BlogGang.com : : tuk-tuk@korat : จากตาคลีถึงเขาคลังนอก อ.ศรีเทพ เพชรบูรณ์

จากตาคลีถึงเขาคลังนอก อ.ศรีเทพ เพชรบูรณ์

ป้ายต้องมีนกด้วยคงจะสื่อว่าอยู่กลางทุ่ง

ขากลับเชียงใหม่อีกเที่ยว

แวะออกนอกเส้นทางอีกครั้ง

ไปเขาคลังนอก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อ.ศรีเทพ เพชรบูรณ์

แยกจากสายเอเชีย เข้าตาคลี

ชื่อ ตาคลี กล่าวกันว่า เพี้ยนมาจาก "ตีคลี" หรือ "เดาะคลี"

ในเรื่องสังข์ทอง จากสุวรรณสังขชาดก หนึ่งใน ชาดกพุทธประวัติ

และ เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ถือเป็นตำนานของอำเภอตาคลี

เรื่องมีอยู่ว่า

ท้าวยศวิมลมีมเหสีชื่อนางจันท์เทวี มีสนมเอกชื่อนางจันทาเทวี

ไม่มีโอรสธิดา จึงบวงสรวงเพื่อขอบุตร

และประกาศว่าถ้าใครมีโอรสก็จะมอบเมืองให้ครอง

ต่อนางจันท์เทวีทรงครรภ์ ประสูติมาเป็นหอยสังข์

นางจันทาเทวีจึงติดสินบนโหรหลวงให้ทำนายว่าเป็นกาลกิณี

ท้าวยศวิมลจึงเนรเทศนางจันท์เทวีและหอยสังข์ไปจากเมือง

นางจันท์เทวีพาหอยสังข์ไปอาศัยตายายช่าวไร่

พระโอรสในหอยสังข์แอบออกมาช่วยทำงาน

เมื่อนางจันท์เทวีทราบก็ทำลายหอยสังข์เสีย

พระนางจันทาเทวีได้ทำเสน่ห์ให้ท้าวยศวิมลจะได้หลงอยู่ในมนต์สะกด

ให้ไปจับตัวพระสังข์ถ่วงน้ำ

แต่พญานาคนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

และต่อมาส่งให้นางพันธุรัตเลี้ยงดูจนพระสังข์มีอายุได้ 15 ปี

วันหนึ่ง นางพันธุรัตออกไปหาอาหาร

พระสังข์ไปเที่ยวเล่นที่หลังวัง

ได้พบกับบ่อเงิน บ่อทอง รูปเงาะ เกือกทอง ไม้พลอง

และเมื่อพบกองกระดูกก็ทราบว่าแม่เป็นยักษ์

จึงลงไปชุบตัวในบ่อทอง สวมรูปเงาะ กับเกือกทอง และขโมยไม้พลองเหาะหนีไป

นางพันธุรัตก็ออกตามหาจนพบพระสังข์อยู่บนเขาหน่อ ( อำเภอบรรพตพิสัย )

พระสังข์หนีขึ้นไปบนยอดเขาแล้วอธิษฐานว่า

"ด้วยบุญญาบารมีของข้าพเจ้า

ถ้าจะมีโอกาสกลับไปพบแม่ที่แท้จริงของตนแล้ว

ก็ขออย่าให้นางยักษ์ขึ้นไปบนยอดเขาได้"

นางพันธุรัตจึงเขียนมมนตร์ที่ใช้เรียกเนื้อเรียกปลาได้ไว้ที่ก้อนหิน

ก่อนที่นางจะอกแตกตาย

เมื่อพระสังข์ลงมาท่องมหามนตร์จนจำได้

และได้สวมรูปเงาะออกเดินทางต่อไป

ปัจจุบันยังมีร่อยรอยขีดเขียนอยู่ที่เชิงเขาหน่อ

แต่ไม่มีใครอ่านออก เลยมีใครเรียกเนื่อเรียกปลาเป็น

พระสังข์เดินทางมาถึงเมืองสามล

มีพิธีเสี่ยงมาลัยเลือกคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด

นางรจนาเห็นรูปทองภายในของเจ้าเงาะ จึงได้เสี่ยงพวงมาลัยให้เจ้าเงาะ

ท้าวสามลโกรธมากจึงเนรเทศนางรจนาไปอยู่ที่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ

ทำให้อาสน์ที่ประทับของพระอินทร์เกิดแข็งกระด้าง

แสดงมีผู้มีบุญกำลังเดือดร้อน

จึงได้แปลงกายเป็นกษัตริย์เมืองยกทัพไปล้อมเมือง

ท้าแข่งตีคลี หากท้าวสามลแพ้ก็จะยึดเมือง

เจ้าเงาะถอดรูปลงแข่งตีคลีชนะ

แล้วพระอินทร์ได้ไปเข้าฝันท้าวยศวิมล

เปิดโปงความชั่วของพระนางจันทาเทวี

และสั่งให้ท้าวยศวิมลไปรับพระนางจันท์เทวีกับพระสังข์กลับมา

ท้าวยศวิมลจึงไปรับพระนางจันท์เทวี

และเดินทางไปยังเมืองสามลเมื่อตามหาพระสังข์

โดยท้าวยศวิมลเข้าไปเป็นช่างสานกระบุง ตะกร้า

พระนางจันท์เทวีเข้าไปเป็นแม่ครัวในวัง

วันหนึ่ง พระนางจันท์เทวีก็ปรุงแกงฟักถวายพระสังข์

ได้แกะสลักชิ้นฟัก ดังอาขยานที่ได้ท่องสอบตอนโน้น ดังนี้

ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา
คลอดลูก ออกมา เป็นหอยสังข์
ชิ้นสองต้องขับเคี่ยวเซซัง
อุ้มลูกมายังพนาลัย
ชิ้นสามอยู่ด้วยยายตา
ลูกยาออกช่วยขับไก่
ชิ้นสี่กัลยามาแต่ไพร
ทุบสังข์ป่นไปกับนอกชาน
ชิ้นห้าบิตุรงค์ทรงศักดิ์
ให้รับตัวลูกรักมาจากบ้าน
ชิ้นหกจองจำทำประจาน
ให้ประหารฆ่าฟันไม่บรรลัย
ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา
ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล
เป็นเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรทัย
ใครใครไม่ทันจะสงกา

ก็จบด้วยความสุข ครอบครัวเจอกัน

ที่ตาคลี จึงมี

ลานตีคลี อยู่บนเขาตีคลี เป็นลานกว้าง บริเวณนั้นไม่มีต้นไม้ขึ้น

เขาทะลุเป็นรูโหว่ ที่เขาช่องลมซึ่งอยู่ในตำบลช่องแค เกิดจากลูกคลีถูกตีไปปะทะ

มี ถนนเจ้าเงาะ ถนนพระสังข์ ถนนยศวิมล ถนนบ้านไร่ปลายนา

ซอยพันธุรัต ซอยลูกคลี ซอยไม้คลี ซอยสนามคลี

ธงรูปพระสังข์ทองทรงม้าเดาะคลีอยู่เหนือเมฆ เป็นธงประจำอำเภอ

สัญลักษณ์รูปพระสังข์ทรงม้าตีคลี เป็นตราประจำเทศบาลเมืองตาคลี

ขวามือของถนนพหลโยธินสายนี้คือ เขาตีคลี

ข้ามทางรถไฟ

ไปทางตากฟ้า

อ้อย

ถึงตลาดตากฟ้า

เดิมอำเภอตากฟ้าเป็นป่าดงดิบ มีต้นไม้ปกคลุม

แต่มีลานหนึ่งที่ว่างมีแสงแดดส่องถึง ไก่ฟ้าชอบมาเล่นแสงแดด

พรานป่าจึงเรียกบริเวณลานว่างนี้ว่า ลานไก่ฟ้า

เมื่อชาวบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ได้นำผ้าไปตาก เรียก ลานตากผ้า

กลายเป็นลานตากฟ้า เป็น "ตากฟ้า" มาจนถึงปัจจุบัน

เดิมอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

เป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ป่าชุกชุม

พ.ศ.2496 ทางราชการได้ตัดถนนประชาธิปัตย์ผ่าน (ต่อมาเรียกถนนพหลโยธิน)

พ.ศ.2498 กรมประชาสงเคราะห์ ได้จัดตั้งนิคมสร้างตนเองตาคลีขึ้น

พ.ศ.2504 แยกนิคมสร้างตนเองตาคลีเป็นนิคมสร้างตนเองตากฟ้า

ตรงไปอำเภอหนองม่วง

ที่หนองม่วงเป็นชุมชนใหญ่ มีตลาดใหญ่มาก

มะม่วงบริบูรณ์ ขนุนยวงงาม ข้าวหลามอร่อย ไร่อ้อยเขียวขจี

ประเพณีเพรียบพร้อม นอบน้อมองค์นารายณ์

เพิ่งมาทราบทีหลังว่าที่นี่มี ถ้ำแม่โพสพ

เชิงเขาและในถ้ำจะพบก้อนหินเป็นเมล็ดข้าวสารหินอยู่จำนวนมาก

คล้ายทำหกไว้ข้าวสารหิน

เลี้ยวซ้ายไปศรีเทพ

โรงงานผลิตไฟฟ้าจากแสงแดด

เก็บวิวสวย ๆ มาฝาก

ใกล้ถึงศรีเทพจะเห็นเขาถมอรัตน์ด้านข้าง

และด้านหน้า

เคยบอกคุณหนู สายหมอกและก้อนเมฆ ที่ครั้งหนึ่งเมื่อเห็นเขาหน้าตาแบบนี้

ว่า กำลังอยู่ที่ศรีเทพ

แยกศรีเทพ ตัดถนนสระบุรี - เพชรบูรณ์

ถนนดี รถว่าง

แต่ถ้าหน้าหีบอ้อย รถอ้อยเยอะ ถนนพัง เพราะ

ก่อนถึงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เลี้ยวซ้ายตามป้ายวัดนี้

แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีที่ป้าย เขาคลังนอก

ปัจจุบันโบราณสถานเขาคลังนอก

ชาวบ้านบอกว่าอยู่คนละฝั่งกับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ

มาถึงบางอ้อก็เมื่อดูกูเกิล

ชื่อเขาคลังนอก เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันมาแต่เดิม

เพราะมีรูปร่างลักษณะคล้ายภูเขาสูงใหญ่ มีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ

เชื่อว่ามีทรัพย์สมบัติและอาวุธอยู่ภายใน

ประกอบกับในเขตเมืองโบราณศรีเทพ

มีโบราณสถานที่มีลักษณะคล้ายภูเขา เขาคลังใน

สภาพเดิม

มีลักษณะเป็นเนินคล้ายภูเขาขนาดใหญ่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ

มีเศษอิฐและศิลาแลงกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งบริเวณ

บริเวณด้านบนเนินปรากฏหลุมลักลอบขุดขนาดใหญ่ เป็นโพรงลึกลงไป

ทำให้เห็นโครงสร้างภายในที่ก่อด้วยอิฐอย่างชัดเจน

เมื่อขุดค้นพบว่า

ผังมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส

มีการยกเก็จหรือเพิ่มมุมตามแบบแผนของอาคารแบบทวารวดี

ใช้ศิลาแลงก่อสูงขึ้นไปจนมีขนาดใหญ่โต แบ่งเป็น 2 ชั้นหลักๆ

แต่ละชั้นสูง 5 เมตร

ฐานอาคารเป็นซุ้มคล้ายอาคารจำลองหลายขนาด มีเสาประดับ

วางซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปโดยรอบ

ไม่พบร่องรอยของการฉาบปูนและปูนปั้นประดับเหมือนเขาคลังใน

ชิ้นส่วนยอดของสถูปขนาดเล็กที่ใช้ประดับอาคาร

มีบันไดทางขึ้นสู่ด้านบนทั้ง 4 ด้าน

แต่ละด้านมีซุ้มประตูตั้งอยู่ด้านบน เพื่อผ่านเข้าไปยังลานประทักษิณ

ลานประทักษิณ

ใช้ประกอบศาสนพิธีที่ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว

บนฐานเขียงด้านทิศตะวันออกของสถูปก่ออิฐด้านบน

ยังปรากฏร่องรอยของหลุมเสาไม้ (ไม่รู้ว่าใช่ที่พื้นในรูปหรือเปล่า)

แต่ไม่พบร่องรอยของกระเบื้องมุงหลังคาดินเผา

องค์สถูปด้านบนก่อด้วยอิฐแบบทวารวดี

ลักษณะสถูปประกอบด้วยฐานเขียงที่ซ้อนกันตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง

โบราณวัตถุสำคัญที่พบ ได้แก่ พระพุทธรูปศิลปะทวารวดี

ประทับยืนปางแสดงธรรม

พ่อค้าที่เขาคลังนอกบอกว่า ตอนนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ลพบุรี

วิวข้างบนสวยมาก

Create Date : 11 สิงหาคม 2556

Last Update : 7 มกราคม 2562 15:17:46 น.

15 comments

Counter : 1731 Pageviews.

เดี๋ยวหนูมาอีกรอบค่ะ เอาฤกษ์เอาชัยก่อน ของพี่ตุ๊ก อ่านแบบพรวดพราดไม่ได้หรอกค่ะ

ที่นี่หนูยังไม่ได้ไปซักที เฉียดไปเฉียดมา

ตอนนี้กำลังเล่นกัีบบราวนี่ชีสเค้กอยู่ค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:15:29:58 น.

ติดตามมาชมทุกเส้นทางที่ผ่านไป ชอบท้องทุ่งโล่งๆ และโบราณสถานครับ

tuk-tuk@korat Travel Blog

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:15:36:47 น.

มาเที่ยวด้วยค่าพี่ตุ๊ก
เส้นทางต่างจังหวัด ชอบมากๆค่ะ
ชอบดูธรรมชาติสองข้างทาง ความเป็นอยู่
และที่สถานที่สำคัญๆแต่ละจังหวัด
เห็นแล้วอยากไปเที่ยวมั่งจัง

โดย: mambymam

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:15:55:44 น.

เรื่องสังข์ทองอยู่ที่นี่เองค่ะ นิทานพื้นบ้านของเรามักมีสถานที่จริงนะคะ
ไม่รู้ว่าตั้งชื่อตามเรื่อง หรือเล่าเรื่องตามสถานที่นะคะพี่ตุ๊ก

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:16:02:55 น.

มองวิวเพลินเลยคะ
เฮ้ย อยากเที่ยวไทยมากเลยยยยยยยยยยย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ตกบ่ายกับ Chocolate ปั่นสักแก้ว ฟินเลยค่ะ >0<

หายไปนาน มีปัญหากับเน็ตเฮงซวยนะคะ

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:16:39:32 น.

สวัสดีค่า พี่ตุ๊ก ^^
นุ่นคลานมาตามเก็บอย่างช้าๆ แหะๆ

วันนี้ไปเที่ยวตาคลี เคยผ่านค่ะ
ไปวัดบนเขานานแล้วจำชื่อไม่ได้

วันหยุดยาวและเนื่องในโอกาสวันแม่ขอให้พี่ตุ๊กและครอบครัวมีความสุขมากๆนะคะ

โดย: lovereason

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:19:52:33 น.

เคยอ่านสังข์ทองค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเค้ามีตำนานที่เมืองนี้นี่เอง ทั้งถนน ตรอก ซอกซอยมาหมดเลยนะคะ

สงสารนางพันธุรัต เธอคงไม่เลี้ยงไว้กินเอง แต่ถ้าเป็นเราก็คงหนีเหมือนกันนะคะ

วิวระหว่างทาง วิวข้างบน สวยหมดค่ะ พี่ตุ๊กปีนขึ้นมาคนเดียว เดินหกขะล้ม พี่เค้าจะวิ่งมาเก็บพี่ตุ๊กทันไหมคะนี่ พี่เค้าก็น่ารักดีนะคะ อยากแวะไหนก็จอดให้ อยากถ่ายรูปก็รอ ระหว่างทางก็ขับนิ่งๆ ดีๆ ภาพออกมาก็สวย ไม่สะดุด ^^

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:20:25:22 น.

~ มาเที่ยวค่ะ สงสารยักษ์นะคะ~

โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa

) วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:22:36:19 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:5:32:12 น.

ตามมาเที่ยวลัลล้าด้วยคนคร้าา ชอบของโบราณ ซากอิฐเก่าๆนี้สวยมากๆเลยคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: au_jean

วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:7:54:49 น.

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา

วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:8:56:33 น.

สุขสันต์วันแม่ค่ะ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:9:58:41 น.

สุขสันต์วันแม่ค่ะ คุณตุ๊ก

โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ

วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:10:24:46 น.

ตอนไปผมไม่ได้ขึ้นไปข้างบนเลยครับ รอบๆเป็นของบูรณะซะเยอะ แต่ด้านบนอิฐเดิม แตกหักได้ใจผมดี
กำลังลุ้นว่าจะมีนักเที่ยวโบราณสานคนไหนขึ้นเขาถมอรัตน์บ้าง รู้สึกต้องเดินขึ้นไปเองถึกเหมือนกันนะครับ แต่ก็อยากเห็นภาพแกะสลักผนังถ้ำเหมือนกัน

โดย: ชีริว

วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:23:32:51 น.

Create Date : 11 สิงหาคม 2556
Last Update : 11 สิงหาคม 2556 14:25:09 น. ลบ Blog แก้ไข Blog 14 comments
Counter : 293 Pageviews.

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:13:20:41 น.