Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กุมภาพันธ์ 2562
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
17 กุมภาพันธ์ 2562

พระแก้วนาคสวาท : พระแก้วในรัชกาลที่ 3


พระพุทธบุษยรัตน์จักรพรรดิพิมลมณีมัย


หลังจากเขียน blog ที่แล้ว รู้สึกว่า เนื้อหายังไม่มากพอ ก็เลยย้อนไปอ่านพงศาวดาร
ฉบับต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในช่วงของรัชกาลที่ 3 ตอนการอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญลงมา


อนึ่งพระพุทธรูปสำหรับเมืองเวียงจันทน์ พระบางหายไปว่าข้าพระพาเอาไปฝังเสีย สืบยังหาไม่ได้ ได้
แต่พระเสริม พระไส พระศุก พระแส้คำ พระแก่นจันทน์ พระสงรงน้ำ พระเงินหล่อ พระเงินบุรวม 9 องค์

แต่จะเอาลงไปกรุงเทพมหานครได้แต่พระแซ่คำองค์หนึ่ง ได้พระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในพระแซ่คำ 100 พระองค์
กับได้พระเจ้าฉันสมอหน้าตัก 20 นิ้ว พระองค์หนึ่ง พระนาคสวาดหน้าตัก 10 นิ้ว พระองค์หนึ่งหนัก 17 ชั่ง

พระนาคสวาดหน้าตัก 8 นิ้ว หนัก 3 ชั่ง 10 ตำลึง พระนาคปรกศิลาดีกระบือหน้าตัก 5 นิ้ว พระองค์หนึ่ง
แต่พระนาคสวาด 2 องค์นั้น เห็นจะแก้เอาดีได้จะต้องแก้มากอยู่

และพระพุทธรูปจัดส่งไปกรุงเทพมหานครมิได้นั้น ได้ให้ก่อพระเจดีย์ ณ ค่ายหลวง
เมืองพันพร้าวเหนือวัด ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงในพระบรมโกศทรงสร้างไว้
เมื่อเสด็จขึ้นมาตีเมืองเวียงจันทน์ครั้งก่อน ฐานกว้าง 5 วางสูง 8 วา 2 ศอก จะบรรจุพระพุทธรูปไว้เป็นที่สักการบูชา



สิ่งติดใจคือพระนาคสวาดคือพระอะไร ทำให้ต้องไปค้นหาต่อ
แล้วก็พบว่า พระพุทธรูปองค์นี้ต่อมาจะเป็นพระแก้วในสมัยรัชกาลที่ 3
ที่พระนาม พระนาคสวาสดิ์ และ พระเรือนแก้ว นั่นเอง

เริ่มจาก พระพุทธรูปองค์นี้มีสีเขียว จึงเป็นที่มาของชื่อเดิม
ด้วยความเชื่อว่าเกิดจากเลือดของนาคเมื่อถูกครุฑจับฉีกเนื้อกิน
นาคกระอักเลือดออกมาเป็นหินสีเขียว เรียกว่า นาคสวาท
เชื่อกันว่าเป็นของวิเศษ สามารถใช้แก้พิษงูได้

ผมเคยเล่าไว้ในตอน พิพิธภัณฑ์ช้างต้น ว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ
ทรงขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์โดยพระชาติกำเนิดเป็นราชสกุลชั้นพระองค์เจ้า
ดังนั้นเมื่อขึ้นมาเป็นพระมหากษัตริย์จึงทรงมีพระราชประสงค์หลายอย่าง
ที่จะแสดงให้ประจักษ์ว่าพระองค์ก็ทรงมีพระบารมีเป็นดั่งพระจักรพรรดิราช

ผู้ทรงครอบครองมณีรัตนะอันเป็น 1 ใน 7 ของสัปตรัตนะคู่พระบุญญาธิการด้วย

ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ก็ทรงได้พระแก้วมรกต
ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ก็ทรงได้พระแก้วผลึก
เมือเจ้าพระยาบดินเดชาฯ ได้พระนาคสวาทมาจากราชการสงครามเมืองวียงจันทน์
จึงเป็นที่เลื่อมใสของพระองค์ที่ทรงได้พระแก้วอันเป็นของประเสริฐประจำรัชกาล


รัชกาลที่ 3 ทรงพระราชดำริว่าการที่ทรงได้ พระแก้วนาคสวาทองค์นี้
มาในปีที่ 3 ของรัชกาล นับเป็นบารมีเหมือนเมื่อครั้งสมเด็จพระบรมชนกนาถ
รัชกาลที่ 2 ทรงได้พระแก้วผลึกในปีที่ 3 ของรัชกาลเช่นกัน โปรดเกล้าฯ
ให้จัดกระบวนเรือขึ้นไปรับที่ตำบลตลาดแก้ว และมีมหกรรมการฉลอง

เมื่อนำมาประดิษฐานในพระบรมมหาราชวังแล้วจึงโปรดเกล้าฯ
ให้ตัดเนื้อหินที่ยาวเกินประมาณออกมาจากฐานของพระพุทธรูปทิ้ง
แล้วให้ช่างมีฝีมือแก้รูปทรงให้ใกล้เคียงกับพระแก้วผลึก พระพุทธรูปทอง
พระพุทธรูปนาก พระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปเมฆพัดทั้งห้าพระองค์นั้น

แล้วให้สร้างครอบพระเศียรทองมีเพชรขนาดเมล็ดงาประดับเป็นพระศก
พระรัศมีประดับเพชร หุ้มทองคำประดับพลอยลายกุดั่นที่ฐานสำริด
มีฉัตรคันดาลประดับพลอยลงยาราชาวดี 5 ชั้น เหมือนพระแก้วผลึก
แต่พระสังวาลเฟื่องประดับด้วยมรกต ต่างจากพระแก้วผลึกที่เป็นเพชร

ทรงเชิญพระนาคสวาทไปในการพระราชพิธีสำคัญทุกครั้งคู่กับพระแก้วผลึก
เช่น การอัญเชิญไปสรงน้ำด้วยทรงสำคัญว่าเป็นของคู่พระบารมีดุจเดียวกัน




พระแก้วนาคสวาท

เมื่อล่วงเข้าสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระราชดำริว่าการที่สมเด็จพระบรมชนกนาถ
ทรงเชิญพระพุทธรูปทอง นาก เงิน เมฆพัดประดิษฐานเป็นสำรับเดียวกับพระแก้วผลึก
หรือการที่สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชทรงเชิญพระแก้วนาคสวาทมาประดิษฐาน
สรงน้ำด้วยกันกับพระแก้วผลึกดูจะไม่สมควร

เพราะว่าแก้วมีเนื้อใสงดงามที่ใช้ทำพระแก้วผลึกนั้นเป็นของวิเศษหายาก
ในขณะที่ ทอง นาก เงิน เมฆพัด เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายดายมาก
หรือแม้นาคสวาทก็หาได้ทั่วๆ ในลำแม่น้ำโขงจะทำสักหลายร้อยองค์ก็ย่อมได้
ไม่ควรจะนำมาเทียบว่าเป็นของสำรับเดียวกัน

ในรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา พระนาคสวาทก็ได้หายไปจากความสำคัญ
ในการนำมาประดิษฐานเช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นต้น
คงเชิญแต่พระนาคสวาทเรือนแก้วขึ้นประดิษฐานแทนนับแต่นั้น
(ไม่มีข้อมูลว่า พระนาคสวาทเรือนแก้วนั้นได้แก้ไขในสมัยรัชกาลที่ 3 หรือรัชกาลที่ 4)

เป็นธรรมเนียมต่อๆ กันมาที่จะมีการตั้งพระแก้วประจำรัชกาล
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระแก้วเชียงแสน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระบุษยรัตน์น้อย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระแก้วมรกตน้อย

การเลือกพระแก้วองค์ใดเป็นพระแก้วประจำรัชกาลนั้น
ขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัยของรัชกาลต่อมา
ดังพระบรมราชาธิบายในรัชกาลที่ 5 ว่า ไม่เป็นสลักสำคัญอันใด
ไม่ได้ตั้งมาแต่แรก เถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
โปรดพระองค์ใด ถึงได้มาภายหลังก็ตั้งเพิ่มขึ้น

พระนาคสวาท

พระนาคสวาทเป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบล้านนารุ่นหลัง
ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ขนาดหน้าตักกว้าง 8 เซนติเมตร
สูงเฉพาะองค์พระ 11.80 เซนติเมตร สูงจากฐานถึงยอดฉัตร 52.50เซนติเมตร
สูงจากฐานถึงยอดเรือนแก้ว 32 เซนติเมตร วัสดุหินสีเขียวคล้ายหยก

ประทับสมาธิราบ ปางสมาธิ ทรงครองจีวรห่มเฉียง สังฆาฏิแถบกว้างพาดพระอังสะ
ร่องพระพาหาซ้ายปราศจากจีวรกำบัง ครอบพระเศียรและพระเกตุมาลาทำจากทองคำ
พระศกประดับเพชร ทรงสังวาลทองคำฝังมรกต ประทับบนฐานบัวทำจากทองคำเกลี้ยง
มีผ้าทิพย์เป็นทองคำฝังอัญมณีฐานและฉัตรเป็นทองคำลงยาราชาวดี

ถ้าย้อนขึ้นไปตามพงศาวดาร กลับเป็นปริศนาถึงขนาด เพราะมีพระนาคสวาท 2 องค์
องค์หนึ่งมีขนาดหน้าตัก 8 นิ้ว องค์หนึ่งมีขนาดหน้าตัก 10 นิ้ว
ซึ่งไม่ตรงกับขนาดของพระนาคสวาท ซึ่งเชื่อว่าคือพระพุทธรูปศิลาเขียวในหอพระสุลาลัยพิมาน

พระนาคสวาทเรือนแก้ว

พระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิ พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระนลาฏกว้าง
พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่งกับทั้งพระโอษฐ์เรียว
พระกรรณยาวจรดพระอังสา พระเศียรประดับด้วยครอบพระเศียรประดับด้วยขมวดพระเกศา
มีพระเกตุมาลาและพระรัศมีรูปเปลวเพลิงล้วนเป็นทองคำ

องค์พระพุทธรูปครองอุตราสงค์ห่มเฉียงเรียบเปิดพระอังสาขวามีสังฆาฏิ
ซ้อนทบพาดเหนือพระอังสาซ้ายปลายตัดเป็นเส้นตรงยาวจรดพระนาภี
อันตรวาสกที่ปรากฏขอบใต้พระนาภีและบริเวณทั้งสองข้าง

มีแผ่นเบื้องหลังประทับนั่งเหนือฐานปัทมาสน์เป็นกลีบบัวคว่ำบัวหงาย
ภายในซุ้มเรือนแก้วเป็นกนก ประกอบกับทั้งมีฉัตรทองคำ 5 ชั้น ฉลุลายกางกั้นอยู่เบื้องบน
ฐานพระพุทธรูปแอ่นโค้งย่อมุม 2 ข้าง ประดับด้วยลายแข้งสิงห์
มีผ้าทิพย์ประดับอยู่เบื้องหน้า และมีสุวรรณฉัตร 3 ชั้น ประดับอยู่ทั้งสองข้างของซุ้มเรือนแก้ว

พระนากสวาดิเรือนแก้วมีสีเขียวคล้ายหยก
และเนื่องจากมีซุ้มประกอบจึงมีพระนามว่าพระนากสวาดิเรือนแก้ว
เนื่องจากพระพุทธรูปสำคัญหารูปประกอบได้ยากยิ่ง ทำให้ยากที่จะพิจารณาขนาด
แต่เมื่อไปค้นข่าวได้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561




พระนาคสวาดิเรือนแก้ว

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต
จากรูปเชื่อว่า พระนาคสวาทเรือนแก้ว น่าจะมีขนาดเล็กกว่า


ถ้าจะให้สรุปเรื่องนี้ก็คือ น่าจะมีความผิดพลาดในระบบมาตราโบราณ
เพราะพระแก้วศิลาเขียวที่มีขนาดองค์ใหญ่กว่า ก็มีข้อมูลว่า
มีขนาดหน้าตักเพียง 4 นิ้ว พระนาคสวาทเรือนแก้วน่าจะมีหน้าตักย่อมลงมาอีก
แต่ทั้งสององค์ น่าจะเป็นพระนาคสวาทที่รัชกาลที่ 3 ได้มาจากเมืองเวียงจันทน์

ผมเคยเขียน blog ที่ยืดยาวเพื่อคลายความสงสัยว่า
พระพุทธสิหิงค์องค์ใด คือองค์ที่แท้จริงซึ่งยังคงมีปริศนาว่า
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ ซึ่งเคยเห็นพระพุทธสิหิงค์องค์จริงแน่นอนก่อนการเสียกรุง
เหตุใดจึงอันเชิญ พระพุทธสิหิงค์องค์ที่ไม่ตรงกับพุทธลักษณะ คือปางสมาธิลงมา

ดูเหมือนว่า ปริศนานั้นจะคลี่คลาย เมื่อเราเอาหลายสิ่งหลายอย่างมาประกอบกัน
รวมทั้ง blog นี้ที่กล่าวถึงพระแก้ว เพราะทุกอย่างล้วนย้อนกลับไปที่พระแก้วมรกต
พระพุทธรูปจากหินมีค่าสีเขียวขนาดใหญ่ที่เป็นพระพุทธรูปสำคัญในรัชกาลที่ 1
มีพุทธลักษณะปางสมาธิ ซึ่งแตกต่างจากพระประธานทั่วไปที่เป็นปางมารวิชัย

เพราะพระพุทธสิหิงค์องค์ใดเป็นองค์ที่แท้จริงนั้นไม่สำคัญเท่ากับ
พระพุทธสิงหิงค์องค์ใดที่เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ นั่นเอง


ต่อเนื่องกันไป เนื่องจากผมไม่มีเวลาเขียน blog มากอีกแล้ว
แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันและอยากบันทึกไว้ เพราะปีนี้มีการอัญเชิญพระแก้ว
หลายองค์ออกมาให้ประชาชนได้กราบไหว้ ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ตามข่าว

เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2562 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร
ได้จัดกิจกรรมพิเศษ สักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน :นพปฏิมารัตนมารวิชัย
โดยมีพระพุทธสิหิงค์เป็นประธาน และได้อัญเชิญพระแก้วปางมารวิชัย 9 องค์

ซึ่งเป็นพระพุทธรูปมงคลโบราณที่มีประวัติความเป็นมาและสร้างขึ้นตามคติอันเป็นมงคล
ออกให้ประชาชนกราบสักการบูชาในคราวเดียวกันเพื่ออำนวยความสุขสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล
ในวาระแห่งการเริ่มต้นสู่ศักราชใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2561
ถึงวันที่ 27 มกราคม 2562 ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ถ้าใครอยากเห็นพระแก้วที่หลากหลายกว่าที่กล่าวไว้ว่าเป็นพระแก้วประจำรัชกาล
ปีหน้า ถ้ามีการจัดกิจกรรมเช่นนี้อีก อย่าลืมไปชมกันนะครับ



Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2562 12:26:34 น. 10 comments
Counter : 3615 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอุ้มสี, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtuk-tuk@korat, คุณSai Eeuu, คุณสาวไกด์ใจซื่อ


 
ปีนี้ไปไม่ทัน งานสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า ค่ะ เสียดายมาก รอลุ้นปีหน้าค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:20:28:44 น.  

 
หนังสือไหว้พระวังหน้าปรับราคานี่คะ ปีนี้เล่มละ 70 บาทเลย

หน้าบานกับคำชมเลยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:19:15:40 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Diarist ดู Blog
โอน่าจอมซ่าส์ Hobby Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
sawkitty Travel Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
จารุพิชญ์ Blog about TV ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ปีนี้ทันแต่ไม่ได้นำกล้องไปด้วย
เพราะกะไปไหว้พระพิฆเนสอย่างเดียว
แถมได้ชมน่ะค่ะ.....


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:10:04:22 น.  

 
ยังเป็นที่น่าสงสัยเกี่ยวกับที่มาจากพระพุทธลักษณะนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:16:10:39 น.  

 
ดีจังค่ะ เช้าๆได้อ่านเรื่องราวแบบนี้
แม้ว่าอ่านจบแล้วจะจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไร
ก็ยังรู้สึกดีจริงๆ ขอบคุณนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:7:13:38 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:8:43:09 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
พระแก้วนาคสวาท ก็นึกอยู่ว่าพระพักตร์คล้ายในหลวงรัชกาลที่ 3 ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:11:57:15 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
จะแวะมาเยี่ยมเรื่อยๆค่ะ
ถ้ามีเวลาก็อย่าลืมเข้ามาเขียน
ทิ้งไว้อีกบ้างนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:9:22:03 น.  

 
ยอมรับตัวเอง ว่ามีความรู้เรื่องนี้น้อยมากค่ะ จขบ รู้ลึกรู้จริง เหมือนทำงานกรมศิลป์ หรือเป็นอาจารย์สอนด้านนี้เลยนะคะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:17:08:10 น.  

 
ข้อมูลแน่นปึ้กมาก อ่านแล้วเสียดายเลยค่ะที่ไม่ได้ไปร่วมงาน อยากเห็นกับตาตัวเอง

ดีใจที่กลับมาเขียนบล็อกแล้วนะคะ


ใช่ค่ะ ข้าวแช่เพชรบุรีนี่ดังค่ะ

ไม่แพงด้วยค่ะ 555

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Review Food Blog ดู Blog
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 เมษายน 2562 เวลา:9:54:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]