Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
Nightmare before Christmas

วันศุกร์
ไฟดับ นาฬิกาคุณพ่อไม่ปลุก อิอิ... คุณแม่ทำตัวเป็นอลามคล็อกให้เอง... แต่มีป่วนนิดหน่อย รอจนเก้าโมง ถึงค่อยปลุก... คุณพ่อหน้าตาตื่น รีบเผ่นออกจากบ้านแทบไม่ทัน (ไม่ได้อาบน้ำด้วย) ...
เมื่อคืน นอนหลับสบายจัง ฟังเสียงฝนตก กะเสียงรถหวอๆๆๆ ดังตลอดคืน... ฝนตกหนักเหมือนกัน ได้ยินเสียงฝนกระทบหน้าต่างดังมาก ... มารู้ตอนหลังว่าไม่ใช่ฝน แต่เป็นกิ่งไม้ตะหาก... เก็บครัวเสร็จ คุณแม่รีบโทรไปเม้าท์กะน้าเป๊ปป้า ๆ บ่นใหญ่เลยว่า นอนไม่ได้. กลัวต้นไม้ของข้างบ้านจะหักมาล้มทับบ้าน แถมตอนตีห้าครึ่ง แฟนน้าเป๊ปป้าก็รีบเผ่นออกไปทำงานตะเช้า (บ้างานมั่กๆ) .. สงสารคุณน้าจังเน๊อะ. บ้านคุณน้านี่ เวลาร้อน ก็ร้อนซ้า ... เวลาหนาว ก็หนาวเร็ว...แย่เลย... ระบบในบ้านก็ไม่เวิร์ค เตาจะทำกับข้าวก็ไม่มี เพราะใช้เตาไฟฟ้า... คุณแม่เลยชวนคุณน้ามากินข้าวที่บ้านเราเสียเลย
สักสองชั่วโมงต่อมา... คุณพ่อก็กลับบ้าน .... คุณแม่ งงๆ ถามแบบคาดคั้น ประมาณว่า งานคือเงิน กลับมาทำไมฟระ... คุณพ่อเล่าเสียงตื่นเต้น
“นี่ๆ ไฟดับทั่วเมืองเลย ขนาดเบลล์วิวนะ ยังไม่มีไฟเร้ย... เห็นทัลลี่เปิดอยู่ร้านเดียว รีบพุ่งเข้าไป โอโห แถวรอซื้อกาแฟยาวสามกิโล (เอ๊ะ เล่าแบบฝรั่ง ต้องพูดเป็นไมล์ดิ) ฉันเลยถามคนข้างหน้าว่า ยืนรอนานหรือยัง เค้าบอกว่า แค่ครึ่งชั่วโมงเอง.... ฉันเลยเผ่น มาต้นกาแฟพื้นบ้านกินเองดีก่า... ขากลับ แวะเข้าโกรเซอร์รี่ กะซื้ออาหารตุน โหย คนยืนยาวเหยียดอีก... “
สรุป ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลย... ที่รัก...ดีแล้ว ของในตู้เย็นกะตู้กับข้าวบ้านเรา มีเยอะขนาดรอถึงสงครามโลกครั้งที่สามได้เลยจ๊ะ

ว่าแล้ว คุณพ่อจัดการทำซุปแบล็กบีนของโปรด... ทำเสร็จกินสบายอารมณ์ ทิ้งซากเดนให้คุณแม่ล้างเก็บ ตัวเองรีบเผ่นออกไปสำรวจความเสียหายรอบบ้าน
พายุมะคืน พัดเอากลอนประตูหลังบ้านของทุกบ้านละแวกบ้านเรา หลุดเกลี้ยงคะ ส่วนป่าหลังบ้านเรา เป็นป่าโปร่ง มีต้นไม้ก็ล้มบ้างนิดหน่อย ต้นใหญ่ยักษ์สุดๆ ยังคงตั้งตระหง่าน... มีกิ่งยาวๆ ขนาดเท่ารถคุณแม่หล่นลงมาสี่ห้ากิ่ง คุณพ่อจัดการลากมาไว้หน้าบ้าน...
ลากมาทำไมฟระ เกะกะเจงๆ....
พอคุณพ่อ กลับเข้าบ้านมา แตะมือ ก็ถึงคิวมรรคณิชากะคุณแม่ออกไปสำรวจความเสียหายบ้าง หุหุ

คุณแม่ออกจะตื่นเต้นเล็กน้อย... ทางไปปาร์ค ขรุขระน่าดู เพราะกิ่งสนหล่นมาคลุมมิดไปหมด คุณแม่ก็ถูไถลากรถเข็นของนู๋ไปสิ นี่ต้องคอยดึงกิ่งไม้ที่หลุดเข้ามาในล้อตลอดดด... ลากยังไม่ทันไร นู๋คงเบื่อ หรือ อาจจะเมารถ...หลับคร่อกไปเร้ย...ดูเด่ะ... เลยอดเห็นของดี... ต้นสนยักษ์สองต้นในปาร์คล้มลงมาขวางทางเดิน... อูย น่ากัวมั่กๆ ดีนะ ล้มในปาร์ค ถ้าล้มอีกทางละก้อ... บ้านที่เพิ่งสร้างใหม่ติดกะปาร์คนี่ เสร็จเลย ใครนอนอยู่ข้างในบ้านก็คงไม่เหลือ

ตกเย็น ทำกับข้าวแบบมืดๆ รีบโทรบอกน้าเป๊ปป้าให้มาหม่ำๆ คุณน้าบอก “เด๋วรอน้าอาเนสก่อน แล้วจะไป อ้อ มะเช้าน้าอาเนสไปถึงที่ทำงาน แล้วเข้าตึกไม่ได้ อดทำงาน เลยลมเสีย บ้างานขนาดหนัก”
คุณแม่รอๆๆๆ แล้วชักเบื่อๆ พอดีจังหวะ คุณพ่ออยากออกสำรวจความเสียหาย (อีกแย้ว) แบบไปขับรถวนดูรอบๆ ว่า บ้านไหนมีไฟหรือยังไงละ... คุณแม่เลยขอติดรถไปด้วย คุณพ่อบ่นติ๊ดๆ ว่า ไปทำไม...
“อ้าว ทีเธอยังอยากไปเลยนิ”

ดีนะ ที่ออกมา ได้เรียนรู้วิธีขับรถแบบมืดตื๊ดตื๋อไปด้วย... ถนนมือจริงๆ พอไปถึงสี่แยกใหญ่....ฝรั่งนี่ ดีอย่างนะ เคารพกฏจราจร ถึงทางแยกอย่างนี้ เค้าใช้วิธีสลับกับไป... ไม่เหมือนบ้านเรา... ใช้วิธี ใครด้านกว่าใคร
เขตที่อยู่ก็ทำงานกันว่องไวดี มีการเอาป้ายหยุดเหลืองๆ มาวาง ในจุดบอดที่มืดมากๆ จนไม่รู้ตัวว่ามาถึงสี่แยก...ป้ายนี้ ทำพิเศษ เตี้ยระดับคนขับรถสังเกตุเห็นง่ายๆ.... ส่วน ถนนตรงไหนมีกิ่งสนเกะกะ เค้าก็เอากรวยมาวางให้รถหลบ กิ่งจะได้ไม่หมุนเข้าไปในล้อ...

บ้านส่วนใหญ่จะมืด... มีแค่บางหลังที่มีเครื่องปั่นไฟใช้ ที่น่ารักคือ มีบ้านหลังนึง ใช้เครื่องปั่นไฟเพื่อให้ต้นคริสต์มาสหน้าบ้านมีไฟ.. เป็นต้นคริสต์มาสต้นเล็กติ๊ดเดียว สูงแค่ฟุตได้มั้ง... ส่วนตัวบ้านมืดสนิท...
ขากลับ ขับผ่านโบสถ์...โอว์ พระเจ้าจอร์จ...โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ใหญ่สักสิบไร่เห็นจะได้... สว่างโร่หยั่งกะมีงานบอลประเพณี ลานจอดรถดูอบอุ่นเชียะ...มีรถจอดอยู่แค่สองสามคัน...คุณพ่อเห็นแล้วกรี๊ดกร๊าดโวยวายใหญ่ คุณแม่รำคาญ เลยตัดบทว่า
“เธอเชื่อยัง พระเจ้ามีจริง หุหุ”

กลับเข้ามารอน้าเป๊ปป้ามากินข้าวด้วยกันจนเกือบสองทุ่ม คุณน้าก็ยังไม่มา โทรสับไปก็ไม่มีคนรับ เป็นไรป่าวหว่า
สักพัก คุณน้าโทรเข้ามา บอกว่า กำลังกินพาสต้าบ้านน้าคลาร่าอยู่ เพราะตอนหกโมงไปบ้านเธอแล้วไม่มีคนอ่า...
“อ้าว... ขอโทดๆๆ ฉานออกไปสำรวจข้างนอกมา... เห็นทุกที บ้านเธอกินกันตอนสองทุ่ม เลยไม่นึกว่าเธอจะมาเร็วไง ยังไงกินเสร็จแวะมาเอาข้าวผัดด้วยละกัน ทำไว้ให้แล้วอ่ะ”

พอคุณน้ามา มรรคณิชาดีใจสุดขีด... สงสัย คงเห็นคุณพ่อ คุณแม่นานทั้งวันจนเบื่อ... มรรคณิชารีบหาเหยื่อรายใหม่มานั่งอ่านหนังสือด้วย.. คืนนี้ นู๋ดูซี้กะน้าอาเนสเป็นพิเศษ ชวนคุณน้าเล่นด้วย ก็ดีนะ ช่วยให้คุณน้าลืมเครียดไปได้บ้าง
น้าอาเนสถามคุณแม่ว่า ทำไมเธอไม่จุดเตาผิง... คุณแม่เลยบอกว่า
“ใส่เสื้อกันหนาวก็อุ่นพอละ ความร้อนของฮีทเตอร์ค้างนานพอควรนะ บ้านเลยไม่เย็นจัด เย็นเร็ว...อีกอย่าง ฉันเดินออกไปปาร์ค ได้กลิ่นควันไฟ ฉันรู้สึกไม่แฟร์เลยนะ พอไม่มีไฟฟ้า ก็ไปรบกวนธรรมชาติง่ะ สร้างมลภาวะเจงๆ”
น้าอาเนสหัวเราะหึๆ “ฉันไม่คิดอย่างเธอ เป็นฉันๆ จะจุดเตาผิง แต่บ้านฉันๆ จุดไม่ได้ เพราะมันเป็นเตาผิงแก๊ส...ต้องใช้ไฟฟ้ามาสปาร์ค”
เวรจิงๆ บ้านคุณน้านี่ ทั้งเตากับข้าว เตาผิง ไม่เวิร์คเลย... สงสารน้าเป๊ปป้าจัง คนกำลังท้อง

มรรคณิชาเล่นจนเหนื่อย หลับบนโซฟา... คุณแม่แซะไปนอนเตียง ๆ คงเย็นมาก เพราะพอลูกสัมผัสถูก ก็ตื่น ร้องโยเยทันที... ตลอดคืน คุณแม่ต้องคอยลุกไปดูนู๋ เพราะนู๋งัวเงียรู้สืกตัวทีไร ก็ต้องปาดผ้าห่มออกทู้กที


วันเสาร์
วันนี้ น้าแอริคกลับจากนิวยอร์คแร้น จะแวะไปรับพี่ๆ ไปบ้านแกรนด์มา ตกแต่งต้นคริสต์มาสกัน... แม่บอกมรรคณิชาไว้ตั้งกะมะวานละ ท่าทางนู๋จะฟังรู้เรื่องนะ ไม่ค่อยลีลามาก เวลาคุณแม่แต่งตัวให้ เราสองคนพร้อมตั้งกะไก่โห่...ที่ดีมั่กๆ คือ บ้านแกรนด์มา มีไฟใช้แล้ว...หุหุ ต้องรีบไปสิง
ฉุนเล็กน้อย...
คุณพ่อบอกให้ขับรถไปคนละคัน ตัวคุณพ่อจะรีบไปรีบกลับ เพราะห่วงบ้าน
“เธอรู้ไหม จังหวะแบบนี้ ขโมยมันจ้องเล่นงาน แล้วมะคืนนี้ แบตสัญญาณกันขโมยก็ขาดละ ม่ายไว้ใจ”
คุณแม่หมั่นไส้คุณพ่อมั่กๆ ...ไอ้ที่จะพาพี่เอ็คโค่ออกไปทำธุระให้ เลยไม่ไปซะเลย ให้คุณพ่อจัดการเอง เราสองคนสะบัดก้นไปบ้านแกรนด์มาดีก่าเน๊อะ

ต้นคริสต์มาสปีนี้ของแกรนด์มาอ้วนกว่าทุกๆปี...ถึงงั้นก็เหอะ อ้วนขนาดนี้ ยังรับของตกแต่งสามลังของแกรนด์มาไม่หมด... ของแกรนด์มาแต่ละชิ้น มีประวัติ... แกรนด์มาค่อยๆ หยิบออกมาอย่างทนุถนอม พร้อมกะเล่าเรื่องราวให้ฟัง ถ้าคุณแม่เอารูปกะเรื่องของตกแต่งคริสต์มาสของแกรนด์มา มาเล่า พื้นที่พันติ๊ปต้องไม่พอให้แน่ๆ อิอิ
แกรนด์มาพยายามยัดเยียดของตกแต่งให้นู๋มาอีก แต่คุณแม่ต้องรีบปฏิเสธหนักแน่น..
“โธ่ แกรนด์มา ยูก็รู้นิ ต้นคริสต์มาสไอนะ สูงแค่ฟุตเดียว...ไอ้ที่ยูให้มานะ ก็ใส่ลงไปจนแทบไม่เห็นใบต้นคริสต์มาสแย้ว”

ตลอดเวลา มรรคณิชา “ติด” น้าแอริคขนาดหนัก...แปลกจัง... แค่เห็นรูปน้าแอริคจากบ้านแกรนด์มาเท่านั้นเนียะนะ... แม่เองพูดถึงน้าแอริคให้นู๋ฟังก็เฉพาะตอนนู๋ยืนดูตู้ปลาเองน๊ะ..
ไม่ว่า น้าแอริคจะอยู่ไหน มรรคณิชาเป็นต้องตามแจ คอยส่งของตกแต่งให้น้าแอริคช่วยติดให้... ท่าทางลูกจะชอบหล่อๆ บางๆ อย่างน้าแอริค แต่จะกลัวพวกมีหนวดมีเคราอ้วนๆ อย่างคุณพ่อ อิอิ

คุณพ่อมาแจมหลังจากที่ทุกคนกินแซนด์วิชเสร็จ... แถมหม่ำเสร็จแล้ว คุณพ่อไปนอนเล่นเฉยๆ ...งี้ น่ากลับไปนอนเฝ้าบ้านเราจะดีกว่านะ ทำตัวไร้สาระอย่างหนัก สักหกโมง คุณพ่อก็กลับ...ประหลาดจริง แล้วมะเช้าบ่นทำมาย กลับเย็นอย่างงี้ นั่งรถมาด้วยกันก็ดีหรอก ไม่เปลือง...แย่ๆๆ...
แปลกใจอย่าง...แกรนด์มาถามว่า พี่ๆ จะกลับยังไง....อือม์นะ...ถ้าเป็นอาม่าเมืองไทย คงไม่ถามงี้... ก็ต้องให้เด็กๆ ค้างกะอาม่าแน่นอน เพราะมีไฟ มีบ้านอุ่นๆ...
แต่คุณแม่ว่า เป็นเพราะแกรนด์มาเป็นฝรั่ง แถมเป็นฝรั่งที่ถือเรื่อง “ไพรเวซี่” อย่างแรง เพราะแกรนด์พาเสียไปตั้งกะหนุ่มๆ แกรนด์มาเลยต้องอยู่คนเดียว อยู่ด้วยตัวเองมานาน... ที่สำคัญ คือ เวลามีอะไรที่ผิดจาก “ตาราง” หรือ “แผน” ของแกรนด์มาละก้อ จะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแกรนด์มาปรับตัวไม่ได้
คุณแม่เลยฟัง ฝรั่งสามคนดูเหมือนกะ “เกี่ยง” เรื่องเด็กจะอยู่ไง.... แต่ที่จริงไม่ใช่... เพราะฝรั่งยึดเรื่องความรับผิดชอบสูงมาก เค้าจะไม่ออฟเฟอร์อะไรที่ก้าวก่ายความรับผิดชอบคนอื่น...
คุณแม่รำคาญเหมือนกัน เกือบจะเอ่ยปากรับส่งพี่ๆ เอง...แต่นึกได้ว่า เป็นการ “เจือก” ที่ไม่ถูกไม่ควร เลยต้องเงียบๆ ไป...
พี่ๆ เค้ารู้สึกยังไงบ้างน๊อ เวลาได้ยินพ่อ ได้ยินแกรนด์มา ได้ยินน้าแอริคถกกัน...

ไปๆ มาๆ คุณแม่เลยเถลไถลที่บ้านแกรนด์มาซ้า อยู่จิกกินมื้อเย็นของแกรนด์มาอีกตะหาก แถมนั่งดูหนังคริสต์มาสต่อจนสามทุ่ม

ซวย
สตาร์ครถแล้ว มีสัญญาณอะไรไม่รุ ขึ้นมาบนหน้าปัด คุณแม่ต้องวิ่งกลับเข้าไปลากน้าแอริคมาช่วยดู พอคุณน้ามา ไอ้รถบ้าก็ดันเกิดจะไม่เป็นอะไรเสียนี่... พอคุณน้าไป...อ้าว เป็นอีกแระ...
ช่างมันวุ้ย ... ไม่อยากทิ้งนู๋ไว้คนเดียวในรถอีก...ลูกแม่เก่งมากเลย นั่งรอในรถร่วมมืออย่างดี
ใจเต้นเหมือนกัน ขับกลับเอง...นู๋ก็เพลียหลับไปซะแระ ไม่เจื้อยแจ้วเป็นเพื่อนกันสักหน่อย
ขับมาบนไฮเวย์มืดๆ แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าเข้าเขตบ้านเราแล้ว เพราะกลิ่นควันไฟเตาผิงคลุ้งมาก... ทุกๆ บ้านคงระดมจุดกันอ่ะเน๊อะ

ถึงบ้านปุ๊บ เจอคุณพ่อนั่งอ่านหนังสือหน้าเตาผิง...โอว์ ผิดนโยบายรักษ์ธรรมชาติของคุณแม่อย่างแรง...จุดแล้วก็ใช่ว่า จะอุ่นทั่วบ้าน ... อุ่นแค่แถวๆ หน้าเตาผิงนั่นแหละ เฮ้อ

วันอาทิตย์
คุณแม่สืบรู้มาว่า ห้องสมุดเปิด...ดีจัง อย่างน้อย ก็มีที่ให้นู๋สิงอุ่นๆ ได้....พอคุณแม่ทำกับข้าวให้น้าเป๊ปป้าเสร็จ ก็รีบคว้านู๋ออกมาเลย...
พอออกมา ถึงได้รู้ว่า สถานการณ์ไฟดับเริ่มดีขึ้น เพราะถนนหลักหน้าบ้านเราเริ่มมีไฟใช้กันแล้ว สัญญาณจราจรก็ใช้งานได้ในบางสี่แยก... แบบนี้ อีกไม่นานบ้านเราก็น่าจะมีไฟใช้นะ....
สิงห้องสมุดได้ไม่กี่ชั่วโมง มรรคณิชาก็เริ่มงัวเงีย... คงอยากนอนตอนบ่ายเต็มที... คุณแม่จับนู๋มานั่งตัก นู๋ก็ไม่ยอมหลับง่ายๆ เสียด้วย... คงติดเตียง ติดคาร์ซีท กะติดรถเข็นเท่านั้นละมั้ง
คุณแม่เลยจำใจพานู๋กลับบ้าน....

อาศัยจังหวะนู๋หลับ คุณแม่เช็คสต็อคตู้เย็นสักหน่อย... หนักใจไก่สดสามโลกว่าในฟรีซเซอร์ที่เริ่มละลาย กะพวกแฮม คงต้องรีบหาทางกิน ... โชคยังดี คุณแม่ไม่ได้ตุนไก่มากกว่านี้สำหรับทำลูกชิ้นให้น้าจุ๊ค...ม่ายงั้น เศร้า....

เอ้า... เช็คสต็อคเทียนด้วย...แย่เลย นี่ขนาดตุนไว้ตั้งกะปีที่แล้วเยอะมาก แถมหลังพายุหิมะ ก็ซื้อมาเพิ่มด้วยนะ... นี่เทียนเหลือไม่ถึงโหลรู้งี้ มะวานเอาของแกรนด์มา มาสักหน่อยก็ดีหร็อก....แกรนด์มามีเทียนเยอะแยะเลยนะลูก... ที่เทียนเราเหลือน้อยเพราะ ทั้งคุณพ่อคุณแม่จุดอ่านหนังสือกันระห่ำ...ข้อดี ดีอย่างที่สุดของการที่ไฟดับครั้งนี้ คือ คุณแม่อ่านหนังสือได้เยอะมากกก....

คืนนี้ พี่โทโมเอะโทรมาบ่นโน่นนี่กะคุณพ่อ... ท่าทางอยู่บ้านแกรนด์มาคงจะเบื่อ...ใครๆ ก็ไม่เข้าใจพี่โทโมเอะว่า ทำไม มีบ้านอุ่นๆ มีทีวีให้ดู ยังจะเบื่ออีก ...แต่คุณแม่คิดว่านะ... พี่เค้าคงประมาณว่า “ต้อง” ขอมีส่วนร่วมประสพการณ์แช่แข็ง ประสพการณืไฟดับให้ได้ มากกว่า....

วันจันทร์
คุณพ่อไปทำงานตามปกติแล้ว เพราะในแถบเขตธุรกิจ มีไฟใช้กันถ้วนหน้า...
คุณแม่เริ่มรู้สึกว่า อากาศมันหนาวสะท้านเกินทานทน.... มรรคณิชาเองก็เริ่มบ่น
“หนาวๆๆ”
ระยะนี้ ลูกจะเก่งมากเรื่องการเลือกใช้คำว่า
“ร้อน” “หนาว” “อุ่น”
แม่คุยๆ กะนู๋อยู่ สังเกตเห็นนู๋ตัวสั่นๆ เป็นบางครั้ง ....น่าฉงฉาน.... เด็กคนอื่นๆ อย่างพี่อันนางี้ เค้าอพยพไปสิงบ้านที่มีไฟใช้กันแร้น... ก้อไม่เข้าใจ ทำไมละแวกบ้านเราถึงยังไม่มีไฟน๊อ
คุณแม่เลยตัดสินใจ จะผสมน้ำร้อนให้นู๋แช่... น่าจะช่วยได้
คุณพ่อบอกตั้งกะมะวานว่า น้ำที่ค้างในท่อตอนนี้ไม่ร้อนแล้ว...คุณแม่เลยต้มน้ำให้นู๋...แต่ตอนผสมน้ำนี่สิ คุณแม่ถึงค้นพบว่า
“บ้านเรามีน้ำร้อน”
เย้
น้าอาเนสเป็นวิศวกร มาอธิบายให้ฟังว่า ระบบน้ำร้อนมันเป็นระบบเมคคานิค เราเลยมีน้ำร้อนใช้... คุณพ่อหัวเราะใหญ่ เพราะอยู่มาสิบปี ถึงเพิ่งรู้นะเนียะ... อ้าว... ทุกคนเลยจับได้เลยว่า ไฟดับที่ผ่านๆ มา คุณพ่อไม่ได้อาบน้ำ 555
เอานะ...อย่างน้อย คุณพ่อรู้อย่างนึงว่า กลางคืนถ้าอากาศหนาวมากๆ ต้องเปิดก๊อกให้น้ำหยด น้ำจะได้ไม่แข็งในท่อ ๆ ก็ไม่แตก

สายหน่อย คุณแม่ขับรถพาน้าเป๊ปป้าไปหาซื้อกระเป๋าน้ำร้อน สำหรับเอาวางบนเตียงก่อนนอน จะช่วยให้มีเตียงอุ่นๆ สบายๆ ... คุณแม่ถือโอกาสหาเทียนด้วย .... เราต้องขับรถไปไกลถึง ฮวนนิต้า... เพราะร้านแถวบ้านไม่มีของจำเป็นขายเลย บ้านไหนๆ ก็มากวาดซื้อตุนกันหมด... คุณแม่เลยฉวยไฟส่องอ่านหนังสือมาด้วย คุณแม่ชอบใจจัง เป็นไฟที่กิ๊บเก๋มาก ...
ยังซื้อของไม่ครบดี น้าอาเนสโทรมาตามน้าเป๊ปป้า ประมาณว่า “ฉันรู้วิธีจุดเตาผิงที่บ้านเราแล้ว”
โอว์ เป็นเรื่องที่น่าดีใจมั่กๆ น้าเป๊ปป้าขี้หนาวจะได้อยู่อุ่นๆ เสียที

อ้อ... มรรคณิชาเรื่องมากเป็นพิเศษ... ไม่ว่าจะจับใส่เสื้อหนาว ใส่หมวก หรือนั่งในรถ ลูกจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขนู่นนี่ตลอด...จนบางครั้ง...แม่อยากจะเขกกะโหลกนู๋ให้มันบางๆ หน่อย...ดื้อจังงง

ตกบ่าย คุณแม่แปลกใจ น้าแอริคพาพี่ๆ มาส่ง....
พอพี่โทโมเอะย่างเข้าบ้าน พี่ก็ทำหน้าประมาณ “อุ๊ปส์ คิดผิดป่าวฟระ”
คุณแม่เห็นแล้วขำ เลยแกล้งแซวว่า
“เวลคัม ทู อลาสก้า”
พี่ๆ บ่นใหญ่เลยว่า ในบ้านหนาวกว่าข้างนอกอีก....คุณแม่เลยไล่ให้ไปเล่นในปาร์คเสียเลย ออกแรงเยอะๆ จะได้ไม่หนาว ให้เอามรรคณิชาไปด้วย

คุณแม่นึกออกแล้ว ที่วันนี้ มันดูแย่ๆ กว่าทุกวัน เพราะไม่มีเตาผิงนี่เอง.... พอคุณพ่อกลับมา คุณแม่เลยรีบไล่ให้จุดเตาก่อน... ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า เลยคึกคักเป็นพิเศษ แต่ละคน ลืมไปว่า เด็กเล็กๆ อย่างนู๋ต้องเข้านอนเป็นเวลา...เล่นกันเสียงดังสุดฤทธิ์ จนมรรคณิชานอนไม่ติด คอยแต่จะชี้ออกไปนอกประตู
“นี่ๆๆ”
ประมาณว่า นู๋ขอออกไปร่วมวง....กว่าแม่จะน็อคนู๋ได้ร่วมชั่วโมง....แล้วเชื่อหรือไม่ พอนู๋นอน... คุณพ่อกะพี่ๆ ก็เงียบเสียงกันไปด้วย.... คุณแม่ไม่เข้าใจ ... มะโหๆๆๆๆ อย่างแรงงงงง

วันอังคาร
ทำไมน๊ะ บ้านหลายหลังเริ่มมีไฟใช้กันบ้างแล้ว อย่างหลังที่อยู่หัวถนนใกล้ๆ บ้านน้าเป๊ปป้างี้... มะคืน บ้านนี้ ไฟสว่างพรึ่บทั้งบ้าน แถมต้นคริสต์มาสต้นใหญ่หน้าบ้านก็มีไฟอีกตะหาก.... น้าอาเนสเห็นบ้านนี้แล้วเครียดจัด....555

คุณแม่เริ่มชิน... ตื่นมา แม่จุดเตาผิงก่อนเลย (นี่เหรอ นักอนุรักษ์ อิอิ) อย่างน้อย ลูกกะพี่ๆ ก็ได้วิ่งเล่นอุ่นๆ หน้าเตานี่แหละ
ส่วนพี่โทโมเอะ แค่คืนเดียว ก็เริ่มหงุดหงิด... บ่นเบื่ออีกแระ.... 555 เอาใจไม่ถูกเลย.... สองคนกะพี่มากิเอะ หาเรื่องไร้สาระเถียงกันไม่หยุด... มีมรรคณิชาอยู่ตรงกลาง คอยห้าม
“สต๊อป อิทๆๆๆ”
คุณพ่อเอง ก็คอยโทรมาเช็คตลอด
“ไฟมาหรือยัง”
พอรู้ว่ายังไม่มา คุณพ่อก็สแวร์ยาวเหยียด...เหอ เหอ

น้าเป๊ปป้ากะน้าอาเนสเริ่มใช้ชีวิตมีคุณภาพมากขึ้น ตั้งกะรู้วิธีจุดเตาผิง... น้าอาเนสพาน้าเป๊ปป้าออกไปกินนอกบ้านทุกมื้อ ไม่มาสิงบ้านเราแระ... เลยทำให้คุณแม่รู้ว่า ร้านน้าจุ๊คไฟดับแค่คืนวันพฤหัสคืนเดียะ... คืนต่อๆมา ร้านขายดีจนร้านแทบแตก....โอ๊ย ฟังแล้วตาร้อน
ทานมื้อเย็นเสร็จ คุณพ่อชวนพี่ๆ ออกไปดูรถซ่อมสายไฟ... ดึกแล้ว แต่ช่างยังทำงานไม่หยุด คุณแม่เลยขอให้ควงมรรคณิชาออกไปด้วย ลูกจะได้เดินเยอะๆ เหนื่อยๆ หลับง่ายดี ท่าทางคุณพ่อดีใจออกนอกหน้าที่เห็นรถซ่อมสาย
แม่ยอมรับนะ บางคืน แม่ก็เผลอๆ คิด อยากให้ไฟกลับมาเหมือนกัน... เพราะการที่ต้องหยุดกิจวัตรหลายๆ อย่าง ที่เคยทำ มันน่าอึดอัดมาก แต่คิดอีกที ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเงียบๆ อ่านเยอะๆ ก็เป็นความสุขสุดๆ อีกแบบ (ตกลงเอางัยแน่ คุณแม่นี่)


คืนนี้ แม่เอามรรคณิชาเข้านอนง่าย เพราะพี่ๆ กะทุกคนให้ความร่วมมือดี... ร่วมใจกันโทนดาว์นการเล่น ใช้เสียงกระซิบเวลาคุยกะมรรคณิชา... แป๊บเดียว มรรคณิชาก็หาววอด...เออ...ให้ได้งี้สิ

วันพุธ
พี่มากิเอะคงเซ็งจิตอะไรสักอย่าง พอคุณพ่อออกไปทำงาน พี่เค้ารีบโทรหาโอกาซังให้มารับไปฉีดยาเร็วกว่าเดิม... พี่โทโมเอะยืนหน้าบูดๆ ... แม่เดาว่า พี่ๆ คงทรมาน นอนไม่หลับเพราะที่นอนหนาวๆ แหงๆ ...ก็ดี...ออกไปหาที่อุ่นๆ สิงกัน ตามสบาย... คุณแม่กะมรรคณิชาก็จะไปสิงบ้านแกรนด์มาเหมือนกัน
แกรนด์มาแอบไปซื้อถุงนอนให้มรรคณิชา เพราะคุณแม่เล่าว่า มรรคณิชาชอบเอาผ้าห่มออก... คุณแม่เห็นแล้วขำกลิ้ง เพราะชุดใหญ่หยั่งกะสำหรับเด็กเกือบสิบขวบ...แต่คุณแม่ก็รับไว้ คนแก่จะได้ดีใจ....ตอนคุณแม่จับนู๋ใส่นี่สิ... มรรคณิชาไม่ยอมใส่...555 ขนาดหลอกว่า ชุดสวย นู๋ยังไม่เชื่อคุณแม่เลย
มรรคณิชาร่าเริงมากเวลาอยู่บ้านแกรนด์มา ก็สมควรหรอก... ออกจะอุ่นสบาย แถมมีขนม มีอาหารอร่อยๆ ให้หม่ำ... แม่ลูกซัดกันไม่ยั้ง อิอิ
ตกบ่าย... คุณแม่ลองโทรเช็คสถานการณ์กะน้าเป๊ปป้า กะว่า ถ้าไม่มีไฟ ก็คงขออยู่กะแกรนด์มาซะเลย
น้าเป๊ปป้าบอกว่า “ไฟมาแล้ว สักชั่วโมงเห็นจะได้”
เย้ เย้ เย้

คุณแม่รีบเผ่นกลับบ้านทันที...ดีใจง่ะ
อย่างแรกที่ทำ คือ เปิดเครื่องล้างจาน 555
อย่างที่สอง คือ ดูดีวีดี เรื่อง “ฮันนี่” ดูไป เต้นไป พร้อมกับมรรคณิชา
อย่างที่สาม คือ ขับรถไปโกรเซอร์รี่ ซื้อนมให้มรรคณิชา... เพราะที่มีในตู้เย็นใกล้หมดละ.... คุณแม่มารู้ตอนหลังว่า นมเสียแล้ว เพราะพี่โทโมเอะบอก
ป๊าดโธ่ น่าจะบอกตั้งนานแล้ว ปล่อยขวดอยู่ในตู้เย็นที่ไม่มีไฟอยู่ได้
อ้าว คุณแม่โทษคนอื่น ได้ไง 55
มิน่าละ สองวันนี่ คุณแม่ส่งนมให้มรรคณิชาๆ ถึงได้โยนขวดทิ้งทุกที.... ตะแรก คุณแม่นึกว่า คุณลูกมารยาททรามเสียอีก...แหะ แหะ ขออภัย เข้าใจคุณลูกผิดอย่างร้ายแรง

เนียะ ... คุณแม่มีโอกาสอ่านข่าวเรื่องไฟดับ...รู้สึกว่า ชาวบ้านที่ลำบากกว่าเรามีเยอะมาก... อย่างพวกคนแก่งี้ พวกที่เป็นมะเร็งปอดงี้ ...ร้านโกรเซอร์รี่ต่างๆ ต้องขนของในตู้แช่ทิ้งหมด เสียดายจัง...ยกเว้น คอสโค ๆ มีรถคอนเทนเนอร์ไว้แช่แข็งสินค้าได้...รอบคอบดี
มีบ้านหลังนึง ถูกต้นไม้ล้มท้บ คนในบ้านเสียชีวิตด้วย...ส่วนคนที่เครียดๆ อย่างน้าอาเนส มีเยอะมาก ไปที่ไหนๆ จะได้ยินคนคุยกันเรื่อง มองไปบ้านโน้น ทำไมมีไฟ ทำไมบ้านฉันไม่มี... คนจะรู้สึกแบบนี้กันเยอะ... งานนี้ คุณพ่อเอ่ยปากชมคุณแม่เลย ...เพราะคุณพ่อนึกว่า คุณแม่จะสติแตก....แหม๋ม...อารายว๊า...ไม่รู้เหรอ นี่อึดพันธุ์ควาย

ส่วนสาเหตุที่บางบ้านมีไฟ ไม่มีไฟ เพราะสายไฟโดนต้นไม้ล้มทับ ช่างเค้าก็แก้ไข โดยการจัมพ์สายไปไปอาศัย คู่สายแถวๆ นั้นที่พอจะรับได้... อย่างบ้านเราอยู่ในโคเดอร์แซค ซึ่งเผอิ๊ญ มีปํญหาต้นไม้ล้มทับสาย จนเค้าหาคู่จัมพ์ให้ไม่ได้
นี่เอง... พอขับรถไปที่ถนนใหญ่ บางวัน สี่แยกนี้ มีไฟจราจร บางวัน ไฟหายไป... ช่างเค้าคงพยายามจับคู่สายให้ได้ดีที่สุด มากที่สุดนั่นเอง... นับว่า บ้านเรานี่ เร็วแล้ว...บางบ้าน ไม่มีไฟตั้งกะคราวพายุหิมะง่ะ.... อันนั้น น่าสงสารก่าอีก...เน๊อะๆๆ



Create Date : 22 ธันวาคม 2549
Last Update : 22 ธันวาคม 2549 17:42:55 น. 1 comments
Counter : 762 Pageviews.

 
สวัสดีคะ แวะมาอ่านพายุหิมะคะ ไม่เคยเห็นอะ


โดย: kero (Miss.KERO ) วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:9:23:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มรรคณิชา
Location :
Sleepless in Seattle United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีคะ
นู๋ชื่อ มรรคณิชา.... เรียกนู๋เต็ม ๆ นะคะ เพราะนู๋ไม่มีชื่อเล่นคะ ... อยากรู้จักนู๋ ก็ต้องตามไปช่วยอ่าน ช่วยคอมเม้นต์นะคะ แม่นู๋จะได้มีกำลังใจ
แก้ไขเพิ่มเติมคะ....
มีคุณน้า คุณพี่ หลายคนมักถามคุณแม่เสมอๆ ว่า "ชื่อของนู๋ แปลว่าอะไร"
บอกเลย ไม่เล่นตัว...อิอิ
มรรค มาจากคำว่า "มรรค 8" ในศาสนาพุทธไงคะ...คุณแม่คงอยากเห็นนู๋เป็นเด็กดี...แถมเวลาสะกดเป็นภาษาปะกิต คุณแม่ใช้ชื่อคุณพ่อสะกดซะเลย...งานนี้ คุณพ่อหน้าบานคะ
ส่วน ณิชา แปลว่า บริสุทธ์
พอมารวมกะ "มรรค" ชื่อนู๋เลยเก๋กู๊ดซ้า

แก้ไขเพิ่มเติม (อีก 5/29/2011)
แขกเค้ามีดาราหญิงชื่อ มานิชา คล้ายชื่อนู๋มากเลย แรกๆ แม่ก็ปลื้มหรอกนะ แต่หลังๆ ชักหวั่นไหว เพราะเพื่อนร่วมงานของพ่อชื่อนี้เปี๊ยบ เป็นตัวป่วนที่ทำคุณพ่อปรี๊ดส์บ่อยๆ

แม่พบว่า เด๋วนี้ เวลาเรียกมรรคณิชาเต็มๆ คือการทำเสียงเข้ม ในเหตุการณ์ปกติ แม่เรียกนู๋ ว่า "ลูก" "นู๋" หรือ ไม่ก็ "ชิชา" "ชา"
Friends' blogs
[Add มรรคณิชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.