50 .. อย่างนี้...ถือเป็นปาณาติบาตหรือไม่
โดย ดังตฤณ
จาก เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เว็บ dungtrin.com
ถาม ในกรณีที่พ่อแม่กำลังจะต้องตายแน่ๆ แต่เหมือนหายใจไปวันๆเพราะเครื่องช่วยหายใจ การถอดเครื่องช่วยหายใจออกตามคำสั่งเสียไว้ล่วงหน้าของพวกท่าน ซึ่งไม่อยากยื้อชีวิตตัวเองไว้เป็นภาระแก่ลูก อย่างนี้ถือเป็นปาณาติบาตหรือไม่คะ?
ตอบ ก่อนอื่นเล็งที่ใจ ต้องบอกว่าไม่ใช่ปาณาติบาตเต็มขั้นแน่นอน คือขาดเจตนาฆ่าเป็นตัวตั้ง เพราะไม่ได้วางแผนทำให้ตายขณะที่กำลังทรงสภาพดีๆอยู่
ว่าไปแล้วคนป่วยที่ไม่อาจดำรงชีวิตรอดด้วยวิธีทางธรรมชาติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ถือว่าอายุกายขาดไปแล้วเกินครึ่ง เพราะเครื่องช่วยหายใจนั้น ชื่อบอกอยู่แล้วว่าเป็นเครื่องช่วยต่ออายุ ถ้าไม่มีเครื่องช่วยหายใจ อายุก็ต้องขาดแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีเจตนาฆ่า แต่ความรู้สึกว่าคุณเป็นคนทำให้ท่านตายก็อาจเกิดขึ้น เพราะช่วยได้แต่ไม่ช่วย ซึ่งตรงนี้แหละที่อาจทำให้คุณไม่พ้นมลทินดีนัก
ฉะนั้น ถือเอาแค่ความรู้สึกไม่สบายใจข้อเดียวนี้ ผมอยากแนะนำว่าควรปล่อยให้ท่านตายตามเวลาจะสบายใจกว่าครับ ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องกลัดกลุ้มไปอีกนานว่ามีส่วนทำให้พ่อแม่ตายหรือเปล่า มลทินทำนองนี้ไม่ใช่จะล้างให้รู้สึกสะอาดง่ายนัก อย่างน้อยได้รู้สึกว่าคุณช่วยเต็มความสามารถตามฐานะลูก ซื้อความสบายใจหายห่วง ก็ย่อมดีกว่ากันแน่
แต่บางทีการช่วยพยุงชีวิตนั้นก็มีรายละเอียดแยกย่อยมาก ขึ้นอยู่กับว่าคุณรู้อยู่กับใจแค่ไหนด้วย เพราะหลายกรณีเท่าที่ผมทราบ คือร่างกายหมดสภาพที่จะดำรงชีวิตแน่แล้ว ฟื้นกลับมาอยู่ในสภาพมีสติอย่างคนธรรมดาไม่ได้แน่แล้ว ถือว่าอายุขาดแน่แล้ว การรั้งไว้แค่ร่างกาย อาจหมายถึงไม่ปล่อยให้เกิดจุติจิต ไม่ปล่อยให้ท่านเคลื่อนไปเสวยกรรมตามกาลก็ได้ ถ้าคุณทราบชัด มีหลักฐานทางแพทย์ชัดเจน ก็อาจปล่อยท่านไปโดยไม่ถือเป็นการฆ่า
แต่อีกหลายกรณีจะก้ำกึ่ง ไม่แน่ไม่นอน หมอเองก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ว่าจะอยู่หรือไป มีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ฟื้นคืนกลับมาเป็นดังเดิม อันนี้ถ้าคุณด่วนถอด น้ำหนักความรู้สึกย่อมเป็นคนละเรื่องกับกรณีข้างต้น ด้วยความไม่รู้ภายใต้ความไม่แน่ไม่นอนนี่แหละ โอกาสที่จะเป็นปิตุฆาต มาตุฆาตก็สูงมาก
ภายใต้สถานการณ์ไม่แน่นอน ขอแค่คิดแม้แต่นิดเดียวว่าอยากให้ชีวิตขาดๆไปเสีย คุณจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ เมฆหมอกปาณาติบาตก็เคลื่อนมาคลุมจิตคุณเกือบครึ่งแล้ว เพราะถือว่าขาดเมตตากับผู้ให้กำเนิด การขาดเมตตาเป็นตัวชี้ว่าไม่อยากให้อยู่ต่อ ยิ่งถ้าคิดอยากได้มรดกเสียเร็วๆ อันนี้ถือเป็นปาณาติบาตเต็มขั้นทันที เพราะเจืออยู่ด้วยความโลภ ความโลภเป็นตัวชี้ว่าอยากให้ตาย
ปิตุฆาตกับมาตุฆาตคืออนันตริยกรรม ให้ผลหนักแน่นที่สุด ประกอบกรรมชนิดนี้แล้วเอาคืนไม่ได้ ชะล้างหรือชดเชยด้วยวิธีใดๆไม่ได้ สำนวนอันเป็นพุทธพจน์ คือ จะเป็นผู้ไปอบาย ตกนรกชั่วกัป ไม่อาจเยียวยา อย่าเสี่ยงเฉียดใกล้เลยเป็นดี
ขอสรุป 2 ข้อสั้นๆคือ
1) ถ้าหลักฐานทางแพทย์ชี้ว่าตายอยู่แล้ว แค่ช่วยให้หายใจไม่ได้แปลว่ายังมีชีวิตอยู่ อันนั้นถอดเครื่องช่วยก็ไม่นับว่าฆ่า
2) ถ้าพยายามดิ้นรนทุกวิถีทาง แต่ไม่มีเงิน แม้เอาพ่อแม่เข้าโครงการอุปถัมภ์ แต่หมอก็ไม่ยอมต่อชีวิตให้ ก็ทำใจคิดว่าคุณหมดแรงที่จะยื้อท่านไว้จากปากเหวแห่งมรณา อย่างไรท่านก็ต้องตกร่วงลงไปอยู่ดี
เพิ่มเติมค่ะ
ศีลข้อ 1 กรณีที่ว่าจะเป็นปาณาติบาตหรือไม่นั้น
ให้พิจารณาจากองค์ประกอบ 5 ประการ อันได้แก่
1) สิ่งนั้นมีชีวิต
2) เรารู้ว่าเขามีชีวิต
3) แต่ก็ยังคิดจะฆ่า
4) พยายามคิดหาวิธีและลงมือฆ่า
5) สุดท้าย
..เขาตายด้วยการฆ่าของเรา
เรื่องในวันนี้ หากกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นกับบุพการีหรือผู้มีพระคุณ
การจะตัดสินใจว่าควรจะเป็นอย่างไรดีนั้น พี่ๆน้องๆคงจะต้องร่วมกันคิดร่วมกันตัดสินใจ
คงจะไม่อาจยึดเอาความคิดเห็นของญาติคนหนึ่งคนใดเป็นผู้ชี้ขาดเพียงคนเดียวได้
ป้าขอนำเสนอเรื่องนี้ เพียงเพื่อตั้งใจฝากไว้ให้คิดล่วงหน้าว่า
หากผู้ที่นอนบนเตียงเป็นตัวของเราเอง
เราจะต้องการให้คนที่เรารัก
จัดการเรื่องนี้อย่างไร
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 19 พฤษภาคม 2552 |
|
187 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2556 21:38:17 น. |
Counter : 5186 Pageviews. |
|
|
|
ดอกไม้ที่บ้านกุ้งเลยหมองไปเลยค่ะเมื่อมาเจอดอกไม้งามที่บล็อกนี้
อ่านเนื้อหาของบล็อกป้าวันนี้..ยากที่จะชี้ชัดนะคะ
หากเป็นตัวกุ้งเอง คงเลือกที่จะยื้อไว้ให้นานที่สุด
ถึงจะเป็นการเห็นแก่ตัว อยากให้ท่านอยู่กับตัวเองนานๆ ก็เถอะ
ครั้งที่เสียคุณพ่อไป ไม่ทันได้ดูใจท่านเพราะรอจัดการภาระของตัวให้เรียบร้อยก่อน ก็เป็นผิดบาปมหันต์
รู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อทางบ้านบอกว่า...ท่านรอกุ้งจนถึงที่สุดจนฝืนไม่ไหว
หากทำได้ แม้จะต้องใส่สายยางช่วยชีวิต..อย่างน้อยยังได้สัมผัสมืออุ่นๆ ของท่าน
ได้เช็ดเนื้อ เช็ดตัวให้ ได้อ่านหนังสือให้ท่านฟัง นั่งเล่าอะไรเรื่อยเปื่อย
สำหรับกุ้งดีกว่าการได้ส่งท่านสู่เชิงตะกอนให้เร็วยิ่งขึ้นค่ะ
ได้อ่านบางถ้อยคำของป้า ที่เม้นไว้ที่บล็อกคุณซองฯ แล้ว
หนูนับถือป้ายิ่งๆ ขึ้นไปอีกค่ะ ป้าช่างงามสมวัยจริงๆ เทียว
รักษาสุขภาพนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะป้า