|
เบียทริซ ฉันรักเธอ(วรรณคดีก็เหมือนคนแก่ไง ยิ่งเก่าแก่คนก็ยิ่งลืม แล้วก็ให้ความสำคัญน้อยลง)
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งแล้วรู้สึกประทับใจจึงเขียนถึงหนังสือเรื่องนี้ และเพิ่งตีพิมพ์ลงใน จุดประกายวรรณกรรม (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์วันที่ 14 มิถุนายนนี้)
เปิดหนังสือขึ้นมาเห็นเรื่องที่ตัวเองเขียนได้ตีพิมพ์ก็รู้สึกดีใจ เพราะนานแล้วที่ผมไม่ได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับหนังสือที่ได้อ่าน แต่ก่อนก็พอได้เขียนอยู่บ้าง เมื่อไล่สายตาดูหาชื่อผู้เขียนบทความนี้ ปรากฎว่าตกชื่อผู้เขียนไป ผมไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรอะไรนัก เพราะคงจะเป็นความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆซึ่งเกิดขึ้นได้
ถึงแม้ไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนบทความนี้คือใคร แต่ถ้าเขาได้อ่านเรื่องที่ผมเขียนก็ถือว่าสิ่งที่ผมต้องการสื่อสารสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมจึงขอยกเรื่องที่ผมเขียนมาให้อ่านที่บล็อกกันอีกครั้ง และขออนุญาตใส่ชื่อผู้เขียนเรื่องนี้เสียตรงนี้ หากใครอ่านแล้วก็ข้ามไปได้เลยครับ
เบียทริซ ฉันรักเธอ (วรรณคดีก็เหมือนคนแก่ไง... ยิ่งเก่าแก่คนก็ยิ่งลืม แล้วก็ให้ความสำคัญน้อยลง)
โดย โดม วุฒิชัย
บันทึกถึงเธอเบียทริซ โดย สิริพันธุ์ สุนทรวิจิตร
ริมฝีปากทาสีแดงเรื่อของเธอเหมือนริบบิ้นสีแดงสองสายขยับไปมาตามแรงลม ดวงตาเหมือนตากระต่าย ต่างหูใหญ่เท่าใบกุหลาบ แม้กิริยาจะเชื่องช้าแต่เธอก็เต็มไปด้วยมาดของผู้หญิงเปี่ยมเสน่ห์ วาจาคมคายร้ายกาจ การแต่งตัวของเธอบ่งบอกว่าเธอเป็นศิลปิน ผมหลงรักเธอเข้าแล้ว...เป็นครั้งแรกที่ผมหลงรักผู้หญิงอายุรุ่นคุณยายซึ่งอีก 5 ปีเธอจะมีอายุครบร้อยปี โอ้...เบียทริซ...ฉันรักเธอ
ผมปิดหน้าสุดท้ายของหนังสือขณะที่ผมยังนอนอยู่บนเตียง พลิกดูปกซึ่งเป็นภาพต้นไม้ยืนคู่กันในที่โล่งซึ่งตอนแรกผมรู้สึกว่าปกนี้เป็นรูปสวยงามธรรมดา ๆ ทว่าไม่ได้สื่อถึงอะไร แต่เมื่ออ่านจบผมกลับไปมองรูปปกอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง จึงเห็นว่าภาพต้นไม้ต่างวัยสองต้นดูงดงามและมีความหมายมากขึ้น
ผมวางหนังสือเล่มเล็ก ๆ ไว้บนอกด้านซ้าย เอื้อมมือไปปิดสวิทซ์ไฟที่หัวเตียง ปิดเปลือกตาลงแต่ผมยังไม่หลับ ความรู้สึกเป็นสุขเล็ก ๆ อวลอยู่ในหัวใจ
หลายต่อหลายตอนทำให้ผมรู้สึกตื้นตันและขมปร่าในลำคอด้วยความปีติ และบางตอนผมถึงกับเผลอยิ้มออกมา แน่นอนว่าทั้งสองความรู้สึกนี้เกิดจากผู้หญิงสองคนคือเบียทริซตัวเอกของเรื่อง และสิริพันธุ์ผู้เขียนซึ่งจะบอกว่าเธอเป็นตัวรองก็ไม่ใช่ แต่เธอทั้งสองคือนางเอกของกันและกันนั่นเอง
เรื่องราวในหนังสือเล็ก ๆ เล่มนี้ เป็นบันทึกเหตุการณ์สัมพันธภาพระหว่างหญิงสาวชาวไทยวัย 27 ปี (ขณะนั้น) นักเรียนต่างชาติที่ประเทศออสเตรเลีย กับคุณยายชาวออสซี่อายุ 95 ปี เธอทั้งสองร่วมกันขับเคลื่อนเรื่องราวไปด้วยกัน
สัมพันธภาพเริ่มต้นขึ้นที่เช้าวันหนึ่ง หญิงสาวได้ยื่นมือเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของหญิงชราซึ่งกำลังประสบปัญหายุ่งยากขณะอยู่เพียงลำพังที่ม้านั่งยาวตัวหนึ่ง ปัญหานั้นคือการแกะพลาสติกที่ห่อแพ็คยาคูลท์ห้าขวดไม่ได้ จากนั้นจึงนำไปสู่มิตรภาพและความรักระหว่างกันในเวลาต่อมา
ผมเชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเพียงเพราะความเหงาของหญิงสาวที่ไปเรียนหนังสือไกลบ้าน และไม่ใช่เป็นเพราะความเดียวดายของหญิงชราที่อยู่ในห้องพักเพียงลำพังแล้วได้โคจรมาพบกันในเช้าวันหนึ่งเท่านั้น
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นขณะพบกันในช่วงเวลาหนึ่งนั้นแสดงให้เห็นว่าความรักและมิตรภาพที่มนุษย์มีต่อมนุษย์นั้นมีอยู่จริง และแอบซ่อนอยู่ในหัวใจของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม เพียงรอคอยสถานการณ์และวันเวลาที่จะปรากฏขึ้นระหว่างใครกับใครเท่านั้น
บันทึกถึงเธอ เบียทริซ เป็นหนังสือเล่มแรกของ สิริพันธุ์ สุนทรวิจิตร เธอสามารถเล่าเรื่องธรรมดา ๆ ได้อย่างน่าติดตาม แม้รายละเอียดในเรื่องจะเป็นพียงเรื่องเล็ก ๆ แต่ก็ดูสวยงาม
เรื่องราวของหญิงชรา แทนที่จะน่าเบื่อหน่าย แต่เธอกลับบอกเล่าได้อย่างมีชีวิตชีวา หากเบียทริซคนนี้เป็นคุณยายของเธอจริง ๆ เรื่องนี้อาจไม่ประทับใจเท่านี้ก็เป็นได้ แต่นี่เป็นเพราะเธอทั้งสองมีความแตกต่างกัน ทั้งต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา และต่างวัยกัน
ประการสำคัญเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่แต่งขึ้นมาเพื่อจงใจสร้างเรื่องให้ประทับใจผู้อ่าน หากแต่เป็นเรื่องจริง จึงทำให้ผมรู้สึกเชื่อมั่นในเรื่องความรักที่มนุษย์พึงมีต่อมนุษย์ด้วยกัน
ถึงแม้รูปแบบการเขียนจะดูเหมือนง่าย ๆ ด้วยการใช้ ฉัน เป็นผู้เล่าเรื่อง แต่ถึงกระนั้นผู้เขียนก็มีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องและใช้ภาษาราวกับเป็นมืออาชีพ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าความจริงคือความงามชนิดหนึ่ง เมื่อได้รับการถ่ายทอดออกมาอย่างมีศิลปะและด้วยความรู้สึกที่แท้จริงแล้ว ความจริงนั้นก็ยิ่งสวยงามมากขึ้น
ถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะมอบแด่เบียทริซ แต่ผมก็เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อให้เบียทริซอ่านเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะนอกจากการได้เห็นถึงมิตรภาพและความผูกพันอย่างลึกซึ้งของหญิงต่างวัยทั้งสองคนแล้ว ผมยังได้เห็นสัจธรรมของชีวิตและได้ข้อคิดมากมายจากเบียทริซด้วย
คำพูดหลายต่อหลายประโยคของเบียทริซแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่ผ่านชีวิตและเข้าใจชีวิต เช่น
วรรรณคดีก็เหมือนคนแก่ไง ยิ่งเก่าแก่คนยิ่งลืม แล้วก็ให้ความสำคัญน้อยลง ,
ถ้ารู้สึกเหงาก็ให้ไปงีบเสีย อย่าลืมว่าตอนนี้ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกกำลังจะเข้านอน พอเธอนอนหลับ เธอก็จะลืมไปว่ากำลังเหงา และเมื่อตื่นขึ้นมา อะไรต่ออะไรก็จะดีขึ้น,
คนเราน่ะ ถ้าไม่ดูแลตัวเองให้ดี ก็อย่าหวังจะไปดูแลคนอื่นเขาได้,
ถ้าเธออายุเท่าฉัน เธอจะรู้ว่าการร้องไห้มันแสนจะน่าเบื่อ แล้วเธอจะรู้สึกขันกับตัวเองว่าน้ำตามันหายไปไหนหมด, มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เบียทริซพูดว่า...พอเราแก่ตัวลง คนอื่น ๆ จะไม่ใส่ใจคำพูดของเราสักเท่าไร เขาคงคิดว่าเราเอาแต่พูดพล่ามไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วคนแก่ก็มีหัวใจนะ
ฟังดูก็เหมือนถ้อยคำธรรมดา ๆ ที่เคยได้ยินมา ทว่าเมื่อรับฟังจากปากของเบียทริซทำให้ผมคิดถึงแม่ที่จากไปแล้วและอดถามตัวเองไม่ได้ว่า มีบ้างไหมในช่วงปัจฉิมวัยของแม่ ขณะที่ผมอยู่ใกล้ชิดแม่ แล้วผมปล่อยให้แม่พูดไปโดยที่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของแม่เลย
คำพูดประโยคนี้ของเบียทริซทำให้ผมตั้งใจว่าต่อไปนี้จะเอาใจใส่กับคำพูดของคนชรามากขึ้น
-------------------------------
ม้านั่งยาวจุดเริ่มต้นมิตรภาพของคนทั้งสอง
เพลงจากในหนังสือเล่มนี้ แต่งและขับร้องโดยผู้เขียน
Create Date : 14 มิถุนายน 2552 |
|
20 comments |
Last Update : 16 มิถุนายน 2552 11:44:16 น. |
Counter : 2586 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ปะการัง IP: 72.197.60.18 15 มิถุนายน 2552 4:03:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 มิถุนายน 2552 7:26:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 15 มิถุนายน 2552 7:59:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 15 มิถุนายน 2552 10:04:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.115 15 มิถุนายน 2552 10:50:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: วีดวาด IP: 222.123.98.217 15 มิถุนายน 2552 12:35:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนอนฯ IP: 10.20.3.30, 202.28.180.202 15 มิถุนายน 2552 12:54:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: J IP: 58.137.145.222 15 มิถุนายน 2552 14:46:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 15 มิถุนายน 2552 19:10:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 15 มิถุนายน 2552 19:33:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยิปซี IP: 124.122.228.92 15 มิถุนายน 2552 20:40:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยิปซี IP: 124.122.228.92 15 มิถุนายน 2552 20:41:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ริมตลิ่ง 20 มิถุนายน 2552 20:21:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: บังเอิญผ่านมา IP: 202.29.60.211 22 ตุลาคม 2552 8:51:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: บังเอิญลืมถาม IP: 202.29.60.211 22 ตุลาคม 2552 8:55:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|