เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวการเมืองของประเทศ "เอล เควญญา" ประเทศเล็กๆในอเมริกาใต้ที่กำลังมีการปฏิวัติโค่นล้ม "นายพลรามอน" ประธานาธิบดีคนเก่าลง โดยมี "พันโทโคลัมโบ" เป็นหัวหน้าและขึ้นมาปกครองแทนเพื่อปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้นกว่าเก่า และล้างพวกเลือดเก่าออกให้หมดด้วยนโยบายมุ่งสู่ชนบท และให้คนในประเทศมุ่งเน้นเกษตรกรรมและพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ใครที่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพก็ให้ออกไปต่อให้เป็นหัวหน้าถ้าทำไม่เก่งพอ ดีพอก็ให้คนที่เป็นรองมาทำแทน โดยมีดร.เฟอร์ดินาน คอยให้คำปรึกษา ซึ่งเขาก็เป็นคนที่รู้จักกับผู้พันซีโร่ อดีตรัฐมนตรีและใช้อำนาจอยู่เบื้องหลังในการปฏิวัติครั้งเก่าที่ให้นายพลรามอนขึ้นสู่อำนาจก่อนที่จะพบว่าเขาไม่ได้ทำให้ประเทศดีขึ้น และเดินทางมาดูการปฏิวัติครั้งใหม่ในเมืองด้วยตัวเองอย่างไม่เปิดเผยตัวตน โดยไม่ได้ขัดขวางเพราะเห็นว่าเขาก็ดูมีความมุ่งมั่นที่ดีและดร.เฟอร์ดินานก็เห็นว่าเหมาะสม 

เรื่องการปฏิวัติทำให้ "ชลาลัย" หญิงสาวชาวไทยที่ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในเอล เควญญาได้พบกับ "คาร์ล"ชายหนุ่มจากเยอรมนีที่เดินทางมาทำข่าวและได้ทำความรู้จักกันเพราะเธอต้องคอยดูแลกลุ่มนักข่าวในระหว่างที่ต้องเดินทางทำข่าวในสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะ"รอสสิโน"เพื่อนของหล่อนถูกกดดันจากพันโทโคลัมโบให้ขายโรงงานผลิตน้ำตาลให้รัฐ เพราะเห็นว่าเขาทำการค้าขายผูกขาดมานานเกินไปและทำให้ประชาชนต่างเดือนร้อนมาอย่างยาวนาน และสร้างเหตุการณ์ให้ดูเหมือนเขาทำความผิดเรื่องขนน้ำตาลซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ทำให้รอสสิโนโกรธแค้นและต้องการเอาคืนจนทำให้ธุรกิจที่สืบทอดมานานและทำให้เขาเป็นตระกูลที่มั่งคั่งต้องจบลง แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องประหารเพราะการกระทำของตัวเอง แต่ชลาลัยก็ไปขอร้องให้พันโทโคลัมโบไว้ชีวิตรอสสิโน ซึ่งผู้พันก็ขอแลกด้วยการที่เธอต้องมาทำงานกับเขาจนกว่าเขาจะให้ไปได้ และนั่นทำให้ "คาร์ล"ต้องเดินทางกลับประเทศเพียงลำพังทั้งที่ทั้งคู่ต่างก็เริ่มรักกัน

แล้วเรื่องราวการเมืองภายในประเทศก็ยิ่งคุกรุ่นไปทุกทีในขณะที่ชลาลัยก็คอยทำงานช่วยเหลือพันโทโคลัมโบเท่าที่จะทำได้ เป็นเหมือนเพื่อนที่ได้ร่วมรับรู้เรื่องราวในอดีต และรับฟังความคิดผู้พันพร้อมกับเสนอแนวคิดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่"ซานโตส"ทหารรับใช้คนสนิทของผู้พันซึ่งมีความจงรักภักดีต่อนายกลับสร้างเรื่องราวให้ผู้พันต้องลำบาก และชีวิตของผู้คนในประเทศก็วนเวียนเป็นเช่นเดิมและเห็นการปฏิวัติ การนองเลือดเป็นเรื่องปกติ และความรักของแต่ละคู่ที่มาพร้อมหน้าที่และอุดมการณ์ก็ทำให้ต้องลุ้นสุดๆจนนาทีสุดท้ายเช่นกัน

หลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบเราหดหู่ใจไปสองวัน มันเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการเมืองที่หนักพอประมาณ แล้วก็มีฉากให้พูดไม่ออกเยอะมาก เพราะพันโทโคลัมโบใช้วิธีแบบกวาดล้างเลย แต่อีกมุมเขาก็ต้องการพัฒนาชนบททำให้เกิดความเท่าเทียม มันเ *** ้ยมโหดในหน้าที่ในแบบไม่ถนอมน้ำใจหรืออะไรใดๆ แต่อีกมุมก็น่าสงสารกับความพยายามที่จะพัฒนาประเทศให้มันดีอย่างต้องการ

มันเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องการเมือง ความเหลื่อมล้ำในสังคมที่อ่านแล้วแบบโกรธ เกลียดกับความคิดรอสสิโนที่มองคนงานในไร่ต่ำต้อยมาก การเอาตัวรอด การไขว่คว้าหาอำนาจ หรือพรรคพวกเพื่อจะขึ้นสู่ตำแหน่ง การหักหลัง คืออ่านแล้วช็อคไปได้เรื่อยๆ ซึ่งหนังสือก็บอกไว้ว่าเป็นเรื่องการเมืองที่หนักแต่ตัวละครก็มีรัก โลภ โกรธ หลง ทำให้ไม่อ่านยากอย่างที่คิด นั่นทำให้เราคิดว่าเราน่าจะอ่านได้เข้าถึงได้บ้าง แต่...มันทำให้เรารู้สึกหนักกว่าเดิม มันทำให้เรื่องน่าติดตามมากจริงๆเพราะความสัมพันธ์มันขึ้นกันสถานการณ์บ้านเมืองด้วย ซึ่งทำให้อ่านๆไปก็ลุ้นมันทั้งเล่มโดยเฉพาะ "แม่นางชลาลัย" ที่เราอ่านแล้วร้องโอ้ย! ไปได้ตลอดยันจบเล่ม 

และนี่คือประโยคที่เราชอบ 
 

"แม้จะเหลือเพียงตัวสุดท้าย คุณก็น่าจะเล่นต่อไปให้ถึงที่สุด มีอะไรหลายต่อหลายสิ่งในโลกนี้ที่อยู่เหนือความคาดหมาย และอาจจะนำชัยมาสู่เราได้เสมอถ้าเรายังรักที่จะต่อสู้ต่อไป"

"คุณเดินหมากแบบเดิมอีกแล้ว ถ้าไม่เปลี่ยนกลวิธีเสียตั้งแต่ต้น คุณอาจจะจบลงเช่นเดิมอีก"

"อย่ามัวแต่คิดว่าเธอจะทำอะไร แต่จงลงมือทำในสิ่งที่เธอคิดจะทำในทันที"