และคอลัมน์ที่พลาดไม่ได้ในฉบับนี้ EAT OUT EVERYDAY ที่ขน 25 ร้านอร่อยในธีม Hot Pot มาแนะนำเช่น ร้าน OK Shabu Shabu เจ้าของร้านเป็นชาวไต้หวันจึงไว้ใจได้ตั้งแต่น้ำซุป โดยใช้ซี่โครงไก่ กระดูกหมู และปลา มาต้มรวมกัน บวกกับทีเด็ดอีกอย่างนั่นก็คือ น้ำจิ้ม ที่ปรับรสจนแซบได้ใจ เข้มข้นไปด้วยพริกขี้หนู หอม กระเทียม ตบท้ายด้วยน้ำพริกเผาทำเอง ไว้คอยเพิ่มรสชาติ เมนูชาบูจะเสิร์ฟทั้งแบบที่เป็นเซต และอะลาคาร์ต ทั้งเนื้อวัว หมู ไก่ เนื้อแกะจากนิวซีแลนด์ และซีฟูด พร้อมด้วยเมนูเสริมที่สั่งตรงจากไต้หวัน อาทิ เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวปลาหมึก ลูกชิ้น ไข่ปลาไต้หวัน ไข่ปลาทูน่า เกี๊ยวปลา ฯลฯ อันนี้ละทีเด็ด ปิดท้ายรายการด้วยถั่วแดงเย็น ที่เสิร์ฟมาเป็นอภินันทนาการ หวานกลมกล่อม นุ่มละมุนลิ้นเพราะเขาแอบใส่ข้าวเหนียวเข้าไปด้วย อ้อ! ส่วนใครที่กินเจ เขาจะมี เซตเจ เสิร์ฟตลอดทั้งปี ร้าน "Nabezo" มีทั้งสุกี้ยากี้ และชาบู ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ระดับพรีเมียม คัดมาสดๆ เน้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อโอมิ เนื้อวากิว ปูทาราบะ ที่สดจริงๆ ไม่มีการนำไปต้มแล้วนำไปฟรีซแต่อย่างใด โดยที่ร้านจะเสิร์ฟเป็นเซต โดยเฉพาะ "Sukiyaki Omi Gyu Course" เป็นไฮไลต์เลยทีเดียว ร้าน "สุกี้ยากี้ เอี้ยวฮั้ว" Sukiyaki Number 1 เป็นร้านหม้อร้อนมะจัง หรือสุกี้โบราณ บนปกเมนูเขียนว่า สุกี้โบราณ 2498 สุกี้เจ้าแรกของเมืองไทย ถามจากรุ่นลูกหลานซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 ได้ความว่า ก่อนปี พ.ศ. 2498 อากงเริ่มขายโจ๊กเนื้อวัวข้าวกล้องอยู่ย่านเยาวราช แล้วพัฒนามาเป็นสุกี้เตาถ่าน นับเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย โดยเป็นสูตรแต้จิ๋วคือ นำเนื้อวัวมาหมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษ แล้วตอกไข่ดิบมาด้านบน เวลาจะกินก็ตีไข่ผสมคลุกเคล้า แล้วเทเครื่องลงในหม้อทั้งชาม ใส่ผักกาดขาว ผักบุ้ง ฯลฯ ตามลงไป อย่าให้สุกมาก ตักใส่ชามแล้วกินกับน้ำจิ้มผสมเต้าหู้ยี้ และกระเทียมดองแบบไม่เผ็ด หรือไม่ก็น้ำจิ้มสูตรดั้งเดิม และน้ำจิ้มหวานสูตรโบราณ แต่ถ้าชอบรสจัดก็เติมพริก กระเทียมสับ มะนาว ขณะที่น้ำซุปก็จะเป็นน้ำซุปกระดูกไก่ ยิ่งเดือดพล่านยิ่งหอม เมนูหลักต้องสั่ง เนื้อวัวล้วนหมักพิเศษ ที่โดดเด่นและพิถีพิถันกว่าใคร เพราะใช้เนื้อวัวส่วนลูกมะพร้าว ซึ่งเป็นส่วนช่วงโคนขาหลังตรงสะโพก ก้อนใหญ่ เนื้อนุ่ม เมื่อผ่านการหมักก็ยิ่งนุ้ม...นุ่ม :: Report by FLASH
|