Group Blog
 
<<
มีนาคม 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 มีนาคม 2564
 
All Blogs
 
รีวิวหนังสือ "The book thief จอมโจรหนังสือ - มาร์คัส ซูซัค"



 

เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องผ่านทางยมทูต เล่าแบบบอกตอนจบก่อนแล้วย้อนเรื่องราวกลับไปเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงเหตุการณ์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในเยอรมนีถึงสภาพบ้านเมืองยุคเผด็จการนาซีที่ชาวยิวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และชาวเยอรมันก็ต้องลำบากกับการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องจากภาวะสงครามที่หนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบ้านของ"ฮันส์ ฮูเบอร์มาน" ปาปาของลีเซล ซึ่งเขาเกลียดสงครามและเคยไปรบช่วงสงครามโลกครั้ง ๑ และใครๆต่างรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ฝ่ายนาซี แถมยังได้ชื่อว่า "เป็นคนรักยิว" ในภายหลัง

ส่วนยมทูตเองก็มีงานล้นมือเพราะผู้คนล้มตายกันมากมายเต็มไปหมด บางคนก็วิงวอนให้เขามารับตัวไปทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาแต่วันหนึ่งเราจะได้พบกัน แล้วเขาก็ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งในวันที่เขาไปรับวิญญาณน้องชายของเธอที่ตายบนตู้โดยสารรถไฟหลังจากป่วยและไออย่างหนัก ขณะที่แม่กำลังพาเธอและน้องมาอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์เพราะความจำเป็น แต่น้องชายของเธอมาไม่ถึงและต้องทำการฝังศพระหว่างทาง และครั้งนั้นคือครั้งแรกที่ "ลีเซล เมมิงเกอร์ ขโมยหนังสือเล่มแรกหนังสือเกี่ยวกับการฌาปนกิจศพ" ที่เจ้าหน้าที่ทำตกไว้บนพื้นหิมะแล้วเธอเก็บมาทั้งที่อ่านหนังสือไม่ออก

แล้วในที่สุดเธอก็ได้มาอยู่กับครอบครัวใหม่ที่มีมามา และปาปาที่เธอรักเขาเป็นพิเศษเพราะแววตา การพูดจา การกระทำ และ หีบเพลงที่เขาเล่นให้เธอฟังที่ทำให้เธออุ่นใจ แล้วเขาก็ยังเป็นคนสอนให้เธออ่านหนังสือเล่มนั้นรวมทั้งหัดให้เธอเขียนหนังสืออีกด้วย และถึงแม้ว่าครอบครัวใหม่จะยากจนแต่เธอก็ไม่เคยอดอยากเพราะมามาทำงานรับจ้างซักรีดให้คนรวยและหนึ่งในนั้นคือบ้านนายกเทศมนตรีที่ทำให้เธอได้พบคุณนายของบ้านตอนที่ไปรับส่งผ้าให้มามา ที่แม้คุณนายจะดูซีดเซียว นิ่งงัน แต่ก็เป็นคนที่ทำให้เธอได้รับโอกาสในการอ่านหนังสือมากมายในห้องหนังสืออันน่าตื่นตาของเธอ

แต่สถานการณ์ต่างๆก็เลวร้ายลงเรื่อยๆตั้งแต่ที่รัสเซียร่วมมือกับอังกฤษในการสู้สงครามทำให้รัฐยิ่งกวดขันสิ่งต่างๆกับชาวบ้านมากขึ้นจนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และไม่มีบ้านไหนจ้างมามาซักรีดอีกเพราะต้องประหยัดเงิน ส่วนบ้านคุณนายเองก็ต้องเป็นตัวอย่างความประหยัดจึงทำให้บ้านหลังสุดท้ายที่จ้างงานมามาหลุดลอยไป แต่โชคร้ายก็ยังไม่พอสำหรับบ้านหลังนี้ที่วันหนึ่งก็ต้องซุก "แมกซ์" ชายชาวยิวไว้ที่ห้องใต้ดินและเลี้ยงปากท้องเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ท่ามกลางการกวาดล้างชาวยิวอย่างหนักของทางการ นั่นเพราะเขาคือลูกชายของเจ้าของหีบเพลงที่ปาปาเล่นมาจนทุกวันนี้ และเป็นคนที่ทำให้เขารอดตายจากสงครามโลกครั้งแรกมาได้และต้องการตอบแทนบุญคุณจึงทิ้งที่อยู่ไว้ให้ภรรยาของเพื่อนที่จากไปเพื่อวันหนึ่งหากต้องการความช่วยเหลือ

ส่วนแม่หนูลีเซลเธอก็มีเพื่อนรักคนสนิทนามว่า "รูดี้" เพื่อนแถวบ้านที่ทั้งเรียนและเล่นเตะบอลด้วยกันมานานตั้งแต่วันแรกๆและโน้มน้าวขอรางวัลเป็นการได้จูบกับเธอแต่จนวันสุดท้ายเขาก็ไม่ได้จูบเธออยู่ดี และระเบิดก็เริ่มลงหนักเรื่อยๆจนมาถึงแถวถนนฮิมเมลที่แปลว่าสวรรค์ แต่กลับมีแต่บ้านที่ยากจน บ้านของพวกเขา

 
 

เป็นหนังสือที่เราเคยอ่านนิดนึงเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัยแต่ตอนนั้นเรายังไม่อินกับเรื่องราวพวกนี้เลยเอาไปคืน พอวันหนึ่งอยากอ่านหลังจากที่ได้ดูหนังก็ปรากฎว่ากลายเป็นหนังสือหายากราคาแพงไปแล้ว

เล่มนี้เราอ่านอยู่ร่วมสองเดือน อ่านสลับกับเล่มนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระไปด้วย ทำให้เห็นภาพสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่สองที่โหดร้ายมากไปอีกเพราะเล่าเรื่องสงครามโลกที่เกิดขึ้นจริงและมีการเขียนถึงการสร้างโลกของฮิตเลอร์ที่ต้องการสร้างคนเยอรมันบริสุทธิ์ต่างๆนาๆ แม้แต่คนเยอรมันเองก็ถูกคัดสรรตามเกณฑ์ให้เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เลือดบริสุทธิ์เป็นชั้นหนึ่ง เลือดผสมจะถูกใช้แรงงาน อ่านแล้วก็เศร้า หดหู่ใจเลยอ่านไม่ได้นาน โดยเฉพาะฉากที่มี "แมกซ์" ชาวยิวผู้น่าสงสารแล้วก็นึกถึงภาพจากหนังที่เคยดู เรื่องราวจากหนังสือเด็กชายในชุดนอนลายทางที่ชาวยิวถูกทรมาน มันยิ่งจุกจนอ่านนานๆไม่ไหว สะเทือนใจขั้นสุด แต่ก็อ่านจบจนได้ แล้วก็ว่าจะไปดูหนังใหม่อีกรอบ เรารักเรื่องนี้มากมันทำให้เราเห็นถึงน้ำใจ ไมตรีที่หยิบยื่นให้แก่กันไม่ว่าจะลำบาก ยากจนและเห็นว่าคนก็คือคนไม่แบ่งแยกเหมือนที่มามา กับปาปาดูแลแมกซ์อย่างดีเท่าที่จะทำให้ได้

 

 




Create Date : 26 มีนาคม 2564
Last Update : 26 มีนาคม 2564 13:29:23 น. 0 comments
Counter : 457 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อารมณ์ติสท์ติดตัว
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3651244's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.