Group Blog
 
<<
มีนาคม 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 มีนาคม 2566
 
All Blogs
 
BOOK HAUL 2023 (มกรา - มีนา) จากนายอินทร์ / หมวดจิตวิทยา ความเรียง

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพร้อมน้องๆหนังสือที่ซื้อมาต้อนรับปีใหม่ประจำปี 2566 ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากร้านนายอินทร์ แล้วที่เหลือก็มาจากเพจหนังสือมือสอง และรอบนี้ก็มีหนังสือลดราคาที่ไปจัดบูธกับบีทูเอสที่เมกาบางนาด้วย แล้วราคาก็ดีมากเพียงเล่มละ 20 บาทเท่านั้น! เราก็ได้มาหลายเล่มเลยแล้วก็อยากให้ร้านเขาตั้งตลอดไปจริงๆจะได้ไปคอยคุ้ยกองหาเรื่อยๆ เพราะปีก่อนที่เราเคยซื้อเป็นอีกเจ้านึงเล่มละ 50 เราก็ว่าถูกแล้วนะมาเจ้านี้ 20 บาท!!! (แต่เจ้า 50 เขาจะวางเรียงสวยงามให้เลือกซื้อได้ง่าย)

จากความตั้งใจแรกว่าปีนี้จะไม่ซื้อหนังสือเยอะ ซื้อแค่เล่มที่อยากอ่านจริงๆเพราะเห็นตู้หนังสือโล่งไปบ้างแล้วมันก็สบายใจดี แต่...พอเห็นโปรลดราคา เห็นคนมาขายหนังสือเล่มที่อยู่ในรายการที่อยากได้ และเห็นราคาที่ถูกแสนถูกแถมได้ใช้ทักษะในการคุ้ยหาสิ่งล้ำค่าจากกองหนังสืออันใหญ่โต มันก็ทำให้เราไม่อาจคงความตั้งใจที่ไม่มั่นคงแต่แรกไว้ได้...ส่วนเรื่องราคา...ตอนซื้อไม่คิด พอมาเห็นใบเสร็จโอ้ว38  นี่เราหมดไปมากขนาดนี้เลยหรอ อย่างว่าแหละหนังสือราคาแพงขึ้นจริงๆ แล้วเราก็ไม่ค่อยสนเรื่องราคาตอนจะซื้อมาตกใจทีเดียวตอนเห็นยอดรวม แล้วก็ได้แต่คิดว่าตอนซื้อคิดอะไรอยู่42 ยอดรวมของสามเดือนแรก (จริงๆคือเริ่มซื้อ กุมภากับมีนา) 287หมดไป 4,188 บาท289 

มาดูกันค่ะว่าเราได้หนังสือเล่มไหนมาบ้างรับไตรมาสแรกของปี

 
  
หลังๆมาขนส่งไม่ใช่ไปรษณีย์หรืออะไรที่เคยส่งดีๆ สภาพกล่องก็คือบู้บี้มาก แต่ก่อนมาอย่างกริบ


3 เดือนแรก ซื้อไป 30 เล่มถ้วน ปล.ขออภัยกับรูปเอียงๆ25


หมวด จิตวิทยา

เล่มแรก Good vibes, good life ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข - เว็กซ์ คิงส์
ผลงานเล่มเยี่ยมที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก ยอดขายกว่า 6 แสนเล่ม
ความลับของการบรรลุในสิ่งที่ยิ่งใหญ่คือการเข้าใจ กฎแห่งแรงสั่นสะเทือนที่กล่าวว่า ทุกอย่างในจักรวาลล้วนเกิดจากแรงสั่นสะเทือน ทุกแรงสั่นสะเทือนที่มีความถี่ตรงกันสามารถดึงดูดกันได้ อย่าเผลอไผลไปตามสมองที่ติดนิสัยชอบผลักไสโชคและสิ่งดีๆ ด้วยพลังลบ ยิ่งคุณส่งคลื่นพลังบวกออกสู่ภายนอก จักรวาลจะยิ่งสะท้อนคลื่นความสุขกลับมาเท่าทวีคูณ
ทุกคำพูด อารมณ์ และการกระทำของคุณเปลี่ยนชีวิตคุณได้ทันที 
เว็กซ์ คิง ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณแก่คนรุ่นใหม่จะเปลี่ยนคลื่นความถี่ทางอารมณ์ของคุณให้ตรงกับพลังงานบวกทั้งหลาย เพื่อดึงดูดความสุขและความสำเร็จอย่างที่คุณอาจไม่เคยคิดฝัน

เห็นยูทูปเบอร์เขารีวิวหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญเลยสนใจอยากอ่านบ้าง เพราะก่อนหน้านี้เราก็เห็นหนังสือเล่มนี้ผ่านตามาบ้างแต่ไม่เคยรู้ว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไร พอเขาพูดถึงหนังสือเล่มนี้ก็ฟังดูเป็นแนวเดียวกับ "the secret ของรอนดา เบิร์น" ที่เราชอบอ่านเลยตัดสินใจซื้อ แล้วยิ่งเห็นปกสีทองอร่ามก็ยิ่งดึงดูดใจให้อยากอ่านมากขึ้น


เล่มที่สอง The greatest secret - Rhonda Byrne
เมื่อคุณรู้ อิสระจะเป็นของคุณ
เรามองข้ามความจริงนี้ไปหลายพันปี เพราะเราไม่ได้มองหาตรงหน้าตัวเราเอง เราไขว้เขวอย่างง่ายดายจากปัญหา เรื่องสะเทือนอารมณ์ในชีวิต เหตุการณ์ความเป็นไปในโลก เราจึงไม่ได้พบความจริงที่อยู่เบื้องหน้าเรามาตลอด ความจริงที่จะพาให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์โศก เข้าสู่ความสุขนิรันดร์
ทุกคำถามจะได้รับคำตอบ ทุกความปราถนาจะเป็นไปดังหวัง ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว
นี่คือการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณ นี่คือจุดหมายปลายทางของคุณ

และแล้วหนังสือต้นตำรับที่เราเคยอ่านแนวใช้ความคิดที่ดีดึงดูดสิ่งที่ดีก็คงตอบรับคลื่นความถี่ของเรา เลยได้หนังสือเล่มนี้มาอยู่ในมือพร้อมกันกับการซื้อหนังสือคราวนี้ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะรีบซื้อ (เพราะกองดองอันท่วมท้น) แต่หน้าปกและส่วนลดก็ดึงดูดใจทำให้เราต้องจัดมาด้วย ซึ่งเล่มนี้ค่อนข้างหนักเนื้อกระดาษคงเป็นเนื้อมันๆทั้งเล่มเหมือนเล่ม the secret ที่เราเคยอ่าน และแค่มีหนังสือเล่มนี้อยู่ก็รู้สึกอุ่นใจเพราะเป็นนักเขียนคนโปรดอีกคนหนึ่ง แล้วก็คิดว่าแล้วเล่มที่ผ่านๆมาทำให้ชีวิตแกดียัง...ก็ได้คำตอบว่า...ก็ทำให้ครุ่นคิดเสมอมาจนปัจจุบันเวลาที่คิดอะไรลบๆว่ามันจะดึงดูดเรื่องลบมาอีก ทำให้พยายามหยุดคิดแล้วคิดอะไรดีๆแทน ยังพยายามอยู่แต่มันก็ทำยาก ชีวิตเลยยังไม่ได้เปลี่ยนมากนักแต่มันทำให้เราไม่เป็นบ้าและไม่จมกับปัญหา ทำให้เรายังยิ้มได้และมีกำลังใจจะสู้ต่อเวลาที่คิดว่าฉันจะคิดถึงสิ่งดีๆ ยิ้มรับเรื่องราวดีๆต่อไป เรื่องดีๆมันก็ต้องเข้ามาสักวันแหละวะ! (ซึ่งบางทีมันเหนื่อยเกินกว่าจะคิด ปล่อยแม่ง มันเลยไม่ปะติดปะต่อเรื่องดีๆคงอยู่ระหว่างการเดินทาง99)


เล่มที่สาม Be water friend จงเป็นเช่นน้ำ - แชนนอน ลี
ทำใจให้ว่างเปล่า ไร้รูปร่าง ไร้รูปทรง เหมือนดังน้ำ...
โลกรู้จักบรูซ ลี ในฐานะตำนานนักบู๊ เป็นนักปรัชญา และเป็นผู้ให้กำเนิดศิลปะการต่อสู้จีทคุนโด แต่คุณไม่จำเป็นต้องเรียนกังฟู หรือมีประสบการณ์การต่อสู้เพื่อที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะเราทุกคนมีสังเวียนของตัวเองอยู่แล้ว และถ้าอิงคำจากบรูซ ลี เขาบอกว่า เราจะต้องสู้ไปจนถึงที่สุดจนกว่าจะเห็นว่า ไม่มีใครหรอกเป็นคู่ต่อสู้ของเรา...
ในโลกปัจจุบันที่หมุนด้วยความเร็วสูง ทำไมคำสอนจากตำนานนักสู้ในอดีตหกสิบปีก่อนอย่างบรูซ ลี ถึงยังครองใจผู้คนทั่วโลก นั่นเพราะความจริงของมัน
ตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณหยุด สงบ นิ่ง ผ่อนคลาย สังเกตสิ่งใดก็ตามที่รบกวนจิตใจอยู่ เคลื่อนไหวไปกับมัน ปราศจากความคิด ปราศจากการตัดสิน ปราศจากข้อสรุป แล้วคุณจะพบตัวจริงของตนเอง
"สิ่งสำคัญคือการตอบสนองที่เรามีต่ออุปสรรคหาใช่ตัวอุปสรรคเอง ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าการถูกท้าทายมีความหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือเราจะได้รู้กัน ว่าเราจะตอบสนองมันอย่างไร"

เล่มนี้เราเห็นครั้งแรกจาก หมอแดงแพทย์แผนไทย ยูทูปเบอร์คนหนึ่งที่เราติดตามแล้วเขารีวิวหนังสือเล่มนี้ไว้ เอาจริงๆเราก็ไม่ได้ฟังจนจบหรอกเพราะเปิดฟังตอนพัก ฟังเขาเล่าแล้วเคลิ้มหลับไป แต่เราก็ซื้อตามแล้วมารู้ว่ามันไม่ใช่แนวสุขภาพอย่างที่คิดว่าหมอน่าจะเล่าไว้ประมาณนี้ เหมือนอย่างเล่ม "ทุกสิ่งดีขึ้นได้ด้วยการไหลเวียนเลือด" ที่ซื้อตามหมอเหมือนกัน นี่มันคนละเรื่องเลย สงสัยฟังแค่เกริ่นๆแล้วเข้าสูห้วงนิทราไปเลย73 (เหมือนกับอีกหลายๆเล่มที่ฟังจากช่องอื่นๆ เลยต้องซื้ออ่านเองฟังเขาเล่าแล้วเคลิ้มหลับไปหมด) ส่วนหน้าปกก็สวยดูเรียบๆดี แถมเป็น amazon's best nonfiction ด้วยทำให้อยากรู้ว่าเขาชอบกันที่ตรงไหนต้องลองอ่านบ้างว่าจะคิดเหมือนกันไหม


เล่มที่สี่ Things left behind บทเรียนสุดท้ายที่ผู้ตายไม่ได้บอก - คิมแซบยอล, ชอนแอวอน
ความฝันที่ถูกเก็บซ่อน ภาพถ่ายของบุคคลอันเป็นที่รัก การสูญเสียความตั้งใจในการใช้ชีวิต การถูกกดดันจากความเหงา ตลอดจนข้าวของที่ถูกทิ้งไว้ อาจบอกเล่าถึงสิ่งที่ผู้ตายไม่เคยพูด
หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปสำรวจชีวิตและความตายผ่านสายตาของผู้เขียน ซึ่งเป็นผู้เก็บกวาดข้าวของของผู้ล่วงลับ ไม่ได้เล่าด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า เป็นเพียงการบรรยายสิ่งที่เห็นจากความตายของใครบางคนอย่างซื่อตรง ทั้งความตายอย่างอบอุ่นท่ามกลางครอบครัว ความตายอย่างโดดเดี่ยว ความตายที่ผู้คนต่างระลึกถึงคุณค่า ความตายที่ไม่มีใครโศกเศร้า และความตายจากการถูกปลิดชีพ
บทเรียนเหล่านี้อาจทำให้คุณตระหนักถึงสิ่งที่ทำหล่นหายระหว่างทางของการใช้ชีวิต

ตอนได้ยินชื่อหนังสือดูคล้ายเล่ม "วิชาสุดท้ายที่มหาลัยไม่ได้สอน" มากเลย และสิ่งที่ทำให้สนใจหนังสือเล่มนี้ก็ทั้งปกที่ดูเรียบๆ และชื่อเรื่องที่ดูน่าสนใจ แล้วก็ยังอยู่ในหมวดความเรียงด้วย ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาไว้กับนวนิยายหรือจิตวิทยาดี แต่พออ่านเรื่องราวที่ปกหลังแล้วก็คิดว่าต้องหมวดนี้ล่ะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นมาแต่เป็นเรื่องที่เขียนจากสิ่งที่พบเจอมาด้วยตัวเอง แล้วเรื่องราวก็คงจะเศร้า หดหู่บ้างพอๆกับชื่อเรื่องแน่เลย ซึ่งพออ่านเจอว่าเขาเก็บกวาดข้าวของของผู้ล่วงลับ และเราเคยดูเรื่องราวที่มีคนรับทำความสะอาดบ้านผู้ล่วงลับในยูทูป เจอแบบนี้ทีไรก็อดคิดไม่ได้ว่าแล้วพอเราตายนี่สมบัติคงเยอะน่าดู แต่ไม่อยากมีอะไรที่เก่าเก็บดูแล้วน่าเศร้าใจอย่างที่เคยดู (จากการประเมินเบื้องต้นห้องเรายังไม่มีอะไรที่ดูเศร้าใจ อ้อ...นอกจากบิงโกที่ซื้อมาหลายปีแล้วยังหาเพื่อนเล่นไม่ได้ ไม่ได้แกะอะไรออกมาเลย ชักจะดูเศร้าหน่อยๆแล้ว76)


เล่มที่ห้า The comfort book หนังสือกอดใจ - Matt Haig
"หนังสือเล่มนี้คือแพชูชีพของผม เป็นกลุ่มความคิดที่พยุงผมไม่ให้จมลง และผมหวังว่ามันจะพาคุณไปพบแผ่นดินเช่นกัน" --แมตต์ เฮก
ยามพายุแห่งชีวิตโหมซัด เรามักมองไม่เห็นฟ้ากว้าง ยามติดอยู่ในอดีตอันเจ็บปวด เรามักหลงลืมว่ามีอนาคตแห่งความเป็นไปได้นับพัน แมตต์ เฮก ผู้เขียน แด่ผู้แหลกสลาย และ แด่เธอ บนดาวเคราะห์ช่างกังวล เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อโอบกอดและปลอบโยนมนุษย์ผู้มีบาดแผลว่า "เราเผชิญความมืดมิดเพื่อโผบินใต้แสงตะวัน"
หนังสือกอดใจ เก็บเกี่ยวแง่งามของการดำรงอยู่จากสิ่งละอันพันละน้อยในชีวิต จากปรัชญากรีกถึงภาพยนตร์วัยรุ่น จากเนยถั่วหอมหวานถึงควอนตัมฟิสิกส์ จากความเจ็บปวดถึงความหวัง และจากมนุษย์ถึงมนุษย์ เพื่อถักทอเป็นแพชูชีพที่พยุงหัวใจไม่ให้จมดิ่งยามคลื่นความทุกข์ถาโถม
ขอให้หนังสือเล่มนี้มอบความชุ่มชื่นให้ทุกหัวใจที่อ่อนล้า เป็นความหวังขนาดพกพาที่นำติดตัวไปได้ทุกแห่งหน และเป็นแพชูชีพท่ามกลางมหาสมุทรแห่งชีวิตอันเวิ้งว้าง เพื่อกอดใจผู้หลงทางไปถึงฟากฝั่งที่หยัดยืนได้อย่างมั่นคง

เป็นหนังสือที่ซื้อเพราะปกอีกแล้ว ปกน่ารักมากสีนวล ชื่อเรื่องก็น่ารักน่าอ่าน แต่พอได้อ่านเนื้อหาปกหลัง...มันไม่น่าใช่อย่างที่คิดนินา เหมือนจะเป็นข้อความสั้นๆด้านในหรือเปล่า หนังสือสมัยนี้เปิดดูเนื้อหาด้านในไม่ได้ทุกเล่มด้วยสิ พอจะซื้อก็ต้องเลือกเอาว่าอยากลองไหม แต่ปกน่ารักขนาดนี้ต้องซื้อไว้ก่อนล่ะ เก็บไว้สำหรับอ่านเวลาเดินทางก็ได้ดูอ่านง่ายแล้วก็ไม่ยาว (แม้ช่วงนี้จะไม่ได้เที่ยวไหนเลยก็ตาม แต่มีไว้รอแล้ว)


เล่มที่หก The way of Nagomi นาโงมิ สุข สงบ สมดุล - เคน โมงิ
นาโงมิ (Nagomi) วิถีต้นกำเนิดของปรัชญาญี่ปุ่นทั้งมวล คือการยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่จีรัง และผันแปรตลอดเวลาของสรรพสิ่ง โอบรับ สอดร้อยให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อความงดงามสุขสงบอย่างสมบูรณ์
เคน โมงิ นักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง ผู้เขียน The little book of Ikigai ที่ขายดีเป็นปรากฏการณ์ สอดประสานนาโงมิเข้ากับทุกแง่มุมชีวิตของคุณในทุกๆวัน
  • รักษาสายสัมพันธ์อันดีงามกับคนใกล้ชิด แม้จะไม่เห็นพ้องต้องกันก็ตาม
  • ซึมซับรับสิ่งใหม่ๆโดยไม่สูญเสียตัวตนที่แท้จริง
  • ค้นพบความสุขสงบในทุกๆสิ่งที่คุณทำ
  • ผสมผสานองค์ประกอบที่ดูจะขัดแย้งให้งดงามสมดุล
ความลับของชีวิตที่ทรงพลังและเปี่ยมความหมาย ท่ามกลางความวุ่นวาย ย้อนแย้ง และแปรเปลี่ยนที่ชาวญี่ปุ่นเก็บงำมานานหลายศตวรรษ
ปกดูเรียบมากทั้งการออกแบบ และสีซึ่งก็ทำให้เราสนใจอีก เรื่องราวก็น่าสนใจแถมเป็นคนที่เขียนเล่ม the little book of Ikigai ด้วยซึ่งเราก็ได้อ่านแล้วก็ชอบอยู่นะ หลายเรื่องทำให้เห็นวิธีคิดของคนญี่ปุ่นที่ดีมากๆ และเจ้าเล่มเล็กๆเนี่ยราคาไม่เบาเลยตั้ง 275 บาท เลยลองเปิดดูพบว่าในเล่มมีภาพวาดการ์ตูนขาวดำประกอบด้วยนิดหน่อย (แต่สภาพหนังสือเล่มนี้ยู่ยี่นิดหน่อยจากการจัดส่ง ไม่มีพลาสติกห่อด้วย เล่มจงเป็นเช่นน้ำก็ไม่ซีล พอจะคิดว่าของสำนักพิมพ์ how to ไม่ซีลพลาสติกมั้งก็พบว่าเล่มสีทองก็เจ้าเดียวกันแต่ซีล เลยว่าจะหากระดาษมาห่อปกน้องก่อนอ่าน ตอนเห็นสภาพน้องทีแรกยังคิดว่าใครเอาไปอ่านมาก่อนแล้วรึเปล่า ไม่เหมือนสภาพใหม่มือหนึ่งเลย71) หรือว่านี่เป็นบทเรียนแรกให้เรา...ยอมรับการผันแปรของสรรพสิ่ง...ตามข้อความจากหนังสือนะ


 








 



 

 

 



Create Date : 16 มีนาคม 2566
Last Update : 7 เมษายน 2566 15:39:24 น. 0 comments
Counter : 191 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อารมณ์ติสท์ติดตัว
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3651244's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.