ตะลิงปลิง

......

ผลไม้รสเปรี้ยวจัด มีวิตามิน เอ และ ซี สูงมาก

นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ

 วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง ไนอาซิน

และโปแตสเซียมออกซาเลต

 รสเปรี้ยวของตะลิงปลิง ใช้แทนมะนาว หรือมะขาม

แต่รสชาติจะออกคล้ายมะดัน

จะทานคู่กับน้ำปลาหวาน หรือกะปิหวาน แทนมะม่วง

 เป็นของทานเล่นที่ไม่อ้วน เนื่องจากผลมีรสเปรี้ยว

 จึงใช้แก้ไอขับเสมหะ บำรุงเลือด

 นอกจากนี้ยังใช้แก้ข้ออักเสบ แก้คางทูม

ในงานวิจัยสิงคโปร์พบว่า สารสกัดเอทานอล

ที่ได้จากน้ำใบตะลิงปลิง มีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือด

และไขมันในเลือด ดังนั้นการกินน้ำใบตะลิงปลิง

 เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน

 และผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์สูง

 ในฟิลิปปินส์มีการวิจัยสารสกัดจากใบตะลิงปลิง

ในเอทานอล 10% มาทาผื่นคัน

ปรากฏว่าได้ผลดี ทำให้ผื่นคันหายดีเร็วกว่า

การใช้ยาแก้คันถึงหนึ่งเท่าตัว


ตะลิงปลิง เป็นไม้ที่มีพื้นถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย

 และพบตามชายทะเล ในบราซิล

มีการปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว

 ออกผลตามกิ่งก้าน และลำต้นเป็นพวงแน่น และสวยงาม

 จึงเป็นที่นิยมปลูกโดยทั่วไป ผลมีรสเปรี้ยวใช้ในการบริโภค

 ตะลิงปลิงอยู่ในตระกูลเดียว กับมะเฟือง

 มีลักษณะตรงกลาง ระหว่างมะเฟืองกับมะดัน

 เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เปราะหักง่าย

เปลือกต้นมีสีชมพู ผิวเรียบมีขนนุ่มปกคลุมตามกิ่ง

ผลตะลิงปลิง จะเป็นผลกลมยาวปลายมน

 ผลยาวประมาณ 4-6 เซ็นติเมตร กว้างประมาณ 2 เซ็นติเมตร

 เป็นพูตามยาว ผิวเรียบมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง

เมื่อตัดตามขวางจะมี 5 แฉกเหมือนมะเฟือง

 แต่เป็นลักษณะแฉกมน ออกผลเป็นช่อห้อย

 ผลตะลิงปลิงมีรสเปรี้ยว ในส่วนสรรพคุณของผลนั้น

 ช่วยในการเจริญอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร

เป็นยาฝาดสมาน แก้เสมหะเหนียว ฟอกโลหิต

เป็นยาบำรุงกำลัง แก้ปวดมดลูก แก้ไอ

แก้โรคริดสีดวงทวาร ลักปิดลักเปิด

ใช้ทำน้ำผลไม้ ทำไวน์ ทำแยม

หรือว่าจะนำมาถนอมอาหาร โดยการดอง

เชื่อม แช่อิ่ม กวน นำไปประกอบอาหาร ที่มีรสเปรี้ยว

เช่น ต้มส้ม แกงส้ม ยำ ที่นิยมคือนำมาทาน

เป็นผักเคียงอาหารอย่างแหนมเนือง หรือน้ำพริก

ใบสด นำมาตำคั้นน้ำทาพอกแก้อาการคัน

ใช้ทำความสะอาดผ้าลินิน ใช้ล้างมือแทนสบู่ได้ดี

 ตะลิงปลิงเหมาะ ที่จะปลูกบริเวณบ้าน

เพราะปลูกง่าย สวยงาม  ดอกมีกลิ่นหอม

เมนูเด็ด น้ำพริกตะลิงปลิงกุ้งเผา เมี่ยงตะลิงปิง

ยำตะลิงปิง ขนมจีนซาวน้ำใส่ตะลิงปลิง

 แกงเผ็ดหมูใส่ลูกตะลิงปลิง แกงส้ม ตะลิงปิงแช่อิ่ม

 ตะลิงปิงลอยแก้ว ฯลฯ

























ขอบคุณที่มา fb.Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ