ศรีสะเกษ - เที่ยวอิสานใต้ตามใจฉันที่ ปราสาทสระกำแพงใหญ่
เส้นทางอิสานใต้
จากโคราชมุ่งตะวันออกถึงบุรีรัมย์
จากบุรีรัมย์มุ่งตะวันออกถึงตัวจังหวัดสุรินทร์
จากตัวจังหวัดสุรินทร์มุ่งตะวันออกถึงปราสาทศีขรภูมิ
จากศีขรภูมิมุ่งตะวันออกถึงปราสาทสระกำแพงใหญ่
แต่เดี๋ยวก่อน
ระหว่างทางจากศีขรภูมิ มาสระกำแพงใหญ่ ผ่านห้วยทับทันนิ
หัวย ... คือลำน้ำ , ทับทัน เพี้ยมมาจาก ทัพทัน
ชื่อมาจากในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ช้างเผือกหลุดมา และมาตามช้างทันที่นี่
ที่มีชื่อเสียงคือ ไก่ย่างห้วยทับทัน
เป็นไก่ย่างที่เสียบด้วยไม้มะดันป่า
เริ่มต้นโดย นายโพธิ์ นิลล้อม ทำขายที่สถานีรถไฟตั้งแต่ปี 2480
* ปราสาทสระกำแพงใหญ่ *
ที่แวะเพราะ
อยู่ในทางผ่าน
มีใครพูดถึงเสมอหากพูดเรื่องปราสาทขอม
มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าปราสาทศรีพฤทเธศวร
เพราะในจารึกปราสาทสระกำแพงใหญ๋
ระบุว่า อุทิศให้พระศรีพฤทเธศวร อันเป็นพระนามหนึ่งของพระศิวะ
จึงเป็นปราสาท หรือ เทวาลัยที่มีพระศิวะเป็นพระเจ้าสูงสุด
ตั้งอยู่ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
มีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เรียกว่า สระกำแพง ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร
มีอาคารห้าหลัง อยู่ในระเบียงคดสี่เหลี่ยม
ปราสาทประธานหันหน้าไปทิศทางตะวันออก
มีประตูทางตะวันออกและตะวันตก
ประตูทางเข้าโคปุระ ทิศตะวันออก
ช่องทางเดินในโคปุระ ... ช่องทางเดินภายในกำแพง
ปรางค์ประธานสามหลัง บนฐานแลงเดียวกัน เรียงตัวในแนวเหนือใต้
บรรณาลัยสองหลัง อญุ่ด้านหน้าปรางค์ประธาน ทิศใต้ และ ทิศเหนือ
อาคารแสดงถึงปราสาทขอมรุ่นเก่าคือ ไม่มีมณฑปยาว แค่เพียงมุขสั้นๆ
ผนังก่อด้วยอิฐ หน้าบัน ทับหลังและเสาประดับกรอบประตู แกะสลัก จากหินทราย
การใช้อิฐกับหินทรายผสมกันในปราสาทหลังเดียว ถือเป็นลักษณะพื้นเมือง เป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะขอมในดินแดนไทย
อาคารทางตะวันตกเฉียงใต้
ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่เพื่ออะไร แต่อาคารนี้ทำให้ปราสาทไม่สมมาตร ซ้าย-ขวา
หน้าบันปรางค์ประธาน
ภาพศิวนาฏราช
พระศิวะที่อยู่ตรงกลางการร่ายรำโดยไม่ยกพระบาทจากพื้น
... ถ้ายกขึ้นละก็ จะมีเรื่องเดือดร้อน คือกระทืบ ทำลาย...
ด้านขวาของพระศิวะ มีนางกาไรกาลัมไมยาร์ ... หญิงที่มีถันยาน ...
เล่าว่า
นางกาไรกาลหรือกาไรกาลัมไมยาร์เกิดที่เมืองกาไรกาลใน อินเดียใต้
เลื่อมใสศรัทธาในพระศิวะจนขอพรได้ตามประสงค์
สามีเห็นว่านางมีสถานะสูงส่งกว่าจึงปฏิบัติต่อนางอย่างนอบน้อมราวกับพระเทวี
นางเห็นว่าความงามของนางไม่มีคุณค่าต่อสามีอีกต่อไป
จึงขอพรจากพระศิวะให้กลายเป็นหญิงชราน่าเกลียดน่ากลัว
ปวารณาตนเป็นมือฉิ่งและร้องเพลงถวายพระศิวะเมื่อทรงร่ายรำ
หน้าบัน ... อุมามเหศวร
พระอุมานั้งบนตักขวาของพระศิวะ บนหลังโคนนทิ
มีบริวารถืออาวุธให้ คือ ตรีศูล และกระบอง
หน้าบัน พระไภรวะ คือ พระศิวะภาคดุร้าย
ถือหัวมนุษย์ที่พระหัตถ์ขวา ส่วนอีกพระหัตถ์ซ้ายหนึ่งถือกระบอง
มีโคนนทิอยู่ทางขวาของพระศิวะ
ก้านต่อดอกที่กรอบหน้าบันและใบระกา
ใบไม้ม้วนภายในหน้าบัน
ทับหลัง
ศิลปะบาปวน ... คือศิลปะแบบที่พบที่ปราสาทบาปวน
ตรงกับสมัย พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1550-1600) พุทธศตวรรษที่ 14-15
ลักษณะคือ
เทพประทานอยู่ตรงกลางในซุ้มแก้ว
เหนือเกียรติมุข หรือ หน้ากาล
ท่อนมาลัยข้างหน้ากาลโค้งตัวม้วนขึ้น โค้งตัว ม้วนลง ขนดปลายขึ้น
อีกนัยหนึ่งของหน้ากาล
หน้ากาลมีหน้าตาคล้ายสิงห์ คือ สิงห์มุข
สิงห์ฺในความหมายของอินเดีย หมายถึงแสงสว่าง หมายถึงดวงอาทิตย์
ให้แสงสว่าง ทำลายอวิชา
พระกฤษณะปราบม้าเกษี
พระกฤษณะในวัยเด็กที่ป่าวรินทาวัน
พญากงส์มักส่งอสูรร้ายแปลงมาในรูปสัตว์ต่างๆ มาทำร้าย
แต่พระกฤษณะสามารถปราบได้เสมอ
พระอินทร์ ... เทพประจำทิศตะวันออก ... ทรงช้างเอราวัณหันข้าง
หนุมานถวายแหวน
เล่าว่า
นางสีดาถูกทศกรรฐ์จับขังไว้ในสวนเป็นเวลานนาน
ถูกนางกำนัลของทศกรรฐ์ด่าทอด้วยคำหยาบ จนเจ็บช้ำใจมาก
พระรามก็ยังไม่มาช่วย จึงคิดผูกคอตาย
หนุมานได้ช่วยไว้ทัน และกราบทูลถึงข่าวของพระราม
ได้ถวายแหวนกับสไบแก่นาง
นางสีดาไม่เชื่อ เพราะแหวนและสไบนี้ตกอยู่กลางป่า ใครจะเก็บมาก็ได้
หนุมานจึงทูลความสัมพันธ์ระหว่างพระรามและสีดาที่เมืองมิถิลา นางสีดาจึงเชื่อ
หนุมานจะพานางสีดากลับไปหาพระราม
นางสีดาไม่ยอม
เป็นที่มาของคำพังเพยที่ว่า ยักษ์ลักมาลิงพาไป หมายถึงความอัปยศ
จึงให้หนุมานไปทูลให้พระรามกรีฑาทัพมาฆ่าทศกรรฐ์
พระลักษมีประทับนั่งถือดอกบัว 2 ดอก
ด้านบนมีช้างกำลังสรงน้ำ คชลักษมี
เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี
ท่อนมาลัย แยกออกจากกัน มีพวงอุบะ ทีเทพช่วยดึงไว้ ... แบบคลัง
เป็นศิลปะเก่ากว่าบาปวน แต่ถือว่าเป็นบาปวนเพราะสร้างในสมัยหลังกว่า
บาปวนนำศิลปะแบบคลังมาใช้
มกรคายนาค หังโล้น ... บาปวน
บางชิ้นก็สลักไม่เสร็จ
เสาแปดเหลี่ยมกรอบประตู
เสากรอบประตู
ลายก้านต่อดอก เป็นศิลปะแบบปาปวน
ด้านล่างเป็นรูปลิงชูก้านดอก
ประตูหลอก
การที่ปราสาทมีประตูหลอก เพราะ
การสร้างปราสาทจะใช้หินแท่งใหญ่ตั้งขึ้นเป็นกรอบประตู ทั้งสี่ด้าน
วางทับหลังลงไปเพื่อล็อคให้อยู่เป็นโครงประตู
จากนั้นก็ก่ออิฐหรือหินหรือแลงขึ้นเป็นปราสาท
ดังนั้นกรอบประตูจึงทำหน้าที่รับน้ำหนักของปราสาท
จึงจำเป็นต้องเปิดด้านเดียว ที่เหลืออีกสามด้านจึงเป็นประตูหลอก
หากทับหลังประตูหักลงเมื่อไหร่ ปราสาทหินก็พังลงมา
ปิดท้ายด้วยทับหลังประตูลายก้านขด
ลายก้านขด เป็นลักษณะเฉพาะของบาปวน
มื้อหน้าไปอุบล ไม่มีปราสาทแล้วค่ะ
Create Date : 20 มกราคม 2561 |
Last Update : 7 มีนาคม 2565 15:55:20 น. |
|
38 comments
|
Counter : 3274 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณmoresaw, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณSai Eeuu, คุณกิ่งฟ้า, คุณวลีลักษณา, คุณtoor36, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณKavanich96, คุณTui Laksi, คุณQuel, คุณล้งเล้งลัลล้า, คุณตะลีกีปัส, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณruennara, คุณกะว่าก๋า, คุณnewyorknurse, คุณSweet_pills, คุณSakormaree, คุณThe Kop Civil, คุณปลาแห้งนอกกรอบ, คุณJinnyTent, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณsunny-low, คุณหลวงกล้วย, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณชีริว, คุณInsignia_Museum, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณNaiKonDin |
โดย: moresaw วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:10:00:35 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:11:05:35 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:21:07:34 น. |
|
|
|
โดย: วลีลักษณา วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:21:34:13 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแมว วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:22:45:07 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:23:52:29 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:0:33:57 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:3:33:55 น. |
|
|
|
โดย: ruennara วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:4:52:29 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:5:20:23 น. |
|
|
|
โดย: Quel วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:6:32:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:19:00:59 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:20:26:46 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:23:21:31 น. |
|
|
|
โดย: ruennara วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:0:55:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:6:49:41 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:7:03:46 น. |
|
|
|
โดย: Sakormaree วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:10:12:32 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:11:25:12 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:15:10:52 น. |
|
|
|
โดย: sunny-low วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:15:18:53 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:20:36:29 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:21:22:58 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:21:55:59 น. |
|
|
|
โดย: sunny-low วันที่: 23 มกราคม 2561 เวลา:12:03:36 น. |
|
|
|
โดย: NaiKonDin วันที่: 23 มกราคม 2561 เวลา:12:20:10 น. |
|
|
|
| |
ยังไม่เคยไป เคยไปแต่เขาพระวิหาร
ไก่ย่างดูน่ากินครับ