~♥~... ข น ม โ ค ปั ก ษ์ ใ ต้ ...~♥~
เวลาและวารีไม่เคยรอใคร มันคงจะจริงๆอย่างที่โบราณว่าไว้ เผลอหน่อยเดียวการถือศีลอดของชาวมุสลิมก็ใกล้สิ้นสุดแล้ว เมื่อวานเป็นค่ำคืนที่ 26 ของการถือศีลอด เรียกกันว่า"ค่ำ 27" ในค่ำคืนนี้จะมีการทำขนมหวานต่างๆไปร่วมรับประทานกันที่มัสยิด ถือว่าเป็นค่ำคืนที่พิเศษที่สุดในช่วงเดือนรอมฏอน ตามตำนานเล่ากันว่าค่ำคืนนี้ พระเจ้าจะให้พรสำหรับคนที่มีจิตใจดีทำตามคำสั่งสอนของพระองค์ แต่พรที่พระองค์ให้น้อยคนนักที่จะมีสติกับสิ่งที่เห็นและรับเอาพรไปได้ อย่างเช่นที่เล่าขานกันก็... ลมพัดไหวอย่างรุนแรงทั้งๆที่ไม่มีพายุ ต้นมะพร้าวโน้มลงมาถึงดิน ซึ่งคนที่พบเห็นจะเป็นคนที่โชคดี แต่จะมีกี่คนที่มีสติรับพรจากพระองค์ท่านได้ นาห์เองก็อยากจะเจอนะแต่คงยากยังเป็นคนดีไม่พอเหอๆ ว่าแล้วก็มาเอ่ยถึงขนมที่ชาวบ้านแถวภาคใต้(และบ้านนาห์) ทำไปร่วมทานกันในค่ำคืนนี้กันดีกว่า ร้อยละเก้าสิบทำ"ขนมโค"มาทำบุญกัน คือตั้งแต่นาห์จำความได้ก็เห็นขนมโคคู่กับการทำบุญ"ค่ำ27"แล้ว หลังๆที่บ้านนาห์เลยฉีกแปลกแหวกแนวไปบ้าง เพราะไปที่มัสยิดก็เจอขนมโคกันเกือบทุกบ้านอยู่แล้ว ก็เลยเปลี่ยนเป็นทอดข้าวเกรียบ ต้มวุ้นกะทิ วุ้นไข่ แทน แต่ปีนี้อยากกินขนมโคฝีมือตัวเองกันบ้าง ก็เลยทำขนมโคกัน ไหนๆทำแล้วนาห์เลยเก็บภาพมาฝากกันด้วย งานนี้โดนแซวว่ามีคนไม่รู้จักขนมโคด้วยหรือตอนที่นาห์กำลังเก็บรูป ก็เลยบอกไปว่ามีสิ คนกรุงเทพฯคนภาคอื่นเขาไม่รู้จักนี่ แต่จริงๆขนมโคกับขนมต้มแทบไม่ต่างกันเลย นาห์เคยทานขนมต้มเค้าใช้ใส้มะพร้าวผัดกับน้ำตาล แต่ขนมโคใช้น้ำตาลแว่นหั่นเป็นลูกเต๋าแทน เรียกว่าเรียกกันแตกต่างไปตามแต่พื้นที ส่วนผสมก็แตกต่างกันไปแล้วแต่พื้นที่กระมัง แต่วันนี้มาดูที่นาห์กับพี่สาวและคุณแม่ทำกันดีกว่าค่ะ
ส่วนผสมอย่างแรกที่ขาดไม่ได้คือแป้งข้าวเหนียว นวดให้เข้าที่อย่างที่เห็นต้องไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป
น้ำตาลแว่น หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆใช้ทำเป็นใส้
ถั่วเหลืองคั่ว ไว้โรยคลุกเคล้าคู่กับมะพร้าวขูดฝอย แต่งานนี้ลืมถ่ายรูปมะพร้าวไว้ แหะๆ
ขั้นตอนการทำนี่เลยค่ะ จากแป้งที่นวดไว้ก็แผ่เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำน้ำตาลแว่นที่หั่นไว้ใส่ลงไป ห่อให้มิดจะได้อย่างที่เห็นย้ำว่าต้องมิดชิดนะคะ ไม่งั้นน้ำตาลมันเหลวทะลักออกมาตอนนำไปต้ม ห่อแล้วตั้งพักไว้ในถาดรองด้วยกระดาษกันมันติดก้นถาดค่ะ แต่วันนี้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์รองซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้รองอาหาร หากไม่รองด้วยกระดาษที่ใช้ห่อข้าวผัด(นึกชื่อกระดาษไม่ออกแหะๆ) ก็ให้ใช้แป้งโรยไว้ให้ทั่วถาดกันมันติดกับก้นถาดก็ได้ค่ะ
พอได้เยอะแล้ว ก็นำไปต้มในน้ำเดือด พอมันสุกก็จะลอยขึ้นมาเองอย่างที่เห็นค่ะ ปล่อยให้มันลอยสักพัก ก็ใช้กระชอนตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เมื่อวานตอนทำหลานชายมาช่วยห่อช่วยคลึงด้วย และด้วยจินตนาการหลานชายก็สนุกใหญ่ จากที่ปั้นกลมๆเหมือนลูกธนู ก็กลายเป็นปลาดาว ปลา หุ่นยนต์ แต่ถ่ายรูปไม่ทันหลานค่ะสุกปั๊บ หลานก็จ้องตักเจ้าตัวประหลาดทั้งหลายไปกินทันที ไม่งั้นคงมีขนมโคภาคปลาดาวมาให้ชมกันแล้ว
แล้วก็นำมาคลุกเคล้า กับมะพร้าวขูดฝอยและถั่วเหลืองคั่ว แต่หากใครไม่ชอบถั่วเหลืองก็ไม่ต้องใส่ถั่วเหลืองคั่วก็ได้ค่ะ และหากอยากเพิ่มสีสันก็ให้เพิ่มในขั้นตอนการนวดแป้งนะคะ อยากได้สีเขียวก็ใช้น้ำใบเตย สีม่วงก็ดอกอัญชัญ หากอยากได้สีเหลืองก็ใช้ฟักทองบดเอามาผสม ก็จะได้ขนมโคหลากสีสัน หรือใครชอบสะดวกก็ใส่สีผสมอาหารเอาก็ได้ค่ะ
ขนมโคถ้าจะทานให้อร่อย นาห์ว่าทานตอนมันอุ่นๆกำลังดีเลยค่ะ แต่อย่าทานตอนร้อนมากนะคะ เดี๋ยวปากจะพองเอา เพราะเจ้าน้ำตาลที่มันละลายอยู่ภายในตัวแป้ง
ว่าแล้วก็จานนี้ ใครอยากจะชิมบ้างไหมเอ่ย แบ่งๆกันทานนะคะ
Create Date : 17 กันยายน 2552 |
|
21 comments |
Last Update : 17 กันยายน 2552 13:15:02 น. |
Counter : 1793 Pageviews. |
|
|
|