สุรินทร์ - เที่ยวอิสานใต้ตามใจฉันที่ ปราสาทศีขรภูมิ
เส้นทางอิสานใต้
จากโคราชมุ่งตะวันออกถึงบุรีรัมย์
จากบุรีรัมย์มุ่งตะวันออกถึงตัวจังหวัดสุรินทร์
จากตัวจังหวัดสุรินทร์ถึงปราสาทศีขรภูมิ
* ปราสาทศีขรภูมิ *
ชาวอินเดียได้สร้างปราสาทเพื่อประดิษฐานรูปเคารพ เรียกว่า เทวาลัย
เป็นอาคารที่มีหลังคาซ้อนชั้นขึ้นไปหลายชั้น แต่ละชั้นประดับอาคารจำลอง
ทางอินเดียภาคเหนือ เรียกว่า ทรงศิขร อ่านว่า สิ-ขะ-ระ
ไม่แน่ว่าชื่อปราสาทอาจมีที่มาดังที่ว่านี้
สันนิษฐานว่าสร้างในพุทธศตวรรษที่ 17 ( พ.ศ. 1601-1700 )
ตั้งอยู่ที่ ต.ระแงง จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่าปราสาทระแงง
มีปรางค์ 5 องค์ก่อด้วยอิฐและหินทราย ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมเดียวกัน
ล้อมรอบด้วยสระน้ำรูปสี่เหลี่ยม มีทางเข้าสองทางคือ ตะวันออก และตะวันตก
บัวยอดปราสาท
เห็นแล้วสงสัยมากว่าเขาเอาขึ้นไปบนยอดปรางค์ได้อย่างไร
รู้แต่ว่าเวลาเอาลงมา เขาใช้เชือกหนังควายมัดและใช้ช้างดึงลง
ลายกลีบบัว
ลวดลายแกะสลัก
ฐานเสากรอบประตู อีกชิ้นน่าจะเป็นมกรคายนาค ?
ปรางค์ประธาน
หน้าบันเป็นมกรคายนาค 5 เศียร ... หางเกี่ยวกันเป็นซุ้มแก้ว
มกรอยู่ใต้คอนาค ... นี่ก็มกร
มกรคายนาค
ปราสาทนี้มีศิลปะขอมปะปนกันหลายสมัย
ทำให้เราคิดว่าการสร้างคงใช้เวลานาน
ศิลปะบาปวน ... ปราสาท บาปวน ... สร้างโดย พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1550-1600)
ศิลปะนครวัด ... ปราสาทนครวัด ... สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (พ.ศ.1655-1693)
ศิลปะบายน ... ปราสาทบายน ... สร้างโดย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (พ.ศ. 1724-1762)
ที่ต้องมาคือ ภาพจำหลักที่สวยงาม
ภาพทับหลัง ศิวนาฏราช
บอกว่าเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ... นับถือพระศิวะเป็นพระเจ้าสูงสุด
หน้ากาลอยู่ด้านล่างของทับหลัง
คายท่อนพวงมาลัยที่มีเสี้ยวแบ่งให้ท่อนพวงมาลัยขาดออกจากกัน
แสดงถึงศิลปะบาปวน
สิงห์ที่ด้านข้างของหน้ากาล
มีบุคคลจำนวนมากแทรกอยู่ในลายพันธุ์พฤกษา
แสดงถึงศิลปะนครวัด
กลางภาพเป็นพระศิวะกำลังร่ายรำอยู่บนแท่น
หงส์ 3 ตัว ... หมายถึงสวรรค์
ถัดลงมาคือหน้ากาล หรือ เกียรติมุข จับขาสิงห์ยืนชูท่อนมาลัย
เล่าว่า
มีพญายักษ์ชื่อชลันธร ได้รับพรจากพระศิวะว่าไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะได้
จึงลำพอง ระรานไปสามโลก และให้พระราหูไปท้าสู้พระศิวะ
เพื่อได้นางปารพตี พระชายาของพระศิวะมาเป็นภรรยาของตน
พระศิวะก็พิโรธมากจน ดวงตาที่สามที่อยู่ระหว่างคิ้วเปิดออก
มียักษ์หน้าคล้ายสิงห์โต ตาถลน กระโดดออกจากดวงตา จะไปจับพระราหูกิน
พระราหูตกใจกลัวรีบขอขมา และขอให้พระศิวะช่วย
พระศิวะจึงทรงห้ามไม่ให้ยักษ์ หรือ กาล ทำร้ายและให้ไว้ชีวิตพระราหู
กาล ซึ่งหิวโหยจึงกัดกินตัวเองจนเหลือแต่เพียงใบหน้าและแขน
พระศิวะเห็นก็คำนึงว่า
ความโกรธ ... ของพระศิวะ ...
เป็นสิ่งน่ากลัวที่ทำลายทุกสิ่งแม้กระทั่งตัวของมันเอง
จึงให้ กาล หยุดการกิน และ แต่งตั้งหน้ากาลให้อยู่เฝ้าที่ประตูวิมาน
ให้นามใหม่ว่า เกียรติมุข หมายถึง หน้าอันมีเกียรติ
เชื่อว่า
การสร้างหน้ากาลหรือหน้าเกียรติมุขไว้เหนือประตูจะคุ้มครองไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาได้
บุคคลที่แทรกอยู่ในลายพันธุ์พฤกษา
มีเทพขี่นรสิงห์อยู่ด้านล่าง
บุคคลที่เป็นบริวาร และมาร่วมเล่นดนตรีได้แก่
พระนางทุรคา(ภรรยาพระศิวะ) พระนารายณ์
พระพรหม ... เกิดมาจากสะดิอพระนารายณ์ ... นารายณ์บรรทมสินธุ์
และ
พระคเนศ ...
เพราะพระศิวะเสด็จไปบำเพ็ญสมาธิเป็นเวลานาน
พระปารวตีเหงาจึงทรงเสกเด็กขึ้นมาเพื่อเป็นพระโอรส และ เพื่อน
พระศิวะเสด็จกลับตอนนางพระปารวตีทำธุระด้านใน ก็ทรงถูกเด็กหนุ่มห้ามไม่ให้เข้าบ้าน
จึงเกิดต่อสู้กันจนเด็กหนุ่มถูกตรีศูลตัดศีรษะหายไป
ฝ่ายพระปารวตีทรงได้ยินเสียงการสู้รบ ก็ออกมาดู
ดังกึกก้องไปทั่วจักรวาลก็เสด็จออกมาด้านนอกเห็นพระโอรสก็เสียใจ
เมื่อทราบความพระศิวะจึงจะชุบชีวิตขึ้นได้ต้องทำก่อนก่อนอาทิตย์ขึ้น แต่หาศรีษะไม่พบ
พระศิวะจึงทรงโยนตรีศูลอาวุธของพระองค์ออกไปหาศีรษะสิ่งที่มีชีวิตแรกที่พบ ได้ศีรษะช้างมา
พระศิวะทรงนำศีรษะมาต่อให้และชุบชีวิตให้ใหม่ ยกย่องให้เป็นเทพที่สูงที่สุด
ขนานนามว่า "พระพิฆเนศ" แปลว่าเทพผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรค
และประทานพรว่า
ในการประกอบพิธีการใดๆ จะต้องทำพิธีบูชาพระพิฆเนศ เพื่อความสำเร็จของพิธีนั้น
ตรงกลาง เหนือท่อนพวงมาลัยที่ขาดจากกัน
ด้านขวาของพระศิวะเป็นภาพ พระศิวะกับพระอรุชน ถือคันศรเป็นอาวุธ โดยมีหมูป่าอยู่เหนือบุคคลทั้งสอง
จากมหาภารตะ หนึ่งในมหากาพย์ของอินเดีย
เล่าว่า
เมื่ออรชุนได้ต่อสู้กับพระอินทร์ พระอินทร์พอใจในความกล้าหาญของอรชุนมาก
จึงจะมอบอาวุธวิเศษทั้งหมดให้ แต่อรชุนต้องได้ปาศุปัตอาวุธวิเศษของพระศิวะก่อน
อรชุนจึงออกบำเพ็ญตบะบูชาพระศิวะ ณ นครอิทรขีลหลายปีจนพระศิวะพอพระทัย
พระศิวะจึงจำแลงเป็นพรานป่า
พอดีอสูรหมูป่าเข้าจะทำร้ายอนชุน
พรานป่าร้องห้ามมิให้อรชุนยิงหมูป่าตัวนั้น เพราะตนเห็นก่อน แต่อรชุนไม่เชื่อ
ทั้งคู่จึงเล็งศรและยิงใส่หมูป่าตัวนั้นพร้อมกัน
เกิดการต่อสู้ระหว่างอรชุนกับพรานเพื่อแย่งหมูป่าตัวนั้น อรชุนสู้ไม่ได้
อรชุนจึงเกิดความสงสัย และนึกขึ้นว่าคงเป็นพระศิวะจำแลงกายลงมาแน่
จึงวางอาวุธแล้วก้มลงทำความเคารพ
พระศิวะจึงประทานอาวุธนาน ปาศุปัต ให้แก่ อรชุน
เป็นปางหนึ่งของพระศิวะที่เรียกว่า กิราตาชุนนะมูรติ หรือ อรชุนวิวาหะ
ตรงกลาง เหนือท่อนพวงมาลัยที่ขาดจากกัน
ด้านซ้ายของพระศิวะเป็นภาพ ... บุคคลล็อกแขนจะทุบกัน
เหนือขึ้นไปมีสัตว์ที่มีศรีษะเป็นคน ...
แถม รูปหงส์ด้านข้างของภาพ
เสาประดับกรอบประตูนั้นเป็นเสาแปดเหลี่ยม
มีลายวงแหวนที่เท่ากันทุกวง
ระหว่างวงแหวนประดับด้วยลายฟันปลาขนาดเล็ก
อัปสรา
ศิราภรณ์ประดับด้วยดอกไม้กลมขนาดใหญ่
ผ้านุ่งมีชายผ้ายาวห้อยลงมาทางพระหัตถ์ซ้าย
ส่วนที่พระเพลา มีชายหน้านางที่มีปลายเป็นหางปลาชี้ลง
เหนือเทพธิดา สลักลายลายก้ามปู
แสดงถึงศิลปะนครวัด
ทวารบาลนันทิเกศวร ถือเป็นภาคหนึ่งของพระศิวะ
แต่งกายแบบนครวัด คือ
ผ้านุ่งมีชายสมอเรือ
มีรัดเกล้ารูปกรวยมงกุฏสามเหลี่ยมเทวดา
อยู่บนเสากรอบประตูด้านขวา ... ทิศใต้ ... ด้านข้างนางอัปสร
ทวารบาลมหากาล ถือเป็นภาคหนึ่งของพระศิวะ
เป็นทวารบาลดุร้าย มีพระเนตรโปนและมีพระพักตร์คล้ายอสูร
มีรัดเกล้ารูปกรวยมงกุฏสี่เหลี่ยมอสูร
อยู่บนเสากรอบประตูด้านซ้าย ... ทิศเหนือ ... ด้านข้างนางอัปสร
ด้านใน
ประตูหลอกของปรางค์มุมบริวาร
ปราค์มุมทางตะวันตกเฉียงใต้
เป็นเรื่องที่จอดพักอ่านหลายวันแล้ว
ถ้าจะเขียนต่อสถานที่อื่นต่อไปอีก
คงใจจะขาดที่ไม่ได้ลงบล็อก
วันนี้ลงเรื่องนี้ก่อนนะคะ
Create Date : 13 มกราคม 2561 |
Last Update : 7 มีนาคม 2565 15:56:01 น. |
|
43 comments
|
Counter : 2217 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเกศสุริยง, คุณJinnyTent, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณจารุพิชญ์, คุณวลีลักษณา, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณหอมกร, คุณกิ่งฟ้า, คุณชีริว, คุณSai Eeuu, คุณruennara, คุณKavanich96, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณOldbuff 1222, คุณกะว่าก๋า, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณชมพร, คุณพันคม, คุณmariabamboo, คุณtiensongsang, คุณmoresaw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณTui Laksi, คุณClose To Heaven, คุณmambymam, คุณตะลีกีปัส, คุณทนายอ้วน, คุณหลวงกล้วย, คุณALDI, คุณซองขาวเบอร์ 9 |
โดย: เกศสุริยง วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:13:48:10 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:17:55:28 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:19:09:15 น. |
|
|
|
โดย: จารุพิชญ์ วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:19:27:02 น. |
|
|
|
โดย: วลีลักษณา วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:19:29:38 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:21:56:48 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:22:08:41 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:22:13:18 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:22:44:40 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 13 มกราคม 2561 เวลา:23:49:21 น. |
|
|
|
โดย: ruennara วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:2:36:54 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:3:26:38 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:3:35:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:6:46:34 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:13:05:30 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:15:16:05 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:15:18:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:16:07:23 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:18:34:00 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 14 มกราคม 2561 เวลา:21:19:03 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:6:40:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:6:42:17 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:9:27:56 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:10:13:21 น. |
|
|
|
โดย: ALDI วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:18:07:26 น. |
|
|
|
โดย: หยกตะวัน เจล (จอมใจจอมมโน ) วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:18:45:07 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:20:30:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2561 เวลา:21:11:42 น. |
|
|
|
| |