จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
26 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
หอมหมื่นลี้ที่เลาลี

















กว่าผมจะรู้ว่ากลิ่นที่ผมได้สัมผัสเมื่อมาถึงดอยวาวีในวันแรกคือกลิ่นหอมของดอกอะไรก็ต่อเมื่อใกล้วันที่ผมจะลาจากแล้ว ในช่วงที่อยู่ที่ดอยวาวีผมเก็บความอยากรู้ไว้ในใจโดยไม่ได้เอ่ยปากถามใคร ผมบอกตัวเองว่าหรืออาจเป็นเพียงอุปาทานของผมเองที่เมื่อเข้าป่าดงดอยแล้วจะต้องได้กลิ่นหอมของดอกไม้ป่า

ผมจนปัญญาที่จะอธิบายว่าลักษณะของกลิ่นนั้นเป็นอย่างไร เพราะผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายลักษณะของกลิ่น ซึ่งต่างไปจากการอธิบายลักษณะของรูป รส หรือเสียง เพราะกลิ่นที่เรารู้สึกว่าหอมนั้นอธิบายยากว่าหอมอย่างไร และกลิ่นที่เรารู้สึกว่าหอมชื่นใจนั้นบางคนอาจจะรู้สึกเหม็นจนเวียนหัวก็ได้

แล้ววันหนึ่งผมได้นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปเที่ยวหมู่บ้านเลาลีซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านวาวีออกไปราวสี่กิโลเมตร เส้นทางเป็นเนินเขาสีเขียวร่มรื่น มีไร่ชาตามไหล่เขา มองไปทางไหนก็รู้สึกสวยงามไปหมด หากในวันที่แสงแดดไม่รุนแรงนัก ผมคิดว่าเป็นเส้นทางที่น่าปั่นจักรยานหรือเดินเล่นไม่น้อยทีเดียว

ทันทีที่ผมเข้าเขตหมู่บ้านเลาลีผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในหมู่บ้านชนบทในประเทศจีนมากกว่าที่จะอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิประเทศ ไร่ชา และตัวหนังสือภาษาจีนที่ติดอยู่ตามอาคารบ้านเรือน และประการสำคัญคือประชากรในหมู่บ้านเลาลีก็คือชาวจีนยูนานที่เป็นลูกหลานของทหารสังกัดกองพล 93 ซึ่งมาบุกเบิกปลูกบ้านสร้างเรือนอยู่เป็นกลุ่มแรก ๆ และยังมีชนเผ่าต่าง ๆ อาทิ อาข่าและไทยใหญ่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อาชีพหลักของชาวบ้านคือการเกษตรกรรม

ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ จะแบ่งกันอยู่เป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มอาข่าอยู่จุดหนึ่งและกลุ่มไทยใหญ่อยู่อีกจุดหนึ่ง ส่วนกลุ่มชาวจีนยูนานอยู่ตรงหุบเขาเล็ก ๆ แห่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านเลาลี มีโรงเรียนระดับประถมศึกษาคือโรงเรียนบ้านเลาลีและโรงเรียนภาษาจีนคือโรงเรียนยี่ถัง

วันนั้นซึ่งยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวผมได้ไปเดินเล่นที่โรงเรียนยี่ถัง ผมสังเกตเห็นพวกเขาดูมีความสุขกับการได้มาโรงเรียน บ้างก็นั่งอ่านหนังสืออาบแดดกลางสนามหญ้า บ้างก็นั่งอ่านหนังสือริมลำธาร บ้างก็วิ่งหยอกล้อกันเล่นอย่างสนุกสนาน ช่างเป็นโรงเรียนในอุดมคติสำหรับเด็กเสียจริง ๆ

บ้านเลาลีนับเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของดอยวาวี แม้จะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ก็มีรีสอร์ทหรูที่สุดของดอยวาวีในปี พ.ศ.นี้ รีสอร์ทจะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านแต่อยู่ในมุมสูงสามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม

การไปเที่ยวบ้านคนรู้จักกับการไปพักรีสอร์ทนั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกันอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะในฐานะลูกค้ากับอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะในฐานะแขกผู้มาเยือนนั้นก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ในโอกาสนี้ผมชอบความรู้สึกหลังมากกว่า

บ้านที่ผมได้ไปเที่ยวนี้เป็นครอบครัวใหญ่ที่มีพ่อเป็นชาวจีนยูนานอดีตทหารสังกัดกองพล 93 ส่วนแม่เป็นชาวไทยใหญ่ ขณะที่ผมนั่งลงที่โต๊ะรับแขกกลางบ้านด้วยความรู้สึกปลอดโปร่ง หลังจากเจ้าของบ้านทักทายแล้วก็ขอตัวไปชงชา ซึ่งเป็นธรรมเนียมของชาวบ้านที่นี่ถ้ามีแขกมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านก็จะมีน้ำชาต้อนรับ

ระหว่างนั่งรอน้ำชาผมได้กลิ่นหอมบางชนิด ที่จริงผมได้กลิ่นนี้ตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวขึ้นบ้านแล้ว แต่เมื่อนั่งลงที่โต๊ะก็ได้สัมผัสชัดเจนขึ้น ผมเอ่ยถามเจ้าของบ้านว่ากลิ่นที่กำลังส่งกลิ่นหอมอยู่นี้เป็นกลิ่นของดอกอะไร หญิงชราผู้เป็นแม่บอกว่าดอกหอมหมื่นลี้ ผมเผลออุทานร้องอ๋อออกมาด้วยความดีใจ เพราะว่าผมได้รับคำตอบแล้วว่ากลิ่นที่ผมได้สัมผัสเป็นครั้งแรกเมื่อมาถึงดอยวาวีในวันแรกนั้นคือกลิ่นดอกอะไร

กลิ่นหอมหมื่นลี้หอมเย็นเหมือนกลิ่นธรรมชาติของภูเขา แม่น้ำ และรวมความมีชีวิตในหมู่บ้านไว้ในนั้น ผมอดเปรียบเทียบกับกลิ่นหอมวิทยาศาสตร์ที่เคยสัมผัสเวลานั่งรถหรือเดินเข้าห้างสรรพสินค้าไม่ได้ แค่เพียงได้กลิ่นครั้งแรกผมก็รู้สึกชอบกลิ่นนี้เสียแล้ว มันแตกต่างกับกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบ ลำดวน นมแมว การเวก ปีบ ฯลฯ

แต่ก่อนผมเคยได้ยินชื่อและรู้จักต้นหอมหมื่นลี้จากหนังสือเท่านั้น เมื่อได้พบเห็นและสัมผัสกลิ่นจากดอกและต้นจริงยิ่งทำให้ผมอยากรู้จักต้นไม้ชนิดนี้มากขึ้น

หอมหมื่นลี้เป็นต้นไม้ประเภทพุ่ม ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่และเป็นมันเงาซึ่งมีหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้กลิ่นหอมสีขาวนวลมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น ชาวจีนเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณว่า ต้นหอมหมื่นลี้ เป็นต้นไม้มงคลอันมีค่า ดอกมีกลิ่นหอมสามารถลอยไปได้ไกลมากจนเป็นที่มาของชื่อ “หอมหมื่นลี้”

ดอกหอมหมื่นลี้ที่แก่แล้วตากแดดให้แห้งนำไปใช้ผสมกับชาชงดื่มก็จะได้กลิ่นหอมชื่นใจ ว่ากันว่าสรรพคุณของดอกหอมหมื่นลี้สามารถนำไปทำยารักษาโรค นำไปสกัดทำหัวน้ำหอมและทำไวน์ได้ ลำต้นที่โตขนาดพอเหมาะนำไปใช้แกะสลักได้เป็นอย่างดี ส่วนเปลือกไม้นำมาสกัดเป็นสีย้อมได้ ต้นไม้ต้นหนึ่งให้คุณประโยชน์มากกว่าการส่งกลิ่นหอมไกลเท่านั้น
หญิงชราผู้เป็นแม่ของลูกๆ อายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว นางมีลูกหญิงชายรวมแล้ว 11 คน แต่ละคนแยกย้ายกันไปทำงานที่อื่นจนเกือบหมด สามีนางจากไปหลายปีแล้วเหลือเพียงลูกสาวสองคนและหลานอีกสองคนร่วมอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ ลูก ๆ หลาน ๆ จะมาพร้อมหน้ากันอีกครั้งก็ต่อเมื่อถึงวันตรุษจีนของทุกปี

นางเล่าว่าลูกชายคนที่สองเป็นผู้ปลูกต้นหอมหมื่นลี้ต้นนี้ไว้หลังจากที่พ่อเขาจากไปแล้ว นาน ๆ เขาจึงจะกลับบ้านสักครั้ง ลูกสาวคนที่ 9 เป็นครูอยู่โรงเรียนยี่ถังซึ่งอยู่ใกล้ ๆบ้าน ลูกสาวคนที่ 11 เรียนจบจากกรุงเทพฯ กลับมาทำงานแถวบ้านที่หมู่บ้านวาวี แต่ก่อนนางเคยทำสวนชาหลังจากสามีจากไปแล้วก็ทิ้งสวนชาให้ลูกหลานดูแลกันต่อไป

ผมนั่งจิบน้ำชาและรับฟังเรื่องราวของนางอย่างเพลิดเพลิน เด็ก ๆ นั่งทำการบ้าน เพื่อนบ้านมานั่งร่วมวงรับประทานอาหารกับเจ้าของบ้าน ดวงตะวันยามเย็นระบายแสงสุดท้ายไว้ที่ขอบฟ้าทิศตะวันตก หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาเงียบสงบและอบอุ่น

ผมกับเพื่อนนั่งกันอยู่จนมืดค่ำกระทั่งพระจันทร์ขึ้น กลิ่นหอมหมื่นลี้ทวีความหอมเข้มข้นเมื่ออากาศหนาวเย็นขึ้น ก่อนลากลับเจ้าของบ้านผู้อารีหยิบเสื้อแจ๊กเก็ตกันหนาวให้ผู้มาเยือนสวมใส่ด้วยน้ำใจและไมตรี ขณะผมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ฝ่าหมอกหนาวจากเลาลีสู่บ้านพักที่วาวี บทกวีบทหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจ


ไม่ว่าไกลแค่ไหน

เมื่อคิดถึงอยู่ในใจ

ลมก็พัดหอบมาให้แค่ปลายจมูก



-------------------------------------------------


(เรื่องข้างบนนี้ตีพิมพ์แล้วในนิตยสาร ขวัญเรือน)





นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน (โดม วุฒิชัย - ปะการัง)





พบกับ นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน วางแผงแล้ววันนี้ !




เมื่อแรกที่ผมกับ ปะการัง เริ่มเขียนจดหมายถึงกันที่บล็อกชบาฉายนั้นอาจดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวของเราที่เขียนถามไถ่สารทุกข์สุขดิบระหว่างกันในฐานะเพื่อนซึ่งไม่ได้พบหน้ากันมานานมาก แต่หากจะว่าไปแล้วเมื่อก่อนนั้นเราก็เป็นเพียงเพื่อนนักเขียนรุ่นราวคราวเดียวกันที่รู้จักกันแบบห่าง ๆ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีใจรักการเขียนหนังสือเหมือนกันเท่านั้น

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “ปะการัง” ชื่อของนักเขียนรุ่นราวคราวเดียวกันก็ปรากฏขึ้นมาเป็นทิวแถว เช่น แก้ว ลายทอง ปัจจุบันนอกจากเขาจะเขียนบทกวีบ้างแล้วก็ยังสนใจใฝ่ธรรมะที่ไม่ธรรมดา, รักษ์ มนัญญา ก็เช่นเดียวกันเขาหันไปทางธรรมถึงขั้นเข้าวัดอยู่เป็นประจำ,

สมพงษ์ ทวี’ ทุกวันนี้เป็นเซียนพระเครื่องอยู่ที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซา สาขางามวงศ์วาน, มายา หรือ แดนอรัญ แสงทอง เป็นนักเขียนมหัศจรรย์เกริกไกรกว่าใคร ๆในรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะมีผลงานนิยายแปลเป็นภาษาต่างประเทศมากมาย, วิสรรชนีย์ นาคร หรือจิราภรณ์ เจริญเดช ตอนนี้เธอนอนป่วยเดินเหินไม่ได้มานานนับปีแล้ว,

กานท์ นิรนาม (เจน สงสมพันธ์) ถึงจะหยุดเขียนบทกวีมานานแต่ก็เกี่ยวข้องกับงานเขียนโดยเป็นหัวเรือใหญ่ของสำนักพิมพ์นาครตลอดมา, นิรันศักดิ์ บุญจันทร์ บรรณาธิการจุดประกายวรรณกรรม ซึ่งทำหน้าที่บรรณาธิการไปด้วยและเขียนหนังสือไปด้วย, วิมล ไทรนิ่มนวล ที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่แต่ก็ถือว่าได้เห็นผลงานตีพิมพ์ไล่เรียงกันมา เขาเคยได้รับรางวัลซีไรต์จากนิยายเรื่อง อมตะ ทุกวันนี้เขาก็ยังเขียนหนังสืออยู่,

เตือนจิต นวตรังค์ ออกจากเมืองหลวงไปอยู่ที่ราชบุรีหลังจากหยุดเขียนบทกวีไปนานแต่เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งได้รับรางวัลบทกวีนิพนธ์ยอดเยี่ยม รางวัลนายอินทร์อะวอร์ด, สำรวม ศุกร์ หรือ มูฮัมหมัด ส่าเหล็ม ตอนนี้ไม่ค่อยได้เห็นผลงานของเขา แต่คนที่เป็นกวีแล้วไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ยังคงเป็นกวี

ส่วนรุ่นน้องที่ไล่หลังมาติด ๆ ในตอนนั้นก็มี ขจรฤทธิ์ รักษา ปัจจุบันเป็นนักเขียนนิยายฝีมือดีและเจ้าของสำนักพิมพ์ “บ้านหนังสือ” ซึ่งพิมพ์ผลงานคุณภาพออกมาอย่างสม่ำเสมอ, ชีวี ชีวา ซึ่งเป็นทั้งกวีและนักเขียน ปัจจุบันคือจตุพล บุญพรัด อาจจะห่างหายจากการเขียนบทกวีและเรื่องสั้นไปบ้างเพราะผันตัวเองไปทำหน้าที่บรรณาธิการสำนักพิมพ์แพรวในเครืออมรินทร์

ยังมีใครต่อใครอีกมากมายที่เริ่มต้นเขียนหนังสือมาใน พ.ศ.ใกล้เคียงกัน แต่ในช่วงอายุยี่สิบต้น ๆ ที่ป๊อปปูลาร์ที่สุดในกลุ่ม “วัยหวาน” ก็เห็นจะเป็น ปะการัง คนนี้ เขามีชื่อเสียงโด่งดังในบรรดาเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งในฐานะกวี นักเขียน และในฐานะนักแต่งเพลง เพลงที่เขาแต่งหลายเพลงเป็นเพลงฮิตติดอันดับได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

วันที่ผมเห็นชื่อของเขาเข้ามาทักทายในบล็อกพ่อพเยียของผมนั้น ผมรู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่าเขายังมี “ใจ” จะเขียนหนังสืออยู่ เพียงแต่เขาหยุดเขียนไปหลายปีแล้ว ถึงแม้เหตุผลของการหยุดเขียนหนังสือระหว่าง ปะการัง กับผมจะแตกต่างกันมากก็ตาม แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึก “ปรารถนาที่จะเขียน” นั้นได้ดี

เพราะเหตุนี้ผมจึงชวนเขามาเขียนจดหมายถึงกัน มาทำความรู้จักกันอีกครั้ง มีอะไรก็แลกเปลี่ยนเล่าสู่กันฟัง ผมอยู่ประเทศไทยขณะที่เขาอยู่สหรัฐอเมริกา เรื่องเล่าของผมอาจจะออกแนวลูกทุ่งซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา ส่วนเรื่องเล่าของเขาค่อนข้างศิวิไลซ์ทันสมัย ภาษาสวยงาม แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความจริงใจที่เรามีให้กัน

จากวันแรกจนถึงวันนี้ที่เราเขียนจดหมายถึงกันนั้น ผมสัมผัสได้ว่ามิตรภาพของเราเติบโตขึ้นตามเรื่องราวที่ได้พูดคุยกันทางตัวหนังสือ เมื่อถึงตอนนี้ที่จดหมายซึ่งเราเขียนถึงกันได้กลายมาเป็นหนังสือชื่อ “นกทุกตัว มีฟ้าให้บิน”

สำหรับผมแล้วรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าหนังสือเล่มหนึ่ง เพราะข้างในนั้นบรรจุด้วยความรักและมิตรภาพที่ค่อย ๆ ก่อเกิดจากตัวหนังสือที่เราเขียนถึงกัน


เขามักจะเขียนขอบคุณผมเสมอว่าทำให้เขามีกำลังใจกลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ผมตอบเขาด้วยความจริงใจไปว่า ไม่ใช่เป็นเพราะผมหรอก หากแต่เป็นเพราะ “ข้างใน” ของเขานั้นยังปรารถนาที่จะเขียน หรือจะเรียกว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าก็ตาม ผมเองก็เชื่อว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญเช่นกัน

ด้วยความสัตย์จริงผมรู้สึกขอบคุณเขาเช่นกันที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพราะแน่นอนว่าถ้าไม่มีเขาเขียนโต้ตอบกับผม ผมก็คงไม่สามารถเขียนจดหมายถึงเขาข้างเดียวได้

ขอบคุณที่เขาเปิดใจและเปิดเผยตัวเองให้ผมได้รู้จัก ความคิด ชีวิตและตัวตนของเขาผ่านตัวหนังสือทางจดหมาย ด้วยเพราะว่ามันส่งผลสะท้อนกลับทำให้ผมได้รู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น

อีกทั้งทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นว่าในโลกนี้ยังมีความรักและมิตรภาพรออยู่เพื่อให้ใครต่อใครได้ค้นพบ ไม่ใช่เพียงแค่เขียนสะกดเป็นถ้อยคำลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้น


จริงใจ

โดม วุฒิชัย



(จากคำนำในส่วนของผมในหนังสือเล่มนี้)



ร่วมสร้างศาลาเอนกประสงค์ วัดวาวีหลวง




วัดวาวีหลวง ตำบลวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย




ผมมีโอกาสได้ไปร่วมทำบุญสร้างศาลาเอนกประสงค์ที่วัดวาวีหลวง
เท่าที่ได้พูดคุยกับพี่อินสอนซึ่งเป็นผู้นำในงานนี้
พอจะทราบว่าทางวัดยังขาดทุนทรัพย์สำหรับก่อสร้างอีก
(คือขณะสร้างไปก็รับบริจาคไปด้วย ) ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น
ที่สามารถเริ่มต้นได้ก็เพราะมีคณะกฐินจากกรุงเทพฯมาทอดเมื่อเร็วๆนี้
ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง
สำหรับเรื่องค่าแรงช่างก็มีทั้งที่ว่าจ้างเป็นรายวัน
และชาวบ้านที่เป็นช่างมาช่วยกันทำ ใครทำอะไรเป็นก็ทำงานนั้น
บางคนก็ทำโดยไม่เอาค่าแรง บางคนก็รับค่าจ้างบางส่วนและทำบุญบางส่วน เมื่อได้เห็นและรับรู้เรื่องแบบนี้ก็รู้สึกดีครับ


ผมชอบใจคำว่าศาลาเอนกประสงค์
เพราะตามความหมายคือใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
ไม่เฉพาะเจาะจงที่จะใช้เฉพาะกิจของสงฆ์หรือเฉพาะคนที่นี่เท่านั้น
ที่ดอยวาวีไม่มีที่พักให้คนต่างถิ่นได้เลือกเหมือนที่อื่นๆ
นั่นหมายความว่าเวลาคนที่ต่างบ้านต่างเมืองเดินทางมาแล้วไม่มีที่พัก
ศาลาเอนกประสงค์ยังเป็นที่พักที่นอนได้




พื้นที่กำลังเตรียมก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์


ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างศาลาเอนกประสงค์วัดวาวีหลวง
ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
กรุณาโอนเงินเข้า ชื่อบัญชี เพื่อ วัดวาวีหลวง
บัญชีเลขที่ 501 - 2 - 49389 – 2
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวาวี





------------------------------------







Create Date : 26 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2552 21:43:04 น. 25 comments
Counter : 4554 Pageviews.

 
มาส่งข่าวค่ะ

ได้เห็นหนังสือ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" แล้ว

สอบถามทางร้านแล้ว วางทั่วแล้วล่ะค่ะ ทั้งเหนือ ออก ตก ใต้

ปกหนังสือเรียบ เก๋ ชื่อปกหนังสือเป็นตัวนูน เรียกว่า เป็นปกหนังสือเทรนด์ปัจจุบันนี่แหละค่ะ ชื่นชมได้นาน ๆ

แต่เนื้อหาข้างใน พร้อมภาพประดับ

อือม์...อยากให้ได้เห็นได้อ่านเองค่ะ

ยินดีกับพี่โดม (พ่อพเยีย)

ขอให้หนังสือปกนี้ขายดีค่ะ แต่อย่างน้อย วันแรกที่วางหนังสืออย่างวันนี้ หนอนฯ ก็ประเดิมไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

รีบมาส่งข่าว แควน ๆ บล็อกจะได้รีบไปอุดหนุนและหามาอ่านกัน



โดย: หนอนฯ IP: 58.9.170.45 26 พฤศจิกายน 2552 20:46:57 น.


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:34:41 น.  

 
สวัสดีค่ะอาโดม
อ่านบันทึกของอาโดมแล้วอยากไปเที่ยวดอยวาวีจริงๆเลยค่ะ

เห็นปกหนังสือแล้ว
เด๊ยวถ้าได้เข้าหาดใหญ่จะแวะเข้าไปหาซื้อนะคะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:30:31 น.  

 
นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน
ชอบชื่อจัง
แต่ยังไม่เห็นหนังสือวางนะ
ใช่เลย
นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน
แต่บางตัวถูกขังในกรง


โดย: ปอน ปอน IP: 58.9.162.162 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:35:34 น.  

 
กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยไปทั่วไทยแล้วมั้ง
;P



โดย: กังสดาล IP: 125.25.11.229 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:18:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม



แถวบ้านเกิดมาดามก็มีต้นหอมหมื่นลี้เยอะมากจริงๆ
ลมพัดมาที
หอมชื่นใจมากครับ

ผมลองเอามาปลูกที่เชียงใหม่ดอกก็ไม่ดกเท่าที่เชียงราย
คิดว่าเป็นที่สภาพอากาศเป็นหลักเลยครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:36:25 น.  

 
สวัสดีเช้าฤดูหนาวครับทุกๆท่าน


ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณหนอนเป็นพิเศษ ที่ติดตาม "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน"
จนกระทั่งถึงที่สุด
และน่าจะเป็นคนแรกที่ได้เห็นและจับต้องหนังสือเล่มนี้ก่อนผู้เขียนเสียอีก

ซ้ำยังมีน้ำใจอธิบายรูปเล่มและภาพประดับในเล่มให้ผู้เขียนเห็นเสียชัดเจน
คลายความอยากรู้อยากเห็นของพ่อพเยียไปเยอะทีเดียว
ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกอยากเห็นหนังสือเล่มนี้มากขึ้น



ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เหมือนเคย
เช้าวันนี้ผมจะไปงานเลี้ยง "หอเจ้านาย"ของหมู่บ้าน ซึ่งทำเป็นประเพณีมาช้านาน

จึงขอรวบรัดตัดข่าวเพียงแค่นี้นะครับ

และขอส่งข่าวถึงเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ผมเคยส่งหนังสือให้เป็นประจำนั้น
ปีนี้อาจจะส่งให้ช้าหรือบางทีก็ไม่ได้ส่งให้

เพราะผมได้รับหนังสือจากสำนักพิมพ์ไม่มาก - ไม่พอสำหรับการแจกอย่างที่ใจต้องการ (เพราะหารสองกับพระเอกปะการัง)

และยอดพิมพ์ก็ไม่ได้สูงนัก
เพราะฉะนั้นใครหาซื้ออ่านได้ก็หาซื้ออ่านกันตามอัธยาศัยนะครับ
เพราะถ้าลังเลชักช้า อาจหมดได้

ข่าวแว่วจากจิตใต้สำนึกและลางสังหรณ์มาว่า หนังสือเล่มนี้จะขายดีเป็นพิเศษ เพราะมีปะการังเป็นพระเอกในเล่มนี้

ถ้าหนังสือเล่มนี้เป็นนิยายกำลังภายในเรื่อง "ฤทธิ์มีดสั้น" ผมก็ขอยกให้ปะการังเป็น ลี้ คิมฮวง ไปก็แล้วกัน

ส่วนผมขอจองเป็น "อาฮุย" ก็พอ (ฮ่า ฮ่า)


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:09:29 น.  

 
ได้ยินแว่วๆ ใครนินทา เข้ามาทันเหตุการณ์พอดี

คำพูดสำคัญมาก สามารถทำให้เป็นจริงได้ เพราะฉะนั้น ต้องพูดบ่อยๆว่า เล่มนี้ขายดีเป็นพิเศษ ๆ ๆ (เพราะมีพระเอกถึงสองคน)

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนิยายกำลังภายใน เอาเป็นว่า ถ้าเป็นเรื่อง "ฤทธิ์มีดสั้น" ผมขอเป้น "ฤทธิ์"เหมือนเดิม คุณเป็นมีดสั้นไปก็แล้วกัน ฮ่า ๆ


โดย: ปะการัง IP: 72.197.60.239 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:17:38 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่โดม

เมื่อเช้าขับรถฝ่าหมอกไปส่งลูกสาวเพื่อซ้อมร้องเพลงประสานเสียง เขาจะร่วมแข่งขันวันเสาร์-อาทิตย์นี้น่ะค่ะ กว่าจะเลิกซ้อมก็ 4โมงเย็น แล้วเขาขอแม่ไปรับที่ซีเอ็ด จะเลือกซื้อหนังสือของเขาที่นั่น แม่เลยฝากซื้อหนังสือของลุงโดมซะเลย จดชื่อหนังสือให้เรียบร้อย กำชับอีกว่าถ้าไม่มี ก็จองให้แม่ด้วย เพราะแม่ยังไม่อยากได้ปกพิมพ์ครั้งที่ 2 แม้ว่ามันจะพิมพ์ใหม่ในอีกไม่ช้าก็ตาม ฮ่า ฮ่า
แล้วก็คิดอีกว่า น่าจะได้มีโอกาสเห็นหนังสือเล่มนี้ก่อนผู้เขียนนะคะ แม้จะช้ากว่าพี่หนอนฯไปนี้ดดด

เรื่อง--หอมหมื่นลี้ที่เลาลี--แม้เคยอ่านแล้วในขวัญเรือน จำความรู้สึกได้ว่า รู้สึกหอมกลิ่นดอกไม้ไปกับตัวหนังสือแล้ว ยังรู้สึกหอมมากขึ้นก็บทกวีสามบรรทัดนี่แหละค่ะ หอมความคิดถึง เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนบทกวีของนกแรกบินที่บินเรี่ยดินตัวนี้เลยนะคะเนี่ย ขอบคุณมากเลยค่ะ

เชื่อค่ะว่า..หนังสือเล่มนี้ต้องขายดีแน่เพราะมีพระเอกตั้งสองคนแน่ะ




โดย: ภูเพยีย วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:51:34 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

วันนี้จะไปร้านหนังสือค่ะ ไปตามหาหนังสือเล่มแรกของคู่ดูโอ หนุ่มใหญ่
แล้วจะมารายงานข่าวค่ะ
(แบบว่า กลัวหมดเร็วแบบพี่โดมว่าไงคะ ฮิ ฮฺ)


โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.203 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:57:38 น.  

 
พี่โดมคะ

มาบอกว่า ไปเขียนบอกเล่าความรู้สึกที่ได้อ่าน "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" อย่างย่อ ๆ ที่บล็อกชบาฉาย ของพี่ปะการังค่ะ

ว่างจากการงาน...ก็แวะไปอ่านได้นะ


โดย: หนอนฯ IP: 10.20.3.30, 202.28.180.202 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:22:08 น.  

 
ฮ่าๆๆๆ น้าโดม

"ลี้คิมฮวงและอาฮุย"
ชอบคำนี้จริงๆ ค่ะ ~~เท่มากๆ

ป.ล. ขอสวัสดีพี่หนอนฯ ผ่านบล็อกด้วยค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:46:33 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม

ไปเดินดูที่ซีเอ็ดเมื่อวันก่อน
ยังไม่วางแผงนะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:56:30 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

บัวได้หนังสือแล้วค่ะ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.203 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:25:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่โดม
วันนี้เพ็ญ ได้หนังสือมาจากร้านนายอินทร์ แล้วนะคะ อุตส่าห์ไปวนหาที่จอดรถ ของห้างโรบินสัน ตั้งนาน

อ่านไปได้เยอะแล้วละค่ะ ความจริงเพ็ญกลับไปอ่านย้อน มาอีกรอบแล้ว ตอนพี่โดมบอกว่า กำลังยื่น สำนักพิมพ์ เพื่อร่วมเล่ม

พี่โดม ก็ถ่อมตัวเสมอนะคะ เป็น ลี้คิมฮวงและอาฮุย บ้าง ยกให้พี่ปะการังหล่อกว่า บ้างล่ะ จริงๆ แล้วก็ ไม่มีใครเด่นไปกว่าใครหรอกค่ะ เป็นพระเอกกันทั้งสองคน ขาดใครไปไม่ได้หรอกค่ะ สำหรับ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" อ้อ ผู้ช่วยพระเอกอย่างพี่หนอน กับ พี่ตะเบบูญ่าด้วยะคะ


โดย: เพ็ญ IP: 61.19.67.62 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:11:03 น.  

 










สวัสดีครับทุกท่าน

ขอโทษที่ไม่ได้ตอบคอมเม้นท์ของทุกๆท่าน

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่เป็นเพราะช่วงนี้ผมยุ่งนั่นเอง

เมื่อวานได้รับหนังสือ "นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน" ได้จับได้ต้องแล้ว
หนังสือสวยถูกใจมาก

ต้องขอขอบคุณคุณเล็ก ฝ่ายประชาสัมพันธ์แพรวสำนักพิมพ์ - ที่กรุณาส่งหนังสือมาให้ผมอย่างรวดเร็ว


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:00:49 น.  

 
มาบอกพ่อพเยียค่ะว่าได้สอยหนังสือเล่มนี้มาแล้ว สัปดาห์ก่อนไปร้านนายอินทร์ คาร์ฟูร์ ค่ะ ถามถึง ยังไม่มี

วันนี้ก็ไม่คาดหวังเท่าไหร่ เพราะวันก่อนพนักงานขายบอกว่าที่นั่นเป็นสาขาเล็ก อาจจะมาทีหลัง

ได้มาแล้ว วันนี้ทะยอยอ่านอยู่ค่ะ แต่เคยอ่านบ้างแล้วในบล็อก


โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:52:56 น.  

 
อัพบล็อกด้วยกลอนอีกสักบทครับ

อยากจะปลุกใจให้คนสู้กับชีวิตสู้กับอุปสรรคอย่างองอาจ ไม่ย่อท้อ..



"ก้าวกล้า"....



"...ก้าวเถิดก้าว เริ่มก้าว แต่ก้าวนี้

โลกมากมี สิ่งฉงน ชวนค้นหา

มากดินแดน รอต้อนรับ ประทับตรา

มากจุดหมาย รอคนกล้า ไปฝ่าฟัน..."



โดย: ลุงแว่น วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:18:11 น.  

 
หุ หุ หุ
บ่าวเจียงฮาย ปลายดอย จะสอยดาว
อิอิอิ

เฮ้อ.....ไม่ต้องรอชาติหน้าว่าจะเป็นเขยเหนือแล้วมั้งพี่
ตอนนี้ก็เป็นเขยใจไปทั้งตัวเสียแล้ว
เหลือแต่ตัวและครอบครัวเท่านั้นแล

แล้วเราจักไปเยือน.....๕๕๕๕๕


โดย: ปลายแปรง ณ ปลายวา IP: 61.19.67.196 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:20:51 น.  

 
ยินดีด้วยค่ะ


โดย: มนาโป IP: 58.9.143.173 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:17:52 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
แอนเพิ่งจะไปถอย "นกทุกต้วมีฟ้าให้บิน ในซีเอ็ดที่โคลิเซี่ยมมีเหลือ 1 เล่ม แอนและพนักงานรวม 3 คน หาทั้งชั้น ใช้เวลา 20 นาที จึงได้หนังสือตามที่ต้องการ บางครั้งการรอคอย การพยายามในสิ่งที่ต้องการ
จึงต้องใช้ความอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ถึงจะได้มา
จริง ๆ ด้วย
ยินดีด้วยน่ะค่ะ (กำลังเริ่มงานแล้วค่ะ)


โดย: สาวแอน IP: 118.173.12.8 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:04:06 น.  

 
โดม
วันก่อนพยายามจะส่งข่าวผ่านถึงคุณเตือนจิต แต่เน็ตหลุดบ่อย ก็เลยขอฝากใหม่ว่า เรื่องชือคุ้น ๆของนายอำเภอเมืองตากนั้นเป็นคนเดียวกับเจ้าของบทกวีที่เข้ารอบเมื่อปี 22 ขอบตุณที่ไปค้นรายละเอียดให้ทราบกันค่ะ ท่านจะเกษียณปีหน้า บอกว่าจะเขียนบทกวี เขียนหนังสือต่อ ไม่รู้ว่าจะใช้ชื่อพันรบ สีพาอีกไหม ต้องถามท่าน
เห็นปกหนังสือเล่มใหม่ของโดมและคุณปะการัง สวยมาก ไม่รู้แถวบ้านมีหรือเปล่า ยิ่งมีคนว่าบ้านนอกอยู่ด้วย


โดย: ภาณุมาศ IP: 111.84.75.121 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:07:28 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

เมื่อวานผมไม่ได้เข้าบล็อกเลย
เพราะช่างกำลังเริ่มต้นเตรียมตัวสร้างบ้าน

ผมจึงไม่ค่อยมีสมาธิที่จะเขียนตอบอะไร
ต้องขออภัยเหมือนเดิม

และมีงานเขียนต้นฉบับส่งตุนไว้นิดหน่อย

แต่ก็ยังรู้สึกขอบคุณทุกๆท่านที่มาทักทายเหมือนเคย
แล้วผมจะเอารูปที่เริ่มสร้างบ้านมาทยอยเล่าให้ฟังนะครับ
ว่ากระท่อมบนดอยนั้นจะเป็นไปอย่างไรต่อไป

วันนี้ช่างนัดว่าจะเริ่มตอน 8 โมง

ผมต้องเตรียมตัวไปดูเขาว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง

แล้วค่อยคุยกันใหม่นะครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:6:01:46 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณโดม

วันนี้ได้รับโปสการ์ดทำมือสวยมาก ๆ พร้อมน้อมรับคำอวยพรจากคุณเอาไว้แล้ว ด้วยความขอบคุณยิ่ง

ขอให้บ้านบนดอยของคุณสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างโดยเร็วสมดังเจตนารมณ์ด้วยค่ะ

ช่วงนี้ ติดภาระกิจสำคัญหลายอย่างแล้วค่อยมาคุยให้ฟังค่ะว่าเขียนอะไรได้แค่ไหนแล้วนะคะ ไม่ทราบเป็นไง พล็อตเรื่องจริงที่ชอบและตุนเอาไว้พอมาพิจารณาดูอีกทีช่างโศกสลดรันทดสิ้นดี


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 10.12.5.2, 210.246.86.132 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:21:23:39 น.  

 
นักล่ามาแว้ว...

ยังอยู่สบายดี...

ไม่เหนื่อยเหมือนคนสร้างกระต๊อบค่ะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:22:11:28 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะพี่โดม โดม
+------------------------------------+

ฝากไออุ่นมาพร้อมดวงตะวันเมื่อทอแสง
ฝาก "ความคิดถึง" มาห่มใจให้คลายหนาวนะคะ




โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:21:41:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.