เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องการเดินทางไปพบร้านอาหารที่ชื่อว่า "The why are you here cafe" ของจอห์น ผู้ซึ่งเหนื่อยจากการทำงานและตัดสินใจลาพักร้อนเพื่อท่องเที่ยวชาร์ตแบตให้ตัวเอง แต่แผนการก็ไม่ได้เป็นไปโดยราบรื่นอย่างที่คิด นอกจากจะเกิดอุบัติเหตุบนถนนที่ทำให้รถติดหนักหลายชั่วโมงแล้ว เขายังต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังทางที่ไม่รู้จักและเกิดหลงทางจนน้ำมันใกล้หมดจนได้พบร้านอาหารที่เปิดไฟสว่างไสวแห่งนี้อยู่บนถนนที่ไม่น่าจะมีคนขับผ่านเท่าไหร่นักในช่วงที่ต้องการพัก, หาอะไรกิน และถามหาปั๊มน้ำมันพอดี

ภายในร้านเขาได้พบเจอกับเมนูอาหารที่ด้านหลังเมนูมีคำถามสามข้อปรากฎอยู่ คือ ๑.เหตุใดคุณจึงมาที่ที่นี่ ๒.คุณกลัวตายไหม และ๓.คุณพึงพอใจในชีวิตหรือยัง จนทำให้เขาสงสัยหนักเกี่ยวกับร้านอาหารแห่งนี้ที่นอกจากจะตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างไกลจากถนนใหญ่แล้ว ยังมีคำถามแปลกๆบนเมนูอีกด้วย ก่อนที่จะได้พูดคุยกับ"เคซีย์ "หญิงสาวที่เดินมารับออเดอร์, "ไมค์"เชฟและเจ้าของร้านอาหาร รวมถึงแอนน์เพื่อนและลูกค้าคนหนึ่งของไมค์ ถึงคำถามบนเมนูและการหาคำตอบจากคำถามที่ทำให้จอห์นต้องมองชีวิตตัวเอง และทบทวนการใช้ชีวิตที่ผ่านมาว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่ ซึ่งเขาบอกว่าออกมาชาร์จแบต ซึ่งได้คำตอบว่าถ้าเราได้ทำงานที่ตัวเองต้องการและรักในงานของตนเราก็คงไม่จำเป็นต้องหาเวลาไปเติมพลังบ่อยๆ และการกลัวตายก็เกิดจากการที่คนเรายังไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำ เพราะถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ต้องการเราจะไม่เสียดายชีวิต และข้อสุดท้ายเขาพอใจในชีวิตหรือยัง เขาต้องการอะไรและทำอย่างไรได้บ้างเพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ต้องการ เพราะอย่างที่เคซีย์บอกว่าเพียงเราเริ่มที่จะตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังก็เท่ากับเราเริ่มต้นหาคำตอบให้กับตัวเองและนั่นก็ทำให้เราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เป็นหนังสือที่อ่านแล้วคิดตามไปตลอดเวลา นอกจากคำถามที่ทำให้เราต้องหาคำตอบให้กับตัวเองตามเรื่องแล้ว เรายังได้แนวทางในการใช้ชีวิตที่เล่าออกมาให้เข้าใจได้ง่ายมาก ผสมกับการยกตัวอย่างจากตัวละครที่เข้ามาอธิบายให้จอห์นฟัง เป็นการให้เราถามตัวเองว่าเราต้องการอะไร ตอนนี้เรารู้สึกยังไง และเราควรหลีกเลี่ยงจากอะไรเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการและไม่ทำให้กลับไปเป็นอย่างเดิมอีก ซึ่งตอนที่เราชอบที่สุดคือประสบการณ์ที่ได้จากเต่าตนุของเคซีย์ที่เล่าว่า เธอต้องการว่ายน้ำไปหาเต่าตนุตัวหนึ่งในทะเลแต่ยิ่งเธอพยายามว่ายหาก็ยิ่งตามไม่ทัน ในขณะเต่าแค่ตีขาไม่กี่ทีก็ออกห่างเธอไปเรื่อยๆในช่วงที่คลื่นซัดกลับเข้าหาทะเล เหมือนกับตอนที่เราให้เวลาและความสนใจไปกับสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งวิทยุ หนังสือพิมพ์ ข่าวสาร รายการทีวี ซึ่งไม่ได้ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายแต่อย่างใดเลย และพอถึงช่วงเวลาที่เราต้องทำเพื่อเป้าหมายเราก็เหลือพลังงานไม่มากพอ เหมือนที่เต่าตนุตัวนั้นแค่ลอยตัวนิ่งๆบนน้ำทะเลตอนที่คลื่นซัดหาฝั่ง แต่พอคลื่นซัดกลับเข้าทะเลมันก็ตีขาเพื่อมุ่งหน้าออกทะเล

และเราก็ไฮไลท์หนังสือเล่มนี้เยอะมาก เป็นหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกว่ารักมาก อ่านง่าย เห็นภาพ เข้าใจง่าย ได้แนวทางในการใช้ชีวิตมากมายและได้รู้อะไรหลายอย่างโดยเฉพาะการโฆษณาชวนเชื่อที่เราไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ด้วยว่า "เมื่อเขาล่อลวงด้วยการบอกว่ามันจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างนั้นอย่างนี้แบบเนียนๆถ้าใช้สินค้าหรือบริการนั้นแล้ว แต่มันยังกันไม่ให้เราได้รับความพึงพอใจหากว่าเราไม่ใช้มันด้วย"