รีวิวหนังสือ "The walk ก้าวย่างในความทรงจำ - ริชาร์ด พอล เอแวนส์"

เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า"อลัน" เขาต้องสูญเสียแม่ที่รักยิ่งไปตั้งแต่เด็กและต้องอยู่กับพ่อที่กลายเป็นคนนิ่งขรึมเพียงสองคน จนเขาได้พบกับ"แม็คเคล" เธอเป็นรักแรกและรักเดียวของเขา ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน ซึ่งทุกอย่างก็ไปได้ด้วยดีเขามีภรรยาสาวแสนสวยและเป็นเจ้าของธุรกิจโฆษณาชั้นนำที่มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย วันหนึ่งแม็คเคลก็ขอให้เขาหยุดงานและใช้เวลาอยู่กับเธอที่บ้าน แต่เขามีงานชิ้นใหญ่ที่ต้องประชุมกับลูกค้าในวันนี้ แล้วในระหว่างที่เขากำลังนำเสนอไอเดียการโฆษณาอันบรรเจิดก็ได้รับสายแจ้งว่าภรรยาของเขาได้รับอุบัติเหตุตกจากหลังม้ากำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เขาต้องทิ้งการประชุมสำคัญและไปโรงพยาบาลด่วนและพบว่าแม็คเคลอาการหนัก เขาต้องให้หุ้นส่วนดูแลงานชิ้นใหญ่นั้นแทนระหว่างที่เขาต้องดูแลภรรยา หลังจากที่แม็คเคลสามารถกลับมาบ้านได้เขาจึงกลับไปที่บริษัทอีกและพบว่าหุ้นส่วนคนนั้นได้หุบลูกค้ารายใหญ่ไปพร้อมกับถ้วยรางวัลมากมายที่เขาได้รับมาแล้วไปเปิดบริษัทใหม่ เหลือเพียง"ฟาลีน"พนักงานสาวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่และเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้ฟัง เรื่องที่หุ้นส่วนคิดจะทำตั้งแต่แม็คเคลยังไม่ได้รับอุบัติเหตุด้วยซ้ำ แล้วเขาก็ต้องเสียภรรยาไปเพราะเธอติดเชื้อในกระแสเลือด หลังจากได้กลับมาบ้านเพียงไม่กี่วัน ก่อนจากไปเธอขอให้เขาสัญญากับเธอ ๒ ข้อ หนึ่งคืออย่าทิ้งเธอไป เธอไม่อยากตายเพียงลำพัง และสองคือมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วชีวิตของอลันหลังจากนั้นก็ถูกบรรดาเจ้าหนี้ที่เขาค้างค่างวดต่างๆเริ่มมายึดข้าวของไปทั้งรถ บ้านหรู ซึ่งทุกสิ่งไม่มีความหมายกับเขาอีกต่อไปแล้วเพราะมันปราศจากแม็คเคล หญิงที่เขารักสุดหัวใจ และเขาได้เข้าใจความรู้สึกของพ่อในที่สุดเมื่อต้องสูญเสียแม่ไป เมื่อเขาแทบไม่เหลือสิ่งใดในชีวิตจึงหยิบแผนที่ออกมาเลือกจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไป การเดินทางซึ่งเขาหมายถึง การเดินจริงๆ สิ่งที่เขาอยากทำมานานแต่ไม่เคยได้ทำ เมื่อเขาไม่เหลือสิ่งใดอีกจึง เก็บเพียงข้าวของจำเป็นใส่เป้และออกเดินจากหน้าบ้านที่กำลังถูกยึดเพื่อข้ามภาคพื้นทวีป การเดินทางในโลกกว้างของเขาจึงเริ่มขึ้น และได้พบกับเรื่องราวต่างๆจากผู้คนที่เขาได้พบปะทำความรู้จักด้วยซึ่งทำให้เขาได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น และเข้มแข็งขึ้นในบางครั้ง เป็นหนังสือที่เราเลือกมาอ่านต้อนรับปี ๒๕๖๓ (เราจะพยายามใช้เลขไทยในปีนี้ และเพราะประทับใจการแปลเล่มนี้มาก เขาแปลแล้วเป็นประโยคไทยจริงๆ และใช้เลขไทยทั้งหมด) เราเลือกเพราะเห็นหน้าปกสื่อถึงฤดูหนาวเข้ากับบรรยากาศดี พออ่านแล้วก็พบว่ามันดูรันทดเสียแทบทุกอย่างในชีวิต แต่ที่นักเขียนสื่อออกมาให้เราอ่านมันไม่ได้เน้นความรันทด หดหู่ของชีวิต แต่เล่าเรื่องว่าผู้ชายคนนี้ทำยังไงเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ตามคำที่รับปากกับภรรยาไว้ผ่านการอ่านบันทึกของเขาที่ได้ออกเดินทาง (พระเอกได้รับสมุดบันทึกจากแม่เป็นของขวัญวันเกิดและสอนให้เขาได้บันทึกเรื่องราวในชีวิต เขาเลยบันทึกเรื่องราวระหว่างการเดินทาง) ซึ่งเขียนเป็นบทสั้นๆให้เราอ่านและรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการพบเจอเรื่องราวระหว่างทาง รวมถึงผู้คนที่อลันได้พูดคุยและฟังเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นด้วย เรื่องนี้ทำให้เราได้ข้อคิด และกำลังใจในการใช้ชีวิตหลายอย่าง แม่บอกว่าไม่สำคัญหรอกว่าฉันเขียนอะไรลงไป และถ้าฉันรอเพื่อจะเขียนแต่เรื่องสำคัญละก็ ฉันคงจะไม่มีวันได้เขียนอะไรเลย เพราะเรื่องสำคัญๆมันก็ดูเหมือนเรื่องอื่นๆทุกเรื่องน่ะแหละ ยกเว้นเวลาเรามองย้อนกลับไป ที่สำคัญก็คือให้เขียนในสิ่งที่เราคิดและรู้สึก เปิดเรื่องมาเราก็ชอบประโยคนี้เลย เป็นตอนที่แม่ให้สมุดบันทึกอลัน แล้วก็ชอบการเล่าเรื่องที่เขียนประมาณว่า มันก็เป็นวันธรรมดาๆวันหนึ่ง ซึ่งทำให้เราคิดถึงตัวเองว่าทุกวันมันก็ดูธรรมดาๆแต่มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ เราอาจจะสูญเสียอะไรไป หรืออาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้ เราต้องมีสติในการใช้ชีวิต
Create Date : 10 มกราคม 2563 |
Last Update : 10 มกราคม 2563 17:58:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 903 Pageviews. |
 |
|