|
ห่างไกล ไม่ห่างกัน (2)
สวัสดีครับทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน หลายวันที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้อัพบล็อกสม่ำเสมอเหมือนแต่ก่อน
เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับต้นฉบับบันทึกถึงลูกสาวที่เขียนไว้ในช่วงก่อนนี้ เพื่อเตรียมตัวไปพิมพ์เป็นพ็อคเก็ตบุ๊ค ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงได้เห็นหนังสือชื่อ "ห่างไกล ไม่ห่างกัน" ในไม่ช้าไม่นานนี้
ผมจึงนำต้นฉบับที่ขัดเกลาตัดต่อเพิ่มเติมขยับปรับแต่งเรียบเรียงเรียบร้อยแล้วมาให้อ่านกันเล่น แต่สิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมก็คือเรื่องราวความจริงและความรักของพ่อที่อยู่ไกลบ้านคนหนึ่ง
---------------------------------------
พเยีย ลูกรัก
ก่อนที่พ่อจะเดินทางมาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ พ่อได้เช่าบ้านอยู่ที่ริมแม่น้ำสะแกกรังในจังหวัดอุทัยธานีซึ่งเป็นบ้านเกิด เพราะชอบบรรยากาศบ้านริมน้ำ แต่เมื่อพ่อได้มาเห็นบ้านพักหลังนี้และได้ทดลองนอนอยู่สองคืน พ่อจึงตัดสินใจคืนบ้านเช่าริมแม่น้ำสะแกกรังด้วยความรู้สึกเสียดายบรรยากาศอยู่เหมือนกัน ป้านงลักษณ์ต้องการให้พ่อมาพักและช่วยตกแต่งบ้านหลังนี้ให้เธอนานแล้ว แต่พ่อก็ผัดผ่อนอยู่เรื่อย
พ่อชอบสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับใครมากมาย เพราะที่ตั้งอยู่ในมุมที่เงียบสงบ มีร้านอินเตอร์เน็ต(ร้านเกม)ในตลาดสำหรับส่งงานได้ มีรถตู้เข้ากรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านโดยไม่ลำบากนัก อีกทั้งระยะทางการเดินทางไปเยี่ยมย่าที่บ้านเกิดก็ไม่ไกลจนเกินไปนัก โดยรวมต้องจัดว่าเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ ซึ่งนับเป็นเหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่พ่อเลือกมาพักที่บ้านหลังนี้
พ่อซื้อจักรยานเสือภูเขาคันหนึ่งเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและเพื่อเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้บ้านหลังนี้เป็นที่นั่งทำงานในช่วงเวลาหนึ่ง พ่อลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมือสองไว้ใช้งานแทนโน้ตบุ๊กที่พ่อหอบหิ้วไปไหนมาไหนบ่อยๆ พ่อเคยไปส่งงานที่ร้านอินเตอร์เน็ตอยู่สามสี่ครั้ง บรรยากาศที่ร้านเป็นที่เล่นเกมสำหรับเด็กๆเสียมากกว่า ในที่สุดพ่อจึงตัดสินใจติดตั้งโทรศัพท์บ้านเพื่อใช้อินเตอร์เน็ต
คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตนั้นพ่อถือว่าเป็นเครื่องมือทำงาน เป็นเครื่องมือสื่อสาร เป็นตู้ไปรษณีย์ เป็นหนังสือบางเล่ม เป็นห้องสมุดสำหรับค้นคว้าหาสิ่งที่ต้องการ เป็นอะไรต่ออะไรได้อีกมากมาย
ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ทว่าเป็นชุมชนตลาดใหญ่ทีเดียว ฟังดูแปลกไหม หมู่บ้านเล็กๆแต่ตลาดใหญ่ เป็นเพราะว่าตำบลนี้เป็นทางผ่านของจังหวัดทางภาคเหนือนั่นเอง เมื่อออกจากตัวจังหวัดนครสวรรค์ขึ้นมาทางเหนือประมาณ 17 กิโลเมตร จะมีทางแยกไปกำแพงเพชร เชียงใหม่ อีกแยกหนึ่งจะไปอำเภอลาดยาว หมู่บ้านนี้เรียกว่าบ้านหนองเบน ซึ่งยังอยู่ในเขตอำเภอเมือง ที่นี่ไม่มีโรงภาพยนตร์ ไม่มีคาเฟ่ ตอนเย็นตลาดจะปิดกันเร็ว ค่ำเล็กน้อยร้านค้าก็พากันปิดหมดแล้ว
พ่อตัดสินใจซื้อหม้อหุงข้าวและกระทะไฟฟ้ามาทำอาหารกินเอง เพราะที่นี่มีร้านข้าวแกงให้เลือกไม่มากนัก ลูกป้านงลักษณ์เอาตู้เย็นเก่าๆมาทิ้งไว้ให้ พ่อจึงมีตู้เย็นไว้แช่น้ำเย็น เก็บอาหารที่เหลือ และเก็บผักสดไว้กินได้ ก่อนหน้านี้พ่ออยู่โดยไม่ได้ใช้ตู้เย็นพ่อก็อยู่ได้ ดูเหมือนพ่อกลายเป็นคนโสดอีกครั้งเพราะการได้มาอยู่ตัวคนเดียว แต่จริงๆแล้วพ่อระลึกอยู่เสมอว่ามีลูกกับแม่อยู่ที่บ้าน ที่ตรงนี้เป็นเพียงที่อยู่ชั่วคราวเท่านั้น แต่เมื่อมาอยู่พ่อก็เริ่มชอบบ้านหลังนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บ้านที่พ่อมาพักอยู่เป็นเพียงบ้านพักครูเก่าๆ อยู่ในบริเวณหมู่บ้านบ้านพักครูซึ่งมีบ้านรูปทรงและขนาดเดียวกันประมาณยี่สิบกว่าหลัง ทั้งที่พ่อไม่ได้เป็นครู แต่มาพักที่บ้านพักหลังนี้ได้เพราะพี่ป้านงลักษณ์เป็นครูและใช้สิทธิ์พักที่บ้านหลังนี้ ซึ่งตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกพ่อก็ไม่กล้ามาอยู่เพราะเกรงว่าจะเป็นการแย่งที่อยู่ของบรรดาข้าราชการครูในชนบท แต่เมื่อพ่อมาเห็นในครั้งแรกพ่อก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้ทันที เพราะบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ และยังมีบ้านพักครูอีกหลายหลังที่ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าอย่างไม่มีใครสนใจใยดี
บริเวณหมู่บ้านแห่งนี้จะมีต้นไม้ร่มรื่นเพราะผู้อยู่ก่อนปลูกทิ้งไว้ และบริเวณรอบๆบ้านที่พ่ออยู่ส่วนใหญ่เป็นต้นมะยม เมื่อดูที่ลำต้นก็รู้ว่ามีอายุมากแล้ว
ช่วงแรกที่พ่อมาอยู่ก็เริ่มปลูกต้นไม้ตามประสาที่พ่อเป็นคนรักต้นไม้นั่นแหละ ลูกจำต้นปีบสองต้นที่พ่อแยกรากจากต้นในสวนเล็กๆข้างบ้านได้ไหม พ่อใส่ถุงดำชำไว้และฝากให้แม่กับลูกช่วยรดน้ำเวลาพ่อไม่อยู่บ้าน ตอนนี้พ่อเอามาปลูกที่ริมหน้าต่างห้องนอนของพ่อแล้ว
ต้นหนึ่งปลูกทางทิศตะวันออกอีกต้นหนึ่งปลูกทางทิศใต้ พ่อชอบปลูกต้นไม้อย่างมีจินตนาการเสมอ ที่พ่อปลูกต้นปีบไว้ที่ริมหน้าต่างทั้งสองด้านก็เพราะต้องการให้เป็นม่านต้นไม้อำพรางสายตาจากเพื่อนบ้านบ้าง และอีกประการหนึ่งก็คือเมื่อมันโตจนกระทั่งออกดอก ในห้องของพ่อจะได้มีกลิ่นหอมของดอกปีบอบอวลยามค่ำคืน
บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้น ชั้นบนมีห้องสองห้อง ส่วนตรงกลางเป็นห้องโล่งๆเชื่อมระหว่างห้องเล็กกับห้องใหญ่ ห้องเล็กพ่อเอาไว้เก็บของที่ไม่ได้ใช้ ส่วนห้องใหญ่เป็นทั้งห้องนอนและห้องทำงานของพ่อ สำหรับห้องครัวก็ใช้ห้องโล่งๆริมหน้าต่างนั่นเอง
พ่อชอบห้องนอนที่นี่มาก เพราะมีหน้าต่างรอบทิศ รวมแล้วหกบาน พ่อจะเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน นอกเสียจากเวลาที่พ่อไม่อยู่บ้านเท่านั้น ส่วนโต๊ะเขียนหนังสือของพ่อตั้งอยู่ในห้องนอนริมหน้าต่างทางทิศเหนือ พ่อปลูกต้นราตรี ต้นโมก ต้นแก้ว ต้นเล็บมือนางไว้เป็นกลุ่มๆใกล้ๆต้นมะยมต้นเดิมที่เขาปลูกไว้ พ่อตั้งใจว่าจะให้ต้นราตรีออกดอกทันช่วงฤดูหนาวนี้ เวลาแม่กับลูกมาเที่ยวที่บ้านหลังนี้ จะได้กลิ่นหอมของดอกราตรีเหมือนริมหน้าต่างข้างๆบ้านเราที่นนทบุรี
บ้านหลังนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก หากใครเป็นคนขี้เหงาพ่อว่าอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวไม่ได้แน่นอน เพราะลำแสงแแดดสุดท้ายยามเย็นที่สาดมาที่บันไดบ้านนั้นอ้อยสร้อยเหมือนไม่อยากจากวันนี้ไปเลย แต่ก็ต้องจาก พ่อชอบแสงแดดยามเย็นยิ่งนักเพราะให้ความรู้สึกอ่อนโยนนุ่มนวล
หน้าบ้านมีที่ว่างเล็กน้อย ถัดไปที่ริมรั้วมีต้นมะขามเทศใหญ่โตที่คอยบังแดดยามบ่ายให้เกิดร่มเงาร่มรื่นและให้พ่อนอนเล่นที่เปลญวนเชือกมะนิลาที่ผูกไว้ระหว่างกกเสาบ้านยามว่าง พ่อเอาต้นเล็บมือนางไปปลูกไว้ที่โคนต้นมะขามเทศ เผื่อว่าอีกหน่อยมันจะได้เลื้อยแต้มสีชมพูให้กับใบสีเขียวของมะขามเทศและส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ แต่ตอนนี้ลำต้นมันเพิ่งสูงแค่เข่าเท่านั้น พ่อมีหน้าที่รดน้ำใส่ปุ๋ย ส่วนมันจะโตเมื่อไหร่ จะอออกดอกหรือไม่ออกดอกอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของมัน
ใกล้ๆราวตากเสื้อผ้าหน้าบ้าน พ่อเอาต้นลีลาวดีมาปลูก ถัดมาเป็นยี่โถด่าง ส่วนต้นกาหลงปลูกไว้ด้านหน้าบ้าน ต้นกาหลงต้นนี้เดินทางมาไกลนะลูก พ่อจำได้ว่าพ่อเอาต้นเล็กๆมาจากบ้านลุงหาญที่เขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว มันต้องอาศัยอยู่ในถุงดำที่บ้านเพิงพเยียของเรานานทีเดียวและในที่สุดมันก็ได้ลงดินเสียที
แถวหน้าบ้านยังมีไม้ใบในกระถางเล็กๆน้อยๆที่พ่อหอบหิ้วมาปลูกอีก วันนี้พ่อเอากล้วยไม้มาปลูกติดที่คาคบต้นมะม่วงที่อยู่ใกล้หลังคาบ้านที่สุด
ริมหน้าต่างด้านทิศใต้ข้างห้องน้ำพ่อปลูกต้นมะดัน น้ำจากห้องน้ำและน้ำล้างจานจะไหลไปรวมอยู่ตรงนั้น ต้นมะดันนั้นชอบน้ำชุ่มฉ่ำ นี่เป็นอีกครั้งที่พ่อได้เห็นสภาพดินก่อนแล้วจึงเลือกต้นไม้ปลูกทีหลัง
ลูกคงเบื่อที่พ่อพูดถึงแต่เรื่องต้นไม้ แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ก็พ่ออยากเล่าให้ลูกเห็นภาพว่าบ้านที่พ่ออยู่นั้นเป็นอย่างไรบ้างและพ่อขอฝากมาตรงนี้ว่า
อย่าลืมรดน้ำต้นเล็บครุฑที่พ่อปลูกใส่กระถางไว้ที่บ้านด้วยนะ อย่าปล่อยให้ต้นไม้ต้นนี้ตายทีเดียวนะลูก เพราะต้นเล็บครุฑต้นนี้พ่ออุตส่าห์ตัดกิ่งมันมาจากหมู่บ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิหนึ่งสัปดาห์ ลำต้นมันถูกคลื่นและพายุซัดสาดบ้านเรือนทับจนหักฉีกขาด พ่อจึงเลือกกิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดกลับมาชำไว้เพื่อเป็นที่ระลึกในเหตุการณ์สึนามิ
ครั้งสุดท้ายพ่อกลับไปที่บ้านน้ำเค็มอีก ปรากฏว่าบริเวณบ้านหลังนั้นเขาปรับที่สร้างใหม่มองไม่เห็นบ้านหลังเดิมและไม่มีต้นเล็บครุฑกอนั้นอีกแล้ว ต้นเล็บครุฑต้นนี้จึงมีความหมายในความรู้สึกของพ่อ ส่วนต้นไม้อื่นๆนั้นมันลงดินและคงรอดหมดแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยทิ้งโดยไม่รดน้ำเสียเลย เพราะต้นไม้ก็ยังต้องการน้ำเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตอยู่ดี เหมือนกับคนที่ต้องการความรักนั่นแหละลูก
พ่อบอกเล่าเรื่องราวพอหอมปากหอมคอแค่นี้ก่อนนะลูกรัก แล้วพ่อจะเขียนถึงลูกอีก
ด้วยรัก
พ่อ
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2549 20:25:35 น. |
|
7 comments
|
Counter : 841 Pageviews. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ IP: 124.157.172.189 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:13:03 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.210 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:17:55 น. |
|
|
|
โดย: ปิ่นแก้ว IP: 203.156.117.114 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:44:20 น. |
|
|
|
โดย: ปิ่นแก้ว IP: 203.156.117.114 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:44:38 น. |
|
|
|
โดย: เงาศิลป์ IP: 203.113.71.168 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:10:25 น. |
|
|
|
โดย: Htervo วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:20:41:15 น. |
|
|
|
โดย: oo IP: 124.120.2.206 วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:25:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|