bloggang.com mainmenu search
















มะเดื่อ

........




มะเดื่อที่ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 10 ผลไม้เพื่อสุขภาพ

 ที่ดีที่สุดในโลกคือ " มะเดื่อฝรั่ง " ลูกใหญ่ รสหวาน

 อุดมด้วยสารอาหาร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

ทั้งวิตามิน เกลือแร่ แคลเซี่ยม ไฟเบอร์

ช่วยสร้างสมดุลของกรด ในร่างกาย  ช่วยชะลอความชรา

 ส่วน "มะเดื่อไทย" นั้นจะลูกเล็กกว่า

ไม่ใคร่นำมาบริโภคอย่างแพร่หลาย

 และยังไม่นิยมปลูกทั่วไป ส่วนมากมักพบตามป่า

ชาวบ้านมักเด็ดลูกมะเดื่ออ่อน มาเป็นผักเคียงกับน้ำพริก

บ้างก็กินสด บ้างก็ต้มให้สุกแล้วแต่ความชอบ

สาเหตุที่คนไทย ไม่นิยมบริโภคมะเดื่อ

อาจด้วยมะเดื่อนั้นเป็นพันธุ์ไม้ ในพุทธประวัติ ไม่กล้ากิน

 จึงไม่ปรากฏการนำมาใช้ประโยชน์ด้านอาหาร

และส่วนมากจะเน้นไป ทางการใช้ทำยา

อีกประการคือ ผลมะเดื่อเป็นแหล่งรวมแมลงหวี่จำนวนมาก

เพราะในระหว่าง ที่มะเดื่อผลิดอกบาน

แมลงหวี่จะบินเข้ามาตอมและอาศัยเป็นที่ฟักไข่

พร้อมกันนั้นก็ทำให้เกสรดอก เกิดการผสมพันธุ์กันขึ้น

 จนมะเดื่อกลายเป็นลูก พอเราเอามากิน

ก็เจอกับแมลงหวี่เต็มไปหมด

หรือแถวต้นมะเดื่อ มีแมลงหวี่บินว่อน

ยิ่งผลสุกหล่นเต็มใต้ต้น ส่งกลิ่นหึ่ง

แมลงหวี่ก็ตอมหึ่งๆ ซึ่งอาจเป็นเหตุผล

ที่ไม่มีใครชอบปลูกและกินมะเดื่อ

แต่ชาติตะวันตกใช้เป็นอาหารและอบแห้ง

ดินแดนปาเลสไตน์ เช่นอิสราเอลนำมะเดื่อมาทำอาหาร

ทำ cake ตากแห้ง และใช้เป็นยาด้วย.

มะเดื่อ เป็นต้นไม้ที่แทรกอยู่ในตำนาน ความเชื่อ

คติธรรมและการใช้ประโยชน์ ในทุกศาสนา

 ในพุทธศาสนา กล่าวไว้ในพระไตรปีฎกว่า

พระพุทธเจ้าองค์ที่ 26 จะตรัสรู้ใต้ไม้มะเดื่อ

 ในศาสนาอิสลาม กล่าวว่า

มะเดื่อและมะกอก เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบ สำหรับมนุษย์

ที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการต่างๆ สูง

 ในศาสนาฮินดู เป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์

 ในคริสต์ศาสนายังปรากฏเรื่องราวของมะเดื่อ

ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าสร้างโลก เมื่ออาดัมและเอวา

ชาย-หญิงคู่แรกของโลกทำบาป

 แล้วใช้ใบมะเดื่อปิดบังความอาย

มะเดื่อยังเป็นต้นไม้ที่อารยะชน ตั้งแต่ยุคโบราณ

ให้ความเคารพบูชา ถือเป็นต้นไม้มงคลมาจวบจนปัจจุบัน

มะเดื่อไทย มะเดื่อฝรั่ง

 ......

ในภาคกลางเรียกมะเดื่ออุทุมพร

สันนิษฐานว่า มาจากการรวม ชื่อมะเดื่อ

กับชื่อในภาษาสันสกฤต คือ Udumbar เป็น มะเดื่ออุทุมพร

ภาคใต้เรียกเดื่อน้ำ ลำปาง เรียก มะเดื่อ

ภาษาอังกฤษเรียก Cluster Fig

มะเดื่อไทย ถือว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์

มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยามา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์

โดยใช้ทำพระที่นั่งในพระราชพิธีราชาภิเษก

นอกจากนั้น ยังใช้ทำหม้อน้ำและกระบวยตักน้ำมัน

 สำหรับกษัตริย์ทรงใช้ในพระราชพิธี

คนไทยถือว่าดอกมะเดื่อ เป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก

นับเป็นบุญวาสนาจริงๆ จึงจะได้เห็น

หรือเป็นเจ้าของดอกมะเดื่อ

มะเดื่อไทย

...

ส่วนที่นำมากินเป็นผัก คือ ช่อดอก

ที่คนไทยเรียกว่าผลหรือลูกมะเดื่อ

 โดยใช้ช่อดอกอ่อนหรือดิบ เป็นผักจิ้มหรือใช้แกง

เช่น แกงส้ม ความจริงช่อดอก(ผล) ของมะเดื่อชนิดอื่น

ที่กินเป็นผักได้ หลายชนิด

แต่ส่วนใหญ่ผลเล็กและรสชาติ ไม่ดีเท่าช่อดอกมะเดื่อไทย

ผลสุกสีแสดแดง กินเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง

มะเดื่อไทย อุดมด้วยวิตามินต่าง ๆ

โดยเฉพาะวิตามิน B1 ,B2 และ C

และแคโรทีนของวิตามิน A และยังมีแร่ธาตุที่สำคัญ

 อาทิเช่น เหล็ก แคลเซียม และทองแดง

แร่ธาตุเหล่านี้มีประโยชน์ต่อเซลล์ ในร่างกาย

 และการฟอกเลือด มีประโยชน์สำหรับคนที่ขาดเลือด

นอกจากนี้ผลมะเดื่อยังมีเปอร์เซ็นต์ ของน้ำตาล

ระหว่าง 18-30 % ตามความสดและแห้ง

ผลมะเดื่อสดปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน

 70 แคเลอรี ถึง 267 แคเลอรี่ เมื่อเทียบกับผลมะเดื่อแห้ง

 ผู้ที่รับประทานผลมะเดื่อ จะมีกำลังวังชา

และทนต่อความหนาวได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับ สรรพคุณทางยาของผลมะเดื่อ

ออกมามากมาย พบว่าสารสกัดใบมะเดื่อ

แสดงฤทธิ์ต้านการอักเสบ

เปลือกต้น มีรสฝาด รับประทานแก้ท้องร่วง

ชะล้างบาดแผล เป็นยาสมานดี

ราก ใช้เป็นยาแก้ไข้ กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้หัว

ไข้กาฬ ไข้พิษทุกชนิด กล่อมเสมหะ และโลหิต

มะเดื่อฝรั่ง หรือ มะเดื่อญี่ปุ่น

......

จัดเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของ อียิปต์ อิตาลี และกรีซ

มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง พบมากใน ตุรกีและกรีก

 จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลาง

ลำต้นจะเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ลำต้นมียางสีขาว

ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยวหนาค่อนข้างแข็ง

ด้านหนึ่งมีขนอ่อน ส่วนผิวด้านบนจะหยาบ

ขอบใบหยักลึก 3-5 หยัก ส่วนผลมะเดื่อจะออกเป็นกระจุก

 ผลกลมแป้นหรือรูปไข่ มีเปลือกบาง

โดยผลอ่อนจะสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยน

เป็นสีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์

 ด้านในมีเนื้อสีแดงเข้ม เมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม

ชาติตะวันตกใช้เป็นอาหาร และอบแห้ง

ดินแดนปาเลสไตน์ เช่นอิสราเอล นำมะเดื่อมาทำอาหาร

 ทำ cake ตากแห้ง และใช้เป็นยาด้วย.

ประเทศไทย ได้มีการนำเข้ามะเดื่อแห้งจากต่างประเทศ

และได้มีการทดลองปลูกครั้งแรก ที่ดอยอ่างขางเมื่อปี 2524

โดยมูลนิธิโครงการหลวง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น ถือเป็นผลไม้ต่างถิ่น

ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

ประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง

1. ช่วยบำรุงร่างกาย และต่อต้านอนุมูลอิสระ

2. เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนัก

หรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง

มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง

มีคอเลสเตอรอลและไขมันน้อยมาก

ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง

ไขมันในเลือดสูง โรคตับ จึงรับประทานได้

3. ช่วยคงความอ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย

4. มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง

 จึงช่วยเสริมสร้างซ่อมแซม และเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ

5. ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และลดความเสี่ยง

ของการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ

6. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

7. มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

 เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือด

และช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน

8. ช่วยทำให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติ

และช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง

9. ช่วยปันกันโรคโลหิตจาง เนื่องจากมีธาตุเหล็กและโฟเลตสูง

10. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา

11. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูพรุน

12. มะเดื่อ สรรพคุณช่วยปรับสมดุลของกรดด่างในร่างกาย

13. สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ช่วยสมานแผลในช่องปาก

14. มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง

จึงช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในขับถ่าย

และกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี

 และยังช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย

15. สรรพคุณมะเดื่อ ใช้เป็นยาระบาย ป้องกันอาการท้องผูก

16.ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

ช่วยป้องกันนิ่วในไต และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 ช่วยฟอกตับ และม้าม

17.ช่วยบรรเทาอาการของโรคกามโรค

18. เชื่อว่ามีลูกมะเดื่อสามารถช่วยเสริมสร้างพลังทางเพศ

19. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยง

ของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในหญิงวัยทอง

20. ในประเทศอินเดียนิยมใช้ใบมะเดื่อมารับประทานเป็นอาหาร

21. เปลือกของมะเดื่อสามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้

นอกจากจะใช้รับประทาน เป็นผลไม้สดแล้ว

 ยังสามาถนำมาใช้ทำขนมได้อีกด้วย

เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน

พุดดิ้ง เค้ก ไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก

 ใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่ว

แล้วนำมาป่นใช้แทนกาแฟ

การรับประทานมะเดื่อฝรั่งแห้งอาจทำให้ฟันผุได้

เนื่องจากมีปริมาณของน้ำตาลสูง


































ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ

Create Date :25 เมษายน 2558 Last Update :25 เมษายน 2558 10:08:41 น. Counter : 5802 Pageviews. Comments :0