จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
14 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ยากไร้อย่างไรก็ยังมีคนรัก




โมไบล์หน้าห้องพัก




โต๊ะตัวเก่า(ขอยืมเขามา) ตั้งที่เก่า เวลาใหม่





















วันนี้(14 พ.ย. 2552)เป็นวันครบรอบคล้ายวันเกิดของผม แต่ผมเตรียมตัวที่จะไปงานศพ เป็นงานศพของบุคคลไม่สำคัญคนหนึ่ง และผมก็ไม่ได้รู้จักสนิทสนมอะไรกับเขานัก เพียงแต่การเดินทางมาดอยวาวีของผมในครั้งนี้ ผมต้องการโต๊ะเขียนหนังสือมาไว้ใช้ที่ห้อง เป็นโต๊ะเขียนหนังสือของคนรับจ้างซักผ้าบ้านข้างวัด เมื่อฤดูหนาวปีก่อนผมก็ขอยืมโต๊ะตัวนี้มาใช้ครั้งหนึ่งแล้ว มันเป็นเพียงโต๊ะไม้อัดสำหรับตั้งคอมพิวเตอร์ทั่วไป

ระยะทางจากบ้านข้างวัดมาถึงห้องพักของผมนั้น ถ้าเดินตัวเปล่าก็ไม่ลำบากอะไรมากนัก แต่ทว่าถ้าแบกโต๊ะด้วยก็เป็นเรื่องยุ่งยากลำบากสำหรับผมทีเดียว

ในที่สุดผมก็ได้ว่าจ้าง “ยี่” คนอยู่วัดซึ่งเป็นคนขี้เมาประจำหมู่บ้านนี้ ตอนแรกเมื่อผมบอกว่าจุดหมายปลายทาง เขาปฏิเสธโดยไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มา ผมขอร้องเขาว่านึกว่าช่วยเหลือผมหน่อยเถอะ ผมยกมาไม่ไหวจริงๆ โดยอาศัยพี่หม่องซึ่งอยู่วัดด้วยกันช่วยเป็นล่ามให้ ในที่สุดเขาก็ตกลงยกเก้าอี้ขึ้นบ่าแบกมาส่งผมถึงหน้าห้อง ผมให้เงินเขาไป 50 บาทและกล่าวขอบคุณเขาด้วยความรู้สึกจริง ๆที่เปลี่ยนใจยกมาให้

ผมจำเขาได้แม่นยำทั้งที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกับเขา เขาพูดไม่ได้หรือไม่ค่อยพูดผมก็ไม่รู้ได้ เพราะเวลาผมซักถามหรือชวนสนทนาเขาก็ได้แต่ยิ้ม ๆ บางคนบอกว่าหูเขาไม่ได้ยินเสียง

ครั้งแรกเมื่อฤดูหนาวปีก่อนตอนที่ผมมาพักอยู่ที่ดอยวาวี ครั้งแรกที่ผมพบเขาในงานแต่งงานลูกสาวกำนันป๋อง เขาอยู่ในสภาพที่เมามาย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเมามาย แต่วันนั้นกลางแดดเปรี้ยงผมเห็นเขานอนอยู่ข้างทางเดินโดยที่เอาหัวลงไปทางต่ำ

ขณะที่ผู้คนเดินผ่านไปมา จังหวะที่ผมเดินผ่านมาพร้อมๆกับชาวบ้านคนหนึ่ง เรามองหน้ากันแล้วตัดสินใจช่วยกันยกคนที่นอนสลบไสลกลางแดดเอาไปไว้ในร่ม และต่อมาผมได้รู้จักกับคนที่ช่วยกคนนั้นชื่อว่าชูฤทธิ์ซึ่งเป็นชาวปกากะญอ

นั่นคือภาพประทับตาที่ผมได้พบเห็นยี่ และที่จำได้อย่างแม่นยำอีกครั้งหนึ่งก็คือ คืนนั้นเป็นคืนที่หนาวเย็นมาก ผมนั่งจิบน้ำชาอุ่นๆสนทนากันอยู่บนวัด ไม่รู้ว่ายี่ไปเมามาจากไหนเมื่อถึงบันไดเขาก็ค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนกับพื้นดินที่ข้างบันไดวัดอย่างเรียบร้อยท่ามกลางอากาศหนาวเย็นยะเยือกอย่างนั้น จนกระทั่งมีเด็กวัดแข็งแรงคนหนึ่งช่วยอุ้มเขาขึ้นมานอนบนวัด

นั่นคือครั้งที่สองที่ผมได้เห็นสภาพที่เขานอนลงบนสถานที่ไม่น่านอนอย่างไม่อินังขังขอบต่อสิ่งใด ผมรู้เกี่ยวกับตัวเขาไม่มากนัก รู้แต่ว่าเขาอาศัยอยู่ที่กุฏิหลังวัด อายุน่าจะอยู่ในราว 40 เศษ ยามที่เขาไม่เมาเขาก็จะไม่ค่อยพูดอะไร หน้าที่ของเขาก็คือไปรับส่งปิ่นโตของญาติโยมที่ทำกับข้าวส่งวัด มีรายได้เล็กๆน้อยๆจากการรับจ้าง เท่าที่รับฟังจากผู้คนก็คือเขาดื่มเหล้าแล้วเมาอย่างเดียว ไม่เคยเอะอะโวยวายกับใคร ไม่ลักขโมยของใคร เมาแล้วชอบนอนในที่ไม่น่านอนเท่านั้นเอง

เข้าวันที่ 13 พฤศจิกายน มีคนพบศพเขานอนอยู่ที่น้ำริน ในสภาพเสียชีวิตแล้ว จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าเป็นอุบัติเหตุตกลงจากสะพาน ผมรับรู้ข่าวทางโทรศัพท์จากครูบุญทมว่าคนที่ผมจ้างขนโต๊ะมาให้วันนั้นตายแล้ว ผมรับรู้ข่าวอย่างไม่รู้สึกแปลกใจอะไรมากนัก เพราะคืนที่เขานอนหัวลงกลางแดดกับนอนข้างบั้นไดวัดในคืนหนาวนั้นก็นับว่าเสี่ยงชีวิตไม่น้อยอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าวันที่เขาจะเสียชีวิต ผมยังทักทายเขาขณะที่เขากำลังล้อเล่นกับหมาที่ปากทางเข้าวัด

งานศพของเขาถูกจัดขึ้นอย่างง่าย ๆ ที่ตั้งสวดศพก็คือที่ศาลาร้างท้ายวัดที่เป็นที่นอนประจำของเขานั่นเอง มีการตั้งโต๊ะรับบริจาคช่วยเหลือกัน ผมเห็นชาวบ้านที่นี่แวะเวียนมาร่วมงานกันพอสมควร ถึงแม้ไม่มากมายจนล้นหลามแต่ทว่าบรรยากาศก็ไม่เงียบเหงาจนเกินไป

ตอนของวันที่ 14 พฤศจิกายนซึ่งถือว่าเป็นวันครอบรอบวันเกิดของผม แต่ผมไม่ได้คิดจะจัดงานเลี้ยงอะไรอยู่แล้ว ได้รับข้อความจากคนทางบ้านอวยพรเล็กๆน้อยเมื่อได้เห็นคำอวยพรจากเพื่อนฝูงพี่น้องที่ส่งมาทางบล็อกพ่อพเยียแห่งนี้ แค่นี้ก็มากพอแล้ว

ราวๆบ่ายโมงขบวนแห่ศพก็มุ่งหน้าสู่ป่าช้า ผมเดินไปกับขบวนของเขาด้วย เพราะอยากไปดูว่าป่าช้าในหมู่บ้านนั้นเป็นอย่างไร

ก่อนที่จะเผา สัปเหร่อเปิดโลงให้ญาติดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย มีเสียงร้องไห้จากผู้หญิงคนหนึ่ง เสียงสะอึกสะอื้นด้วยความอาลัยอาวรณ์ราวกับว่าหัวใจจะสลาย รู้ทีหลังว่าเธอคือน้องสาวของเขา ผมสังเกตความรู้สึกของตัวเองเมื่อหูกระทบกับเสียงร้องไห้แสนโศกเศร้านั้น ผมวาบนึกขึ้นมาได้ประโยคหนึ่งว่า “คนทุกคนย่อมมีคนรัก”ยี่แม้ว่าเขาจะเป็นคนยากไร้อย่างไร แต่เขาก็ยังมีคนรักเขา

สู่สุขคติเถอะยี่ - - ขอบคุณที่ช่วยยกโต๊ะเขียนหนังสือมาให้ แต่ไม่เคยนึกเลยว่าจะได้มาเขียนเรื่องความตายของยี่ในคืนนี้



------------------------------





เริงรมณีย์สีน้ำ






พิบูลศักดิ์ ละครพล เปิดงานแสดงสีน้ำชุดใหม่อีกแล้วครับ !!

คราวนี้ที่ภูเก็ต

ที่เขาเปิดงานแสดงติดต่อกัน

ไม่ใช่เป็นเพราะว่าภาพชุด "มนต์รักตะโกลา" ที่แสดงที่ตะกั่วป่า

ถูกเหมาหมดทุกภาพ

แต่เป็นเพราะเขาเขียนสีน้ำอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

และคราวนี้เป็นที่ภูเก็ต

คุณสามารถคลิกชมสูจิบัตรได้นะครับ !

v
v




สูจิบัตร ออนไลน์ "เริงรมณีย์สีน้ำ" พิบูลศักดิ์ ละครพล



นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน (โดม วุฒิชัย - ปะการัง)





พบกับ นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน ปลายเดือน พฤศจิกายนนี้ แน่นอน !!




เมื่อแรกที่ผมกับ ปะการัง เริ่มเขียนจดหมายถึงกันที่บล็อกชบาฉายนั้นอาจดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวของเราที่เขียนถามไถ่สารทุกข์สุขดิบระหว่างกันในฐานะเพื่อนซึ่งไม่ได้พบหน้ากันมานานมาก แต่หากจะว่าไปแล้วเมื่อก่อนนั้นเราก็เป็นเพียงเพื่อนนักเขียนรุ่นราวคราวเดียวกันที่รู้จักกันแบบห่าง ๆ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีใจรักการเขียนหนังสือเหมือนกันเท่านั้น

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “ปะการัง” ชื่อของนักเขียนรุ่นราวคราวเดียวกันก็ปรากฏขึ้นมาเป็นทิวแถว เช่น แก้ว ลายทอง ปัจจุบันนอกจากเขาจะเขียนบทกวีบ้างแล้วก็ยังสนใจใฝ่ธรรมะที่ไม่ธรรมดา, รักษ์ มนัญญา ก็เช่นเดียวกันเขาหันไปทางธรรมถึงขั้นเข้าวัดอยู่เป็นประจำ,

สมพงษ์ ทวี’ ทุกวันนี้เป็นเซียนพระเครื่องอยู่ที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซา สาขางามวงศ์วาน, มายา หรือ แดนอรัญ แสงทอง เป็นนักเขียนมหัศจรรย์เกริกไกรกว่าใคร ๆในรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะมีผลงานนิยายแปลเป็นภาษาต่างประเทศมากมาย, วิสรรชนีย์ นาคร หรือจิราภรณ์ เจริญเดช ตอนนี้เธอนอนป่วยเดินเหินไม่ได้มานานนับปีแล้ว,

กานท์ นิรนาม (เจน สงสมพันธ์) ถึงจะหยุดเขียนบทกวีมานานแต่ก็เกี่ยวข้องกับงานเขียนโดยเป็นหัวเรือใหญ่ของสำนักพิมพ์นาครตลอดมา, นิรันศักดิ์ บุญจันทร์ บรรณาธิการจุดประกายวรรณกรรม ซึ่งทำหน้าที่บรรณาธิการไปด้วยและเขียนหนังสือไปด้วย, วิมล ไทรนิ่มนวล ที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่แต่ก็ถือว่าได้เห็นผลงานตีพิมพ์ไล่เรียงกันมา เขาเคยได้รับรางวัลซีไรต์จากนิยายเรื่อง อมตะ ทุกวันนี้เขาก็ยังเขียนหนังสืออยู่,

เตือนจิต นวตรังค์ ออกจากเมืองหลวงไปอยู่ที่ราชบุรีหลังจากหยุดเขียนบทกวีไปนานแต่เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งได้รับรางวัลบทกวีนิพนธ์ยอดเยี่ยม รางวัลนายอินทร์อะวอร์ด, สำรวม ศุกร์ หรือ มูฮัมหมัด ส่าเหล็ม ตอนนี้ไม่ค่อยได้เห็นผลงานของเขา แต่คนที่เป็นกวีแล้วไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ยังคงเป็นกวี

ส่วนรุ่นน้องที่ไล่หลังมาติด ๆ ในตอนนั้นก็มี ขจรฤทธิ์ รักษา ปัจจุบันเป็นนักเขียนนิยายฝีมือดีและเจ้าของสำนักพิมพ์ “บ้านหนังสือ” ซึ่งพิมพ์ผลงานคุณภาพออกมาอย่างสม่ำเสมอ, ชีวี ชีวา ซึ่งเป็นทั้งกวีและนักเขียน ปัจจุบันคือจตุพล บุญพรัด อาจจะห่างหายจากการเขียนบทกวีและเรื่องสั้นไปบ้างเพราะผันตัวเองไปทำหน้าที่บรรณาธิการสำนักพิมพ์แพรวในเครืออมรินทร์

ยังมีใครต่อใครอีกมากมายที่เริ่มต้นเขียนหนังสือมาใน พ.ศ.ใกล้เคียงกัน แต่ในช่วงอายุยี่สิบต้น ๆ ที่ป๊อปปูลาร์ที่สุดในกลุ่ม “วัยหวาน” ก็เห็นจะเป็น ปะการัง คนนี้ เขามีชื่อเสียงโด่งดังในบรรดาเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งในฐานะกวี นักเขียน และในฐานะนักแต่งเพลง เพลงที่เขาแต่งหลายเพลงเป็นเพลงฮิตติดอันดับได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

วันที่ผมเห็นชื่อของเขาเข้ามาทักทายในบล็อกพ่อพเยียของผมนั้น ผมรู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่าเขายังมี “ใจ” จะเขียนหนังสืออยู่ เพียงแต่เขาหยุดเขียนไปหลายปีแล้ว ถึงแม้เหตุผลของการหยุดเขียนหนังสือระหว่าง ปะการัง กับผมจะแตกต่างกันมากก็ตาม แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึก “ปรารถนาที่จะเขียน” นั้นได้ดี

เพราะเหตุนี้ผมจึงชวนเขามาเขียนจดหมายถึงกัน มาทำความรู้จักกันอีกครั้ง มีอะไรก็แลกเปลี่ยนเล่าสู่กันฟัง ผมอยู่ประเทศไทยขณะที่เขาอยู่สหรัฐอเมริกา เรื่องเล่าของผมอาจจะออกแนวลูกทุ่งซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา ส่วนเรื่องเล่าของเขาค่อนข้างศิวิไลซ์ทันสมัย ภาษาสวยงาม แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความจริงใจที่เรามีให้กัน

จากวันแรกจนถึงวันนี้ที่เราเขียนจดหมายถึงกันนั้น ผมสัมผัสได้ว่ามิตรภาพของเราเติบโตขึ้นตามเรื่องราวที่ได้พูดคุยกันทางตัวหนังสือ เมื่อถึงตอนนี้ที่จดหมายซึ่งเราเขียนถึงกันได้กลายมาเป็นหนังสือชื่อ “นกทุกตัว มีฟ้าให้บิน”

สำหรับผมแล้วรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าหนังสือเล่มหนึ่ง เพราะข้างในนั้นบรรจุด้วยความรักและมิตรภาพที่ค่อย ๆ ก่อเกิดจากตัวหนังสือที่เราเขียนถึงกัน


เขามักจะเขียนขอบคุณผมเสมอว่าทำให้เขามีกำลังใจกลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ผมตอบเขาด้วยความจริงใจไปว่า ไม่ใช่เป็นเพราะผมหรอก หากแต่เป็นเพราะ “ข้างใน” ของเขานั้นยังปรารถนาที่จะเขียน หรือจะเรียกว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าก็ตาม ผมเองก็เชื่อว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญเช่นกัน

ด้วยความสัตย์จริงผมรู้สึกขอบคุณเขาเช่นกันที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพราะแน่นอนว่าถ้าไม่มีเขาเขียนโต้ตอบกับผม ผมก็คงไม่สามารถเขียนจดหมายถึงเขาข้างเดียวได้

ขอบคุณที่เขาเปิดใจและเปิดเผยตัวเองให้ผมได้รู้จัก ความคิด ชีวิตและตัวตนของเขาผ่านตัวหนังสือทางจดหมาย ด้วยเพราะว่ามันส่งผลสะท้อนกลับทำให้ผมได้รู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น

อีกทั้งทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นว่าในโลกนี้ยังมีความรักและมิตรภาพรออยู่เพื่อให้ใครต่อใครได้ค้นพบ ไม่ใช่เพียงแค่เขียนสะกดเป็นถ้อยคำลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้น


จริงใจ

โดม วุฒิชัย



(จากคำนำในส่วนของผมในหนังสือเล่มนี้)



ร่วมสร้างศาลาเอนกประสงค์ วัดวาวีหลวง




วัดวาวีหลวง ตำบลวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย




ผมมีโอกาสได้ไปร่วมทำบุญสร้างศาลาเอนกประสงค์ที่วัดวาวีหลวง
เท่าที่ได้พูดคุยกับพี่อินสอนซึ่งเป็นผู้นำในงานนี้
พอจะทราบว่าทางวัดยังขาดทุนทรัพย์สำหรับก่อสร้างอีก
(คือขณะสร้างไปก็รับบริจาคไปด้วย ) ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น
ที่สามารถเริ่มต้นได้ก็เพราะมีคณะกฐินจากกรุงเทพฯมาทอดเมื่อเร็วๆนี้
ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง
สำหรับเรื่องค่าแรงช่างก็มีทั้งที่ว่าจ้างเป็นรายวัน
และชาวบ้านที่เป็นช่างมาช่วยกันทำ ใครทำอะไรเป็นก็ทำงานนั้น
บางคนก็ทำโดยไม่เอาค่าแรง บางคนก็รับค่าจ้างบางส่วนและทำบุญบางส่วน เมื่อได้เห็นและรับรู้เรื่องแบบนี้ก็รู้สึกดีครับ


ผมชอบใจคำว่าศาลาเอนกประสงค์
เพราะตามความหมายคือใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
ไม่เฉพาะเจาะจงที่จะใช้เฉพาะกิจของสงฆ์หรือเฉพาะคนที่นี่เท่านั้น
ที่ดอยวาวีไม่มีที่พักให้คนต่างถิ่นได้เลือกเหมือนที่อื่นๆ
นั่นหมายความว่าเวลาคนที่ต่างบ้านต่างเมืองเดินทางมาแล้วไม่มีที่พัก
ศาลาเอนกประสงค์ยังเป็นที่พักที่นอนได้




พื้นที่กำลังเตรียมก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์


ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างศาลาเอนกประสงค์วัดวาวีหลวง
ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
กรุณาโอนเงินเข้า ชื่อบัญชี เพื่อ วัดวาวีหลวง
บัญชีเลขที่ 501 - 2 - 49389 – 2
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวาวี





------------------------------------




เช้าวันที่ 12 นี้ ได้รับกล่องพัสดุอีเอ็มเอส
เป็นรูปปั้นตุ๊กตาหลากหลายจากอาจารย์จู๋ ที่เคยมาเที่ยวดอยวาวีเมื่อปีก่อน เธอปั้นตุ๊กตาดินญี่ปุ่นมาสร้างสีสันที่ดอยวาวี
มีอันหนึ่งเธอปั้นเป็นตัวผม ดูสิว่าเหมือนไหม ?








พ่อพเยียแม็กเน็ต






ดอยวาวีแม็กเน็ต


ทั้งหมดนี้ปั้นโดยอาจารย์ปานจิต ป้อมอาสา


089-7862693
084-6630243






Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2552 15:16:46 น. 20 comments
Counter : 2002 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ มาดึกไปหน่อยนะคะ แต่ก็ไม่สายที่จะอวยพรวันเกิดใช่ไหมคะ... สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ และมีสุขภาพแข็งแรง ปีหน้าจะได้มีหนังสือให้พี่ๆ น้องๆ อ่านสัก 5 - 6 เล่ม


โดย: โตมานาน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:05:59 น.  

 
มีความสุขมาก ๆนะเพื่อน


โดย: แดง IP: 125.24.118.223 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:1:36:05 น.  

 
ขอให้คุณยี่ไปสู่สุขคติครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:50:34 น.  

 
คุณโดมคะ...

ขอให้คุณยี่ไปสู่สุขคติด้วยเถิด

คุณเขียนเรื่องคุณยี่ได้ลึกซึ้งกินใจมากค่ะ

เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กเคยคิดว่าคนที่ใช้น้ำเมาย้อมใจให้คลายความทุกข์เป็นคนอ่อนแอและน่ารังเกียจมาก

เมื่อผ่านวันและวัยมากขึ้น ถึงได้รับรู้และเข้าใจว่าบางคนมีปัญหาหนักมาก ยิ่งมารวมกับการเป็นคนไม่ค่อยพูดด้วยแล้ว ปัญหายิ่งทบเท่าทวีคูณ การติดเหล้าจึงเป็นการหาความสุขใส่ตัวรูปแบบหนึ่ง ซึ่งดีกว่าการติดยาเสพติดมากนัก

ชีวิตบางทีไม่มีทางเลือกมากนัก เราจึงมักเห็นคนใช้แรงงาน ตอนกลางวันทำงานหนักเหนื่อยยาก พอตกเย็นมักนั่งล้อมวงคุยกันกินเหล้าเฮฮา ด้วยความสุขสนุกไปวัน ๆ

ไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก ทุกอย่างย่อมมีเหตุผลในตัวของมันเอง


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 210.246.86.126 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:51:11 น.  

 
อืม เม้นท์ไม่ถูกจ้ะ หลากหลายหัวข้อจัง บล็อกพี่เดี๋ยวนี้เนาะ
การเล่าเรื่องของ ยี่ ชอบจังพี่โดม
ชอบงานเขียนเรื่องความตายเป็นพิเศษน่ะค่ะ
เรื่องรักๆก็ชอบ แต่เป็นบางเวลา (ใครถาม 555)


โดย: สาว(นนท์)ไม่สวย IP: 124.121.45.239 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:59:39 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
สุขสันต์วันเกิดน่ะค่ะ
ชอบเรื่องของยี่มากค่ะ ทำให้ได้คิด
ว่าคนเราถึงจะมีคนเกลียดมากแค่
ไหน แต่ก็คงจะต้องมีคนรักบ้าง




โดย: สาวแอน IP: 118.173.14.112 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:53:57 น.  

 
ขอให้คุณยี่ไปสู่สุคติ ณ สัมปรายภพค่ะ...
อ่านเรื่องของพี่โดม
เรียบง่าย
แต่กินใจทุกที....

ความเป็น และความตาย
อยู่ใกล้กันนิดเดียวเอง..


โดย: สายฝน IP: 61.197.83.200 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:53:32 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
คงไม่ช้าไปนะคะสำหรับคำกล่าว

"สุขสันต์วันเกิดค่ะ พี่โดม"

ยินดีกับ นกทุกตัวมีฟ้าให้บิน
ชื่อเพราะจังค่ะ ภายในยังอวลด้วยมิตรภาพแสนอุ่นและมีค่า สองชีวิตมาสัมพันธ์กันเป็นเรื่องเป็นราว น่าทึ่งนะคะ เพราะเป็นพี่โดมกับคุณปะการังจึงเป็นหนังสือ ถ้าเป็นคนอื่นคงหายจ้อย

สำหรับ ยี่ ขอจงสู่สุคติเถิด
ยากไร้อย่างไรก็ยังมีคนรัก



โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:25:22 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน


ต้องขอโทษทีนะครับ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มาตอบคอมเม้นท์เลย

เพราะอยู่ในช่วงระหว่างการติดต่อและติดตาม
ในที่สุดผมก็ต้องขุดบ่อน้ำที่ริมลำธาร
เพื่อดึงน้ำเอามาใช้ที่บ้านบนเนิน

และปั๊มน้ำธรรมดา ที่ใช้กันทั่วไป นั้นใช้ไม่ได้ ต้องใช้อย่างแรง ยังไม่รู้ว่าเขาเรียกชื่อว่าอะไร บางคนเรียกว่าปั๊มอัดลม

ราคาสูงกว่าปั๊มทั่วไปถึงเท่าตัว

วันพรุ่งนี้เพื่อนจากบ้านผ่อดอยในจะมาเที่ยวดอยวาวี
จึงถือโอกาสฝากให้เธอซื้อปั๊มน้ำใส่รถเก๋งของเธอมาด้วย

อย่างนี้จึงจะเรียกว่า นางฟ้ามาโปรดจริงๆ

เพราะไม่เช่นนั้นผมต้องไปซื้อปั๊มชนิดนี้ถึงเชียงรายหรือที่ฝางโน่น

ไม่ว่าผมจะตอบคอมเม้นท์หรือไม่แต่ก้อยากให้คุณที่มาเขียนคอมเม้นท์รับรู้ว่า ผมอ่านคอมเม้นท์ของคุณด้วยความสุขใจและรู้สึกขอบคุณเสมอ
ที่แวะเวียนมาสนทนาด้วย


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:22:18 น.  

 
คนทุกคนบริสุทธิ์เมื่อตาย...ไม่รู้นะดิฉันจะคิดอย่างนี้ตลอดมา ชีวิตหนึ่งก็ไม่ไร้ซึ่งคนรัก และอาลัยหา...จึงขอให้ยี่ไปสู่สุขคติ... ตอนนี้ดอยวาวีอากาศเป็นอย่างไรคะ เพราะเชียงใหม่ร้อนมาก เห็นว่าจะมีฝนดาวตก ถ้าอยู่บนดอยคงใกล้ดาวอีกนี๊ดนะคะ... ขอให้คุณโดมและครอบครัวมีความสุขค่ะ


โดย: Dangjarunun วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:49:35 น.  

 
ขออวยพรสุขสันต์วันเกิดย้อนหลังค่ะ

การเขียนถึงความตายในวันเกิดเป็นมรณานุสติที่ดีของชีวิตนะคะ
พ่อพเยียให้ของขวัญวันเกิดตัวเองได้อย่างพิเศษที่สุดแล้ว

แวะมาบอกว่า
ได้รับโปสการ์ดแสนงาม
พร้อมไมตรีจิตมิตรภาพจากดอยวาวีแล้ว
ขอบคุณมากค่ะ

จะยังคงแวะเวียนมาบ่อย ๆ นะคะ
แต่อาจได้เขียนบ้างไม่ได้เขียนบ้าง
เพราะต้องเร่งงานเหมือนกันค่ะ
หนีงานไปหลายวันแล้วน่ะ

แล้วเจอกันใหม่นะคะ

ปล. ท้องฟ้านี้กว้าง นกสองตัวบินคงน้อยไปนะ มีโอกาสจะแวะไปสอยลงมาจากฟากฟ้าวรรณกรรม
เพื่อเป็นแรงใจว่า อีกหน่อย
บนนั้นคงมีนกบินกันว่อน...


โดย: กังสดาล IP: 125.25.232.203 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:09:22 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะ
+--------------------------------------------------+

ตั้งเวลาปลุก 04.30น. สาวฯ สะดุ้งตื่น จำใจบิดขี้เกียจและสบัดผ้าห่มออกจากตัว
แล้วเดินออกมาแบบงัวเงีย พอพ้นประตูบ้านปะทะกับลมหนาวเข้าอย่างจัง อู้ว! เย็นสบายดีค่ะ

แล้วหามุมมองทางทิศเหนือ ตั้งหลักตั้งคอแหงนมองฟ้าในระดับ 80 องศา (จนเมื่อย)
ฟ้าทางทิศเหนือบรรยากาศไม่เป็นใจ เมฆหมอกปกคลุมขาวโพลน
ฝั่งทิศใต้กลับสว่างใส เห็นดาวประดับฟ้าเต็มไปหมด
หันหน้ากลับมาทางทิศเหนือ เพื่อรอชมปรากฎการณ์ธรรมชาติ ในรอบ 8 ปี
รอ.
รอ..
รอจนกว่าจะเห็น "ฝนดาวตก" เกือบไม่กล้ากระพริบตาเชียวคะ

โอ้ว! เห็นแล้ว..เห็นแล้ว ตั้ง 1 ดวง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณเกือบ 15 นาที
ตื่นเต้นค่ะ
แหงนคอรอต่อไป.......10 กว่านาที
วิบ ๆ วับ ๆ ลำแสงสั้นจุ๊ดจู๋ .. แล้ววูบหายวับในฉับพลัน

ย้ายทำเลอีกนิด.. แต่มุมมองอยู่ในระดับองศาเดิม
เมฆหมอกเริ่มลอยหายไปฝั่งทิศตะวันตก ฟ้าสว่างกระจ่างใส

อะว้าว! วับวาวหวีดหวิวววววว.. แล้วดาวตกก็หายวับไปลับตา
ดวงที่ 3 4* 5 6 7 ......................แล้วก็ไม่เห็นเลย
เฝ้ามองท้องฟ้าจนแสงสว่างคาตา (เมื่อยคอชะมัด) ถึงวาระอำลาหมู่ดาว

มีเพียง "ดาวฤกษ์ที่เปล่งรัศมีส่องแสงให้ฟ้าดูสวยงามในเวลานี้"


--------จบข่าวสั้น "ฝนดาวตก ณ บ้านนอก"---------



ปล. ดวงที่ 4 เห็นชัดสุด ๆ ตกตรงตรง แต่ไม่ทิ่มหัว(ใจ) อะคึ่ ๆ



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:07:24 น.  

 

แบกข้าวทอดคลุกแหมรสจัดมากฝากค่า แต่ระวังนิด เผื่อบูด ก็ทำเสร็จเมื่อสองวันก่อน


โดย: โสมรัศมี วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:02:28 น.  

 
ประกาศ

ตามหาพ่อเพยีย..

ใครเจอตัว มีรางวัลให้อย่างงาม...


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 111.84.63.127 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:28:47 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

ช่วงนี้ผมไม่ได้เข้าบล็อกเลย
ทั้งที่ตอนอยุ่ที่บ้านนนท์นั้นเข้าทุกวัน

เพิ่งได้คนขุดบ่อน้ำ
ลงมือขุดไปแล้ววันนี้

เพื่อที่จะปั๊มน้ำขึ้นมาใช้ที่บ้านที่กำลังจะสร้าง

โล่งอกไปเปราะหนึ่งที่ได้คนขุดแล้ว
พรุ่งนี้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างบ่อน้ำและแท็งค์เก็บน้ำ จะมาส่งในเวลาก่อนเที่ยง

อย่างไรจะถ่ายรูปและเก็บเรื่องมาเล่าให้ฟังนะครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:42:45 น.  

 
....กะว่ามาดูว่า..กระต๊อบในฝันไปถึงไหนก...ก็ของอวยพรวันเกิดให้เจ้าของบล็อก...พบแต่ความสุขนะคะ...
...เมื่อวันที่๑๓พศจิกายนที่ผ่านมา..ได้โทรไปอวยพรวันเกิดเพื่อนชึ่งเป็นพี่สาวที่สนิทกันอยู่ที่เชียงใหม่..อ.สันกำแพง....คุยไม่ได้นานหรอกคะ...แขกเยอะ...บอกว่ากำลังทำกับข้าวถวายเพลพระกับสามเณร....
....เรื่องของยี่..อ่านแล้ว...ที่บ้านที่ศรีสะเกษก็เหมือนกัน...ไล่มาตั้งแต่ลุงศรีธน....เป็นหญิงก็ยายด้วง....พอลุงแกเสียชีวิตลง..ก็คิดว่าหมู่บ้านคงสงบลงคงไม่มีบุคคลที่น่าสงสารอีก..งานนี้ต้องบอกว่ามีตัวตายตัวแทนคะ...เด็กรุ่นๆใหม่ขึ้นมาแทนที่..ณ.พ.ศ.ชื่อเจ้ามิตรคะ..ในรอบอายุสีี่สิบปีที่มองเห็นมาคะพี่..ส่วนรายของยายด้วงแกกลับตัวเป็นคนดี...แกมีลูกหลายคน..มีลูกชายแกคนหนึ่ง....ทำงานที่กรุงเทพ..ส่งเงินมาให้แม่ใช้ไม่เคยขาด..จนถึงทุกวันนี้ระบุเฉพาะชื่อคนแรกและรายล่าสุดคะ โดยการถามข้อมูลจากแม่...สิงห์สุราประจำหมูบ้าน....ถ้าโลกยังหมุนอยู่คงมีต่อไป.....แม้แต่ที่เมืองนอก..ก็มีคะ....แต่ระบบดีขึ้นมาหน่อย....เอาแค่เมืองที่คนสวยอยู่....อ่านเจอปัญหาคนจรจัดที่ไปนอนในป่า....มีจำนวน๑๕๐๐คนนอนหนาวตายในป่า
เพราะความเมาเห็นเขาจัดไว้ถ้าจำไม่ผิดก็เป็น๒๐คนขึ้นไป..ยิ่งช่วงนี้หน้าหนาว....เห็นรัฐเขาสร้างเป็นคนโดให้อยู่..แต่คิดว่าพวกเขาคงไม่ไปอยู่เพราะไม่ได้เมา...มาทั้งทีก็เข้าเรื่องเป็นเหมือนกันนะคะ.....


โดย: คนสวย IP: 70.127.50.131 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:44:14 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม

สายลมหนาวแรกพัดมาที่เชียงใหม่แล้วล่ะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:09:28 น.  

 
ที่บ้านผม กำลังตีกันยกใหญ่เลยครับ !

>"ตีหมา-ตีแมว"

ไปช่วยกันตีหน่อยนะครับ


"...คนโบราณ พร่ำวอน สอนไว้ว่า

จะตีหมา ตีพลาง เว้นทางหนี

อย่าต้อนติด ปิดมุม หวังรุมตี

หมาจนที่ ตรอกตัน อันตราย..."




โดย: ลุงแว่น วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:33:00 น.  

 
โอ้ ลุงแว่น เจ๋งตามเคยค่ะ

คุณโดมคะ เข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่งแล้วนะคะ

คุณม่านฝนคะ ช่วงนี้ทางใต้ฝนตกหนักทุกวันเพราะมีมรสุมเข้า ต้องระวังภัยทุกวันกลัวน้ำท่วมบ้านน่ะค่ะ

คุณหนอน ฯ นอนน้อย เป็นไงบ้างคะ หายไปนานเชียว


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 118.173.186.255 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:28:06 น.  

 
พ่อพเยีย บ่อน้ำไปถึงไหนแล้วค่ะ
หวังว่า จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนะค่ะ


โดย: p tim (บ้านผ่อดอยใน ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:30:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.