|
^ * ^ ....เที่ยวปีใหม่ วันที่สอง สบายดีเชียงคาน....
| | | |
วันที่ 30 ธ.ค. 53
ออกเดินทางจากเขาค้อแต่เช้า เขาค้อวันที่ 1 ค่ะ แวะนู้นแวะนี่ กว่าจะออกจากเขาค้อได้ก็เกือบจะสายแล้ว
ใช้เส้นทางหล่มสัก มุ่งหน้าไปทางด่านซ้าย - วิ่งถนนเส้น 203 ไปทางจ.เลย และก็เข้าเส้น 201 เชียงคาน ช่วงออกจากเขาค้อถนนเป็นทางลงซะส่วนมาก แต่ตอนขับมาทางเพชรบูรณ์ คงจะขึ้นซะส่วนมาก ขาลงไปหล่มสักเลยค่อยสบายหน่อย
ระหว่างทางช่วงไหนจำไม่ได้เจอเค้าปลูกต้นนี้เพียบเลย พี่หมีบอกว่าเป็นต้นยาสูบ ไม่รู้ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
มาเขาค้อ เพชรบูรณ์ ของฝาก ของกินจะมีมาให้ยั่วเรื่อย ๆ ทั้งผักสด ๆ มะขามหวาน ๆ หลากหลายพันธุ์ เส้นที่ขับไปจ.เลย ก็มีส้มสด ๆ จากไร่อีก เป็นส้มโชกุน กับส้มเฟอมองต์ มีทั้ง 3 โล 100 กับ 4 โลร้อย ซึ่งทุกอย่างที่บอกมาก็แวะซื้อทั้งหมดนั่นแหละ อย่างละนิดละหน่อย ขอให้ได้ชิมก็มีความสุขแล้ว
แต่พอช่วงด่านซ้ายผ่านอ.ภูเรือ รึไงนี่แหละ เจอเขาอีกแล้วเกือบเมารถแน่ะ กว่าจะถึงเชียงคานก็บ่าย 3 กะเวลาผิดไปหน่อย ป่านี้น้ำยังไม่ได้อาบเลยแดดกำลังร้อนเปรี้ยงเลย walk in ที่พักเอาดาบหน้าเลย ไม่ได้จองเพราะคิดว่าวันนี้คงจะยังพอหาที่พักได้ แต่ผิดคาด ที่พักด้านริมแม่น้ำโขงเต็มหมดเลย ถามประมาณ 4-5 เจ้าได้ เริ่มร้อน จนมาได้แซม เกสเฮ้าท์ เค้ามีห้องเหลืออยู่ 3 ห้องพอดี ห้องติดแม่น้ำโขง 1 อีก 2 ห้องไม่ติด
ขึ้นไปดูที่พักแล้วโอเคเลย เสียแต่ไม่มีห้องน้ำในตัว แต่ห้องนี้ก็อยู่ติดห้องน้ำเลย ชอบที่มีระเบียงให้นั่งด้วย แต่ถ้าเลือกพักที่นี่ห้องที่มีระเบียงให้นั่งก็มีอยู่แค่ 2 ห้องนี้เท่านั้น แล้วทั้ง 2 ห้องนี้ก็ไม่มีห้องน้ำในตัว อืม เป็นห้องพัดลมด้วย แต่หนาว ๆ แบบนี้ ห้องพัดลมน่ะดีแล้ว ห้องนี้ราคา 490 บาท
ห้องน้ำกว้างขวาง มีน้ำอุ่นด้วย
ระเบียงให้นั่งเห็นแม่น้ำโขงกันซะให้สะใจ ด้านข้างเค้ากำลังสร้างน่าจะเป็นที่พักนั่นแหละอีก 2 ตึก (ไม้) น่าจะน่าพักเหมือนกัน
ที่พักส่วนมากจะอยู่ถนนเส้นนี้ ริมโขง ที่จอดรถค่อนข้างลำบาก แต่โชคดีเหมือนกันที่เลือกพักที่แซม เพราะจะอยู่ริม ๆ แล้วก็มีวัดอยู่ใกล้ ๆ เอารถเข้าไปจอดในวัดได้ ชื่อวัดท่าคก
ที่เชียงคานมีวัดที่อยู่ใกล้ ๆ กันเยอะเหมือนกัน
พอขึ้นห้องเก็บของ อาบน้ำกันแล้วก็หิวก่อนเลย ไปร้านระเบียงริมโขง สั่งเมนูแนะนำมา 2 อย่าง ส่วนผัดฉ่าปลาคังกับไข่เจียวพี่หมีเค้าชอบไปกินปลาแม่น้ำทีไรสั่งทุกที
ทั้งหมดในนี้พี่หมีเค้าคอนเฟิร์มปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ส่วนต้มยำเราว่ากินเปล่า ๆ อร่อย แต่กินกับข้าวรสอ่อนไป กินไม่หมด มีการห่อกลับมาแช่ตุ้เย็นด้วย กะว่าพร่งนี้ไปบ้านแม่จะเอาไปกินระหว่างทาง แต่เราดันลืมวางไว้บนโต๊ะที่เกสเฮ้าท์ อุตส่าห์ไม่ลืมหยิบออกจากตู้เย็นแล้วเชียว เค้าคงงง ของใครหว่า
กินกันอิ่มแล้วก็ถีบจักรยานย่อยกันต่อเลย เอ้อจักรยานนี่ของเกสเฮ้าท์ ตอนจะออกไปหาจักรยานพอดีเห็นจักรยานจอดอยู่ 2 คัน เลยถามป้าแม่บ้าน ว่าขอเช่าจักรยานได้ไม๊ เค้าก็ใจดี บอกว่าเอาไปได้เลย เจ้าของแม่อยู่ เราเลยเอาออกไปกันคนละคันซะเลย กลัวว่าถ้าซ้อนพี่หมี เดี๋ยวพี่หมีจะเหนื่อยแล้วงี่เง่าซะก่อน (ความจริงก็หนักนั่นแหละ)
ถ้าจำไม่ได้ สุเนต์ตานี่แหละ ที่เป็นที่พักแบบสร้างขึ้นมาใหม่แต่ใช้ไม้เก่า แล้วที่เห็นข้างหลังเค้าเก๋มาก ดูไม่ค่อยน่ากลัวดี น่าพัก
เพลิน เพลิน ชมบรรยากาศดูเองดีกว่า
เชอร์รี่พาทัวร์
วัดนี้โบสถ์สวย
ทั้ง ๆ ที่ขับรถมากันก็เพลียแล้ว แต่พี่หมีเกิดบ้าพลังอะไรขึ้นมาไม่รู้ขับนำหน้าจนเราตามไม่ทัน เพราะมัวแวะดูนู้น ถ่ายนี่ จนถึงที่พักแล้ว พี่หมีถึงโทรเข้ามาบอกให้ถีบจักรยานตามไปนู้น เลยสถานีตำรวจไปทางนู้น ไอ้เราถีบตามจนขาห้อยเลย แล้วก็ถีบไปตลาดสด ไปหาขนมกินบนห้อง
ได้ขนมเปียกลูกเดือย กับข้าวเหนียวดำเปียกมา คนละถุง ถุงละ 5 บาทเอง หย่อย กินไปนั่งดูแม่น้ำโขงกันไป อื้ม ถ้วยช้อนก็ขายืมที่พักได้เลย
พอหัวค่ำก็ออกไปเดินเล่นกันต่อ เสียดายมากไม่ได้เอากล้องไป เพราะร้านแต่ละร้านที่ถนนเส้นนั้น บางร้านเค้าก็ยังเปิดอยู่ ร้านเก๋ ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปได้ตามสบาย ร้านริมโขงที่เป็นร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารเก๋ ๆ ก็มีพอสมควร เสียดาย อิ่มจนกินกันไม่ไหวแล้ว ไม่งั้นคงจะได้เข้าไปนั่งทำเป็นโรแมนติดอยู่คนเดียวบ้างแหละ (พี่หมีทำไม่เป็น)
วันที่ 31 ธ.ค. 53
ตอนเช้าโปรแกรมที่คิดไว้มีตักบาตรข้าวเหนียว กับขึ้นภูทอกไปดูทะเลหมอก แต่พี่หมีขี้เกียจ เลยได้แค่ตักบาตรข้าวเหนียว ปกติเค้าจะตักกันประมาณ 6 โมงครึ่ง แต่เช้าวันที่ 31 ธ.ค. 52 ดีที่พระมาสาย 7 โมงกว่าแล้ว คนตื่นสายอย่างเราเลยได้ จกข้าวใส่บาตรกับเค้าบ้าง
ข้าวเหนียวก็หาซื้อได้ เค้าจะนึ่งเตรียมไว้ขายอยู่แล้ว แล้วเราก็ซื้อน้ำดื่ม เพิ่ม หรือใครตื่นเช้า ๆ จะไปตลาดซื้อของมาตักบาตรก็ได้
ตักบาตรเสร็จแล้วก็เดินไปหาอะไรทานกัน ก็ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว อาหารพื้นเมืองอีกอย่างของที่นี่ ความจริงทำการบ้านมาก็เยอะ กะจะไปกินเจ้าที่ขายที่ตลาดสด แต่พี่หมีขี้เกียจเดินเลยไปเจอร้านนี้โดยบังเอิญ แต่ก็เป็นหนึ่งในร้านแนะนำอยู่เหมือนกัน
เดินเข้าไปในซอยนี้แหละ
จะเจอต้นไม้ที่เค้าปลูกหน้าบ้านกันสวย ๆ อย่างนี้
เดินเพลิน ๆ ก็ถึงแล้ว เค้าเปิดแต่เช้าเลย
ธรรมดา 20 พิเศษ 25 - 30 บาท เป็นเส้นขนมจีน แล้วน้ำซุปก็แบบต้มเลือดหมู แต่ไม่มีเลือด แล้วก็มีกลิ่นของข่าด้วย กินกับผักเคียงสด ๆ เช่น ถั่วผักยาว ใบโหระพา ผักกาดหอม ใบอะไรอีกไม่รู้ แล้วเค้าก็มีมะนาวผ่าซีกมาให้บีบ กับผักสดตำ ผักสดเป็นเม็ด ๆ มาให้อีก สรุปว่าอร่อย
แต่ระวังให้ดี เวลาปรุงเราจะเห็นว่าทำไมมีน้ำตาลเยอะจัง ตั้ง 2 -3 กระปุก ที่ไหนได้ มองดี ๆ ผงชูรสนี่หว่า โหมีมาให้ใส่กันเป็นกระปุกเลย แล้วจะไม่อร่อยได้ไงเนี๊ยะ ไม่แน่ใจเหมือนกันที่เค้าปรุงเค้าใส่เยอะไม๊ แต่ก็จำได้ว่าไม่ได้คอแห้งเท่าไหร่ เค้าอาจจะไม่ได้ใส่ แต่มีตั้งไว้ให้ใส่เอง
ในซอยนี้มีร้านลาบลุง ส.ที่เป็นร้านแนะนำด้วย เสียดายกินกันไม่ไหว รู้สึกว่ามาคราวนี้ได้กินอะไรไม่คุ้มเลย ยังกินไม่ครบตามที่ตั้งใจเลยนะเนี๊ยะ แล้วจะไม่ให้มาใหม่ได้ยังไง
กินเสร็จก็ไปเดินย่อยกันซะหน่อย แต่ระหว่างทางพี่หมีเกิดปวดท้องซะอีกเลยแวะไปขออนุญาตใช้บริการในวัดนี้ เป็นวัดเก่าแก่ด้วย มีโบสถ์ที่สร้างตั้งแต่พ.ศ. 2197
และก็เดินกันต่อ อย่างสบายใจพี่หมีเค้าแล้ว คราวนี้เดินริมโขง เพราะเค้าไม่ให้ถีบจักรยาน เห็นมีป้ายห้ามอยู่ เมื่อวานเลยไม่ได้ถีบเข้าไป แต่ก็เห็นคนเค้าถีบกันนะ ไอ้เราก็ซื่อ ดีเหมือนกันตอนเช้าจะได้เดินดูวิวใหม่ ๆ
ทางลงแม่น้ำโขง ไม่รู้ว่าน้ำเคยขึ้นสูงขนาดไหน
บ้านนี้เค้าเก๋นะ ที่สำคัญสำหรับคนอกหักเท่านั้น
แต่เรายังรักกันดีอยู่นะ เห็นไม๊ (ดูพี่หมีดิ หัวใจเบี้ยว) บอกแล้วพี่หมีเป็นกับเค้าซะที่ไหน ไอ้เรื่องโรแมนติกน่ะ
น้องเหมียวเค้าก็ออกจะน่ารัก
น่าแหย่
ชักจะยาวไปแล้ว พอแค่นี้ก่อนดีกว่า ต่อไปก็คงจะเห็นรีวิว ภาพระหว่างทางจากเชียงคานไปอุตรดิตถ์นะคะ
| | | | |
Create Date : 09 มกราคม 2553 |
Last Update : 11 มกราคม 2553 11:38:08 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1858 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:8:17:19 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:9:15:31 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ที วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:10:10:27 น. |
|
|
|
โดย: ??? IP: 110.49.175.235 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:20:15:52 น. |
|
|
|
โดย: bee IP: 117.47.159.86 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:9:31:19 น. |
|
|
|
| |
|
|