แตงโม

......

 ชื่อสามัญ Watermelon ชื่อท้องถิ่น ภาคอิสาน “บักโม”

 ส่วนภาคเหนือ “บะเต้า” แต่ คนตรัง “แตงจีน”

 มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปแอฟริกา ในทะเลทรายคาลาฮารี

ซึ่งชาติแรกที่ปลูกแตงโม ไว้รับประทานนั้นก็คือชาวอียิปต์

ประเทศไทย การปลูกแตงโมจะมีอยู่ทั่วทุกภาค

และปลูกได้ทุกฤดู

พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากโดยทั่วไปจะมีอยู่ 3 สายพันธุ์หลักๆ

 นั่นก็คือ พันธุ์ธรรมดาทั่วไป เมล็ดมีขนาดเล็ก รสหวาน

 เช่น แตงโมจินตหรา แตงโมตอร์ปิโด แตงโมกินรี

แตงโมน้ำผึ้ง แตงโมไดอานา แตงโมจิ๋ว

สายพันธุ์ พันธุ์ไร้เมล็ด เป็นพันธุ์ผสมผลิตเพื่อส่งออก

 และพันธุ์กินเมล็ด

( ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่วที่เรียกกันว่า “เม็ดก๋วยจี๋”


แตงโม จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับ แคนตาลูป

ฟักทอง แตงกวา เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมาก

 จึงมีคุณสมบัติเย็น รับประทานแล้วหวานชื่นใจ

เป็นผลไม้ที่เหมาะกับ ผู้ต้องการลดความอ้วน

หรือควบคุมน้ำหนักอย่างมาก เพราะมีแคลอรี่ต่ำ

 ช่วยในการควบคุมน้ำหนักไม่ให้น้ำหนักเกิน

 ป้องกันการสะสมของไขมัน ที่เป็นอันตรายกับร่างกาย

 ลดปริมาณไขมันที่จับอยู่ภายในเลือด

นอกจากนี้ยัง ช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง รักษาแผลในปาก

 จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ เพราะอุดุมไปด้วยวิตามิน

และแร่ธาตุหลายชนิด อย่างเช่นวิตามินเอ ซี วิตามินบีรวม

แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส

แต่ผู้ที่มีกระเพาะ ม้ามไม่แข็งแรง กระเพาะลำไส้อักเสบ

 หญิงหลังคลอด หลังป่วยหนัก

หรือผู้ที่มีอาการปัสสาวะมาก และบ่อย

มีอาการท้องร่วงง่าย ไม่ควรรับประทานแตงโม

แตงโม มีสารอีกชนิดหนึ่ง ที่สำคัญอย่างมาก

นั่นก็คือ Citrulline

ซึ่งจะพบสารนี้ ในเปลือกมากกว่า ส่วนของเนื้อ

การรับประทานแตงโม ที่มีส่วนเปลือกขาวๆ ติดมาด้วย

จะเป็นประโยชน์ที่ดี มากกว่าที่จะกินแต่เนื้อสดๆ

ประโยชน์ของสารนี้ก็คือ จะช่วยขยายเส้นเลือด

ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน และยังเป็นประโยชน์ อย่างมาก

สำหรับคนที่เป็น โรคเบาหวาน และโรคอ้วนอีกด้วย

ก่อนที่เราจะผ่าแตงโม รับประทานควรจะล้างเปลือก

ให้สะอาดก่อน เพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง

ซึ่งอาจจะเป็น อันตรายต่อสุขภาพได้

เพราะแตงโมเป็นพืช ที่ถูกรบกวนได้ง่าย

จาก แมลงศัตรูพืชต่างๆ

 ชาวสวนจึงนิยม ที่จะฉีดยาฆ่าแมลง

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยว่า ในเนื้อและเปลือกของแตงโม

 มีสารออกฤทธิ์ที่ทำงานคล้าย กับไวอากร้า

หากบริโภคเข้าไปมากๆ สาร Citrulline ในแตงโม

จะทำปฏิกิริยา กับเอนไซม์ในร่างกายทำให้เกิด

กรดอะมิโนอาร์จินีน ขึ้นมา ซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้น

ทำให้ หลอดเลือดคลายตัว

 และทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น

 คล้ายๆกับฤทธิ์ของไวอากร้า

ที่ผ่านมาแตงโมจะนำไปใช้ เป็นยาขับปัสสาวะ

หากรับประทานแตงโมมากเกินไป

น้ำตาลในผลแตงโม อาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือดได้

ซึ่งมีผลทำให้เป็นตะคริวได้ง่ายขึ้น

เปลือกแตงโม หรือแตงโมอ่อน ทำแกงส้ม

 ผัดไข่ แกงจืดหมูสับ

 

ปลาแห้งกับแตงโม เมนูอาหารว่างโบราณ

 แตงโมต้องเนื้อหวานๆเย็น มีรสหวานๆ ปนเค็มนิดๆ

ของปลาเค็มมาตัด หอมแดงเจียวมาร่วมด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ