กาญจนบุรี ... ช่องเขาขาด ... แวะร้านชนบท
ทานข้าว ชมน้ำตกไทรโยคน้อยแล้วก็เดินทางต่อ
เส้นทางไปทองผาภูมิ
ผ่านป้ายที่บอก ช่องเขาขาด หันไปถามเพื่อนร่วมทางทุกคนลงความเห็นแวะ ช่องเขาขาดอยู่ภายในบริเวณ การเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา ซ้ายมือของเส้นทาง
วิวเขาแถวที่จอดรถหน้าพิพิธภัณฑ์ เพื่อนที่เคยมาบอกว่ามีทางเดินเล็ก ๆ เดินไปกลับซักชั่วโมง ไม่ต้องลงไปถึงช่องเขาขาดก็ได้ชะโงกดูเอา
พิพิธภัณฑ์ ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ภาพถ่าย และมีห้องฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสมัยสร้างทางรถไฟ
ด้านหลังมีระเบียงยื่นออกไปชมวิว ก็เห็นว่าเขาทำทางลงอย่างเรียบร้อยสะดวก ... เพื่อนเราเนี่ยเชยสุด ๆ ... เท่าที่ทราบเป็นความร่วมมือของ ออสเตรเลีย
ลงไปกันเลยเนาะ
ตรงกลางภาพ เป็นระเบียงด้านหลังพิพิธภัณฑ์ ที่เราไปยืนตะกี้
ทางลงที่จะไปเชื่อมกับแนวทางรถไฟ แต่ก็ชันพอได้นะทางลงเนี่ย
ช่องเขาขาดเป็นเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ที่ญี่ปุ่นต้องการสร้างผ่าน ดำเนินการสร้างโดยเชลยศึกชาวออสเตรเลีย และเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร
ช่องเขาขาดเป็นทางแคบๆ ที่ตัดผ่านเนินเขา มูลดิน พิพิธภัณฑสถานช่องเขาขาด สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต้องทุกข์ทรมานเหล่านั้น
การก่อสร้างช่องเขาขาดเริ่มด้วยแรงงานของเชลยศึกชาวออสเตรเลียจำนวน 400 คน และญี่ปุ่นได้เพิ่มเชลยศึกขึ้นอีกเพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด ส่วนทหารเชลยศึกที่เพิ่มเข้ามาส่วนมากยังเป็นทหารชาวออสเตรเลีย และทหารจากสหราชอาณาจักร
บรรดาเหล่าเชลยศึกจะใช้ค้อนหนัก 8 ปอนด์ สว่าน ระเบิด เสียม พลั่ว จอบ ใช้ตะกร้าหวายอันเล็กๆ เพื่อขนดินออกไปเททิ้งข้างนอกทาง และพวกเขาทำงานอย่างทรมาน บางคนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในที่ทำงาน
ในขณะที่ก่อสร้างเส้นทางสายนี้นั้น เป็นช่วงมรสุมที่รุนแรง การก่อสร้างช่องเขาขาดยังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างสูงจากวิศวกรชาวญี่ปุ่น และผู้คุมชาวเกาหลี บังคับให้พวกเขาทำงานวันละ 12-18 ชั่วโมง นับจากเดือนมิถุนายน 2486 จนเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน
ผนังเขาที่เห็นต้องปีนลงมา แล้วตอกสะกัดผนังหินช่องเขาด้วยมือ
เล่ากันว่าช่องทางที่เรียกว่าช่องเขาขาดนี้ ทหารญี่ปุ่นใช้ทหารเชลยเป็นทาสในการก่อสร้างทาง ชีวิตทหารเหล่านั้นล้มตายกันเป็นเบือ เพราะทำงานหนักและโรคภัยไข้เจ็บที่ชุกชุม โดยเฉพาะไข้ป่า
หากจะเดินมาอย่างที่เพื่อนบอกจะเดินมาเส้นทางแบบนี้ และตรงช่องเขาขาด จะมีบันไดให้เดินลงมาอีกที
กอด
ขาขึ้นทำไมมันสูงกว่าขาลงหวา
ดูเพื่อนเราก็แล้วกัน
ออกจากช่องเขาขาด เราตั้งใจจะไปซื้อ " ปลาตะเพียนไร้ก้าง " ที่ร้านชนบท เคยมาเมื่อสิบปีที่แล้ว ... คิดมาตลอดว่าผ่านมาเมื่อไหร่จะต้องแวะ
ร้านจะอยู่หลักที่ หลัก กม. ที่ราว 94 ติดสะพาน ขวามือก่อนข้ามสะพาน ถ้าไม่มีป้าย ททท ชวนชิมไม่เจอแน่นอน
ปรากฏว่าปลาตะเพียนหมด ปลาตะเพียนเขาเอามาทำต้มเค็ม ถ้าได้ปลามาก็จะต้มอีกสามวัน ก้างจะเปือยหมดทานได้เหมือนไร้ก้าง
เพื่อนก็เลยสั่ง โรตี - แกงเผ็ด , ขาหมู , น้ำพริกมะขามสดติดไปสังขละบุรีด้วย เราชอบ แกง กับ น้ำพริก
ก็ยังไม่ถึงสังขละเลยค่ะ
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2553 |
|
43 comments |
Last Update : 8 ธันวาคม 2553 10:28:45 น. |
Counter : 6799 Pageviews. |
|
|
อาหารท้ายบล๊อคชวนหม่ำมากมาย โรตีแกงเผ็ด อูย..หิวๆๆ