| ยำมะม่วง มูสหอยเชลล์ต้มข่า ถุงทองไส้ปลา | | | สำหรับเมนูอาหารที่ทำให้ได้เหรียญทองจากการแข่งประเภท Hot Cooking Category Junior Team นั้น ทีมเชฟมีเวลาในการจัดเตรียม 6 ชั่วโมง จำนวน 70 เสิร์ฟ แขกที่เข้าร่วมงานมีเวลาในการรับประทาน 3 ชั่วโมง เป็นลักษณะ Sit down dinner อาทิ Appetizer : ห่อหมกปลากราย, ยำมะม่วง, มูสหอยเชลล์ต้มข่า แตงกวาน้ำอาจาด, ปลาฮาริบัตนึ่ง, ยำกุนเชียงซอสบาบิยอง, ถุงทองไส้ปลา Main Course 1: สันในแกะอบ, ไส้กรอก มัสมั่นแกะ, สตูถั่วมัสมั่นซอสตะไคร้ Dessert : ไวต์ช็อกโกแลตและครีมชีสมูสสอดไส้สตรอเบอร์รี, ขนมปังราดซอสเบอร์รีเสิร์ฟกับซอสซาบายอง แชมเปญและราสเบอร์รี ด้าน นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันอาหารเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ให้การสนับสนุนทีมเชฟไทยในการแข่งขัน The Culinary World Cup 2014 ณ ประเทศลักเซมเบิร์ก และสามารถคว้ารางวัลแชมป์โลกมาได้หลายรายการซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของวงการเชฟไทยในการสร้างชื่อเสียง และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยอย่างมาก โดยสถาบันอาหารเตรียมเดินหน้าส่งเสริมอาหารไทย และวัตถุดิบไทยผ่านฝีมือเชฟไทย ตระเวนจัดแสดง ถ่ายทอดความรู้การปรุงอาหารไทยให้เชฟต่างชาติทั่วโลก ทั้งสนับสนุนการจัดแข่งขันปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบไทยในเวทีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป
|