สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เรามีบรรดาหนังสือที่ซื้อในช่วงไตรมาสแรกของปีมาให้ดูกันว่าเราไปได้หนังสือใหม่ๆเล่มไหนมาบ้าง ซึ่งต้องบอกว่าเราได้มาเยอะมากสวนทางกับปริมาณที่เราอ่านได้แค่เดือนละ ๒ เล่มเท่านั้นเอง ซึ่งจะรวมไว้ทั้งมือหนึ่งและมือสองเลยนะคะ ไปดูกันเลยค่ะว่าเราได้เล่มไหนมาเพิ่มในกองดองบ้างและทำไมเราถึงซื้อมา ซึ่งเหตุผลครั้งนี้บอกเลยว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ซื้อเพราะปกสวยดึงดูดใจ

      
ภาพปกหนังสือแต่ละเล่มเราเอามาจากเว็บนายอินทร์นะคะ เนื่องจากยังไม่ได้แกะซีลเลย555  

Box set Shadow and bone ตำนานกรีชา - Leigh Bardugo

Welcome to the GRISHA World! ขอเชิญก้าวเข้าสู่โลกของเวทมนตร์ กับ “ตำนานกรีชา (Shadow and Bone)” เรื่องราวของ อาลีนา สตาร์คอฟ เด็กสาวกำพร้านักวาดแผนที่แห่งราฟกา ได้ค้นพบพลังของตัวเองเป็นครั้งแรก หนึ่งชุดประกอบด้วยหนังสือ 3 เล่ม  Shadow and Bone แดนมรณะแห่งพยับเงา ,Siege and Storm อหังการเจ้าแห่งความมืด ,Ruin and Rising รุ่งอรุณแห่งวิหกเพลิง

ราฟกา ดินแดนที่สวยงาม...ลึกลับ แต่เต็มไปด้วยความฉ้อฉลและกษัตริย์ที่อ่อนแอ ผู้นำของกรีชา ซึ่งถูกครอบงำโดยเจ้าแห่งความมืด แต่แล้ววันหนึ่ง 'อาลินา สตาร์คอฟ' เด็กสาวผู้ไม่มีอะไรพิเศษได้ค้นพบพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นเป็นครั้งแรก อาลินา ต้องตกเป็นเป้าของกลุ่มอำนาจชั่วทั่วสารทิศ ถูก 'เจ้าแห่งความมืด' พาเข้าสู่ราชสำนักเพื่อฝึกฝนและลิ้มลองรสชาติชีวิตแปลกใหม่ หลังจากนางปลดปล่อยพลังพิเศษที่อาจพลิกชะตาของโลกท่ามกลางวิกฤตของสงคราม ในนามเจ้าแห่งพลังสุริยะ 

เบื้องหน้าคืออนาคตของราฟกาที่มีเธอเป็นแสงแห่งความหวัง ทว่าสิ่งที่อาจต้องทิ้งไว้เบื้องหลังคือ 'มัล'  มิตรภาพหนึ่งเดียวในวัยเยาว์ พรสวรรค์นี้นำมาซึ่งโชคชะตา อำนาจ ความรัก หรือสิ่งใดกันแน่?

ต้องบอกว่าเราเอาข้อความอธิบายหนังสือมาจากเว็บนานมีเลยค่ะ เพราะหลัง Box set มีแต่คำนิยมล้วนๆ เช่น "มีมตร์สะกดอย่างยิ่งที่สุด" - เดอะการ์เดียน,"จักรวาลเวทมนตร์ที่ดีที่สุดหลังจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ " - บัสเซิล ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่รู้เนื้อเรื่องอะไรเกี่ยวหนังสือชุดนี้เลยก่อนที่จะซื้อ แต่เคยเห็นว่ามียูทูปเบอร์ต่างชาติพูดถึงกันและดูท่าทางจะสนุกมาก ซึ่งเราก็แค่คิดว่าถ้าแปลไทยเมื่อไหร่จะไปหาซื้อไม่คิดว่าจะมาไวขนาดนี้ แล้วตอนที่ซื้อก็ซื้อเลยไม่ได้ดูรีวิวอะไรใดๆทั้งสิ้น ไม่รู้ขนาดที่ว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร555 แต่รู้ว่ามีทำเป็นหนังใน Netflix ด้วย และที่ทำให้เราซื้อก็เพราะเป็นหนังสือที่มันน่าสนใจและปกสวยมาก! เราตกเป็นทาสของปกหนังสือสวยๆ พูดจริงๆเลยว่าตอนกดสั่งซื้อที่เว็บนานมีไม่ได้อ่านข้อความที่เอามาลงไว้เลยค่ะ ไม่ได้ดูอะไรเลยนอกจากจ้องปกสวยๆก่อนสั่งซื้อ และต้องบอกว่านานมีห่อหนังสือมาดีมากมีทำที่กันกระแทกมุมทั้งสี่ด้านของ box set ด้วย ตะลึงกับกับความสวยสะดุดตาของBox set แล้วยังติดใจคำนิยมหลังปกอีกเพราะเราชอบหนังสือแฟนตาซีที่มีเวทมนตร์มากๆเลย 

 

และนี่คือหนังสือมือสองที่ได้มาค่ะ
 

เล่มแรก ร้านมหัศจรรย์สำหรับคนไม่หยุดฝัน – อีมีเย
นี่คือ “ห้างสรรพสินค้าขายความฝันดัลเลอร์กู้ท” ห้างแสนมหัศจรรย์ที่คุณจะไปเยือนได้เพียงยามหลับใหลเท่านั้น แม้ทันทีที่ตื่น คุณจะลืมเลือนว่าเคยไปที่นั่น แต่รับรองว่าทุกความฝันที่คุณโหยหาในชีวิตจะกลายเป็นจริงได้ที่ดัลเลอร์กู้ท พบกับเรื่องราวของเพนี หญิงสาวผู้เป็นพนักงานใหม่ของห้างสรรพสินค้าขายความฝันดัลเลอร์กู้ท พนักงานขายหน้าใหม่อย่างเธอ มีอะไรให้เรียนรู้มากมาย ลำพังข้อมูลความฝันรุ่นต่างๆที่เธอต้องจำก็หัวหมุนแล้ว ยังต้องรับมือลูกค้าที่มีปัญหาสารพัน ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวที่อยากฝันว่าคนที่ชอบปรากฎตัว อดีตเทรนนีค่ายเพลงที่อยากเดบิวต์และแต่งเพลงให้สำเร็จ หลานชายที่อยากฝันถึงคุณย่าผู้ล่วงลับสักครั้ง ชายวัยสามสิบที่ฝันว่าอยากใช้ชีวิตเป็นคนอื่น สุนัขแก่อยากฝันว่าได้เดินเล่นกับเจ้าของอย่างมีความสุข คู่สามีภรรยาผู้ยังทำใจกับการจากไปของลูกสาวตัวน้อยไม่ได้ ความฝันของพวกเขาเหล่านี้คืออะไร ทำไมพวกเขาถึงอยากฝัน และความฝันจากคุณดัลเลอร์กู้ทกับเพนีจะแก้ปัญหาให้พวกเขาได้หรือเปล่า
จากนวนิยายออนไลน์ที่ได้รับการเรียกร้องจากผู้อ่านให้ตีพิมพ์อย่างล้นหลาม และติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ในร้านหนังสือชั้นนำของเกาหลีอย่างยาวนาน นี่คือเรื่องราวของความฝัน คุณค่าของความฝัน และทุกชีวิตที่ไม่เคยหยุดฝัน ที่จะทำให้มุมมองชีวิตยามตื่นนอนของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

เราซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะปกสวย และชื่อหนังสือดูน่าสนใจ ซึ่งสำนักพิมพ์Bibli ทำหนังสือออกมาสวย และน่าสนใจตลอดเลยแต่ราคาก็แรงพอกัน เล่มนี้เราก็ตกหลุมพรางความสวยของปกเช่นเดิม และเรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือคร่าวๆที่ร้านหนังสือเอามาลงในเฟซบุ๊คก็ดูน่าสนใจดีเราก็เลยตัดสินใจซื้อ ยิ่งพอได้อ่านเรื่องราวจากปกหลังว่าขายดีในเกาหลียิ่งทำให้อยากอ่านเพราะอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้ชอบกัน


เล่มที่สอง ค่ำคืน คนเหงา เราและแมว – ดูเรียน สุเคงาวะ
ยามาซากิ เซตะ หรือยามะจัง หนุ่มนักเขียนบทรายการโทรทัศน์ฟรีแลนซ์ซึ่งมีหน้าที่การงานไม่ค่อยสดใสนัก ท่ามกลางการใช้ชีวิตอย่างลำบากขัดสน แต่ละวันผ่านไปอย่างโดดเดี่ยว และกังวลกับอนาคตอันมืดมนของตนเอง วันหนึ่งเขาได้พบกับร้านเหล้าที่ชื่อ “คารินกะ” ในชินจุกุ ร้านหน้าตาธรรมดาที่มีลูกค้าแปลกๆมากมาย และมีการเล่นพนันแมวเป็นเกมประจำร้าน
ที่นั่นเอง เขาได้พบกับ ยูเมะจัง พนักงานหญิงที่เย็นชากับคน แต่อ่อนโยนกับแมวเป็นพิเศษ ยามะจังถูกชะตาเธอตั้งแต่แรกพบ และค่อยๆค้นพบสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ค่อยไว้ใจมนุษย์ กับเรื่องที่ทำให้เธอผูกพันกับแมวเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่ามกลางความยากลำบากในชีวิต ยามะจังกลับพบว่าถ้อยคำของยูเมะจังมีพลังอย่างน่าประหลาด และทำให้เขามั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมถึงค้นพบความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง นี่คือเรื่องราวอบอุ่นของคนกับแมว และถ้อยคำที่จะปลอบประโลมหัวใจของไปพร้อมกัน

เล่มนี้เราจำไม่ได้ว่าทำไมถึงตัดสินใจซื้อในที่สุด เพราะเคยอ่านรีวิวแล้วมันไม่ได้อยากซื้อขนาดนั้น แต่สุดท้ายเราก็ซื้อมาแบบงงๆในตัวเองว่าซื้อมาทำไมนะ แต่คิดว่าอาจจะด้วยคนเขียนเป็นคนเดียวกับที่เราเคยอ่านเล่ม "โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ" แล้วเราประทับใจ ตอนที่เห็นว่ามีคนเอามาลงขายอีกทีเลยตัดสินใจซื้อมา แล้วก็ดูเหมือนว่าตอนนี้เราจะมีหนังสือแปลของญี่ปุ่นที่มีแมวประกอบอยู่เป็นสิบเล่มแล้ว เราเลี้ยงหมาแต่แทบไม่มีหนังสือที่เกี่ยวกับหมาเลย (ยิ่งถ้าน้องหมาตายนี่เราขายหนังสือทิ้งเลย ทำใจไม่ได้ อาจด้วยเหตุนี้ทำให้เราไม่สนใจอยากซื้อที่มีน้องหมามาอ่าน กลัวสะเทือนใจ555 อินหนักมาก) ส่วนแมวเราก็รักนะแต่ไม่ได้ผูกพันมากเลยอ่านได้แต่ก็ขอให้ไม่เศร้า มันช้ำใจเหมือนกันแต่ไม่ถึงกับต้องขายหนังสือเล่มนั้นทิ้ง


เล่มที่สาม I will not work overtime ยังไงฉันก็จะเลิกงานตรงเวลาค่ะ – อาเกโนะ คาเอรุโกะ
ฮิงาชิยามะ ยุย พนักงานหญิงสาวแห่งบริษัท เน็ต ฮีโรส์ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัล ผู้มีความหลังฝังใจในอดีตเกี่ยวกับพ่อผู้บ้างาน เธอจึงตั้งปณิธานว่าจะกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน เพราะไม่ต้องการเดิมพันชีวิตกับงาน แล้วยังคอยโน้มน้าวคนรอบข้างให้หยุดพักบ้าง ซึ่งก็กลับบ้านตรงเวลามาได้อย่างสม่ำเสมอ แต่บททดสอบครั้งใหญ่ก็มาถึง เมื่อผู้จัดการทีมที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ผู้มีฉายาเรื่องความบ้างานจน พนักงานถอดใจ สร้างความปวดหัวอย่างหนักให้แก่ยุย และสั่นคลอนเป้าหมายในการกลับบ้านตรงเวลาของเธอ ซ้ำร้ายเธอยังต้องคอยรบรากับลูกค้าเรื่องเยอะอีกด้วย ส่วนลูกน้องในทีมก็แสบไม่แพ้กัน มีทั้งพนักงานหญิงดีเด่นผู้ไม่เคยลาหยุดโดยพร้อมทำงานล่วงเวลา เธอชอบแขวะยุยเรื่องกลับบ้านตรงเวลาเสมอ, ซุปเปอร์มัมที่ลาคลอดแค่หกสัปดาห์ และรีบกลับมาทำงานเพราะฝันที่จะเป็นผู้บริหารหญิง, พนักงานใหม่ใจเสาะที่เอะอะก็อยากจะลาออกท่าเดียว ฯลฯ ยังไม่นับเรื่องวุ่นๆที่อดีตคนรักเก่าเข้ามาเป็นหัวหน้าเธอเสียอีก อย่างไรก็ตาม ยุยตัดสินใจเป็นผู้นำทีมของโครงการสุดโหด โดยเธอมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าว่าจะทำให้สมาชิกทุกคนในทีมกลับบ้านตรงเวลาให้ได้! ภารกิจของยุยจะสำเร็จหรือไม่ เรื่องราวสุดป่วนในออฟฟิศ การปะทะกันของมนุษย์เงินเดือนยุคก่อนกับพนักงานยุคใหม่นั้นกำลังจะอุบัติขึ้นแล้ว...

เล่มนี้เป็นเล่มที่ปกสวย และชื่อเรื่องโดนใจเรามากๆจนคิดว่าต้องซื้อมาอ่านให้ได้ และก่อนจะซื้อเราก็ไม่อ่านรีวิวใดๆมาก่อน ตอนที่ได้หนังสือมาแล้วอ่านเรื่องจากปกหลังก็เลยเพิ่งรู้ว่านี่มันเป็นนิยายไม่ใช่แนวจิตวิทยาอย่างที่เราคิด แถมมีเอาไปทำเป็นซีรีย์ด้วย ซึ่งเราคิดว่าจะพยายามอ่านให้ได้ในปีนี้และอยากเอาไปอ่านที่ทำงานด้วยจะได้วางให้เห็นชื่อปก ประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของเราที่มีมาตลอดเรื่องการกลับบ้านตรงเวลาอย่างชื่อหนังสือเช่นกัน555 อ่านจบก็คิดว่าจะไปดูซีรีย์ตาม 


เล่มที่สี่ Untamed อย่ายอม – เกลนน็อน ดอยล์
เราไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขัง จนกว่าจะใช้หัวใจมองไปรอบๆ คุกแห่งความสมบูรณ์แบบ ความกลัวผิดพลาด กลัวล้มเหลว ประกอบกลายเป็นลูกกรงทีละซี่...ทีละซี่...ดาวมหา’ลัย แต่งงาน สามีรวย ลูกดี มีชื่อเสียง มีเงินทอง ประกอบกลายเป็นโซ่ล่ามเท้าไว้ทีละข้อ ทีละข้อ...เกลนน็อน ดอยล์ ผู้เขียน เคยมีทั้งหมดนั้น เคยยิ้มร่าอยู่ในกรงที่มองไม่เห็น เธอเป็นทุกสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน ยกเว้นอย่างเดียวคือเป็นตัวเอง
และนี่คือเรื่องราวการแหกกรงขัง กลับคืนสู่ป่าบริสุทธิ์ของใจตัวเอง ไร้กรอบ ไร้เพศ ไร้การตัดสิน ไร้คำอธิบาย สิ่งเดียวที่จำเป็นต้องใช้คือ “ความรู้สึก”
“ชีวิตนี้เป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว ฉันจึงเลิกถามหาหนทางชีวิตจากคนอื่น เพราะพวกเขาไม่เคยมาที่นี่”

เล่มนี้เราก็ซื้อเพราะปกสวยดูน่าสนใจดี จำได้ว่าเคยอ่านรีวิวอยู่นะแต่จำเนื้อหาไม่ได้รู้แค่ว่าจะไปซื้อมาอ่านแล้วก็เลยได้หนังสือเล่มนี้มาครอบครองแบบงงๆว่าทำไมถึงอยากได้มาอ่านนะ555 (ช่วงเดือนกุมภาเราทำงานค่อนข้างหนักหนาสาหัสมาก ความคิด ความจำต่างๆก็เลยไม่ค่อยจะมี ไม่เป็นลมตายก็บุญแล้วยิ่งขาดวิตามินหนักๆอยู่ พอมีคนมาขายหนังสือที่เราเคยอยากอ่านก็เลยใช้สัญชาติญาณในการตอบรับว่าต้องซื้อไว้ก่อน!) และเป็นเล่มเดียวที่ไม่ใช่นิยายที่เราซื้อในกองไตรมาสแรกนี้


เล่มที่ห้า เฟอร์มิน หนู/รัก/หนังสือ – Sam Savage
เฟอร์มินเป็นหนูน้องน้อยตัวที่สิบสามของแม่หนูขี้เมา เขาเกิดในห้องใต้ดินของร้านหนังสือในย่านที่กำลังจะถูกทุบทำลายของนครบอสตันในช่วงทศวรรษ ๑๙๖๐ หลังจากกัดกินหนังสือเป็นอาหารประทังชีวิต เขาก็เริ่มอ่านหนังสือออก อ่านหนังสือแตก และตะลุยอ่านหนังสือมากมายที่อยู่ในร้าน สลับกับการออกไปดูหนังโป๊และไม่โป๊ที่โรงหนังใกล้ๆ ด้วยความรู้มากมายที่ได้จากหนังสือ เฟอร์มินรู้สึว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ติดอยู่ในร่างหนู และปราถนาจะสานมิตรภาพกับมนุษย์ ดูเหมือนเฟอร์มินจะพร้อมแล้ว แต่มนุษย์ล่ะ พร้อมหรือยัง

เล่มนี้เป็นเล่มที่เราอ่านรีวิวแล้วตอนแรกก็ไม่ซื้อ แต่พอรอบสองเห็นคนมาขายก็ดันสนใจอยากซื้อ  เท่าที่จำได้น่าจะเป็นเรื่องราวที่เกิดช่วงสงครามและค่อนข้างน่าเศร้านิดหน่อย



เล่มที่หก The solitary castle in the mirror หมาป่าโดดเดี่ยว ปราสาทเดียวดายในกระจก - สึจิมุระ มิซึกิ
วันนี้เป็นอีกวันที่ โคโคโระ ไม่ไปโรงเรียน เธอเอาแต่ขังตัวอยู่ในห้องนอนที่มืดสลัว ทันใดนั้นกระจกเงาบานใหญ่ก็เปล่งแสงประหลาดออกมา เมื่อเอื้อมมือไปแตะ เธอก็ถูกดูดเข้าไป..."คุณอันไซ โคโคโระ ยินดีด้วยที่ได้รับเชิญมาเป็นแขกของปราสาทหลังนี้" เด็กหญิงที่ใส่หน้ากากหมาป่าพูด ปลายทางของโลกหลังกระจกมีปราสาทงดงามราวต้องมนตร์ ที่นั่นมีเด็กอีก ๖ คนที่เผชิญชะตากรรมเดียวกับโคโคโระ พวกเขาต้องตามหา "กุญแจ" ที่ซ่อนไว้ ผู้ใดที่หาเจอจะขอพรข้อใดก็ได้ตามใจปราถนา... หนึ่งคำขอในโลกหลังกระจกที่จะเปลี่ยนโลกความจริงไปตลอดกาล

ขอบอกว่าเราซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะปกสวยอีกเช่นกัน โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่าหนังสือเล่มนี้เขียนเกี่ยวกับอะไร เป็นหนังสือแนวไหน แต่ชื่อเรื่องดูน่าสนใจก็เลยซื้อมาอ่าน 


เล่มที่เจ็ด The midnight library ห้องสมุดเที่ยงคืน – Matt Haig
“ห้องสมุดอยู่ระหว่างชีวิตกับความตาย และภายในห้องสมุดนั้นมีชั้นวางหนังสือทอดยาวไม่รู้จบ หนังสือทุกเล่มเปิดโอกาสให้เธอลองใช้ชีวิตอีกชีวิตที่เธออาจจะมีได้ เพื่อดูว่าทุกอย่างจะแตกต่างออกไปยังไง หากเลือกใช้ชีวิตแบบอื่น...เธอจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปไหม หากมีโอกาสแก้ไขความเศร้าเสียใจของเธออีกครั้ง”
นอรา ซีด หญิงสาววัย 35 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองหลังเผชิญกับโรคซึมเศร้าและความผิดหวังมานานหลายปี ทว่าในตอนเที่ยงคืน หลังจากที่กินยาเกินขนาดไปแล้ว เธอกลับฟื้นขึ้นมาในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่นั่นคือห้องสมุดเที่ยงคืน แล้วเธอก็ได้พบกับมิสซิสเอล์ม บรรณารักษ์ห้องสมุดที่เธอสนิทสมัยเรียนมัธยม มิสซิสเอล์มให้นอราดูหนังสือแห่งความเศร้าเสียใจ ซึ่งบันทึกทุกเรื่องราวที่เธอเคยเสียใจไว้ แล้วเสนอให้นอราได้ลองใช้ชีวิตอีกครั้ง ชีวิตที่เป็นไปได้อันไม่จำกัดที่นอราเคยเสียใจที่ไม่ได้เลือก เพื่อที่เธอจะได้กลับไปแก้ไขมันอีกครั้ง โดยทบทวนชีวิตที่ผ่านมาและดูว่าชีวิตแบบไหนกันแน่ที่เป็นชีวิตที่ดีแท้สำหรับนอรา แต่มีเงื่อนไขว่าหากเส้นทางที่เลือกกลับไปนั้นทำให้เธอผิดหวังอย่างที่สุด นอราจะต้องกลับมาที่ห้องสมุดเที่ยงคืนแห่งนี้ทุกครั้งไป
นอราจะค้นพบชีวิตที่ไม่ต้องเสียใจอีกต่อไปไหม แต่ชีวิตที่ดีและไม่ทำให้เสียใจเช่นนั้นมีอยู่จริงหรือ
นี่คือนวนิยายสุดประทับใจของแมตต์ เฮก ที่ชวนให้ทุกคนตั้งคำถาม และค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ หนังสือที่ได้รับรางวัล Best Fiction ของ Goodreads choice Awards 2020 และได้รับการคัดเลือกใน A Good Morning America Book Club Pick

และก็ต้องสารภาพอีกทีว่าหนังสือเล่มนี้ก็ซื้อเพราะปกสวยเช่นเดียวกัน เนื้อหาจากปกหลังเราก็เพิ่งได้มาอ่านเอาก็ตอนที่เรามาเขียนรีวิวหนังสือที่เราซื้อมานี่เอง แต่พอได้อ่านเนื้อหาปกหลังก็รู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้น่าอ่านมาก

แล้วก็หมดครบทุกเล่มแล้วนะคะ ไว้เราได้อ่านเล่มไหนแล้วจะเอารีวิวนะคะ ปล. อยากอ่านตำนานกรีชามากๆเลย แต่เกรงใจกองดองที่สะสม และหนังสือในรายการแผนการอ่านปีนี้ที่แทบไม่คืบหน้าไปไหนเลย

สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง มีเงินทองไม่ลำบากและสุขภาพแข็งแรงปลอดภัยจากโควิดทุกๆสายพันธุ์! สู้เขานะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ




 

Create Date : 01 เมษายน 2565
Last Update : 30 มิถุนายน 2565 17:08:34 น.		0 comments
Counter : 738 Pageviews.
Share Tweet