<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
18 ตุลาคม 2548

สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา...เจ้าชายน้อยฉบับเห็นด้วยใจ



เจ้าชายน้อย
อังตวน เดอ แซ็งเต็กซูเปรี เขียน
อริยา ไพฑูรย์ แปล
สำนักพิมพ์หนังสือยามเช้า จัดพิมพ์

เมื่อวานไปดูหนังเรื่องเพื่อนสนิทมาค่ะ ทำให้ข้อสงสัยว่าทำไมช่วงนี้หนังสือเจ้าชายน้อยถึงขายดีก็หายไป ในหนังให้ตัวละครเอกฝ่ายหญิงสองคน อ่านเจ้าชายน้อย คนแรกคือ "นุ้ย "ผู้รักหนังสือเจ้าชายน้อยมาก เจ้าชายน้อยฉบับที่ตัวละครชื่อนุ้ยอ่านนั้น เป็นเวอร์ชั่นที่แปลจากภาษาฝรั่งเศสโดยอำพรรณ โอตระกูล พิมพ์โดยสำนักพิมพ์เรือนปัญญา ส่วนเจ้าชายน้อยเวอร์ชั่นที่ตัวละครหญิงอีกคนคือ ดากานดา อ่านนั้นเป็นเวอร์ชั่นที่พงาพันธุ์ แปล พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ศรีสารา ทั้งสองเล่มแปลจากภาษาฝรั่งเศส และทั้งสองเวอร์ชั่นล้วนแล้วแต่เป็นเวอร์ชั่นที่มีภาพประกอบทั้งสิ้น

ส่วนเวอร์ชั่นที่ดิฉันกำลังจะพูดถึงนี้ เป็นฉบับที่ไม่มีภาพประกอบ ขนาดรูปเล่มเล็กกว่าหนังสือทั่วไป (สำนักพิมพ์หนังสือยามเช้า เขาตั้งใจทำหนังสือไซส์นี้ค่ะ ) และที่สำคัญเป็นฉบับที่เน้นประโยคหนึ่งในหนังสือของเจ้าชายให้เด่นขึ้นมาคือ ประโยคที่ว่า เราจะเห็นอะไรก็ด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา เจ้าชายน้อยฉบับเห็นด้วยใจนี้แปลโดย อริยา ไพฑูรย์ สำหรับสำนวนแปลของทั้งสามคน ดิฉันชอบสำนวนแปลของอริยา ไพฑูรย์มากที่สุดค่ะ

เจ้าชายน้อยเวอร์ชั่นนี้มีที่มาที่ไปค่ะ การไม่มีภาพประกอบก็เพื่อการเน้นธีมหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ คือสิ่งสำคัญไม่อาจเห็นด้วยดวงตา คนอ่านสามารถจินตนาการเจ้าชายน้อยของตัวเองได้ว่าจะให้หน้าตา อย่างไร รูปลักษณ์แบบไหน หนังเรื่องเพื่อนสนิทเลือกจับธีมเรื่องความสัมพันธ์ ยกประโยคที่เจ้าชายน้อยกับหมาป่าพูดจากันมาใส่ไว้ในเรื่อง ดิฉันว่าคุณค่าอันหนึ่งของหนังสือเล่มนี้คือ พูดถึงเรื่องหลากหลายมาก คนอ่านจะหยิบจับมุมไหนขึ้นมามองก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ ผู้คนประเภทต่างๆ หรือมายาคติต่างๆ ในการทำความรู้จักกับผู้คน ฯลฯ

แต่ที่ดิฉันสนใจ เวอร์ชั่นเห็นด้วยใจ นี้มากคือ เบื้องหลังหนังสือเล่มนี้ สำนักพิมพ์และผู้แปลเขามอบรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้เพื่อใช้ในการพิมพ์ วรรณกรรมเยาวชนเป็นหนังสืออักษรเบรลล์ แจกจ่ายแก่ห้องสมุดสำหรับคนตาบอดทั่วประเทศ วันก่อนได้คุยกับคุณอริยา ไพฑูรย์ ผู้แปลบอกว่า ตอนนี้จัดทำวรรณกรรมเยาวชนอักษรเบรลล์ได้หลายเรื่องและหลายปกแล้วค่ะ สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตาจริงๆ ใช่ไหมคะ ดิฉันฟังแล้วก็ปลาบปลื้มชื่นชมทั้งคุณอริยา และสำนักพิมพ์นี้จริงๆ ค่ะ

สำหรับคุณอริยา ไพฑูรย์ นี้ดิฉันถือว่าเป็นสุดยอดบรรณาธิการวรรณกรรมเยาวชนคนหนึ่งทีเดียวค่ะ เธอบรรณาธิกรณ์งานวรรณกรรมเยาวชนมาแล้วหลายเล่ม งานวรรณกรรมเยาวชนหนังสือของแพรวสำนักพิมพ์ หลายๆ เล่มเป็นงานบรรณาธิการของคุณอริยา ไพฑูรย์ เล่มที่หลายๆ คนรู้จัก อย่าง ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงก์ นี่ก็เป็นฝีมือบรรณาธิกรณ์ของคุณอริยาเธอล่ะค่ะ ดิฉันว่าคนที่จะทำงานวรรณกรรรมเยาวชนได้นั้นต้องมีจิตใจละเอียดอ่อน และมีจินตนาการสูง และใจเย็น คุณอริยา ไพฑูรย์ มีครบทุกอย่างที่ดิฉันว่ามาค่ะ

สำหรับคนที่มีเจ้าชายน้อยเวอร์ชั่น นี้ ดีใจด้วยนะคะคุณได้ช่วยให้มีหนังสืออักษรเบรลล์เพิ่มขึ้นในโลกนี้ ดิฉันว่าเวลาวันเกิด หรือวันปีใหม่ หรือวันอะไรก็ได้ที่คุณอยากแบ่งปันรายได้ของคุณ เรามาทำหนังสืออักษรเบรลล์กันเถอะค่ะ ค่าใช้จ่ายในการทำหนังสืออักษรเบรลล์ก็ไม่แพงมากนัก แต่หนังสืออักษรเบรลล์มีข้อจำกัดอยู่ที่พิมพ์ได้แค่เล่มละ 50 หน้า สำหรับเจ้าชายน้อยเล่มเล็กๆ นี้เมื่อจัดทำเป็นหนังสืออักษรเบรลล์ต้องถูกแบ่งเป็นสองเล่ม ราคาจัดทำต่อหนึ่งชุด 300 บาท (ราคาค่ำจัดทำขึ้นอยู่ความหนาของหนังสือด้วยค่ะ ) คุณอริยาแนะนำว่า ถ้าสนใจจะทำหนังสืออักษรเบรลล์ ควรรวบรวมเงินให้จัดพิมพ์หลายๆ เล่มต่อหนึ่งเรื่อง พิมพ์ครั้งเดียวแต่ได้หลายจำนวนเล่ม เพื่อพอแจกจ่ายหนังสืออักษรเบรลล์ให้ห้องสมุดที่มีหนังสือสำหรับคนตาบอดทั่วประเทศด้วยค่ะ


ดูรายละเอียด เพิ่มเติมเรื่องการจัดทำหนังสืออักษรเบรลล์ ได้ที่นี่ค่ะ ศูนย์เทคโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด ที่เขามีห้องสมุดคอลฟิลด์น่ะค่ะ
//www.blind.or.th/Tecnology.htm



Create Date : 18 ตุลาคม 2548
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 17:14:26 น. 83 comments
Counter : 3758 Pageviews.  

 


โดย: ฉี่เฉี่ยวถัง วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:8:38:41 น.  

 
โอ้โห น่าสนใจจัง

จดไว้ๆ ... ไม่ทราบว่างานแปลที่ถือลิขสิทธิ์อยู่จะเอาไปทำหนังสืออักษรเบรล์ได้มั้ยคะ ทางสนพ. เขาจะว่าเราละเมิดหรือเปล่า แต่ที่จริงเราก็ไม่ได้เอาไปทำการค้าขายนี่เนอะ แต่ถ้ารออีกสักห้าปี ลิขสิทธิ์ก็เป็นของหนูคนเดียวแล้ว ... อิอิ...

เคยได้ยินว่ามีโปรแกรมที่แปลงไฟล์เป็นอักษรเบรลล์และพรินท์ด้วยเครื่องพรินเตอร์แบบพิเศษ ... ถ้าทำแบบนั้นน่าจะมีประโยชน์ ถ้ามีจะได้ส่งไฟล์ให้ไปพิมพ์แจกจ่ายให้ห้องสมุดคนตาบอด

เคยมีความคิดจะอ่านงานตัวเองอัดเสียงลงเทปให้คนตาบอดฟัง แต่ทนฟังเสียงตัวเองไม่ไหว.. เลยพักไป


โดย: Mutation วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:8:50:12 น.  

 
เฉิ่มเบ๊อะจริงเลยหนู... เมื่อกี้คลิกเข้าไปที่ลิงค์ของพี่ เห็นว่าเขารับไฟล์โปรแกรมเวิร์ดด้วย .... อืมๆๆๆ ... เดี๋ยวจะลองไปถามท่าน บ.ก. ที่วรรณกรรมดอทคอมดูว่าท่านสนใจส่งไฟล์หรือเปล่า ... คนตาบอดจะได้มีงานแปลดีๆ ได้อ่านกัน... ส่วนของหนู เดี๋ยวจะลองถามสนพ. ดูว่าเขาว่าไรหรือเปล่า ... ถ้าไม่ว่าไร จะส่งโลด...


โดย: Mutation วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:8:54:07 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

วันนี้พกเล่มนี้มาด้วยพอดีเลย
ชอบพกหนังสือแม้จะรู้ว่าไม่มีเวลาอ่านก็เถอะ

เคยไปช่วยงานพิมพ์หนังสือเรียนให้นร. ตาบอดที่ไปเรียนร่วมกับเด็กปกติในรร. เหมือนกันนะคะ แต่ทำไปทำมาเกิดขี้เกียจ เลยเลิกไปเฉยๆ


โดย: rebel วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:9:27:16 น.  

 
อยากได้จังเลยค่ะ เวอร์ชั่นนี้ รอสิ้นเดือนก่อนจะหาซื้อให้ได้เลย



เข้าไปอ่านในเว็บแล้วค่ะ

อยู่ไม่ไกลเราเลย สนใจเรื่องอ่านหนังสือลงเทปค่ะ เอาไว้จะโทร.ไปถามเค้าดู


ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาบอกกันนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:9:38:39 น.  

 
เรียนคุณพี่ grappa จากใจ

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าถ้าจะจีบใคร ผมจะมอบหนังสือเรื่อง 'เจ้าชายน้อย' ให้เธอคนนั้น แต่ทุกวันนี้หนังสือเล่มนั้นก็ยังวางอยู่ที่เดิมของมัน

น่าสนใจครับที่ทำเป็นอักษรเบลล์ คนตาบอดจะได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในหนังสือ เป็นกำลังใจให้คนทำที่รู้ว่ากำไรที่ได้มาคงน้อยนิด แต่เต็มไปด้วยคุณค่าต่อคนมากมาย


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:9:41:10 น.  

 
-คุณสาวไกด์ฯ
ลืม บอกไปค่ะ ว่าเวอร์ชั่นนี้ สำนักพิมพ์เขาจะไม่ทำแล้ว
ไม่มีขายแล้ว เขาพิมพ์มา สี่-ห้ารอบแล้วค่ะ
เขาอาจจะจัดทำเวอร์ชั่นอื่นๆ แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไปค่ะ

- มิวเตชั่น
ถ้าอยากจัดทำหนังสืออักษรเบรลล์
อย่างที่บอก รวบรวมเงินให้ได้ก้อนใหญ่ๆ
แล้วจัดทำหนึ่งเรื่อง แต่หลายจำนวนเล่มดีกว่าค่ะ
ดิฉันเสนอว่าอย่าทำเรื่องเดียว ก็อปปี้เดียว
เพราะว่าพิมพ์ครั้งเดียว เรื่องเดียว แต่หลายก็อปปี้จะเป็นประโยชน์ในวงกว้างกว่าค่ะ

-คุณ เจอกันชาติหน้า (ก็ตั้งชื่อล็อกอิน อย่างนี้ ชาตินี้จะเจอใครล่ะนี่ อิอิ )

กำไรที่ได้จากหนังสือเจ้าชายน้อยเวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่น้อยนิดนะคะ เห็นคุณอริยาบอกว่าได้กำไรหลายแสนแล้วค่ะ
แล้วคุณอริยาก็เอาเงินที่ได้จากการพิมพ์เวอร์ชั่นนี้ไปทำหนังสืออักษรเบรลล์หมด


โดย: grappa วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:10:14:09 น.  

 
อิอิ... คุณเจอกันชาติหน้าคะ

เราเคยซื้อเล่มนี้แล้วมอบให้คนที่เราชอบไปสามสี่ครั้งแล้วค่ะ
...แต่สงสัยว่า เขาเหล่านั้น คงจะอ่านแล้วเอาหนังสือให้คนอื่นต่อ


จนถึงป่านนี้
เลยยังต้องรดน้ำพรวนดินดอกกุหลาบอยู่เงียบๆ คนเดียว 555+


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:10:24:20 น.  

 
ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาแบ่งปันนะค่ะคุณกรัปป้า ...
การได้ช่วยสังคมถือว่าได้ทำประโยชน์อันล้นหลาม
เลยค่ะแม้ว่าจะไม่ได้มากมายก็ตาม ( ในความรู้สึก )


โดย: JewNid วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:10:27:36 น.  

 


โดย: oryzaja วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:11:27:53 น.  

 
เคยไปอ่านหนังสืออัดเทปให้โรงเรียนสอนคนตาบอดน่ะค่ะ แต่ต่อมาทำคู่มือหาย เครื่องอัดก็พัง เลยไม่ได้อ่านอีกเลย ว่าจะไปเอามาทำอีกก็ไม่ได้ไปเสียที

แต่จริงๆ แล้วอ่านด้วยอักษรเบรลล์น่าจะได้อารมณ์แบบส่วนตัวซึมซับเองมากกว่าเนอะ

อ้อ แล้วที่โรงเรียนเคยบอกมาว่าที่อยากได้มากๆ คือคนช่วยอ่านตำราเรียนอัดเทปเพื่อเตรียมสอบค่ะ


โดย: ลูกสาวโมโจ โจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:12:29:23 น.  

 
เห็นด้วยกับเรื่องพี่เอ๋ อริยาค่ะ เป็นบรรณาธิการที่น่ารักมากๆ


โดย: มณฑารัตน์ วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:12:53:45 น.  

 
แวะมาอ่านค่า


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:12:57:14 น.  

 
หลงรักวรรณกรรมเจ้าชายน้อยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ
สะสมวรรณกรรมเจ้าชายน้อยฉบับภาษาต่างๆด้วย...ทั้งๆที่อ่านไม่ออก 5555
มีฉบับแปลไทยทุกเวอร์ชั่น ยกเว้นของคุณอริยา ไพฑูรย์....อืมมมม...ไม่รู้สินะคงเพราะชอบภาพประกอบเรื่องเจ้าชายน้อยมังคะ พอเห็นว่าเล่มนี้ไม่มีภาพประกอบเลยไม่ซื้อเก็บไว้ แต่ถ้าเงินรายได้จากการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้เพื่อจะนำไปใช้ในการพิมพ์ วรรณกรรมเยาวชนเป็นหนังสืออักษรเบรลล์ แจกจ่ายแก่ห้องสมุดสำหรับคนตาบอดทั่วประเทศ ก็คงทำให้ต้องหาเจ้าชายน้อยฉบับอริยา ไพฑูรย์มาไว้ในครอบครองแล้วค่ะ....


โดย: สเลเต วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:17:12:01 น.  

 
^
^
ตามที่ได้บอกคุณสาวไกด์ฯ ไปเจ้าชายน้อย
ฉบับเห็นด้วยใจ นี่ไม่มีขายแล้วค่ะ
หมดแล้ว ขายล่าสุดคืองานหนังสือที่ผ่านมา

แต่ก่อนหน้านี้เจ้าชายน้อยฉบับที่พี่เอ๋ อาริยา
แปล ก็มีฉบับที่มีภาพประกอบนะคะ
พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สามสี และสำนักพิมพ์กาลเวลา
ฉบับที่พิมพ์กับสำนักพิมพ์สามสี เป็นฉบับปกแข็งสวยงาม
เพื่อครบรอบ 50 ปีของการจากไปของอังตวน แซ็งเต็ก ซูเปรี คุณสเลเตสะสมหนังสือเจ้าชายน้อย ถ้าพลาดเวอร์ชั่นนี้ ขอบอกว่าไม่ใช่นักสะสมตัวจริงนะคะ อิอิ (หมดไปจากแผงนานแล้วเช่นกันค่ะ )


โดย: grappa IP: 61.91.178.58 วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:18:13:29 น.  

 
หมดเเล้วหรือครับ อ่านเเล้วอยากจะซื้อ
เพื่อช่วยเหลือเรื่องจัดทำหนังสือเป็นอักษรเบลน่ะครับ
น่าเสียดายจังเลยครับ งานหนังสือครั้งนี้ ผมไม่ได้ไปเลย
ก็เลยอดทุกอย่างที่อยากซื้อเลย เสียดายจัง


โดย: Dark Secret วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:21:56:26 น.  

 
เคยอ่านเจ้าชายน้อยตั้งแต่สมัยเรียนมหา'ลัย อ่านในห้องสมุดค่ะ สมัยนั้นเป็นหนังสือที่อยู่ในความสนใจของผู้คนเยอะมากๆ ฝนลองอ่านนะ แต่ว่าบางตอนก็ไม่เข้าใจ เลยยืมไปอ่านตั้งหลายวัน แต่ปรากฏว่ามันเป็นหนังสือที่คนยืมเยอะ เค้าเลยกำหนดว่าให้เอามาคืนภายใน 3 วัน แต่ฝนก็อ่านอยู่นั่นแหละ ยืมไปนานมากๆ แบบว่าเอามาคืนอีกทีโดนปรับไปเกือบร้อย

ป.ล. มีรุ่นพี่ฝนคนนึงเค้าชอบเจ้าชายน้อยมาก ชอบจนทำเว็บไซต์ให้เจ้าชายน้อยเลยล่ะค่ะ แต่ฉบับพี่เอ๋ยังไม่ได้ลองอ่านนะคะ และเพิ่งรู้ว่าเอารายได้ไปช่วยเหลือคนตาบอด เป็นแนวความคิดที่ดีมากๆ เลยค่ะ


โดย: foneko IP: 61.90.98.40 วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:23:39:15 น.  

 
ผมมีแต่เวอร์ชั่นของพงาพันธ์ ไปหาซื้อที่ K14 ก็ไม่มีเหลือแล้ว


โดย: แบ่งกันเซ็ง IP: 58.10.50.147 วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:1:02:51 น.  

 
ซี้พี่ระบบมาเยือน


โดย: rebel วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:8:27:00 น.  

 
สมัยเด็กๆ อ่านฉบับแปลของพงาพันธุ์กับอาจารย์อำพรรณครับ (มักสับสนระหว่างอาจารย์อำพรรณกับอาจารย์อำภา สุดท้ายก็เลยจำว่า "อำภา...เยอรมัน อำพรรณ...ฝรั่งเศส"

แต่ฉบับที่ซื้อกลับเป็นฉบับที่พี่เอ๋แปล (ของสำนักพิมพ์สามสีฉบับปกแข็งนั่นแหละ)

ผมชอบทุกสำนวนแปลครับ เพราะคิดว่าต่างก็แปลได้ดี อาจมีรายละเอียดแตกต่างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอ่านฉบับไหนแล้วขัดเขินหรือแปลกๆ

ขอบคุณครับที่เอาเรื่องโครงการพิมพ์หนังสืออักษรเบรลล์มาเล่าให้ฟัง วันก่อนได้คุยกับพี่เอ๋ แกแค่บอกว่าจะขอเอา "เจ้าชายไม่วิเศษ" ไปทำหนังสืออักษรเบรลล์ แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียดมากอย่างที่คุณกรัปป้าเล่า


โดย: ปรีดา (Aka Prita ) วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:10:07:27 น.  

 
^
^
ใช่แล้วค้า
เห็นพี่เอ๋ บอกเหมือนกันว่ากำลังทำเจ้าชายไม่วิเศษอยู่( (ผู้เขียนมาเอง อิอิ )


โดย: grappa วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:13:16:06 น.  

 
Image Hosted by ImageShack.us


โดย: erol วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:14:38:28 น.  

 
ทำไมวันนั้นเราไม่ซื้อไว้ก่อนจะหมดนะ.. น่าเสียดายจัง


โดย: CTL IP: 202.28.35.1 วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:18:16:06 น.  

 
ชื่นชมทั้งวรรณกรรมเรื่อง "เจ้าชายน้อย"
แล้วก็โครงการดีๆ ที่เป็นโครงการ
เพื่อช่วยเหลือสังคม อย่างโครงการ
พิมพ์หนังสือวรรณกรรมเยาวชน
ฉบับอักษรเบรลล์ด้วยค่ะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:20:08:35 น.  

 
ขอบคุณค่า


โดย: rebel วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:20:42:41 น.  

 
ฮั่นแน่คุณ erol เอาผีเสื้อมาชมดอกกุหลาบอิชั้นหรือคะ อิอิ

หนู รีเบล เสียดายหนังไม่หนุกเนอะ


โดย: grappa วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:21:27:05 น.  

 
พี่ เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกหรอก
กำลังคิดอยู่ว่าถ้าดู ticket of no return ก่อน จะวิ่งร้อยเมตรไปทันรึเปล่าน่ะค่ะ

บลอกวันนี้รออีกสักพักคะ พยายามหาเพลงจากหนังเมื่อวานแต่หาไม่เจออ่ะ


โดย: rebel วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:8:12:20 น.  

 
อัพบลอกแล้วค่า


โดย: rebel วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:9:28:41 น.  

 
อิอิ คนข้างบนเข้าไปเม้นแล้วเน้อ

เมื่อวานไปดูหนังเทศกาลเวิร์ลฟิล์มบางกอก เรื่องแรก คือ หนังฝรั่งเศส มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Not on the Lips (ห้ามจูบปาก-แปลเองง่ายๆ ) ไม่คอ่ยชอบเลยค้า ดูไปหลับไป เป็นหนังเพลงที่ดัดแปลงมาจากโอเปร่า คอสตูมเรื่องนี้เลยหรูหราไฮโซซะไม่มี
วันนี้บล็อกของ Rebel เล่าเรื่องนี้ไว้ ใครสนใจเนื้อเรื่องตามไปอ่านได้นะคะ


โดย: grappa วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:9:47:15 น.  

 


โดย: rebel วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:9:55:23 น.  

 
ตามข้างบน


โดย: erol วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:10:54:25 น.  

 
^
^
^


โดย: rebel วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:11:06:18 น.  

 
งื้อ อยากไปดูหนังอ่ะพี่ แต่ทำงานมะทันแย้ว ต้องคอยอยู่บ้านซื้อข้าวให้แม่ด้วย แม่พักฟื้นจากการผ่าสลายต้อกระจกอ่ะค่ะ


โดย: ลูกสาวโมโจ โจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:13:08:16 น.  

 
สวัสดีค่ะ

จะบอกว่า ความรู้สึกที่คุณ graapa ได้บอกไว้ที่บล็อกเราเรื่องหนัง "เพื่อนสนิท" น่ะค่ะ เราเองก็รู้สึกเหมือนกันเยย


คือ หนังน่ะทำให้สตอรี่เด่นชัดขึ้นจริงๆ ค่ะ (คงเพราะหนังสือพยายามทำให้เป็นกึ่งสารคดีเพื่อการประกวดอย่างที่ได้บอกไว้แล้วอะนะคะ) แต่ความรู้สึกของไข่ย้อยในหนังสือมันสัมผัสถึงความเจ็บปวดได้มากกว่าน่ะค่ะ (แต่คุณ grappa ว่าเยอะไปหน่อยใช่มั้ยคะ?


เพลงเราก็ชอบเวอร์ชั่นตั้มนะคะ อย่างที่บอกมันได้อารมณ์เจ็บปวดมากกว่า แต่เราว่าหนังมันไม่ได้ทำให้ออกมาเจ็บปวดขนาดเวอร์ชั่นคุณตั้มน่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าเวอร์ชั่นคุณบอยเหมาะกับหนังมากกว่า


อิจฉาคนได้ดูหนังจังค่ะ


เราเองคงต้องรอเดือนหน้าเลยแหละจึงจะได้ดู


เรื่องไปต่างจังหวัดกับไปต่างประเทศ ไม่ได้ไปเที่ยวหรอกค่ะ ไปทำงานน่ะ งานโหดด้วยสิคะ ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างเลย


ช่วยส่งกำลังใจและอวยพรให้ประสบความสำเร็จด้วยละกันค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:13:48:44 น.  

 
อ้อ..ได้มารู้ในบล็อกคุณ grappa ว่าเจ้าชายไม่วิเศษได้ทำเป็นหนังสืออักษรเบรลล์ด้วย

ดีจัง ดีใจ เดี๋ยวไปยินดีกะปรีดาหน่อยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:14:01:19 น.  

 
อะไรเนี่ย สมองช่วงนี้ไม่ปกติเลย

คอมเม้นท์อีกค่ะ


เสียดายจังที่ไม่มีเวอร์ชั่นนี้แล้ว อยากได้มากๆ ค่ะ


สักวันในอนาคตก่อนเราจะอำลาโลก


น่าจะมีคนพิมพ์ออกมาอีกล่ะมั้งนะคะ



จะรอซื้อในวันนั้นแล้วกัน


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:14:06:51 น.  

 
น่าสนใจจังเลย

ปกเล่มนี้สวยดีนะ เรียบๆดี ชอบ


โดย: to be continued วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:16:53:07 น.  

 
โอ น่ารักมากเลยค่ะ เรื่องที่เอากำไรจากการขายหนังสือมาพิมพ์เป็นหนังสืออักษรเบลล์ให้เด็กตาบอด

เรื่องอ่านนิทานให้เด็กตาบอดฟังเคยได้ยินโฆษณาทางวิทยุบ่อยๆค่ะ...ฟังแล้วก็คิดว่า เอ๊ะ ดีจัง มีกิจกรรมอะไรดีๆแบบนี้ด้วย อยากอ่านเหมือนกันคะเนี่ย แต่คิดคงไม่ไหว แหะ แหะ

ปล. อด และ อด เจ้าชายน้อย เสียดายจริงๆค่ะ


โดย: Crisis IP: 58.8.185.205 วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:19:15:30 น.  

 
ตกลงไปดูเรื่องไหนคะ
แขดู ticket of no return ได้เรื่องเดียวค่ะ หนาวมาก ถ้าดู 2 เรื่องกลัวจะจับไข้ซะก่อน ชอบนะคะเรื่องนี้ ชักอย่างตามล่าหนังของ ottinger ซะแล้ว


โดย: rebel วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:20:25:24 น.  

 
วันนี้ดู 2 เรื่องอ่ะแข
I Am a Sex Addict
Joan of Arc of Mongolia
ทั้งสองเรื่องไม่มีซับไตเติ้ล
เรื่องแรก รู้ก่อนหน้าอยู่แล้ว และเห็นว่าพูดภาษาอเมริกัน ยังไงก็คงรู้เรื่องบ้าง

I Am a Sex Addict เป็นคอมเมดี้ที่สนุกเรื่องหนึ่ง พระเอกของเรื่องนี่บางช่วงก็มีความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับคู่รัก และต่อมาก็มีภรรยาแล้ว และแตเขาสารภาพว่ายังอยากมีเซ็กซ์กับผู้หญิงอื่น เขายังคงมีเซ็กซ์กับโสเภณีและชอบ Blow Job มาก หนังไม่ได้โป๊มากมาย หรือเซ็กซ์โจ๋งครึ้ม แต่มีแบบขำๆ อ่ะ พระเอกเองพยายามไปหานักบำบัดเพื่อรักษาตัวเอง และบางทีหาหนังสือว่าด้วยMonogamy มาอ่าน แต่เขาก็ทำไม่ได้ ตอนจบก็แฮปปี้เอ็นดิ้งด้วยการที่เขาเจอผู้หญิงที่เข้าใจเขา และเวลาที่ทะเลาะกัน เขาก็พยายามพูดคุยปรับความเข้าใจกับภรรยา แทนที่จะไปมีเซ็กซ์กับโสเภณีอีก หนังมีฉากฮา ๆ ขำ ๆ หลายฉาก หนุกดี
บางช่วงพระเอกย้ายไปอยู่ปารีส ได้เห็นหลุมศพของซาร์สต์และซีโมน เดอ โบวัวด้วยอ่ะ ชอบๆ

ส่วนเรื่องหลัง Joan of Arc of Mongolia นี่โกรธมาก เพราะเข้าไปดูแล้วไม่มีซับไตเติ้ลเฉยเลย ในเว็บและโปรแกรมหน้าโรงบอกว่ามีซับ ก็ดูไปเรื่อย ฟังภาษาเยอรมันไม่ออกสักตัว ฟังออกอยู่คำเดียวคือ คำว่าอูลานบาตอร์ (เมืองหลวงของมองโกเลีย-ซึ่งก็ไม่ใช่ภาษาเยอรมัน ) แล้วแถมเรื่องนี้ก็ไดอาล็อกกันยาวๆ มาก อดทนเพราะอยากดูฉากประเทศมองโกเลีย แต่พอถึงมองโกเลียก็มีคนมองโกลพูดภาษามองโกเลียยาวมากอีก โดยมีซับเยอรมัน ทนไม่ไหว ออกมาก่อนหนังจบ (ตอนออกมาหนังเกือบจบแล้วล่ะ ) ยิ่งดูยิ่งไม่รู้เรื่อง ทรมานมาก ไม่เข้าใจว่าคนเยอรมันไปมองโกเลียทำไม คนมองโกเลียคิดอย่างไรกํบคนเยอรมัน แถมมีคนมองโกเลียสองฝ่ายที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจกันอีก

คนไทยดูหนังเยอรมันที่พูดภาษาเยอรมัน บางครั้งพูดภาษาฝรั่งเศส (เพราะมีคนฝรั่งเศสเดินทางไปด้วย )โดยมีซับเยอรมัน และคนมองโกลพูดภาษามองโกเลียโดยมีซับเยอรมัน
โอว โลกนี้มันช่างยีสต์อะไรอย่างนี้นี่

ทนไม่ไหว ออกมาดูโปรแกรมหน้าโรง มันก็เขียนว่ามีซับอังกฤษนี่นา แถมทีมงานก็หายไปหมดแล้ว กำลังคิดว่าพรุ่งนี้จะโวย ว่าทำไมข้อมูลไม่ตรงกัน น้องๆ ทีมงานก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้ ถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมครับ มีสิน้อง พี่จะโวยทำไมข้อมูลของน้องบอกว่ามีซับอังกฤษ แต่พี่เข้าไปดูแล้วไม่มี มีแต่ซับเยอรมันบางช่วง น้องๆ บอกว่าทางคนจัดงานส่งฟิล์มมาผิดเวอร์ชั่น และยินดีคืนเงิน พร้อมทั้งขอโทษขอโพยอย่างดี ก็เลยรอดไป ไม่ได้รับการโวย

คิดว่าทีมงานตรงเมโทรโพริสดีกว่าทีมงานตรงแกรนด์อีจีวี อย่างเวลาไปให้เขาเขียนคูปองลดครึ่งราคาหนังที่เราจะดู น้องเขาเขียนชื่อเรื่องเตรียมไว้แล้ว พอไปบอกชื่อเรื่องเขาก็ฉีกให้เลย ไม่ต้องยืนรอเขียนทีละเรื่องเหมือนทีมงานตรง แกรนด์อีจีวี (ซึ่งถามอะไรก็ทำหน้างง ตลอด)

อย่างไรก็ตามหนัง ottinger มีความประหลาดล้ำ และเร้าใจมาก ถ้าไม่มีอุปสรรคเรื่องภาษาคงสนุกกว่านี้ และที่ชอบอีกอย่างคือหนังเรื่องนี้ทำให้เห็นว่ารถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ชั้นหนึ่งนี่ไฮโซมาก มีห้องเสบียงหรูหรา แถมมีอาหารเช้ามาเสริ์ฟถึงเตียง เหมือนโรงแรมชั้นหนึ่งเลย

อ้อ ระหว่างรอดูเรื่องที่สอง วิ่งไปงานฉลอง Aniversary ของเกษรพลาซ่า ยังโทรหาแขเลย (แต่หนูปิดมือถือ คงดูหนังอยู่ ) อยากให้มาชิมสลัดคาเปรเซ่ (ที่พูดถึงในดื่มดินกินแดดน่ะ ) และไวน์อิตาลี ที่งานเขามีออร์เดิร์ฟอร่อยๆ หลายอย่าง



โดย: grappa วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:23:42:23 น.  

 
ซื้อหนังสือเล่มนี้มาเหมือนกันครับ ชอบที่ไม่มีรูปนี่แหละครับ ก็เลยซื้อมา
(อยากลองมองด้วยใจบ้างประมาณนั้น อิอิ)

เพิ่งรู้นะครับ ว่าซื้อแล้วได้บุญด้วย :D


เพิ่มเติม:

ไปดูเรื่อง Joan of Arc of Mongolia มาเหมือนกันครับ (ตอนผมซื้อตั๋ว เค้าก็บอกนะครับว่าไม่มีซับ , สงสัย พนักงานลืมบอกคุณกรัปป้าน่ะครับ)

ตอนดูช่วงแรกๆ ก็งงๆ
(เผลอหลับไปเกือบยี่สิบนาทีด้วย)
แต่ไปๆ มาๆ พอตั้งใจดู
ก็สนุกดีเหมือนกันนะ
(สนุกทั้งๆ ที่ดูไม่รู้เรื่องนั่นแหละ) ดูฉากในมองโกลมัน Exotic ดี อิอิ

แบบเชือดวัว เชือดสัตว์ นี่สยองสุดๆ

ส่วนตอนจบก็จี๊ดดี (อย่างไรก็ดี ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ผมเข้าใจว่าจี๊ดน่ะ ม้นเข้าใจตรงกับที่ผกก. จะสื่อรึเปล่า 555)

ป.ล.
- เห็นด้วยครับ ว่ารถไฟหรูมากกก (นี่ขนาดตั้งแต่ปี 89 นะเนี่ย) และเห็นด้วยอีกเช่นกันที่พนักงานที่เมโทรฯ ดีกว่า (เพราะถามอะไร ก็ไม่ทำหน้าหงิก หน้างอเหมือนที่อีจีวี แกรนด์)

- เสียดาย คุณกรัปป้าไม่ได้ดูหนังสั้นสึนามิ ชอบมากกก โดยเฉพาะหนังของคุณปุ่นและคุณเจ้ย (หนังของคุณปุ่น after shock สมชื่อจริงๆ)


โดย: it ซียู วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:0:34:06 น.  

 
^
^
ขอแก้นิดนึง
จาก "(เพราะถามอะไร ก็ไม่ทำหน้าหงิก หน้างอเหมือนที่อีจีวี แกรนด์)"

เป็น
"(เพราะถามอะไร ก็ทำหน้าหงิก หน้างอ ไม่เหมือนที่อีจีวี แกรนด์ ยิ้มตลอด)"

- ส่วนคห. เพิ่มเติมอื่นๆ เกี่ยวกับหนังของ Ottinger

ชอบบรรยากาศในเรื่องหลายๆ ส่วนมากกก ทั้งแก๊งสตรีสามช่า (ที่ทำตัวสามช่าได้ทั้งบนรถไฟและในมองโกล) และฉากที่มองโกลก็สวยสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นทะเลทราย หรือ ท้องทุ่งสีเขียวสด (อยากมีโอกาสไปมั่งจัง)

สรุป ไปๆ มาๆ เหตุผลที่ชอบ ...ชอบเพราะ บรรยากาศ และตัวละครประหลาดๆ ไม่ได้ชอบเพราะเนื้อหาแต่อย่างใด (เพราะเนื้อหา ดูไม่รู้เรื่องเลย ฮา!)


โดย: it ซียู วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:0:49:00 น.  

 
อ่าว ชวดของอร่อยไปซะแล้ว ตอนจะกลับแขก็เดินผ่านเกษรนะคะ เห็นคนเค้ามุงๆกัน แต่ไม่รู้ว่าเค้าทำอะไรกันเลยเดินต่อไปเรื่อยๆ

อัพบลอกเช้าวันนี้แล้วค่ะ หวัดกินแล้ว เลยยิ่งตื่นเช้าไปใหญ่เลย


โดย: rebel วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:5:44:34 น.  

 
อ่อ ข้อมูลเรื่องซับยึดตามเวบดีกว่าค่ะ โปรแกรมที่แจกมากับหนังสือนี่มีซับทุกเรื่องเลย - มั่วกันเห็นๆ โรงหนังก็คงยึดตามใบนี้เหมือนกัน

เอรูปใบปิด โจนออฟ อาร์ค ออฟ มองโกเลียมาฝากค่ะ



ตามไปอ่านในเวบเธอต่อนะคะ ข้อมูลน่าสนใจเยอะเชียว
//www.ulrikeottinger.com/en/fjoh-d.html

สมัครเป็นแฟนคลับป้าอ๊อตดีกว่า หนังเท่ห์มาก


โดย: rebel วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:5:55:52 น.  

 
Thank you very much for your good story krab!


โดย: POL_US วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:6:58:22 น.  

 
กลับมาที่รถไฟนิดนึง หลังจากสหภาพโวเวียตล่มลงไป รถไฟสายนี้ก็โทรมมากเลยค่ะ แล้วก็ออกจะอันตรายด้วย ทางที่แล่นไปฝั่งยุโรปตะวันออกนี่มีโจรชุกชุมพอควร เพื่อนที่เคยไปแบคแพคเธอบอกว่าต้องนอนกำมีดกันเลยทีเดียว เพราะมีคนเดินกันขวักไขว่ และมีข่าวว่ามีการสอดท่อปล่อยควันเข้ามาวางยา เพื่อจะขโมยของด้วยค่ะ

คิดถึงอดีตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศแถบนี้แล้วก็ใจหาย

แต่ถ้าภาษาแข็งแรง และมีทุนเมื่อไหร่ก็อยากไปนั่งดูสักทีเหมือนกันนะคะ


โดย: rebel วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:7:10:08 น.  

 
อ๊ากกก ขอบคุณคุณ rebel มากๆ ครับ สำหรับลิงค์

สแกนๆ ดูแล้ว รู้สึกว่ามีประโยชน์มากเลย (เพราะมีสัมภาษณ์ออททิงเงอร์ด้วย)

ตอบคุณ grappa
...ร้องเพลงยาวๆ นี่ฉากไหนครับ ไอ้ที่ทำพิธีกรรมแล้วร้องเพลงยาวๆ หรือตอนส่งขึ้นรถไฟ?

ส่วนตอนจบ ก็จบลงที่ในที่สุด เจ้าหญิงก็ปล่อยตัวประกันทั้งหลาย ให้เดินไปตามวิถีทางของพวกเธอ ...ในที่สุด หลังจากได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกัน การเดินทางของสตรีเจ็ดนางก็ต้องดำเนินต่ออีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ในตอนจบ ดูเหมือนว่าจะมีสตรีในขบวนเดินทางนางหนึ่ง อยากจะอยู่กับชาวมองโกลต่อ (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าชื่ออะไร Giovanni รึเปล่าครับ คนที่หน้าตาเรียบๆ ดูปกติสุดอ่ะครับ จะอธิบายยังไงดี?) เธอก็โบกมืออำลา บ๊าย บายกับทุกๆ คน

ตอนดูฉากนี้ ดูแล้วซึ้งมากกกก (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะซึ้งไปทำไม) คงเพราะเหมือนเห็นว่ามีบางคนติดใจวัฒนธรรมมองโกล เลยซึ้งมั้งครับ

แต่.... พอจบจริงๆ เจ๊ออททิงเงอร์แกล้งผมครับ

เพราะไปๆ มาๆ เจ๊ที่ตอนแรก ทำท่าว่าจะอยู่กับชาวมองโกล กลับรีบขี่ม้า และขึ้นมาบนรถไฟได้ทันเวลาพอดี

แล้วเมื่อรถไฟถึงอุโมงค์ ก็มีเสียงพูดอะไรก็ไม่รู้ (เสียงของคนที่เล่าเรื่องตั้งแต่แรกน่ะครับ) พูดสรุปตอนจบ แล้วหนังก็จบลงด้วยแสงที่ค่อยๆ ริบหรี่ในอุโมงค์

จนดำมืดในที่สุด....
(ไม่รู้จะช่วยได้ไหมครับ เพราะตัวเองก็ดูแบบงงๆ เช่นกัน ฮา!)

- อืมม... ไปอ่านที่คุณแมดฯ เขียนในเว็บไบโอฯ เพิ่งนึกได้ ว่าชอบตอนแผ่นดินแยกมากกก ประหลาดล้ำอย่างแรง

- ส่วนหญิง ชาย ไม่ถูกกัน น่าจะใช่นะครับ ดูเหมือนในเรื่องจะมีซับ - พล็อตย่อยๆ หลายอย่าง ทั้งการแสดงให้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่างของตะวันตก, ตะวันออก หรือจะเป็นความแตกต่างภายในวัฒนธรรมเดียวกัน (เดาเอา)


โดย: it ซียู IP: 161.200.255.163 วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:8:15:22 น.  

 
เดี๋ยวเจอกันที่โรง ตอนดูเรื่อง 4 นะครับ

(แล้วจะรู้ไหมนี้ว่าคนไหน 555)


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:11:12:50 น.  

 
ขอบคุณค้า
ถ้าจบอย่างนั้น
แสดงว่าป้าอ๊อด จะบอกเป็นนัยๆ ว่าเราก็ไม่สามารถทำความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมกันได้อ่ะสิ
(ซึ่งก็น่าจะจริง )
หนังยาวสามชั่วโมงเลยเหรอ งั้นดิฉันออกมากลางๆ เรื่อง ตอนที่คนมองโกล ออกมาร้องเพลง

ฉากที่คนเยอรมัน คนฝรั่งเศส และทหารรัสเซีย(น่าจะใช่นะ เพราะเห็นดื่มวอดก้า ) คุยกันที่ห้องเสบียงที่แสนไฮโซนั้น ทรมาน มาก ไม่รู้พวกเขาคุยอะไรกัน คุยกันยาววววววววววววววววว มากกกกกกกกกกก


โดย: grappa วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:11:16:00 น.  

 
อ่านเรื่องในBlog และอ่านข้อความในเม้นต์แล้วได้อะไรดีๆหลายอย่าง คุ้มค่านั่งอ่านคับ

หนังสือเจ้าชายน้อย ซื้อเล่มที่มีภาพประกอบแล้วคับ แต่ยังไม่ว่างอ่าน(ผมเป็นคนมีสมาธิสั้น อ่านอะไรนิ่งๆนานๆไม่ได้ มันเบื่อ จึงอ่านหนังสือจบช้า)

หนังเรื่องที่เขียนถึงก็ท่าทางจะดีนะคับ


โดย: yyswim วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:12:33:41 น.  

 
มาเยี่ยมบล็อกตามคำชวนค่ะ....

เสียดายจังที่เราไม่ได้ซื้อเจ้าชายน้อยฉบับเห็นด้วยใจเอาไว้....ตอนอยู่ในงานหนังสือก็เห็นแล้วเชียวแต่ได้แต่ฝากเอาไว้ก่อนเพราะเงินหมด....ไม่นึกว่าจะไม่มีออกมาอีกแล้ว...เสียดายจัง...เป็นฉบับที่น่าเก็บสะสมเป็นที่ยิ่ง....เพราะวัตถุประสงค์ในการจัดทำช่างงดงามเสียเหลือเกิน....

อ้อ...เรามีฉบับของคุณอริยา ไพฑูรย์ ที่ออกกับสำนักพิมพ์กาลเวลาค่ะ...เล่มเล็กๆกระทัดรัด...สีสันสดใส...ภาษาก็กระชับเลยหยิบมาอ่านบ่อยๆจนยับไปหมดแล้ว....


โดย: จิ้มจุ่ม วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:17:23:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ


โดย: oryzaja วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:18:45:05 น.  

 
ปวดหัวอ่ะ เดินมาเล่นบล๊อคคุณ grappa ได้เห็นอะไรมากขึ้น
บอกตามตรง ช่วงนี้ไม่ได้เข้าโรงภาพยนตร์มาเป็นปีๆเลย ใครมีหนังสนุกก็หาอ่านจากหนังสือพิมพ์และนิตยสาร รู้สึกระบบชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรไม่รู้ตั้งแต่เริ่มงานเขียน

แต่อ่านหนังสือเยอะมาก เยอะจนตาหูแฉะ วันนี้เพิ่งสกรัมตามตารางของตัวเองไปได้เล็กน้อย เลยเข้ามานั่งท้าวแขนบ่นให้ฟัง.....

แล้วจะขอแอบมาหาที่พักใจแถวนี้บ่อยๆ เปิดหูเปิดได้มากขึ้นจริงๆค่ะ


โดย: โตมิโต๋ กู่กู๋โชว์เด๊ะ IP: 61.90.71.200 วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:21:44:31 น.  

 
สมกับเป็นบล็อกคุณกรั๊ปป้า มาแล้วได้หลายอย่างในหนี่งหน้า
บอกตามตรงเคยอ่านเจ้าชายน้อยสมัยตอนเด็กมัธยมได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองคงเข้าไม่ถึงความเยี่ยมของหนังสือ จนมาตอนนี้ก็ยังไม่ได้ลองหยิบมาอ่านใหม่เลย แต่ยอมรับล่ะว่าหลังจากดูเพื่อนสนิทแล้ว ชักอยากหยิบมาลองอ่านอีกครั้ง คราวนี้คิดว่าด้วยวัยที่มากกว่าตอนนั้น น่าจะรู้สึกกับหนังสือเล่มนี้ได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณคุณกรั๊ปป้าสำหรับเรื่องเล่าเจ้าชายน้อยเวอชั่นนี้ค่ะ เพราะถ้าไม่มาอ่านบล็อกก็คงไม่ทราบว่ามีเวอชั่นแบบไม่มีภาพประกอบด้วย

ว่าแต่ ขอนอกเรื่องนี้ ถามถึง หนังสือใหม่ขอวมูราคามิ ตอนแรกเข้าใจว่าจะมีออกในงานหนังสือครั้งนี้ แต่ไปถามที่สำนักพิมพ์มติชน เห็นเขาบอกว่าไม่มี สรุปไม่มีออกใหม่ใช่ไหมคะ หรือว่าไปออกกับสำนักพิมพ์อื่น

ขอบคุณค่ะ


โดย: cottonbook วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:23:05:14 น.  

 
คุณนพดล แจ้งข่าวว่า Kafka On The Shore งานเล่มใหม่ของมูราคามิฉบับภาษาไทยออกประมาณเดือนพฤศจิกายนค่ะ
หนังสืออออกเมื่อไร จะกระจายข่าวโดยเร็วค้า


โดย: grappa วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:23:16:22 น.  

 
พี่แกร๊ป

แขปิดเทศกาลหนังแล้วอ่ะค่ะ

ไปดู The shop on the main street มาค่ะ เป็นหนังที่ทำให้มีเครื่องหมายคำถามมากมายผุดมาบนหัวแล้ว แล้วอยากเก็บเครื่องหมายคำถามไว้ดูเล่นก่อน เลยพอแค่นี้สำหรับเทศกาลรอบนี้ค่ะ - ชอบละเลียดความทุกข์ของตัวละครบนแผ่นฟิล์ม


โดย: rebel วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:23:44:16 น.  

 
อุ๊ย คนข้างบน
ทำไมปิดเร็วจัง
โปรแกรมเหลืออีก 3 วันแน่ะ
La Moustache ฟิลิป
กลาส ทำเพลงประกอบนา
หนังปิดเทศกาล The Wayward Cloud ของผู้กำกับไต้หวัน-ไฉ้หมิง เหลียง ก็น่าสนใจมากนา
เป็นผู้กำกับคนโปรดของ จขบ. เลย
และตอนนี้ก็กำลังพยายามเปลี่ยนโปรแกรมตั๋วที่ซื้อไว้แล้ว เพื่อดู Ticket of No Return อยู่


โดย: grappa วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:6:37:18 น.  

 
สบายดีค่ะ
แต่วันนี้ไม่ต้องรีบแจ้นไปทำงาน ก็เลยไม่ต้องรีบ

วันนี้ต้องส่งการบ้านคุณพี่สาวด้วย ของตัวเองเอาไว้ทำทีหลังน่ะค่ะ เดี๋ยวคุณนายมาตรวจการบ้านแล้วไม่มีส่ง


โดย: rebel วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:6:57:13 น.  

 
แล้วหนังเมือ่วานเป็นไงมั่งคะ


โดย: rebel วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:7:08:21 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าครับ คุณ grappa


โดย: Dark Secret วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:9:43:50 น.  

 
จะโละบัตรที่ซื้อไว้ให้แขก็ได้นะคะ

มันเหนื่อยๆอ่ะพี่ เมื่อวันศุกร์กลับบ้านมานี่เหนื่อยหมดสภาพมากๆ เลย หมดอาลัย รถเมล์ติดก็ไม่ยอมลงเดิน ทางก็ใกล้ๆ แต่ไม่อยากขยับ เลยนั่งรมควันไปซะอย่างนั้น แบกร่างไปดูเรื่องเมื่อวานได้เรื่องนึง แล้วก็เลยพอดีกว่า วันหยุด ขอ "หยุด" ซะหน่อย


โดย: rebel วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:9:54:00 น.  

 
มาขอบคุณอีกทีค่า


โดย: rebel วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:10:52:24 น.  

 
มิเป็นไร
ถือว่าช่วยพี่ด้วย
เพราะคงดูหนังสามเรื่องในวันเดียวกันไม่ไหว


โดย: grappa วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:10:57:07 น.  

 
ผมซื้อ Ticket has no return กับ the Wayward Cloud ไว้แล้วครับ

ต้องรีบซื้อ (โดยเฉพาะเรื่องหลัง คนเยอะทีเดียว)

ไปดูเรื่อง "4" มาเป็นยังไงบ้างครับพี่ ผมเกือบตาย เพราะผมแพ้หนังที่เป็นกล้องแฮนด์เฮลด์ แค่มันสั่นนิด ๆ ผมก็เริ่มวิงเวียนหน้ามืนตาลายพลอยอยากอ้วก

แต่ดูแล้วสยองดีครับ (เข้ากับความพะอืดพะอมของตัวเองพอดีเลย) โดยเฉพาะฉากคุณป้า ๆ ทั้งหลาย และตุ๊กตาผีเหล่านั้น

โอ้ย ๆๆๆๆ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:12:35:27 น.  

 
เมื่อวาน ไม่ได้ดู เรื่อง 4 อ่ะค่ะ
ทั้งๆ ที่ซื้อตั๋วไว้แล้ว
ดูได้เรื่องเดียว แล้วอาการเหมือนจะเป็นหวัด ถามหา
และคิดว่าหนังคงสยองน่าดู
ก็เลยไม่ได้ดู

แต่สองวันนี้(เสาร์-อาทิตย์ จะดูวันละสองเรื่อง )
วันอาทิตย์ว่าจะดู The Ticket of No Return ด้วย
ส่วน The Wayward Cloud ดูแล้วค่ะ
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกก


โดย: grappa วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:12:45:44 น.  

 
คุณกรัปป้าครับ
"คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ" โดนมรสุมพัดออกนอกเส้นทางครับ จะวกกลับมาเข้าเส้นทางได้ เริ่มแปลต่อก็คงราวพฤศจิกายน

อยากให้วางแผงทันปีใหม่ครับ


โดย: นพดล IP: 58.8.186.230 วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:17:53:23 น.  

 
โอวๆๆ จะมาขอบคุณที่คุณกรั๊ปป้าไปตอบไว้ที blog เรา แล้วก็เลยได้เห็นคำตอบของคุณนพดลด้วยเลย

ออกเมื่อไรก็ซื้อเมื่อนั้นค่ะ หนังสือของมูราคามิ ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ


โดย: cottonbook วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:22:29:11 น.  

 
ดีค่ะที่ได้ดูหนังดีๆ

ลองทำซุปแล้วนะคะ กินได้ปลอดภัยดี แต่ไม่รู้ว่าที่จริงมันควรจะรสชาติยังไงกันแน่ สงสัยต้องไปหาของจริงมากินก่อนจะได้รู้ว่าที่ทำออกมาถือว่าสำเร็จรึเปล่า

ไปนอนทำใจก่อนละค่ะ


โดย: rebel วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:23:19:43 น.  

 
- คุณนพดล
แฟนๆ รออ่านค้า

-rebel
ไหนบอกว่าไม่ชอบทำอาหารไง รสชาติจริงๆ ต้องไปถามจากคนฝรั่งเศสอ่ะ อิอิ

วันนี้ดูหนังเรื่องนี้แล้วประทับใจ แต่คิดแล้วว่ามันต้องจบเศร้าแหงๆ แล้วก็จริงๆ ด้วย


โดย: grappa วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:23:50:37 น.  

 
หนังอีกเรื่องที่ได้ดูเมื่อวานคือ หนังจากประเทศเช็คโกสะโลวาเกีย ที่ตอนนี้คือ สาธารณรัฐเช็ค เรื่อง Larks on a String ดูแล้วก็คิดถึงหนังสือของมิลาน คุนเดอร่า นักเขียนจากประเทศเดียวกัน



โดย: grappa วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:8:06:15 น.  

 
ชอบเล่าอ่ะ
แต่ไม่มีเรื่องของตัวเอง เลยเอาหนังมาเล่าต่อแทน

สปอนเซอร์จะได้เห็นผลงานด้วย


โดย: rebel วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:8:19:52 น.  

 
Le Grand Voyage นี่ประทับใจเพราะเป็นหนังที่พาเราเที่ยวด้วย หนังลูกครึ่งฝรั่งเศส-มอร็อคโค เรื่องนี้ เล่าเรื่องสองคนพ่อ-ลูกที่ความคิด ความอ่านไม่เหมือนกันเลย แม้แต่ภาษายังไม่เหมือนกัน ลูกชายเป็นคนมอร็อคโค ที่เกิดที่ฝรั่งเศส เลยพูดภาษาฝรั่งเศส ส่วนพ่อเป็นมุสลิมมอร็อคเคี่ยน ที่ต้องการให้ชีวิตที่เหลือไม่มากของตัวเอง ได้ไปแสวงบุญที่เมกกะ พ่อให้ลูกชายขับรถพวกเขาขับรถจากฝรั่งเศสไปซาอุดิอาระเบีย ซึ่งการเดินทางต้องผ่านหลายประเทศมาก จากยุโรป สู่ยุโรปตะวันออก และประเทศแถบอาหรับ (อยากเดินทางอย่างนี้มั่งจัง ) ชอบคำถามนึงของลูกชายที่ถามพ่อว่า ทำไมไม่เลือกเดินทางที่ง่ายกว่าโดยทางเครื่องบิน พ่อตอบว่าไปแสวงบุญ ก็ต้องเดินทางด้วยวิธีการที่ "เพียว "ที่สุด เหมือนจะยกที่คัมภีร์
อัลกุรอาล ที่บอกว่า ถ้าเดินได้ก็ให้เดิน ถ้าเตินไม่ได้ก็ให้ใช้เรือ หรือ ถ้าใช้เรือ ไม่ได้ก็ให้ใช้ รถ เครื่องบินดูจะเป็นทางเลือกสุดท้าย

ระหว่างทาง สองคนพ่อลูกก็เจออันตรายมากมาย ทั้ง ภัยธรรมชาติ (หิมะ )
ภัยจากคนที่เจอระหว่างทางซึ่งไม่แน่ใจว่าไว้ใจได้แค่ไหน และความไม่เหมือนกันเลยของสองพ่อลูก สุดท้ายหนังไปจบที่เมกกะ พร้อมด้วยฉากจบที่แสนเศร้า

รายละเอียดของหนังก็น่าประทับใจ อย่างฉากที่มีผู้หญิงลึกลับคนนึงขออาศัยนั่งรถไปด้วย แถมไม่บอกว่าจะไปไหน ตอนขึ้นรถรถก็ขึ้นแบบรีบๆ ยัดตัวเองเข้าไปเบาะหลัง สองคนพ่อลูกให้ลงจากรถก็ไม่ลง จนทั้งสองต้องหลอกล่อเอาเธอไปทิ้งไว้ที๋โรงแรมแห่งหนึ่ง (จ่ายค่าห้องให้) ต่อมาอีกหลายวันลูกชายก็เห็นเธอปรากฎตัวในกรุงเบลเกรดเมืองหลวงของยูโกสลาเวีย (พ่อต้องมาเข้าโรงพยาบาลที่นี่ ระหว่างทาง เพราะคืนก่อนหน้านั้นนอนในรถที่มีหิมะลงจัด ตอนเช้ามีหิมะหนามากเกาะอยู่นอกรถ เหมือนรถอยู่ในช่องฟรีส ที่มีน้ำแข็งหนาๆ โปะอยู่ ) หรือตอนที่สองคนพ่อลูกซื้อแพะเป็นๆ มาเอาใส่รถไปด้วย เพื่อจะฆ่าเอาเนื้อทำอาหาร แต่ตอนที่จะเชือดแพะ แพะกลับหลุดวิ่งหนีไปได้ หรือวิธีการเกิบเงินของพ่อ ใส่ในถุงเท้าบ้าง ใส่ไว้ในเข็มขัด (เพื่อป้องกันขโมย-คลาสสิค จริงๆ ชอบมาก )

หรือการปะทะกันทางความคิดของสองคนพ่อลูก หลายครั้งต่างฝ่าย ต่าง"งอน " ไม่พูดกันมีให้เห็นอยู่หลายฉาก

หนังเรื่องนี้คนดูแน่นโรง จนล้นออกมานั่งตรงเก้าอี้เสริม และทางเดิน ต่างจากเรื่องอื่นๆที่ดูที่มีคนประมาณ 10 -20 คนต่อเรื่อง ว่าแล้วก็อยากดูเรื่องนี้อีกจัง และอยากเดินทางมากกกกกกกกกกกก



โดย: grappa วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:8:46:17 น.  

 
น่าดูจริงๆด้วย

เปลี่ยนบีจีเอาใจท่านผู้อ่านแล้วนะ


โดย: rebel วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:9:02:20 น.  

 
อา.. อ่านที่เล่าเรื่อง Grand Voyage แล้วน่าดูจังเลยครับ เสียดายที่หนีกลับมาก่อน


ป.ล. หนังแนว Road Movie (ที่เกี่ยวกับการเดินทางของคนสองคน) ที่ดูแล้วซาบซึ้งประทับใจ เรื่องล่าสุด ก็ต้องเรื่องนี้เลยครับ - In July (Fatih Akin) เป็นหนัง (ที่ดูน้ำเน่าเล็กน้อยถึงปานกลาง) ที่ว่าด้วยเรื่องราวการเดินทางของชายหนุ่มไปหาหญิงสาวที่เค้าแอบปิ๊งที่อิสตันบูล ...น่ารักดีครับ :D
- หนังสั้นสึนามิ ตั๋วก็เต็มเช่นกันครับ (ซึ่งก็ไม่น่าแปลกแต่อย่างใด), แต่หนังที่ผมได้ดู แล้วคนดูน้อยสุด ก็หนังของเจ๊อ๊อด (ฮา)


โดย: it ซียู IP: 203.151.140.117 วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:10:08:22 น.  

 
เข้าไปในโรงตอนแรกนึกว่าดูคนเดียวอ่ะพี่ แขเข้าสายไงแล้วไม่เห็นใครเลย ตอนหนังจบ ถึงรู้ว่ามี 8 คน นั่งกันคนละมุมๆ

ไม่ชอบเนื้อเรื่องหนังเท่าไหร่นะคะ พลอตเดาได้ตั้งแต่แรกเลย แต่ก็ดูได้เรื่อยๆ รู้สึกเพลินอย่างเดียว ดูจบแล้วจบกัน


โดย: rebel วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:15:35:11 น.  

 
เอาแบนเนอร์มาอวดค่ะ



ทำไปก็นึกถึง ดื่ม ดิน กิน แดด ไปด้วย


โดย: rebel วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:21:11:59 น.  

 
โอ้ แบนเนอร์ถูกใจ
วันนี้ไปดูมาอีกสองเรื่อง
หนังของป๊าอ๊อด และ La Moustache
ยังไม่เล่าเรื่อง ขอบ่นก่อน
เรื่องหลังเลท ไปตั้งหนึ่งชั่วโมงแน่ะ เพราะมีการประกาศรางวัล แถมคนดูโดนเกณฑ์ไปงานปาร์ตี้ด้วย โอย จะมาดูหนัง ไม่ได้มาปาร์ตี้ ปารตี้เฉพาะกลุ่มไปเลยก็ได้ สื่อมวลชนกับบรรดาผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย อิชั้นจะมาดูหนังค้า อยากดูหนัง นี่ถ้าไม่ซื้อตั๋วและอยากดูหนังเรื่องนี้มาก กลับบ้านไปแล้ว ถ้ามีธุระต่อล่ะ ทำไง มิต้องสละตั๋วไปเลยหรือเนี่ย ว่าแล้วถ้าพรุ่งนี้ยังไม่หายโกรธจะอีเมล์ไปหาทีมงานเนชั่น

นี่ขนาดชอบปาร์ตี้นะ ยังเซ็งเลย


โดย: grappa วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:21:33:15 น.  

 
ใจเย็นๆค่ะ


โดย: rebel วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:21:45:54 น.  

 
เย็นแล้วจ้า
พยายามมองจากมุมคนจัดงาน เขาคงอยากให้เกียรติคนที่มาดูหนัง

จริงๆ ตอนทำงานเป็นสื่อมวลฃน (ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่บ้าง ) ก็เจองานทำนองนี้บ่อย แต่อันนั้นเราเตรียมตัวไปแล้ว ไม่เหมือนคราวนี้ที่ซื้อบัตรจะมาดูหนัง

อิอิ นี่ขนาดเย็นแล้ว ยังแอบบ่นอีก


โดย: grappa วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:23:00:35 น.  

 
สุขสันต์วันหยุดค่ะ


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 24 ตุลาคม 2548 เวลา:3:14:20 น.  

 
เอาแบนเนอร์ขึ้นแล้วนะคะ ไม่รู้จะมีคนสนใจมาขอสปอนเซอร์แถวนี้มั่งป่าว


โดย: rebel วันที่: 24 ตุลาคม 2548 เวลา:6:05:36 น.  

 
ชอบเจ้าน้อยมากถึงมากที่สุด สะสมหนังสือไว้หลายภาษา บวกกับของสะสมอื่นๆ อีก เคยไป museum เจ้าชายน้อยที่ญี่ปุ่น ชอบมาก คนญี่ปุ่นเขารักเจ้าชายน้อยจริงๆ แต่ไม่มีเล่มนี้อยากได้ทำยังไงช่วยบอกที


โดย: Nok IP: 84.73.50.121 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:4:47:51 น.  

 
ชอบเจ้าน้อยมากถึงมากที่สุด สะสมหนังสือไว้หลายภาษา บวกกับของสะสมอื่นๆ อีก เคยไป museum เจ้าชายน้อยที่ญี่ปุ่น ชอบมาก คนญี่ปุ่นเขารักเจ้าชายน้อยจริงๆ แต่ไม่มีเล่มนี้อยากได้ทำยังไงช่วยบอกที (taitao11@yahoo.com)


โดย: Nok IP: 84.73.50.121 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:4:48:31 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]