เรื่องราวของ"อุเมโมโตะหรืออันจัง" หญิงสาวน่ารักร่างอวบที่ตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยแต่ตั้งใจไปสมัครงานแทนเพราะไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี และเลือกทำงานที่ร้านมิตสึยะในห้างโตเกียวซึ่งขายวากาชิและติดป้ายรับสมัครงานพอดีเพราะเธอไม่อยากทำงานที่ย่านร้านค้าแถวบ้านที่มีแต่คนรู้จักและทำให้เธอมักอึดอัดใจ และที่เลือกทำร้านขนมเพราะเธอหลงรักการกินขนมเป็นชีวิตจิตใจเป็นทุนเดิมจึงทำให้เป็นสาวอวบมาจนถึงตอนนี้ โดยเลือกที่จะทำงานในร้านที่ไม่มีผู้ชายเพราะเธอมักโดนล้อเรื่องน้ำหนักตัวมาตลอดจากคนรอบข้างโดยเฉพาะพวกผู้ชาย ซึ่งเธอก็ทำทีเป็นเห็นขำขันไม่สนใจทั้งที่ก็สะเทือนใจไม่น้อย แต่กลายเป็นว่าร้านที่เธอสมัครดันมีพนักงานชายรูปหล่อยังกับนายแบบอย่างที่มักจะเมินใส่เธอเสมอ แต่เพราะวันที่มาสมัครเป็นวันหยุดของเขาทำให้เธอไม่เห็นเขาที่ร้าน ซึ่งหลังจากที่ได้ทำความรู้จักและได้ทำงานร่วมกันเธอก็พบว่า "คุณทาจิบานะ" ที่มาทำงานที่นี่เพราะต้องการเป็นช่างทำวากาชิในอนาคตนั้นไม่ได้ใจร้ายอย่างคนที่เธอเคยพบเจอมาเลยสักนิด เขาเป็นคนนิสัยดีและออกจะอ่อนโยน อ่อนไหวมากจนเหมือนสาวน้อยคนหนึ่งและยังสอนเกี่ยวกับวากาชิชนิดต่างๆให้เธออย่างละเอียดอีกด้วย
การทำงานที่ร้านมิตสึยะทำให้เธอได้พบกับเรื่องราวที่น่าประหลาดใจทั้ง"ผู้จัดการสึบากิ"ที่รับเธอเข้าทำงานอย่างง่ายดายและเชื่อมั่นในตัวเธอตั้งแต่แรกเห็นอย่างที่เธอไม่เคยได้รับจากใคร และนิสัยส่วนตัวที่แปลกประหลาดยามอยู่หลังร้านของผู้จัดการที่เพื่อนร่วมงานบอกให้เธอทำใจเพราะเป็นเรื่องปกติ และ "คุณซากุราอิ" หญิงสาวสวย นิสัยดีที่มีอดีตสุดโหดอย่างที่ขัดกับท่าทางน่ารักของเธอ แต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เธอต้องแปลกใจระคนทึ่งมากไปกว่าการรู้ใจ ทำนายความต้องการหรือเป้าหมายของลูกค้าแต่ละคนได้ตรงเผงของผู้จัดการสึบากิ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การแต่งตัว การพูด หรือการเลือกซื้อขนมที่แตกต่างกันว่าจุดประสงค์ในการซื้อครั้งนั้นๆเพื่ออะไร จนทำให้เธอได้เรียนรู้ที่จะใส่ใจและสังเกตรายละเอียดของลูกค้าที่มาซื้อวากาชิของร้าน พร้อมกับได้เรียนรู้รายละเอียดอันซับซ้อนที่ซ่อนความหมายอยู่เบื้องหลังของวากาชิแต่ละชนิดว่าสื่อถึงอะไร และให้ความหมายไปแบบใดได้บ้าง จึงยิ่งทำให้เธอทำงานที่ร้านมิตสึยะอย่างมีความสุขมากขึ้นไปอีกแม้ว่าจะต้องเจอลูกค้าที่ไม่น่ารักบ้างก็ตาม
เป็นหนังสือที่ตอนแรกอ่านแล้วไม่น่าติดตามเท่าไหร่เพราะด้วยชื่อขนม และการต้องอ่านคำอธิบายเป็นไทยอันมากมายเกินจะจดจำได้ แต่ด้วยความที่อ่านแล้วมันก็รู้สึกอยากกินขนมตาม และได้บรรยากาศในห้างโตเกียวที่อธิบายเรื่องราวได้น่าสนใจทำให้สนใจมาอ่านต่อ แล้วก็เริ่มอยากรู้เรื่องราวต่างๆตาม และอดทึ่งกับเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ รายละเอียดในการคิดและทำขนมของญี่ปุ่นไม่ได้ว่ามันช่างลึกซึ้ง ละเมียดละไมและใส่ใจในทุกรายละเอียดมากจริงๆ สุดท้ายก็กลายเป็นว่าอ่านแล้วอยากกินวากาชิอย่างเขาพร้อมจิบชาตามไปด้วย และอย่างเราคงหาได้แค่โดรายากิในเซเว่นซึ่งถือเป็นหนึ่งในวากาชิเช่นกัน