พระราชปรารภ ในพระบาทสมเด็จฯพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยเหตุแห่งความตายในท่ามกลางอายุ
พระราชปรารภ ในพระบาทสมเด็จฯพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าด้วย เหตุแห่งความตายในท่ามกลางอายุ ทรงพระราชนิพนธ์ พระราชทานให้พิมพ์ในหนังสือวชิรญาณวิเศษ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๑
(พิมพ์โดยใช้สำนวนตามหนังสือ)
พิมพ์ : วิบูลย์ จุง // Wiboon Joong (wbj) // Jung
. ท่านกรรมสัมปาทิกหอพระสมุดวชืรญาณ ขอให้ข้าพเจ้าเขียนเรื่องอะไร ๆ ลงในหนังสือ วชิรญาณ ในคราวซึ่งเปนพนักงานของท่านพวกนี้สักเรื่องหนึ่ง เวลานี้ว่างจึงเขียนให้ ตามที่นึกได้ง่าย ๆ
. เมื่อพูดกันถึงเรื่องตาย ๆ กรมหลวงเทวะวงศ์ ฯ ได้ว่าแก่ข้าพเจ้าบ่อย ๆ ว่า ชีวิตรมนุษย์นี้ ถ้ารักษาดี ๆ แล้ว คงจะอยู่ไปได้จนแก่หงำแล้วจึงจะตายเปนธรรมดา ข้าพเจ้าได้ยอมรับคำนี้ว่าเปนจริงมานานแล้ว เพราะได้พิเคราะห์ดูในอาการกิริยาของตัวเองที่ประพฤติมาเสมอ ๆ ก็เห็นว่าถ้ารักษาดีจริงคงจะอยู่ได้ แต่เหตุที่จะรักษาไม่ได้นั้น นึกนับดูเดี๋ยวนี้เห็นมีอยู่ ๔ อย่าง
. อย่างหนึ่งตั้งแต่เกิดมาก็มีโรคภัยพิการในเครื่องจักรของร่างกาย ที่จะแก้ไขให้หายเปนปรกติดีไม่ได้ เหมือนกับเครื่องจักรนาฬิกาฤาเครื่องจักรเรือกลไฟ ที่ทำจากร้านไม่ดี ฝีมือเลวมาแต่ต้น ถึงจะแก้ไขประคับกระคองรักษาสักเท่าใดก็ไม่พ้นเสียเร็วได้
. อีกอย่างหนึ่งนั้น เพราะไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าการประพฤติอย่างนี้ทำสิ่งนี้จะเปนอันตรายแก่ชีวิตรการประพฤติสิ่งนี้ ทำสั่งนี้ จะเปนเครื่องเกื้อกูลให้ชีวิตรยืนยาวไปได้
. อีกอย่างหนึ่งนั้น รู้แล้วว่าสิ่งนี้ไม่สู้ดี เปนทางมาของความตาย แต่เพราะความอยาก จะเว้นอดกลั้นไม่ได้จำต้องทำ เพื่อความศุขในประจุบันทันใดนั้น ฤาเพราะรู้แล้วแต่เผลอ ๆ ไป บางทีตั้งใจว่าจะไม่ประพฤติ แต่มันเลยเปนไปฝืนไม่ไหว รู้แล้วว่าทางนี้จะเปนเครื่องเกื้อกูลแก่การอายุยืน นึกแล้วว่าจะทำ แต่มามีอย่างอื่นชักเชือนแชไป ฤาไม่ข่มขี่ใจที่จะทำให้แรงกล้าไปได้ สักแต่ว่าทำฤาเปนแต่จะทำแล้วเรื่อย ๆ ไป
. อีกอย่างหนึ่ง รู้แล้วว่าสิ่งนี้เปนเครื่องที่จะพาไปถึงความอายุสั้นตายเร็ว แต่จำเปนต้องทำ ไม่ทำไม่ดี ถึงทำแล้วถ้าตายก็เปนตายดี ฤาไม่เปนตายดีแต่จำเปนจำทำ จนตายด้วยความรู้ว่าทางนี้ เปนทางจะตาย
. ในหนทางที่เปนทางมาของความตายทั้ง ๔ อย่างนี้ ถ้าผู้ใดละหลีกหนีให้พ้นไปทีเดียวได้ ผู้นั้นจะมีอายุยืนยาวเปนแน่แท้ เว้นไว้เสียแต่จะมีโรคประจุบันที่คนตายมาก ๆ จะหนีไปไม่ได้ แต่อย่างไรอย่างไรคงจะดีกว่าที่ไม่ได้ประพฤติได้ แต่การที่จะประพฤติหลีกหนีทางที่มาของความตายทั้ง ๔ อย่างนี้เกือบจะว่าไม่มีใครประพฤติได้ ฤาประพฤติเข้าแล้วจะเปนการดีแก่ตัวฝ่ายเดียวนั้น ว่าไม่ได้เลย
. คือข้อ ๑ ซึ่งว่าด้วยร่างกายไม่บริบูรณมาแต่เดิม จะรักษาชีวิตรไปไม่ได้เอง ๆ นั้น จะยกตัวอย่างให้เห็นได้ คือ ศรีพัฒนา (พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์ ๑ ประสูตรเมื่อปีฉลู พ.ศ.๒๓๙๖ สื้นพระชนม์เมื่อปีระกา พ.ศ.๒๔๑๖) ตั้งแต่ออกมาก็เกือบจะว่าได้ว่ามีแต่กระดูกที่หนังหุ้มอยู่ ตั้งแต่เล็กมาจนโตไม่เห็นมีเวลาที่มีผิวแดงเลย สีซีด ๆ นิ้วมือนิ้วตีนเขียว ๆ ตามเล็บเหมือนกับถูกกระทบอะไรช้ำ เปนสีน้ำเงินทั้งสิบนิ้ว ตั้งแต่เกิดมาหมอไม่ได้ขาดขึ้นเรือนจนสักวันหนึ่ง เจ็บจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเจ็บอะไร เขียวเย็นชืดไปทั้งตัวบ้าง เหื่อโซมตัวบ้าง ร้อนจี๋ไปทั้งตัวบ้าง จะพรรณาไปไม่มีที่สุด จนเปนสาวอายุสิบห้าสิบหกปี ก็ไม่มีผู้ใดเห็นได้ว่าเปนสาว อายุมากเข้าถึงสิบแปดสิบเก้ากลับเห็นเปนคนแก่ แต่รักษาชีวิตรดีอย่างยิ่งที่ผู้ใดจะรักษาได้ อยู่มาได้ถึงอายุยี่สิบปีจึงได้ตาย ถ้าจะไปหาผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งไม่รู้จักชื่อเสียงเรื่องราวเลย มาดูศพแล้วให้ทายว่าอายุเ่ท่าไร จะต้องทายว่าอายุ ๗๐ ขึ้นไปหา ๘๐ ปี ท้าววรคณานันท์ (ชื่อมาลัย) เดี๋ยวนี้ดูยังมีเนื้อมีหนังมากกว่า นี่เปนอย่างเอกในการโรคภัยที่มีมาแต่กำเหนิด เหลือที่จะป้องกัน ถึงจะรักษาชีวิตรดีสักเท่าใด ก็รักษาได้เพียงเท่านั้นเอง ไม่มีอายุแลร่างกายที่จะอยู่ต่อไปอีกได้
. อย่างที่ ๒ ซึ่งว่าตายด้วยความไม่รู้ว่าจะตาย เหมือนหนึ่งคนเดินไปดีๆ ไม่มีฝนตกฟ้าร้อง แต่เมื่อเดินไปถึงกลางทาง ฝนตกลงมาฟ้าคนอง จะกลับมาสู่ที่เก่าก็ไกล จะไปจนถึงที่ข้างน่าก็ไกล จะหาที่อาไศรยกลางทางก็ไม่มี ฟ้าผ่าลงมาถูกผู้นั้นตาย ผู้นั้นตายด้วยไม่รู้ว่าอันตรายจะมี ฤาลงเรือไปในเรือที่มั่นคงแขงแรงดี เชื่อว่าจะไม่มีอันตราย แต่มีเรืออื่นมาโดนเรือล่มต้องจมน้ำตายเช่นนี้ เปนตายด้วยไม่รู้เหตุว่าจะตาย เปนเครื่องตัดไม่ให้อยู่อายุยืนไปได้เปนที่สอง
. อย่างที่ ๓ ซึ่งว่ารู้แล้วว่าเปนทางมาของความตายแต่เว้นไม่ได้ จำต้องทำเพราะเหตุหลายประการนั้น มีตัวอย่างกว้างขวางมาก เกือบจะไม่ต้องยกขึ้นพรรณา จะว่าแต่ย่อ ๆ อย่างต่ำที่สุดเพียงรู้ว่า ถ้าตื่นเช้านอนหัวค่ำจะทำให้มีกำลังวังชาดีกว่านอนดึกตื่นสาย จนได้ลองแล้้ว นึกว่าจะทำก็ทำไปไม่ได้ เพราะอะไรอะไรจิปาถะร้อยอย่างสำหรับที่จะชักลงไปหาทางที่รวังอยู่แล้ว ว่าถ้าขืนอย่างนี้คงจะตาย แต่มิใช่มีอะไรบังคับ ว่าถ้าไม่ทำเช่นนั้นไม่ได้ เปนเพราะความศุขในการที่ประพฤติเช่นนั้นเล็กน้อยในปัจจุบัน ทำให้เผลอไม่กลัวความตายได้ โดยความประมาท คือยังเช่นอ่านหนังสือค้างอยู่ อีกนิดเถอะอีกนิดเถอะ เมื่ออีกนิดหนึ่งอ่านหนังสือไปได้เท่าใด ก็ให้ความสบายทุกอีกนิดหนึ่ง แต่ใกล้เข้าไปข้างความตายทุกอีกนิดหนึ่งเหมือนกัน แต่ความตายอยู่ทางไกล ความศุขอยู่ทางใกล้ ทำให้เผลอหลงไปตามความศุขนั้น จนเปนเครื่องร่อยหรอแก่อายุได้ นี่เปนตัวอย่างที่ไม่อยากจะพูดถึงเหตุการอันร้ายกาจที่ไม่น่าจะเอามาไว้ในหนังสือเช่นนี้ เช่นกับปีนกำแพงวัง เปนผู้ร้ายปล้น สูบฝิ่นกินเหล้าเมาเหลือเกิน แลอะไรอะไรต่าง ๆ นับไม่ถ้วน ล้วนแต่รู้แล้ว แลยั้งไม่ได้ มีเครื่องสำหรับล่อให้ตามไปใกล้เข้าข้างความตายทั้งสิ้น นี่เปนเครื่องที่จะทำให้รักษาชีวิตรยืนยาวไปไม่ได้เปนที่สาม
⁞. อย่างที่ ๔ ซึ่งรู้แล้วว่าเปนทางของความตาย แต่จำต้องทำนั้น เหมือนอย่างกับทหารที่จะต้องเข้าสู้สึกสงคราม เมื่อมีพวกหนึ่งถืออาวุธมาคอยจะยิงจะแทงฟันตัวอยู่ รู้แล้วว่าเปนเครื่องสำหรับทำให้ตายแต่ต้องฝ่าฝืนเข้าไปเพื่อจะเอาไชยชนะ เพราะเปนการฉลองพระเดชพระคุณเจ้านาย แลเปนการรักษาบ้านเมือง รักษาความศุขของเพื่อนมนุษย์ชาติเดียวกัน ฤาตัวเจ็บไข้อยู่ แต่มีราชการหลวงฤาบิดามารดาบุตรภรรยาป่วยไข้ ฤาต้องอันตรายอันใด จำต้องไปรับราชการแลป้องกันรักษา เพื่อจะให้เจ้านายแลบิดามารดาบุตรภรรยาพ้นจากอันตราย ฤาเห็นคนทั้งปวงเจ็บไข้ มีเปนโรคประจุบัน ที่รู้ว่าไข้เช่นนั้นติดกันได้ แต่เห็นว่าไม่มีผู้ใดดูแลรักษาคนไข้นั้นได้ทุกข์เวทนาเข้าไปช่วยรักษา คลุกคลีอยู่ที่คนไข้ อย่างนี้ก็ต้องเปนการจำเปนที่จะต้องเข้าไปใกล้ความตายนับเปนอย่างที่ ๔
. เพราะฉนั้นการที่จะรักษาชีวิตรตามที่ว่า ถ้ามนุษย์รักษาชีวิตรดี ๆ อยู่แล้ว จะอยู่จนแก่หงำได้เปนธรรมดานั้น มีเครื่องกีดกั้นอยู่มากเช่นว่ามาแล้วจึงรักษาชีวิตรไปจนแก่หงำไม่ได้โดยมาก ต้องอาไศยความผเอินช่วยการป้องกันรักษาด้วย จึงได้รอดอยู่ได้จนแก่หงำบ้าง น้อยกว่าผู้ที่ตายเสียแต่หนุ่มแต่สาว แต่ถ้าจะว่าถึงความดีความชั่ว ในการรักษาชีวิตรแล้ว อย่างที่หนึ่งที่สองนั้นเปนธรรมดาอยู่เอง แต่อย่างที่สามเปนการที่ควรจะรักษา ตามทางซึ่งเห็นว่าเปนเครื่องจะให้อายุยืน หลีกละทางซึ่งเห็นว่าจะเปนเครื่องทำให้อายุสั้นให้เต็มกำลัง โดยความตั้งใจที่จะทำได้ แต่ในที่สี่นั้นเปนการจำเปนที่จะต้องทำ ถึงจะเปนทางมาของการที่อายุสั้นก็ยอมให้สั้นดีกว่ายาว เพราะคนเกิดมาจะว่าอายุเปนสำคัญกว่าการที่ทำว่าไม่ได้ ผู้ที่มีอายุอยู่จนแก่ชราถึง ๙๐ ฤา ๑๐๐ ก็ดี เมื่อตายแล้วสูญชื่อในทันทีมีโดยมาก แต่ผู้ซึ่งมีอายุเพียง ๒๐ เศษ ๓๐ ปี มีชื่อเสียงที่ชนภายหลังรู้จักไปอีกหลาย ๆ พันปี มีอยู่แต่น้อย ควรจะนับว่าผู้ที่มีอายุสั้นแต่ชื่อเสียงอยู่นานนั้นมีอายุยืนหลายพันปี ดีกว่าผู้ที่มีอายุ ๑๐๐ ด้วยประการฉนี้แล ฯ
บางปอิน วันจันทร์เดือนหกขึ้นหกค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ศักราช ๑๒๕๐
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2558 2:03:14 น. |
Counter : 3601 Pageviews. |
|
|
|