BlogGang.com : : สมาชิกหมายเลข 3651244 : รีวิวหนังสือ "ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ

รีวิวหนังสือ "ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ - นัตสึคาวะ โซสุเกะ"

เรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ชื่อว่า "นัตสึกิ รินทาโร่" ที่หลังจากเสียคุณปู่ซึ่งเป็นเจ้าของร้านหนังสือมือสองนัตสึกิ ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่ขายหนังสือหายาก หนังสือคลาสสิกที่คัดสรรมาอย่างดีไปก็เหลือตัวเขาเพียงลำพัง คุณป้าซึ่งเป็นญาติของเขาและพบเจอกันที่งานศพปู่จึงเสนอให้เขาขายร้านหนังสือนี้แล้วย้ายไปอยู่กับเธอหลังจากเห็นสภาพที่ไม่สู้ดีของเขา เพราะทั้งชีวิตเขามีปู่คนเดียวเมื่อต้องสูญเสียคนที่รักไปจึงเหมือนไม่เหลือใครหรืออะไรอีก เพราะเขาเป็นคนเก็บตัวและหมกตัวอยู่ที่ร้านหนังสือซึ่งเป็นสถานที่ที่ปู่ของเขาทำขึ้นมาเพื่อให้หลานชายที่ชอบเก็บตัวได้ใช้เวลาอย่างสบายใจที่นี่

แล้ววันหนึ่งหลังจากที่ตัดสินใจจะขายร้านนี้แล้วย้ายไปอยู่กับป้า ก็มีแมวตัวหนึ่งเดินออกมาจากผนังด้านหนึ่งของร้านแล้วบอกว่าขอยืมพลังของเขาในการจัดการกับศัตรูของหนังสือโดยเรียกเขาว่า "รุ่นที่สอง" การผจญภัยอย่างไม่คาดฝันของเขาจึงเกิดขึ้น แถมยังดึงเอาหัวหน้าห้องสาวอย่าง "ซาโยะ" ที่คอยเอาสมุดการบ้านมาให้เขาหลังเลิกเรียนเสมอเพราะช่วงหลังเขาหยุดเรียนบ่อยๆมาร่วมด้วยโดยไม่มีใครคาดคิด การผจญภัยของทั้งคู่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป รวมถึงบรรดาศัตรูของหนังสือที่เจ้าแมว "โทระ" ให้เขาไปจัดการด้วย

ไม่ว่าจะเป็นเขาวงกตแห่งที่หนึ่ง "ผู้กักขัง" ที่เจ้าของมีหนังสือเรียงมากมายมหาศาลแล้วมีกุญแจล็อคอย่างดี และเขาต้องการอ่านให้ได้หนึ่งร้อยเล่ม และไม่ใช่ในรอบปีแต่เป็นในหนึ่งอาทิตย์ โดยให้เหตุผลที่ใส่กุญแจว่าเขาไม่จำเป็นต้องหยิบมันมาอ่านอีกเพราะอ่านจบไปแล้ว คนสมัยนี้ให้ค่ากับคนที่อ่านหนังสือคราวละ 100 เล่มมากกว่าคนที่อ่านหนังสือเล่มเดิม 100 ครั้ง ทำให้เขาต้องรีบเร่งอ่านหนังสือ
เขาวงกตแห่งที่สอง "ผู้ตัดฉับๆ" ที่เจ้าของทำการตัดเนื้อหาให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ใช้เวลาในการอ่านให้น้อยที่สุด เพราะคนสมัยนี้มีเวลาน้อย ต้องทำนั่นทำนี่หลายอย่าง หนังสือจึงต้องลดขนาดลงให้บางเพื่อตอบสนองความต้องการ และสรุปให้สั้นที่สุด เพราะมีหนังสือออกมาใหม่มากมายนับไม่ถ้วนด้วยวิธีนี้จะทำให้อ่านหนังสือได้วันละหลายสิบเล่ม
เขาวงกตแห่งที่สาม "ผู้ขายดี" หนังสือคลาสสิก หนังสือดีแต่อ่านยากที่คนอ่านน้อยจะถูกทำลายด้วยการทิ้งลงมาจากตึกสูงมากมาย เพราะถึงมันจะดีอย่างไรแต่ขายไม่ได้ ทำกำไรไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์สำหรับวงการธุรกิจ แต่หนังสือที่ตอบสนองกับความต้องการของคนอ่านจะถูกเพิ่มการผลิตมากมาย แม้ว่ามันจะอาจจะไม่ได้เป็นหนังสือที่ดีอะไรเลยก็ตาม
และเขาวงกตแห่งสุดท้าย คือพลังของหนังสือ เพราะหนังสือสอนให้รู้จักความห่วงใยต่อผู้อื่น รวมถึงเล่าความคิดของคนมากมาย และพลังนั้นมอบความกล้าหาญและเป็นกำลังใจให้คนอีกนับไม่ถ้วน

ซึ่งท้ายที่สุดเรื่องราวเหล่านี้ก็เปลี่ยนชีวิตเขาจากการที่เขาต้องใช้ความคิดและความแน่วแน่เพื่อที่จะเอาชนะเจ้าของเขาวงกตแต่ละแห่งเพื่อที่จะได้กลับมาในโลกปกติได้อีกครั้ง และทำให้เขาตัดสินใจกับเรื่องราวในชีวิตได้

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วทำให้เรารู้สึกเหมือนเขาเอาเรื่องเกี่ยวกับหนังสือที่พบเจอในปัจจุบันมาจิกกัด บางช่วงก็แอบเจ็บไปด้วยเพราะเราเองก็ไม่ค่อยอ่านซ้ำนะ แต่ให้อ่านปีละร้อยเล่มก็ไม่ไหว ไม่ใช่คนอ่านเร็วแล้วก็เคยพยายามอย่างที่เขาจิกไว้ด้วย ว่าเดี๋ยวนี้มีหนังสือเกี่ยวกับการอ่านเร็วออกมาเพื่อให้ใช้เวลาในการอ่านให้น้อยที่สุด เร็วที่สุด ซึ่งเราคือคนหนึ่งแหละที่เคยซื้อตอนเรียน แต่สารภาพว่าอ่านไม่จบ...เพราะมันไม่ใช่แนว อ่านแบบไม่ต้องทุกตัวอักษร อ่านเอาเรื่อง คือทำไม่ได้จริงๆเลยอ่านไม่จบแล้วก็บริจาคไปเพราะลองแล้วมันอ่านไม่รู้เรื่อง จำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่คนหัวไวเข้าใจอะไรง่ายๆมันก็เข้าหัวนะแต่ไม่เข้าใจ ไม่รู้รายละเอียดอะไรใดๆเลยไม่รู้ว่าจะเสียเวลาทำอย่างนั้นไปทำไม นอกจากเวลาที่ต้องอ่านหนังสือที่ไม่ได้ชอบมากก็จะอ่านแบบไวๆไม่ใส่ใจทุกตัวอักษร ซึ่งร้อยวันพันปีจะทำสักทีนึง ซึ่งตอนอ่านก็มีทั้งเรื่องที่เราเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยปะปนกันไปตามประสาคนรักหนังสือ แล้วก็ได้เห็นเรื่องราวอื่นๆในวงการหนังสือที่เราก็ไม่เคยใส่ใจมาก่อนแต่ก็เป็นความจริงเช่นเรื่องหนังสือขายดี ที่ไม่ใช่ว่าจะเป็นหนังสือที่ดีทั้งหมด พออ่านเจอนี่แบบ...จริงด้วยสินะไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ

Create Date : 03 สิงหาคม 2566

Last Update : 11 สิงหาคม 2566 19:41:58 น.

0 comments

Counter : 145 Pageviews.