดีด้วยนะคะ"
"ขอบใจจ้ะ...ว่าแต่ว่าพรุ่งนี้ไหมไปบ้านพี่ด้วยกันหน่อยนะ พ่อกับแม่พี่เค้ากำชับกำชามาว่าต้องชวนไหมไปให้ได้ ถ้าไม่ไปนี่มีหวังพี่โดนเฉ่งแน่ ไม่ได้เจอกันตั้งสองปี พี่ว่าพวกเค้าน่าจะคิดถึงไหมอยู่"
สายไหมพยายามกลั้นใจฟัง..ผู้ชายตรงหน้า แต่หากทว่าเขากลับดูห่างไกล..ห่างออกไปจนหล่อนแทบจะไม่..แม้แต่มองเห็น...
..............
"ไหว้พระเถอะลูก..ไหนเงยหน้าขึ้นสิ แหม..ไม่เจอกันตั้งสองปี ดูเป็นสาวขึ้นเยอะเลยนะเรา" ป้าเพ็ญลูบหลังลูบไหล่สายไหมมิได้ขาด เมื่อหล่อนตัดสินใจไปกราบท่านในวันรุ่งขึ้น โดยมีเจ้าของเคราเขียว ๆ ปั่นจักรยานมารับถึงที่บ้าน
"ก็ไหมไม่ใช่เด็กแล้วนี่คะป้าเพ็ญ ขืนยังเป็นลิงเป็นค่างอยู่ เจ้านายเค้าก็ไล่ไหมออกน่ะสิ"
ป้าเพ็ญหัวเราะ "..ดูพูดเข้า..ป้าว่าคงจะโตแต่ตัวล่ะมั๊งนี่ ยังไง๊ ยังไง..ก็ยังเป็นแม่โรตีสายไหมของป้าอยู่วันยังค่ำแหละ"
"แล้วนี่ ลุงนิคไปไหนคะป้า"
"อ๋อ ไปวัดน่ะจ้ะ..เรื่องงานหมั้นตาเคนเค้านั่นแหละ เฮ้อ..ฉุกละหุกกันไปหมด นี่ป้าเองก็เพิ่งจะรู้ก่อนล่วงหน้าไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ใจร้อนจริง ๆ พ่อคนนี้..ไหมเองวันนี้ก็อยู่ทานข้าวกับป้าก่อนนะลูก ห้ามรีบกลับเด็ดขาด..อ้อ..วันนี้หมอพรพรรณเขาก็จะมาทานข้าวกับเราด้วยนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไหมจำเค้าได้ใช่มั้ยลูก"
...หมอพรพรรณ...
..นี่สินะ ว่าที่เจ้าสาว..
หัวใจหญิงสาวกระตุกวูบ พลางเหลือบแลไปยังคนที่นั่งระบายยิ้มอยุ่ไม่ไกลกันนักโน่น
"ไหมขอเป็นวันอื่นได้มั้ยคะป้าเพ็ญ คือ...ไหมมีธุระต้องไปทำกับพี่ฝันเที่ยงนี้พอดีเลยค่ะ พี่ฝันเค้า..อยากให้ไหมไปช่วยเลือกชุดอะไรก็ไม่รู้ คงเป็น..ชุดที่จะใส่มางานหมั้นพี่เคนน่ะค่ะ"
หล่อนอ้างไปโน่น..ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง ไม่นานนักหล่อนก็ขอตัวกลับ..
"เดี๋ยวสิไหม..ทำไมไม่ให้พี่ขี่จักรยานไปส่งล่ะ ขืนเดินไปเนี่ย อีกนานเลยนะกว่าจะถึง"
สายไหมไม่ตอบ..หากแต่รีบเดินจ้ำอ้าวลัดเลาะมาตามถนนเส้นเล็กที่เชื่อมระหว่างสวนบ้านชายหนุ่มกับบ้านตัวเอง..
เส้นทางสายเก่าที่เคยมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก
"เอ้า..ดูสิ เลยยิ่งรีบเดินใหญ่เลย จะรีบไปไหนฮึ บ้านน่ะมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า" เขาเดินมาดักหน้าหล่อนทันจนได้
สายไหมก้มหน้างุด ๆ เสียงแข็งใส่คนตรงหน้าอย่างไม่ตั้งใจ "..พี่เคนรีบกลับไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหมอพรพรรณก็จะมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปส่งไหมหรอก ไหมกลับเองได้"
หากแต่แทนที่เขาจะโกรธ หน้าขาว ๆ นั่นกลับระบายยิ้มมากขึ้น
"ยิ้มอะไรคะ..มีความสุขนักเหรอที่เห็นไหมเกิดเป็นบ้าขึ้นมาแบบเนี้ย" หล่อนสาวเท้าเดินต่อ หากแต่คนที่ยืนยิ้มอยู่นั่นกลับเอื้อมมือมารั้งแขนหล่อนไว้มั่น
"มีความสุข..แต่ไม่ใช่เพราะเห็นไหมเป็นแบบนี้หรอกนะ"
"อ้อ..นั่นสิคะ ก็น่าจะมีความสุขอยู่หรอก" สายไหมสะบัดเสียง พลางพยายามยุดแขนให้หลุดออกจากมือเขา "..พี่เคนจะมาเข้าใจอะไรล่ะ นี่..ปล่อยไหมนะ บอกให้ปล่อย"
"ไม่ปล่อย"
"เอ๊ะ..พี่เคนอย่ามาทำรุ่มร่ามแบบนี้กับไหมนะ เห็นไหมเป็นตัวอะไรฮึ..ไม่คิดถึงไหมก็คิดถึงหมอพรพรรณบ้างสิ"..น้ำตาหล่อนจวนจะหยดแหมะ..กลัวเหลือเกินว่าใครจะมาเห็นเข้า
"ไหม..ร้องไห้ทำไม" พอเห็นน้ำตาหล่อนคลอหน่วยเท่านั้น หัวใจของคนที่ยืนยิ้มอยู่ก็ตกไปถึงตาตุ่ม
"ปล่อย"
"ไม่ปล่อย บอกมาก่อนว่าร้องไห้ทำไม"
"พี่เคน.." หล่อนตั้งใจจะประท้วงแต่จู่ ๆ ร่างสูง ๆ นั่นก็กลับโอบกอดหล่อนไว้ในวงแขน
ทำนบน้ำตาพังครืนลงมากันคราวนี้นี่เอง..
"พี่ไม่ปล่อย แล้วก็จะไม่ปล่อยตลอดชีวิตนี้เลยด้วย อย่างหวังว่าคราวนี้จะหนีพี่ไปอยู่ไกล ๆ ได้อีกนะ"
"พี่เคน...."
"ผ่านมาตั้งสองปีแล้ว ไหมยังจะใจร้ายกับพี่ได้ลงคออีกหรือ พี่อุตส่าห์รอไหมกลับบ้าน รอเวลาให้ไหมโตเป็นผู้ใหญ่ พอที่จะเห็นอะไรในใจพี่บ้าง แต่ไหมก็กลับเลือกที่จะหนีพี่ไปไกลสุดกู่เสียนี่"
"หมะ..หมายความว่าไงคะ" ถ้อยคำของเขาทำเอาหูอื้อตาลายไปหมด
"ก็หมายความว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่จะผูกมัดไหมไว้ไม่ให้ไปไหนอีกน่ะสิ"
"แต่พี่เคนกำลังจะหมั้น กำลังจะแต่งงานกับหมอพรพรรณนี่"
"ใครบอก..." เขาหัวเราะ "..คิดไปเองทั้งนั้น เขากับพี่น่ะ เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นล่ะ ไม่เชื่อไปถามพ่อกับแม่พี่ดู หรือถามพี่ฝันกับแม่ของไหมดูก็ได้...คนที่พี่จะแต่งด้วยน่ะ มีคนเดียวเท่านั้น..คือเด็กดื้อคนนี้ต่างหาก" เขาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาของหล่อนเบา ๆ อย่างใส่ใจ
""แล้วงานหมั้นวันมะรืนนี้ล่ะคะ"
"ก็..ของพี่กับไหมไง"
"โกหก.."ใจหล่อนเต้นรัวไปหมด
"พี่จะโกหกทำไม.."
"งั้น...งั้นทุกคนก็รุมกันหลอกไหม ที่เรียกไหมกลับมาบ้านเนี่ยก็เพราะ........." ความรู้สึกหล่อนสับสนปนเปกันไปหมด
ชายหนุ่มหัวเราะ..แต่นาทีนี้สายไหมหัวเราะไม่ออกหรอกนะ ไม่รู้ควรจะดีใจหรือโกรธตาบ้าคนนี้ก่อน
"เพราะพี่รักไหมไง แล้วพี่ก็ไม่อยากให้ไหมกลับไปทำงานที่โน่นอีกแล้ว แต่งงานกับพี่นะครับ"
..คำว่ารักของเขาทำเอาหัวใจหล่อนเต็มตื้น..นี่หล่อนหูฝาดไปรึเปล่าหนอ คำ ๆ นี้ใช่ไหมที่หล่อนอยากได้ยินมาตลอดชีวิต
"...ไม่..."
"ไหม......" อีกฝ่ายครางด้วยสีหน้าตกใจเสียจนหล่อนเกือบหลุดเสียงหัวเราะ
"อยากหลอกไหมดีนัก พี่เคนจะแต่งกับใครก็แต่งไปเถอะ ไหมไม่เกี่ยวด้วยหรอก.." หล่อนรีบเดินหนีทั้ง ๆ ที่ยังอดยิ้มเขินอยู่ไม่ไหว
"ไหม..ไหม..ไม่ได้นะ เดี๋ยวสิ ถ้าไม่แต่งกับพี่แล้วพี่จะทำยังไงล่ะ พี่รักไหมคนเดียวนะ"
หล่อนอมยิ้ม..พลางนึกในใจว่าปล่อยให้ทุรนทุรายไปก่อนเถอะ อยากแกล้งหล่อนดีนัก..ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน...หล่อนก็เต็มใจที่จะวางหัวใจไว้กับคน ๆ นี้ไปทั้งชีวิต...
............
ตีพิมพ์ครั้งแรก : FASINON MAGAZINE
ดัดแปลงแก้ไข : 3 เมษายน 2554
.........
i'm not superman
Create Date : 03 เมษายน 2554 |
|
18 comments |
Last Update : 3 เมษายน 2554 10:51:00 น. |
Counter : 2267 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: 9A 3 เมษายน 2554 10:11:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 3 เมษายน 2554 10:48:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องผิง 3 เมษายน 2554 12:09:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: aenew 3 เมษายน 2554 12:40:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ถปรร 3 เมษายน 2554 14:19:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: poepum 3 เมษายน 2554 14:56:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 3 เมษายน 2554 15:41:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 3 เมษายน 2554 16:33:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: TheKPP 3 เมษายน 2554 21:08:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: แสนดี IP: 124.121.222.81 7 เมษายน 2554 12:17:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ผู้ใหญ่ไซส์ S ที่พยายามจะทำให้ชีวิตมีความสุขไซส์ L เสมอ~
...................
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๘ ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และโดยอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
..................................
ถ้าอยากมีความสุขหนึ่งปี ก็แค่ถูกหวย แต่ถ้าอยากมีความสุขตลอดชีวิต ก็จงรักงานที่ทำ~
|
|
|
|
|
|
|