|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
นอกจากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจแล้ว จะต้องมีสิ่งนี้ด้วย...
นอกจากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจแล้ว จะต้องมีสิ่งนี้ด้วย... โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)
ถ้าเริ่มจะทำธุรกิจของตัวเองแล้ว วิสัยทัศน์ จำเป็นก็จริง แต่ผมให้ "ความมุ่งมั่น" มีเครดิตมากกว่าหน่อย เพราะ คนที่มุ่งมั่นเท่านั้นที่จะทำ จะพยายามเรียนรู้ และสร้างประสบการณ์ จนสามารถมีวิสัยทัศน์ได้ ฟังดูแปลกๆเนอะ... แต่ความเป็นจริงของเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน คือการเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ทำอะไรทำจริงๆ มุ่งทำในสิ่งนั้น และ เชื่อว่ามันจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ ทำให้เขาเหล่านั้นมีกำลังใจ และ เชื่อมั่นในการกระทำของเขา ถึงแม้นจะเกิดปัญหามากมาย หากยังมีความมุ่งมั่น ก็จะทำให้อุปสรรค ลดน้อย หรือ เบาบางลงไปได้...
การจะทำธุรกิจของตัวเองนั้น สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือ เข้าใจตัวเองเสียก่อนว่าตัวเองนั้นมีความเก่ง หรือ มีจุดเด่นทางด้านใด เพราะว่า ธุรกิจ แต่ละธุรกิจนั้น ย่อมต้องการคนที่แตกต่างกัน มันก็เหมือนหน้าทีการงานครับ งานบางอย่างคนหนึ่งทำได้ดี อีกคนอาจจะทำได้ไม่ดี ดังนั้น การเข้าใจตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ที่จะเป็นตัวชี้ว่า เราควรจะดำเนินธุรกิจแนวไหน... มันเป็นการค้นหา สูตรความสำเร็จ ของแต่ละคนครับ
อย่างเช่น คนที่ชอบติดต่อกับคนอื่น ชอบคุย ชอบต่อรองในการซื้อสินค้า ดังนั้น สูตรความสำเร็จของคนกลุ่มนี้คือ การขาย หรือ การเสนองานต่างๆ ด้วย เพราะ นิสัยเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่จะผลักดันธุรกิจนี้ คนกลุ่มนี้ จะทำธุรกิจเกี่ยวกับ การซื้อมาขายไป หรือ การให้บริการ เป็นต้น และ จะเน้นเรื่องบริการลูกค้าเป็นหลัก
หรือ อย่างคนที่ชอบลุยงาน ทำงานได้ทุกอย่าง ประเภท เหงื่อออกดีกว่าน้ำตาไหล ยังไงอย่างนั้น คนประเภทนี้ จะมีสูตรความสำเร็จ เกี่ยวกับงานทางด้านโรงงาน อย่างคุณตัน โออิชิ ก็เป็นคนๆหนึ่งในกลุ่มนี้ จะสังเกตได้ว่า คนกลุ่มนี้ จะทำงานได้ทุกประเภท ลุยงาน ขอให้ได้ทำ และ ทำให้ดีที่สุด ก็จะทำให้สิ่งต่างๆดีขึ้นมาเอง
บางคนเป็นนักบริหารมาตลอดชีวิต สูตรสำเร็จของเขาคือการบริหาร ดังนั้น กว่าจะทำกิจการตัวเอง เขาต้องมีทุน หรือ มีคนสนับสนุนเรื่องทุน และ จะวางโครงร่างอย่างดี บริหารอย่างดี เน้นภายใน และ ตัวเลข คนกลุ่มนี้ ก็จะทำอะไรที่ควบคุมได้ สามารถจัดเป็นระบบได้ หรือ แม้นกระทั่ง การสอน การอบรม ก็จะเป็นแนวทางของคนกลุ่มนี้...
เห็นไม๊ครับว่า เมื่อค้นหาสูตรความสำเร็จ ของแต่ละคนได้แล้ว ก็จะเข้าใจได้ว่า ตนเองนั้นควรจะทำอะไรอย่างไร แต่คนส่วนน้อยที่จะสามารถเข้าใจตัวเองได้ว่า ตนเองนั้น เก่ง หรือโดดเด่นอะไร จึงเหมือน พยายามทดลอง ค้นหา หรือ ทำตามอย่างคนอื่นเขา เห็นเขาทำอะไรแล้วดี ก็จะพยายามทำเลียนแบบ โดยไม่ได้คิดถึงความสามารถของตนเองเลยว่า มีความสามารถทางด้านนั้นหรือไม่... ที่เห็นบ่อยก็เป็นอาชีพที่กำลังรุ่งๆ ก็จะเฮกันไปทำ อย่างเช่น ขายกาแฟ ทำสปา ฯลฯ เป็นต้น
เมื่อเข้าใจตัวเอง ก็ต้องสร้างโอกาสให้กับตนเอง ทั้งการเรียนรู้ และ ฝีกทักษะ เพราะ เมื่อคุณรู้ว่า สูตรความสำเร็จ ของคุณนั้น คืออะไร ก็จะเข้าใจ ว่าสิ่งอะไรที่คุณยังขาดอยู่ ยังต้องสร้างทักษะขึ้น ก็จะได้จัดเตรียมสิ่งที่คุณควรจะเรียนรู้ หรือ สิ่งที่คุณต้องฝึก เพื่อจะได้เป็นบันไดก้าวต่อไป
อย่างเช่น หากสูตรความสำเร็จของคุณ คือ การชอบทำอะไรซ้ำๆบ่อยๆ ยิ่งทำยิ่งชำนาญ ยิ่งมีความมั่นใจ และ หากคุณชอบที่จะบริการด้วยแล้ว คุณอาจจะทำธุรกิจทางด้าน เปิดร้านให้บริการทางด้านนวดแผนโบราณ ร้านขายกาแฟ หรือ ธุรกิจเล็กๆ ที่ต้องทำด้วยตนเอง เป็นต้น เมื่อคุณคิดว่าคุณจะทำกิจการประเภทใด แล้ว ก็ต้องเริ่มศึกษาสิ่งที่คุณจะทำอย่างจริงจัง ใช้ความมุ่นมั่นที่มีผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ และ เริ่งการเรียนรู้ของคุณด้วยการ กำหนดเป้าหมายการเปิดกิจการของคุณเอาไว้อย่างจริงจัง
คราวนี้ก็ต้องเลือกประเภทของกิจการที่จะทำว่า คุณจะเลือกทำกิจการประเภทใด แนวใด แล้วหาองค์ประกอบของธุรกิจนั้น หรือ บริการนั้น รวมทั้งหาประสบการณ์ความรู้ ว่า ธุรกิจที่จะเปิดนั้น ต้องมีอะไรเป็นองค์ประกอบ และ แต่ละองค์ประกอบจะต้องทำอย่างไร มีอะไรเป็นตัวแปล และ ธุรกิจของคุณนั้น จะเน้นเรื่องใด เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผู้บริโภค
อย่างเช่น หากคุณต้องการเปิดร้านนวดแผนโบราณ คุณก็ควรที่จะตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะเปิดภายในระยะเวลาเท่าใด อย่างเช่น 1 ปีนับจากนี้ ในระยะเวลา 1 ปีที่คุณกำหนด หรือ เท่าใดก็ตาม ก็ต้องมีการตรวจวัดผลกันบ่อยๆ อาจจะทุกๆ เดือน ว่า คุณได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง หากคุณเก่งด้านวางแผนด้วย ก็ต้องกำหนดว่า แต่ละเดือนคุณจะต้องทำอะไร เรียนรู้อะไร องค์ประกอบของ นวดแผนโบราณมีอะไร อย่างเช่น เงินทุน พนักงานนวด รูปแบบบริการที่ลูกค้าต้องการหรือสนใจ น้ำมันนวดที่มีกลิ่นหอมถูกใจ ต้องมีการนวดฝ่าเท้า หรือ นวดน้ำมันตามร่างกาย ต้องมีราคาที่ยอมรับได้ ฯลฯ จากนั้นก็อาจจะเริ่มจากการไปลองนวดแล้วว่า ที่ร้านนวดแผนโบราณเขาทำอย่างไร จดบันทึกต่างๆไว้ แล้วหาข้อดี ข้อเด่นของแต่ละร้าน พร้อมกับหาพนักงานในอนาคตกันไป เมื่อได้ทาบทาม หรือ สอบถามว่าเรียนมาจากที่ใด ก็ไปลองที่สถานที่นั้นๆ ว่า เขามีสอน มีเรียนกันอย่างไร ต้องไปที่วัดโพธิ์ที่เดียว หรือมีที่อื่นๆ ที่มีฝีมือหรือไม่ เมื่อได้แนวทาง พอที่จะรู้ว่าจะหาคนได้อย่างไร ก็ต้องหาร้านขายน้ำมันหอมระเหย ต้องลองว่า กลิ่นไหนที่จะเป็นเอกลักษณ์ หรือสิ่งที่คุณชอบ หรือ บางคนก็เข้าไปเรียนนวดด้วยเลย เพื่อจะได้รู้ว่า สังคมของพนักงานในอนาคตเป็นอย่างไร... แต่การจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ ก็ต้องจัดเตรียมวางแผน เสนอขอกู้เงินหรือ หาเงินเพื่อนำมาลงทุนด้วย...
เมื่อคุณศึกษา และ เข้าใจพื้นฐานของการตั้งกิจการกันอย่างถ่องแท้แล้ว ก็ต้องการเลือกสถานที่ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ ต้องเข้าใจลูกค้าของคุณว่าอยู่ที่ใดมากที่สุด และต้องเข้าใจว่าจะกระตุ้นลูกค้าอย่างไร เพื่อให้ใช้บริการ หรือ ซื้อสินค้าของคุณ การเลือกสถานที่แทบจะเป็นการกำหนดเป็นกำหนดตายกันเลยว่า ธุรกิจของคุณนั้นจะประสบความสำเร็จก้าวหน้ามากน้อย เพียงใด โดยเฉพาะธุรกิจที่มีหน้าร้าน หรือ ต้องให้บริการ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากเรื่องสถานที่ หรือ บางธุรกิจ สถานที่ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไรเลย เช่น โรงงานประกอบสายไฟฟ้า หรือประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น...
ไหนๆ ก็ยกตัวอย่างร้านนวดแผนโบราณแล้ว ก็เอาเป็นตัวอย่างต่อละกัน ร้านนวดแผนโบราณ ต้องเลือกสถานที่ๆ มีคนเดินทางไปมา หรือ เดินบ่อยๆ หรือ เป็นสถานที่ๆ คนจะปวดเมื่อยได้ง่ายๆ อย่างเช่น จตุจักร สวนลุมไนท์พลาซ่า หรือ สถานที่ๆมีสถานที่กว้างๆ และ ใช้การเดินในการเดินทาง การนวดฝ่าเท้าจะเป็นธุรกิจที่ดีทีเดียว หรือ หากจะจับกลุ่มชาวต่างชาติแล้ว พัฒน์พงษ์ หรือ ริเวอร์ซิตี้ ก็เป็นจุดที่น่ามองเช่นกัน แต่ถ้ามีที่ๆนั่น ผมว่า ทำธุรกิจอย่างอื่นจะดีเสียกว่า.. แต่นั่นแหละ เมื่อมุ่งมั่นก็ทำไปเถอะครับ
สถานที่เป็นสิ่งสำคัญในบางธุรกิจ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับสถานที่จึงจะต้องจ่ายเป็นจำนวนมากเป็นเงาตามตัว ต้องคำนวนให้ดีว่า คุณสามารถยอมรับค่าใช้จ่ายในจุดนี้ได้มากน้อยเพียงใด แย่ที่สุดของคุณคุณสามารถทนกับสภาพขาดความคล่องของกระแสเงินสดได้นานขนาดไหน ด้วย และ ธุรกิจของคุณนั้น จะสามารถทำเงินตอบแทนให้จำนวน คุ้นค่ากับการลงในสถานที่นั้นๆหรือไม่ด้วยครับ...
เมื่อได้สถานที่ การจัดตบแต่งหน้าร้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน หน้าร้าน เป็นสิ่งที่กระทบกับสายตาของลูกค้าเป็นสิ่งแรก มันเหมือนกับผู้หญิงที่หน้าตาสวยๆ หรือ ผู้ชายรูปหล่อ ใครๆก็อยากมอง ยิ่ง หน้าตาเข้าสเปกด้วยแล้ว ยิ่งอยากรู้จัก หน้าร้านก็เป็นเหมือนหน้าตาของสาวสวยหรือ หนุ่มหล่อ เช่นกัน
การตบแต่งหน้าร้านนั้น ต้องเข้าใจบุคคลิกลักษณะของผู้บริโภคว่า เขาชอบลักษณะอย่างใด ธุรกิจของเราอาจจะมีคนชอบหลายกลุ่มดังนั้น ก็จะต้องแบ่งแยกระดับของการให้บริการออกไป
ธุรกิจนวดแผนโบราณ หากต้องการสร้างความแตกต่าง ก็ต้องจัดสถานที่นวดน้ำมัน ให้แยกออกจากนวดธรรมดา และ นวดธรรมดา การที่มีสถานที่เป็นส่วนตัว ก็จะทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างที่จะให้กับลูกค้าได้อย่างมาก ดังนั้น เกรดและราคาที่ให้บริการจึงแตกต่างกัน เป็นต้น
อย่าลืมว่า การจ่ายเงินแพงขึ้น แต่บริการเท่าเดิม ความรู้สึกจะรู้สึกดีแบบไม่สุดๆ ดังนั้น การบริการ และ สิ่งของที่ใช้แต่ละระดับต้องแตกต่างกันไป
ธุรกิจนวดแผนโบราณ ในระดับสูงๆ ก็ย่อมต้องใช้น้ำมันอย่างดี ไม่ฉุนเกินไป การนวดก็ต้องนุ่มนวลมากกว่า ไม่ว่า การบริการเสริมอื่นๆ อย่างเช่น ผ้าประคบน้ำร้อนที่สะอาด การนวดหน้าเพิ่มเติม หรือ สิ่งของเครื่องใช้ก็ควรที่จะแตกต่างกันไปด้วย และ ลดหลั่นกันไปตามเกรดของการใช้บริการ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ไม่ใช่แตกต่างแค่เพียงสถานที่เท่านั้น...
สำหรับธุรกิจบางธุรกิจที่ไม่มีสินค้า หรือ การบริการ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอันเลิศหรูนั้น พนักงานตัวแทนการตลาด หรือเรียกง่ายๆว่า เซลแมนเป็นหน้าตาของธุรกิจที่สำคัญ ไม่ว่าพนักงานที่ออกไปพบลูกค้าก็ต้องเลือกสรรพนักงานที่หน้าตาดี หรือ แม้นแต่พนักงานขายที่ขายผ่านโทรศัพท์ ก็ต้องเป็นพนักงานที่เสียงไพเราะ หรือ มีเทคนิคในการพูดโน้มน้าวที่ดี
เรื่องพนักงานขายนั้น ผมขอเน้นเรื่องปฏิสัมพันธ์ กับลูกค้าเป็นหลัก เพราะ ธุรกิจที่เน้นพนักงานขายนั้น จำเป็นต้องมีพนักงานขายที่เก่ง หรือ อาจจะเป็นแนวทางเดียวกัน การอบรมพนักงานขาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ พนักงานขายมีแนวทางเดียวกัน พูดในเชิงเดียวกัน และ เข้าใจเหมือนๆกัน โดยเฉพาะ ผู้บริการกับพนักงานขายต้องมีแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่ว่า เจ้าของลดราคาแบบหนึ่ง พนักงานขายลดราคาได้น้อยกว่า ทำให้ผู้ซื้อหันไปหาเจ้าของเพื่อขอต่อรองราคากันหมด ทำให้ระบบรวน ดังนั้น ไม่ว่าทุกส่วนก็ควรที่จะมีแนวทางเดียวกัน ไม่ขัดกันเองครับ...
ไม่เพียงพนักงานขายเท่านั้นที่ต้องใส่ใจ พนักงานรับโทรศัพท์ พนักงานต้อนรับ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจแบบนี้ ในเมื่อเขาไม่ได้เข้ามายังบริษัทฯ เขาก็จะโทรเข้าบริษัทฯเป็นส่วนใหญ่ หากได้พนักงานที่เสียงหวาน และ ให้บริการเขาได้อย่างดีแล้ว ลูกค้าจะเชื่อมั่นในกิจการของเรามากยิ่งขึ้น...
เมื่อเริ่มทำธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่ควรมีคือความหนักแน่น และ มีความคิดในการแก้ปัญหาได้รวดเร็ว คนที่จะไปรอดในธุรกิจของตนเองนั้น ต้องมี 2 สิ่งนี้อย่างมาก เพราะ ธุรกิจ ไม่ใช่เปิดดำเนินการแล้วก็จะเจิรญเติบโตขึ้นโดยไม่มีปัญหาเสียเมื่อไหร่ ทุกๆธุรกิจต้องมีปัญหา ซึ่งต้องอาศัย ความหนักแน่น และ การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อทำให้ปัญหานั้นเบาบางลง
บางคนอาจจะเก่งหน่อย ตรงที่สามารถจัดการกับปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น ทำให้ปัญหาที่อาจจะเกิดนั้นแทบไม่มี ที่มีก็จะเป็นปัญหาที่ควบคุมไม่ได้ หรือ คิดไม่ถึงจริงๆเท่านั้น อย่างเช่น รถที่โดนทุบ ถ้าผู้บริหารระดับสูงเป็นคนที่มีแนวความคิดที่ดี จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ก่อนการเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้น การยึดเอาแต่หลักการณ์ของตนเองเป็นหลักใหญ่แล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้มากมาย หรือ อย่างชาเขียวโออิชิ ก็แก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ดี โดยการเข้ามายอมรับทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลซึ่งได้ใจคนไทยอย่างมาก ซึ่งเป็นจุดที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีทีเดียว
การแก้ไขปัญหาต่างๆนั้น มันต้องใช้ประสบการณ์ ข้อเสียของคนไทย คือ ไม่ค่อยเชื่อที่ปรึกษา หรือ ไม่ยอมเชื่อใจจ้างคนที่มีฝีมือเข้าไปจัดการระบบให้ คิดว่า ทุกอย่างต้องทำจากตนเองเสียซะหมด ก็เลยทำให้ต้องงมหาทางเอาเอง กว่าจะเจอ ก็อาจจะต้องสูญเสียอย่างมากก็ได้ เจ้าของที่มีแนวคิดที่จะใช้งานคนที่มีความสามารถเท่านั้น ถึงจะก้าวไปอีกขั้นได้
คนเราเก่งไม่เหมือนกัน บางคนเก่งที่จะทำ บางคนเก่งที่จะบริหาร บางคนมีเงินที่จะจ้าง ดังนั้น ต้องรวบรวมคนที่มีความสามารถแต่ละแขนง ให้ได้ คนเก่งบัญชี อาจจะไม่เก่งด้านการเงิน คนเก่งการเงินอาจจะไม่เก่งทางด้านการตลาด คนเก่งการตลาดอาจจะไม่เก่งทางด้านการขาย คนเก่งด้านการขายอาจจะไม่เก่งทางด้านคอมพิวเตอร์ ดังนั้น การสร้างธุรกิจ ก็เหมือนกับการหาจิ๊กซอร์ที่มีคุณภาพ และ เข้ากันได้อย่างดี ในแต่ละ ชิ้นๆ ให้ต่อและประสานกันได้ หากเป็นชิ้นที่ดูเหมือนเข้ากันได้ แต่คุณภาพไม่ดีก็อาจจะทำให้ภาพทั้งภาพหมดราศีไปหากชิ้นนั้นเป็นชิ้นที่โดดเด่น หรือ อาจจะทำให้ภาพทั้งภาพ ไม่สามารถเกาะกันแน่นก็ได้ หากตัวนั้นเป็นตัวยึดประสานอีกหลายๆตัวที่สำคัญ..
เจ้าของกิจการมักจะอ้างตัวว่าตัวเองเก่ง ตัวเองต้องเด่น ดังนั้น จึงพยายามเล่นลูกคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวโดยไม่ฟังคำลูกน้อง ซึ่งทำให้งานวิ่งได้เร็วก็จริง แต่ความคิดของคนๆเดียวจะกว้างขวางได้มากน้อยเพียงใด ผมชอบให้เจ้าของกิจการเป็นตัวประสาน เป็นกาวที่เชื่อมจิ๊กซอร์ แต่ละตัว เป็นกรอบที่ยึดให้จิ๊กซอร์ อยู่ภายในกรอบนั้นๆ หากเจ้าของกิจการพยายามทำตัวเป็นตัวหนึ่งของจิ๊กซอร์เสียเอง ก็จะทำให้ กาวขาดความข้น และ กรอบก็จะไม่ได้จัดระเบียบของจิ๊กซอร์ทั้งหมด แล้วคราวนี้ รูปก็อาจจะไม่เป็นรูปอย่างที่อยากจะเป็นก็ได้...
ความหนักแน่น เด็ดเดี่ยว และ ความมุ่งมั่น จะส่งผลให้กับความพยายามที่จะฝ่าฟันอุปสรรคนานาประการให้ผ่านพ้นไปได้ แต่ อย่าใช้สิ่งเหล่านี้ในทุกเรื่อง มันมีดี มันก็เป็นสิ่งที่ร้ายกาจได้เช่นกัน..
โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)
Create Date : 09 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 13:52:00 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2433 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แอ้ (Kusoll13 ) วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:13:47:29 น. |
|
|
|
โดย: ฝน IP: 118.173.224.112 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:11:39:07 น. |
|
|
|
โดย: ก้อง IP: 202.28.27.6 วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:0:23:08 น. |
|
|
|
โดย: ตันศักดิ์ IP: 108.80.187.139 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:2:04:48 น. |
|
|
|
โดย: Tida Charoenpornpimonkul IP: 88.112.21.171 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:2:30:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]

|
ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544
วิทยากรเชิงกิจกรรม วิทยากรกระบวนการ ที่ปรึกษาธุรกิจด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การวางแผนกลยุทธ์ วิจัยธุรกิจIT Dashboard
ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
ดวงถาวร
ดวงตามวันเกิด
ดวงตามปีเกิด
;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'
|
|
ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ
การตลาดและการประชาสัมพันธ์
การบริหารทรัพยากรมนุษย์
และ การวางแผนกลยุทธ์
วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ
นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ
Executive & Management Coach
ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
|
|
|
|
| |
|
|
|