1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
เรียบง่ายและงดงาม
เทศกาลหนังสือในสวน 25-26 สิงหาคม 2550 ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ลุมพินี วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2550 ห้องวรรณกรรมเยาวชน 10.00 น. เริ่มกิจกรรมสอนน้องทำสมุดบันทึกทำมือ 11.00 น. วรรณกรรมเยาวชนบนแผ่นฟิล์ม ฉายภาพยนตร์เรื่อง chocolate factory ชาร์ลีกับโรงงานช็อคโกแล็ต 13.00 น. เกมโชว์ความรู้ดูสนุก เทปรายการแฟนธุ์แท้ (วรรณกรรมเยาวชน) 15.00 น. พูด ร้อง บรรเลง ทำเป็น-เล่นไป กับ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ 16.00 น. วรรณกรรมเยาวชนบนแผ่นฟิล์ม ฉายภาพยนตร์เรื่อง Arthur and the Invisibles ทูตจิ๋วเจาะขุมทรัพย์มหัศจรรย์ เวทีดนตรีในสวน (หน้าห้องสมุด) 16.30 น. เปิดงานเทศกาลหนังสือในสวน โดย คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 17.00 น. หวนคืนสู่วันสดใสรำลึกถึงบทเพลงแห่งวัยเยาว์ ดนตรีใส ๆ คิดถึงสองวัย / ดนตรี ยิ้มละไม 19.00 น. ทอล์คโชว์ สำนึกดี อารมณ์ดี กับพิธีกรจุดเปลี่ยน เอก-วิชัย จงประสิทธิ์พร และ คมสัน นันทจิต 19.30 น. ดนตรีเพื่อครอบครัว ฟุตปาธแฟมิลี วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม ห้องวรรณกรรมเยาวชน 10.00 น. เริ่มกิจกรรมสอนน้องทำสมุดบันทึกทำมือ 11.00 น. วรรณกรรมเยาวชนบนแผ่นฟิล์ม ฉายภาพยนตร์เรื่อง Charlottes Web แมงมุมเพื่อนรัก 13.00 น. เปิดโลกวรรณกรรมแฟนตาซี กับ ดร.ป๊อป เดอะไวท์โรด 14.00 น. คุยกันเรื่อง จาก blog สู่ book โดม วุฒิชัย / พิบูลศักดิ์ ละครพล / จรินยา ศักดิ์ศิริ 15.00 น. วาดฝันระบายสี ร่ายลีลา กับ เทพศิริ สุขโสภา 16.00 น. วรรณกรรมเยาวชนบนแผ่นฟิล์ม ฉายภาพยนตร์เรื่อง NARNIA นาร์เนีย เวทีดนตรีในสวน (หน้าห้องสมุด) 17.00 น. เพลงกวี ทุ่งแสงตะวันโดย พจนาถ พจนาพิทักษ์ 18.00 น. ดนตรีกวีอินดี้ พยัต ภูวิชัย และเพื่อน ห่างไกล ไม่ห่างกัน ของ โดม วุฒิชัย ปกพิมพ์ครั้งที่ 2 กรกฎาคมนี้ สำหรับเพลง แผ้วถาง จากการแต่งเนื้อร้อง-ทำนอง และขับร้องโดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ผู้มีน้ำเสียงอันไพเราะชวนให้หลงใหลถึงขั้นทำให้หัวใจละลายได้ - ขอมอบแด่ทุกคนที่มีความรักในหัวใจครับ - ทั้งนี้และทั้งนั้นขอได้รับความขอบคุณจากคุณตะเบบูญ่าที่เอื้อเฟื้อเพลงนี้และคุณสเลเตจัดทำโค้ดเพลงให้ ---------------------------------------------------------------------------- เรียบง่ายและงดงาม คนในปัจจุบันนี้ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยวิ่งวุ่นอยู่กับการทำกำไร หนักใจอยู่กับทรัพย์สมบัติมหาศาล จิตใจไม่มีวันสงบ ไม่รู้จักหยุดนิ่ง วิตกกังวลไปร้อยแปดตลอดเวลา ชนิดที่ว่า กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นไฟ คือใจไม่ยอมหยุด รุ่มร้อนอยู่ทุกเวลา...นั่นแหละคือผลของการที่จิตมันเข้าไปแบกไว้เต็มที่ พุทธทาสภิกขุ ช่วงที่ผ่านมานี้ผมเพิ่งได้พบตัวเองว่าชอบ ความเงียบสงบ ถึงขั้นที่เรียกว่า เงียบสงัดทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีแววมาก่อนว่าผมจะชอบอะไรที่มีลักษณะเช่นนี้ได้เลย บางสิ่งบางอย่างในชีวิตกว่ามีโอกาสจะได้รู้จักวันเวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว บางคนอาจจะได้พบสิ่งที่ตัวเองชอบเร็ว บางคนอาจจะได้พบในสิ่งที่ตัวเองชอบช้า และบางคนอาจจะไม่ได้พบเลยว่าสิ่งที่ตัวเองชอบนั้นคืออะไร สำหรับเรื่องการงานเพื่อยังชีพนั้น ส่วนใหญ่คนเราก็เริ่มทำงานมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว บ้างก็เลือกอาชีพที่ตัวเองรักและใฝ่ฝันมาตั้งแต่ยังเด็กและประกอบอาชีพนั้นเรื่อยมา บ้างก็เลือกอาชีพเพราะว่าอาชีพนั้นสร้างความร่ำรวยและสร้างฐานะให้แก่ตน บ้างเลือกอาชีพเพียงเพราะเพื่อความอยู่รอดไปวันๆเท่านั้น บ้างก็เลือกอาชีพที่ทำอยู่เพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรเท่านั้นเอง ส่วนตัวผมนั้นถึงวันนี้ก็ยังไม่อาจเรียกว่าชีวิตประสบความสำเร็จได้เลยเมื่อเทียบกับมาตรฐานทั่วๆไปของสังคม แต่สำหรับในความรู้สึกของตัวเองแล้ว เมื่อเทียบกับชีวิตที่ผ่านๆมาของตัวเองจากวัยหนุ่มถึงวันนี้ ช่วงปีนี้เป็นปีที่ผมรู้สึกว่าชีวิตประสบความสำเร็จมากที่สุดแล้ว (ประสบความสำเร็จของผมก็แค่ได้ทำงานอย่างที่ตัวเองอยากทำและทำได้) ทั้งๆที่รายได้ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมเลย เมื่อเปรียบเทียบเรื่องรายได้อาจจะลดจากเดิมด้วยซ้ำ การเลือกเขียนหนังสือเพียงอย่างเดียวในชีวิตของผมนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ผมเคยฝันมาตั้งแต่ในวัยหนุ่ม จนบางช่วงของชีวิตก็ลืมเลือนไปบ้างแล้ว เพราะที่ผ่านมาของชีวิตผมแทบไม่เคยมีระเบียบวินัยในการทำงานเลย เมื่อไม่มีระเบียบวินัยในการทำงานแล้วยากนักที่จะดำรงชีวิตในการเขียนหนังสืออย่างเดียวได้ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นงานอิสระที่เป็นนายของตัวเอง การมีวินัยในการทำงานของตัวเองย่อมสำคัญอย่างยิ่งและถึงวันนี้ผมอยากพูดว่าอิสระที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่แค่การได้ทำอะไรตามใจตัวเองเท่านั้น บัดนี้ผมอายุเกือบจะห้าสิบปีแล้ว การที่ค่อยๆได้ค้นพบตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุขนั้นเป็นอย่างไร ถึงแม้จะอายุจะมากขึ้นขนาดนี้แล้วก็ยังไม่นับว่าสายจนเกินไปนัก หลังจากที่ผมเลิกธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ (เรียกให้ดูดีไปงั้นแหละความจริงคือทำปลากรอบขายส่งตามห้างร้าน ภรรยาผมเป็นคนทอด ผมเป็นคนไปส่ง) ที่เคยทำอยู่ ผมก็ไม่ต้องไปผจญกับความวุ่นวายกับผู้คนและเรื่องรถติดบนถนน ผมได้มีโอกาสเขียนหนังสือมากขึ้น ได้คิดและได้ทำเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองบอกว่าทำด้วยความรักมากขึ้น ประการสำคัญผมมีโอกาสได้เดินทางไปในที่ต่างๆมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเคยใฝ่ฝันมานาน ถึงแม้สถานที่ผมได้ท่องเที่ยวไปนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นสถานที่มีภูมิประเทศสวยงามมหัศจรรย์อะไรมากมาย บางทีแค่เป็นชายทุ่งนาและแม่น้ำลำคลองแสนจะธรรมดาๆก็พบกับความสงบสุขอย่างเรียบง่ายได้ แต่สิ่งที่ผมไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าผมจะชอบชีวิตที่อยู่ในวัดได้เลย เช่นกินข้าวหลังจากพระบิณฑบาต นอนในกุฏิโดดเดี่ยวในป่าช้าเก่า บรรยากาศแวดล้อมด้วยร่มไม้เงียบสงัด ในช่วงหลังๆที่ผมมีโอกาสได้เดินทางออกจากเมืองหลวงบ่อยๆ ผมมักจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่วัดหนองยายดา(เก่า) (ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอสว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี) วัดเล็กๆแห่งนี้ซึ่งเคยเป็นวัดร้างมาก่อน และปัจจุบันเพิ่งเริ่มพัฒนากันใหม่ วัดนี้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียงสองรูปเท่านั้น บรรยากาศของวัดเงียบสงบน่าอาศัยสำหรับในการปฏิบัติธรรมสำหรับในการใช้ความเงียบสงบ อาศัยว่าพอจะคุ้นเคยกับพระและชาวบ้านที่นี่บ้างจึงทำให้ผมมาอาศัยวัดนี้นอนได้คราวละหลายๆวัน ก่อนหน้านี้ผมก็เคยชักชวนเพื่อนฝูงญาติมิตรนำผ้าป่ามาทอดบ้าง จนกลายเป็นว่าผมไม่ใช่คนแปลกหน้าของที่นี่แล้ว ผมนึกถึงเมื่อตอนอยู่ในวัยหนุ่ม หรือเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผมยังสนุกสนานกับการตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนฝูงรักใคร่ที่ชอบพอตามร้านเหล้าต่างๆอย่างไม่คิดว่าจะมีวันเบื่อหน่าย จนกระทั่งถึงวันนี้ผมหยุดการดื่มอย่างเด็ดขาดมานานพอสมควรแล้ว เมื่อผมได้มาอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้ ผมนอนบนเสื่อกับพื้นๆอย่างเรียบง่าย ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายใดๆ น้ำที่อาบก็คือน้ำสระสีขุ่น ถ้าอยากให้ใสก็ใช้สารส้มแกว่งเอาชีวิตประจำวันก็คือ ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดก็นั่งเขียนหนังสือ จะเขียนได้ไม่ได้ก็นั่งเขียนให้ติดเป็นนิสัย เมื่อผมนั่งลงทำงานแล้วเป็นอันว่าเสร็จเสมอ ("ก้มเป็นลง" "เขียนเป็นเสร็จ") เพราะบรรยากาศอันเงียบสงบและใจที่ไม่ฟุ้งซ่านจิตใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่คิดอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่การเขียนหนังสือของผมนั้น ยามเช้าตรู่ถ้าเขียนเรื่องใหม่ก็จะเป็นร่างแรก เมื่อมีเวลาว่างก็จะแก้ขัดเกลาอีก การเขียนงานร่างแรกเสร็จเป็นความสุขที่ทำงานสำเร็จเสร็จสิ้นตามความคิด การขัดเกลาเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งคือทำงานเรียบร้อยได้ดั่งใจ หลายครั้งหลายหนผู้คนมักพูดชมและชวนให้คิดว่าการเขียนหนังสือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และพิเศษกว่าการงานของคนอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคนที่ใช้แรงงาน เมื่อก่อนนี้ผมก็เคยมีความหลงตัวเองอยู่บ้างว่างานเขียนหนังสือที่ตัวเองรักนั้นเป็นงานที่พิเศษ เพราะเป็นงานที่ใช้ความคิด ใช้ความรู้ความสามารถ ใช้ประสบการณ์ ฯลฯ เมื่อเขียนเสร็จแล้วยังได้เผยแพร่ไปยังที่อื่นๆให้คนได้อ่าน ช่างเป็นงานที่น่าภาคภูมิใจเสียเหลือเกิน ถ้าเขียนได้ดีมีคนชอบยิ่งด้วยแล้วยิ่งทำให้ยิ่งภาคภูมิใจจนเข้าข่ายหลงตัวเองยิ่งขึ้น จนกระทั่งในช่วงหลังๆของชีวิตเมื่อผมได้สนใจที่จะทำความรู้จักตัวเองและสนใจเรื่องเกี่ยวกับธรรมะมากขึ้น เมื่อรู้สึกตัวผมก็ค่อยๆพยายามลดละอัตตาลงไปทีละน้อยๆ และได้พบว่าการทำงานโดยไม่หลงตัวเองนั้นกลับมีความสุขยิ่งกว่า วันหนึ่งขณะที่ผมพักอยู่ที่วัดหนองยายดา (ผมหอบโน้ตบุ๊คติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยเสมอ) บรรณาธิการนิตยสารฉบับหนึ่งโทรศัพท์มาทวงต้นฉบับ ตามปกติแล้วงานผมไม่ต้องรอให้ต้องทวงต้นฉบับ เพราะผมมักทำต้นฉบับส่งตุนไว้เสมอ และผมไม่เคยทำงานช้ากว่ากำหนดเวลา เป็นเพราะต้องการฝึกนิสัยให้มีวินัยของตนนั่นเอง และส่วนหนึ่งก็คือผมไม่ได้มีงานเขียนประจำมากนัก แต่ครั้งนั้นนิตยสารฉบับนั้นเร่งออกก่อนกำหนด จึงบอกผมให้ส่งเรื่องก่อนเวลานัดหมายปกตินิดหน่อยเลยขอต้นฉบับล่วงหน้า ผมตั้งท่าคิดจะเขียนเรื่องราวอะไรสักอย่างที่ดูมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน และเพื่อเป็นการแสดงภูมิรู้และความคิดวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างแหลมคม แต่ผมลงมือเขียนไปได้เพียงเกือบหน้ากระดาษก็ให้รู้สึกฝืดฝืนจนต้องปล่อยให้เรื่องนั้นค้างคาอยู่อย่างนั้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าความคิดของผมยังไม่แหลมคมพอ หรืออาจจะเป็นการงานที่ยังเต็มไปด้วยอัตตาของตัวเองก็เป็นได้ หรือเป็นเพราะต้องการส่งให้ตรงเวลาทั้งๆที่ผมยังไม่มีอะไรจะเขียน หรือผมยังไม่สามารถเขียนอย่างที่คิดได้ หรือ ฯลฯ ผมจึงหยุดการเขียนงานชิ้นนั้นไว้ก่อน แล้วออกไปเดินเล่นและนั่งสนทนากับ "ป้าพา" ซึ่งเป็นอุบาสิกาที่มาช่วยทำงานวัดอยู่เป็นประจำ ป้าพาเป็นคนแก่ที่บ้านอยู่ข้างวัดอาศัยเงินที่ลูกส่งมาให้ในแต่ละเดือนใช้ยังชีพ นางใช้เวลาว่างที่มีอยู่แต่ละวันมาช่วยงานวัดกับกลุ่มเพื่อนๆแม่บ้านที่มีจิตศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการขนทรายผสมปูนก่อสร้างสิ่งต่างๆ ดายหญ้า ปลูกดอกไม้ ฯลฯ แต่วันนี้เพื่อนบ้านพากันหยุดหมดเหลือตัวนางเพียงคนเดียวเท่านั้น ผมก็เลยไปนั่งสนทนาด้วย ผมชักชวนป้าพาคุยเรื่องต่างๆเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ นางมักมองผมว่าเป็นผู้มีความรู้ เพราะเขียนหนังสือได้ สามารถพูดเรื่องธรรมะเป็นคุ้งเป็นแควได้ นางให้เกียรติมาตามผมไปกินข้าวที่ศาลาเสมอและบางครั้งถ้าผมไม่เดินไปที่ศาลานางก็ยังหยิบยกมาให้ ผมรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของนางเสมอมา วันนี้ผมนึกอยากชวนคุยว่าการนั่งสมาธิหรือการเดินจงกรมของป้าพาฝึกมาอย่างไร แต่ละเรื่องที่สนทนานั้นผมมีความปรารถนาดีเต็มเปี่ยม นางบอกว่ายังไม่รู้จักเรื่องสมาธิ เรื่องธรรมะอะไรนัก เพราะเพิ่งเข้ามาถือศีลนอนวัดเมื่ออายุมากแล้ว เพราะแต่ก่อนก็เพียงแค่ชอบทำบุญเท่านั้น นางพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวในเรื่องธรรมะของนางอย่างบริสุทธิ์ใจ นางพูดเปรยๆให้ฟังด้วยน้ำเสียงแสนซื่อว่า.... แต่ไม่รู้เป็นอะไรมาช่วยงานวัดได้ทุกวัน ไม่ว่าจะทำอะไร ผสมปูน ถากหญ้า ปลูกต้นไม้ดอกไม้ ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า ยิ่งทำก็ยิ่งมีความสุขมีความสบายใจ ไม่เหมือนทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน วาบความคิดของผมเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดว่า....การงานเพื่อผู้อื่นและเป็นสาธารณประโยชน์ไม่ยึดถือว่าเป็นงานของตนนั้นย่อมเป็นการงานสร้างสรรค์และเป็นการงานที่ลดละอัตตาอย่างแท้จริง แม้จะเป็นงานที่ใช้แรงงานอย่างง่ายๆก็ตาม ผมรู้สึกขอบคุณป้าพาคนดายหญ้าของวัดที่พูดธรรมะออกมาอย่างแสนซื่อ ทำให้ผมกลับมานั่งเขียนถึงเรื่องนี้และตระหนักถึงงานเขียนของตัวเองแต่ละชิ้นที่จะเขียนออกมายิ่งขึ้น ----------------------------------
Create Date : 25 สิงหาคม 2550
70 comments
Last Update : 28 ตุลาคม 2550 20:01:49 น.
Counter : 5523 Pageviews.
โดย: filmgus IP: 124.157.186.62 25 สิงหาคม 2550 12:24:27 น.
โดย: filmgus IP: 124.157.186.62 25 สิงหาคม 2550 12:26:04 น.
โดย: พ่อพเยีย 25 สิงหาคม 2550 17:10:07 น.
โดย: แม่ปัน-ปอง IP: 125.25.210.252 25 สิงหาคม 2550 19:23:19 น.
โดย: ทะเล IP: 58.9.103.241 25 สิงหาคม 2550 23:58:15 น.
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.53 26 สิงหาคม 2550 4:27:47 น.
โดย: ยานา IP: 61.7.173.50 26 สิงหาคม 2550 7:25:38 น.
โดย: พ่อพเยีย 26 สิงหาคม 2550 9:25:39 น.
โดย: naigod IP: 124.121.23.119 26 สิงหาคม 2550 10:16:47 น.
โดย: mojigirl 26 สิงหาคม 2550 18:53:33 น.
โดย: Nok_Noah 26 สิงหาคม 2550 19:56:55 น.
โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.172.78 26 สิงหาคม 2550 21:30:01 น.
โดย: ทะเล IP: 58.9.103.241 26 สิงหาคม 2550 21:57:51 น.
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.9 26 สิงหาคม 2550 23:37:17 น.
โดย: naigod 26 สิงหาคม 2550 23:42:53 น.
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.9 26 สิงหาคม 2550 23:53:12 น.
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.73 27 สิงหาคม 2550 1:24:23 น.
โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.172.78 27 สิงหาคม 2550 1:40:31 น.
โดย: ยานา IP: 61.7.173.63 27 สิงหาคม 2550 7:40:30 น.
โดย: naigod 27 สิงหาคม 2550 7:40:40 น.
โดย: พ่อพเยีย 27 สิงหาคม 2550 8:21:01 น.
โดย: พ่อพเยีย 27 สิงหาคม 2550 9:26:57 น.
โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 27 สิงหาคม 2550 9:27:56 น.
โดย: ปุถุซน 27 สิงหาคม 2550 10:19:26 น.
โดย: พ่อพเยีย 27 สิงหาคม 2550 10:40:18 น.
โดย: p tim IP: 222.123.30.240 27 สิงหาคม 2550 10:43:24 น.
โดย: พ่อพเยีย 27 สิงหาคม 2550 10:50:49 น.
โดย: พ่อพเยีย 27 สิงหาคม 2550 10:55:29 น.
โดย: พ่อพเยีย 27 สิงหาคม 2550 10:58:33 น.
โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.172.78 27 สิงหาคม 2550 12:12:48 น.
โดย: naigod 27 สิงหาคม 2550 13:26:01 น.
โดย: เงาศิลป์ IP: 203.146.63.183 27 สิงหาคม 2550 13:29:22 น.
โดย: p tim IP: 58.147.94.82 27 สิงหาคม 2550 16:53:37 น.
โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.21.98 27 สิงหาคม 2550 19:55:47 น.
โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 27 สิงหาคม 2550 20:48:07 น.
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 27 สิงหาคม 2550 21:59:06 น.
โดย: พ่อหนูหอม IP: 202.57.173.110 28 สิงหาคม 2550 7:11:30 น.
โดย: ยานา IP: 61.7.173.131 28 สิงหาคม 2550 7:55:18 น.
โดย: ชมจันทร์ (ชมจันทร์ ) 28 สิงหาคม 2550 8:54:09 น.
โดย: แพรจารุ 28 สิงหาคม 2550 12:18:50 น.
โดย: mojigirl 28 สิงหาคม 2550 14:28:18 น.
โดย: yellyjam (lukkongpoka ) 28 สิงหาคม 2550 15:49:50 น.
โดย: พ่อพเยีย 28 สิงหาคม 2550 19:27:01 น.
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.61.170 28 สิงหาคม 2550 19:30:29 น.
โดย: พ่อพเยีย 28 สิงหาคม 2550 20:27:48 น.
โดย: naigod 29 สิงหาคม 2550 1:37:19 น.
โดย: สีน้ำฟ้า 29 สิงหาคม 2550 2:09:35 น.
โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.135.160 29 สิงหาคม 2550 2:27:53 น.
โดย: ยานา IP: 61.7.173.70 29 สิงหาคม 2550 8:38:09 น.
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.160.197 29 สิงหาคม 2550 9:34:33 น.
โดย: p.tim IP: 222.123.128.10 29 สิงหาคม 2550 9:51:05 น.
โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 29 สิงหาคม 2550 14:37:31 น.
โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 29 สิงหาคม 2550 15:29:58 น.
โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 29 สิงหาคม 2550 20:10:37 น.
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.135.138 29 สิงหาคม 2550 20:38:04 น.
โดย: ไท IP: 203.113.89.30 7 กันยายน 2550 14:33:08 น.
โดย: บุญสิตา IP: 67.9.4.204 11 กันยายน 2550 6:17:14 น.
โดย: สา IP: 218.111.143.98 13 ตุลาคม 2550 14:26:59 น.
โดย: ตั๊ก อรุณศักดิ์ IP: 124.121.91.16 23 ตุลาคม 2550 11:06:35 น.
โดย: เอื้อง ยิปโซ IP: 58.9.148.70 8 พฤศจิกายน 2550 13:30:09 น.
โดย: มนาโป (ปจจ.) IP: 58.9.152.97 12 มีนาคม 2552 13:31:22 น.
โดย: อนันต์ สิริโม IP: 203.172.211.105 9 กุมภาพันธ์ 2554 12:10:16 น.
โดย: SassymOn 29 พฤศจิกายน 2554 2:12:43 น.
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [? ]
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
เฉลย บล็อกพี่โดมแหละ ถ้าไม่รูดลงมาดูข้างล่าง ก็ไม่รู้หรอกว่าอัพบล็อก แหะๆ
การเขียนงานร่างแรกเสร็จเป็นความสุข
ที่ทำงานสำเร็จเสร็จสิ้นตามความคิด
การขัดเกลาเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง
คือทำงานเรียบร้อยได้ดั่งใจ
..............
ละเลียดอ่านด้วยความรู้สึกร่วม
มาถึงตรงนี้ ก็นิ่งและอินไปด้วย..
เคยได้ยินมาว่า "ผู้ใดได้ทำงานที่ชอบ ผู้นั้นไม่ต้องทำงานอีกต่อไป"
ใช่เลย...การทำงานอย่างเป็นสุขเป็นแบบนี้นี่เอง