Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2566
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 มิถุนายน 2566
 
All Blogs
 
รีวิวหนังสือ "ศูนย์รับฝากความเสียใจ - ซื่ออี"


เรื่องราว 5 เรื่องที่ต่างคนก็มีความเสียใจและต้องการส่งของบางอย่างไปให้กับคนที่รักในอดีตจึงเดินทางมายัง "ศูนย์รับฝากความเสียใจ" ซึ่งอยู่ตรงจุดเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ระหว่างบนดินกับใต้ดิน ที่มุมหนึ่งของศูนย์การค้าใต้ดินแห่งสถานีรถไฟไทเป ในทุกๆ วันพุธ เวลาพลบค่ำตั้งแต่สิบเจ็ดนาฬิกาไปจนถึงหนึ่งทุ่มตรงซึ่งถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างกลางวัน กับกลางคืน ‘ศูนย์รับฝากความเสียใจ’ จะปรากฏขึ้น 

กฎของที่นี่คือ ห้ามส่งจดหมายหรือสิ่งของหาตัวเอง คนที่ส่งถึงจะต้องเคยเจอหน้ากันมาก่อน อีกทั้งไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ หรือบอกว่ามาจากอนาคต ทำได้เพียงเยียวยาหัวใจเท่านั้น และศูนย์รับฝากความเสียใจจะไม่ปรากฏให้เห็นโดยทั่วไป มีเพียงผู้แบกรับความเสียใจอยู่เต็มอกเท่านั้น จึงจะมองเห็นมัน 

เรื่องราวภายในเล่มแม้ว่าจะเป็นเรื่องสั้นของแต่ละครอบครัว แต่จริงๆแล้วตัวละครทุกตัวล้วนเกี่ยวโยงเชื่อมกันผ่านตัวละครหนึ่งอย่าง "จางถิงเยี่ยน" ชายชราคนหนึ่งที่เป็นต้นเรื่องที่เลือกนั่งข้าง เด็กสาว"จุ้ยอ้ายหมิน" แทนที่จะนั่งตรงอื่นเพราะมีที่นั่งว่างๆให้นั่งเยอะแยะในความคิดของเธอ แล้วจู่ๆเขาก็ลงรถไฟไปเมื่อถึงป้ายสถานีไทเปซึ่งทำให้เธอสบายใจมาก แต่เขาดันทิ้งถุงกระดาษหูหิ้วไว้บนที่นั่ง ทำให้เธอต้องรีบคว้าถุงแล้ววิ่งตามไปแต่กลับหาชายชราไม่เจอ อ้ายหมินจึงลองเปิดถุงดูแล้วพบว่าภายในนั้นมีจดหมายอยู่สามฉบับ เธอจึงตัดสินใจไปหาศูนย์รับฝากของเพื่อฝากถุงกระดาษนี้ หลังจากเดินหาอยู่นานกับเส้นทางที่วกวนราวกับเขาวงกตก็ได้พบกับศูนย์รับฝากความเสียใจและส่งของ ซึ่ง"หงเฮ่า" เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ก็แปลกใจเพราะของที่ต้องส่งมีหลายชิ้น ปกติจะมีเพียงชิ้นเดียว และสุดท้ายเรื่องราวทุกอย่างก็ได้รับการเยียวยาแม้แต่ตัวหงเฮ่าเองก็เช่นกัน

 



เล่มนี้อ่านแล้วรู้สึกเศร้าไปกับการต่อสู้เพื่อคนที่รักและการจากไปของคนในครอบครัว แรกๆก็เศร้าน้ำตาคลอแต่พออ่านๆไปเริ่มเฉยๆ มันก็อินกับเรื่องราวแต่เหมือนเราอ่านเรื่องราวแนวนี้มาหลายเล่มแล้วเลยเริ่มเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว้าวหรือตราตรึงใจขนาดนั้น แต่ก็ชอบเรื่องราวที่เขาเขียนนะโดยเฉพาะเรื่องของปู่กับหลานสาวที่เป็นครอบครัวแรกเลย อ่านแล้วน้ำตาคลอกับความรักของปู่ที่มีให้หลานสาว และการพยายามดิ้นรนหาเงินแม้ว่าจะต้องหยิบยืมจากคนอื่นเพื่อให้หลานสาวได้เรียนหนังสือ อ่านแล้วชอบเรื่องนี้มากที่สุดเป็นเรื่องที่กินใจที่สุดของเรา แต่ทุกเรื่องมันก็อบอุ่นใจนะ โดยเฉพาะตอนจบที่เฉลยถึงการกระทำของจางถิงเยี่ยน 

และนี่คือประโยคที่ชอบค่ะ 
"เรียนหนังสือไปก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่มันคือหลักประกันไปตลอดชีวิต มันทำให้หนูมีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น" 
"ความเสียใจมีไว้เพื่อให้เรารู้จักทะนุถนอมปัจจุบัน"

 



Create Date : 08 มิถุนายน 2566
Last Update : 9 มิถุนายน 2566 14:57:54 น. 0 comments
Counter : 107 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อารมณ์ติสท์ติดตัว
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3651244's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.