|
0142. 26 พฤษภาคม 2544 คำกล่าว ในรายการ นายกฯ ทักษิณพบประชาชน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไท
คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในรายการ นายกฯ ทักษิณพบประชาชน
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย คลื่น F.M.92.5
เวลา 08.00 น. วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2544
------------------------------------------------
สวัสดีครับ กราบสวัสดีพี่น้องประชาชนที่เคารพรักครับ
วันนี้พบกันอีกเช่นเคยทุกวันเสาร์ 8 นาฬิกานะครับ ผมจะขอรายงานการทำงานของรัฐบาลที่ พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจว่า หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำอะไรไปบ้าง สัปดาห์นี้ก็คงมีเรื่องจะเล่าให้ พี่น้องฟังประมาณ 11-12 เรื่อง
จีนซื้อสินค้าเกษตรจากไทย
เรื่องแรกคือเรื่องที่นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านจู หรงจี ได้มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการเป็นแขกของรัฐบาลในช่วงวันที่ 19-22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่องเกิดบรรยากาศแห่งความเป็นกันเองมากขึ้น ได้พูดคุยกันถึงเรื่องแรกคือเรื่องของสินค้าเกษตร ท่านนายกรัฐมนตรีท่านยืนยันว่าท่านจะซื้อสินค้าเกษตรจากไทยต่อเนื่องจากปีที่แล้ว คือจะไม่ซื้อน้อยกว่าปีที่แล้ว อาทิ เช่น ซื้อข้าวจะประมาณ 2.4 แสนตัน ไม่นับรวมที่ส่งออกผ่านฮ่องกงต่างหาก ยางพาราจะซื้อไม่ต่ำกว่า 8.5 แสนตัน ลำไยเป็นเรื่องพิเศษหน่อยเพราะปกติแล้วประเทศจีนจะให้ภาษีกับประเทศที่มีชายแดนติดกันถูกกว่าประเทศที่ชายแดนไม่ติดกันถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้เราเสียเปรียบลำไยของเราบางทีพ่อค้าก็ต้องไปส่งออกผ่านประเทศอื่น เพื่อจะได้ลดภาษี ผมเลยเจรจาขอให้เขาลดภาษี ซึ่งเขาก็บอกว่าเขายินดีจะไปพิจารณาแต่ต้องเป็นการแก้กฎหมายเลยต้องใช้เวลาหน่อย เขาเลยตัดสินใจซื้อลำไยอบแห้งจากเชียงใหม่ไปก่อน 2 พันตัน และหลังจากนั้นจะรีบทำเรื่องการแก้ภาษีเพื่อจะทำให้เราส่งของออก ส่งสินค้าเกษตรออก ไปประเทศจีนได้ราคาที่ถูกลง
จีนรับเป็นเจ้าภาพประชุมผู้นำ 4 ประเทศแก้ปัญหายาเสพติด
นอกนั้นผมได้คุยกับนายกฯ จีนอีกหลายเรื่อง เรื่องที่สำคัญคือเรื่องยาเสพติดเพราะขณะนี้ ยาเสพติดระบาดมาก สารตั้งต้นบางส่วนทำมาจากจีน บางส่วนทำมาจากอินเดียแล้วจีนกับพม่า ลาว ไทย มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน ผมเลยขอให้จีนได้กรุณาเป็นเจ้าภาพจัดพูดคุยกันของผู้นำ 4 ประเทศ จีน ไทย พม่า ลาว เพื่อหาทางร่วมมือกันในการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งจีนตกลงและสัปดาห์หน้าจีนจะส่งรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเข้ามาประสานงานเพื่อเตรียมการในการจัดประชุมผู้นำ 4 ประเทศเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดโดยตรง เรื่องที่คุยกันต่อก็คือ ผมได้ขอให้จีนนำเรือแม่ซึ่งจีนมีเรือใหญ่เยอะ ประเทศไทยไม่ค่อยมีเรือใหญ่ของตัวเอง ก็ต้องอาศัยเรือต่างประเทศที่เขาขนสินค้าจากไทยไปขายในต่างประเทศ ก็ปรากฏว่าเราถูกขึ้นราคาเป็นประจำ ทำให้ค่าขนส่งเราสูงขึ้น ต่อไปการแข่งขันต้นทุนก็จะลำบากขึ้น ผมเลยขอให้จีนส่งเรือแม่มาให้เราหน่อยจีนก็ตกลงและจะส่งรัฐมนตรีด้านนี้มาคุยกับเรา เพื่อจะให้เรือใหญ่ขนสินค้าจากไทยตรงไปยังยุโรปและอเมริกา จะทำให้เราไม่ต้องถ่ายสินค้าเข้าสู่เรือใหญ่ที่สิงคโปร์อีกต่อไป จะทำให้ประหยัดเวลาและค่าขนส่ง ค่าขนส่งประหยัดไปตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งประมาณ 300 เหรียญสหรัฐก็หมื่นกว่าบาท ถ้าเราส่งออกกี่ล้านตู้ก็คิดไปหลายหมื่นล้านบาทก็เป็นการประหยัดไป และระยะเวลาการขนส่งก็ประหยัดไปประมาณสองวันสามวัน ทางจีนก็ยินดีร่วมมืออย่างดี
จีนพร้อมช่วยเหลือทางการเงินแก่ไทย
อีกเรื่องที่ผมขอเขาบอกว่าเพื่อให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับมากกว่า ปัจจุบันเรามีเงินทุนสำรองเป็นดอลลาร์สหรัฐอยู่ประมาณ 32 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งพอเพียงเราไม่เดือดร้อนอะไร เพียงแต่ว่าเราอยากให้ความเชื่อมั่นมากขึ้นอีก ก็บอกเขาว่าเราตั้งวงเงินฉุกเฉินไว้สมมติเวลาเราต้องการเงินฉุกเฉินจะเอาเงินบาทไปแลกดอลลาร์จากเขาได้มั๊ย เขายอมเลยครับ เขาตกลงเลยครับ ผมต้องการส่งสัญญาณให้ต่างประเทศรู้ว่าเรามีจีนเป็นเพื่อน เรามีญี่ปุ่นเป็นเพื่อน ถ้าหากเราถูกรังแกเราก็มีเพื่อนมาช่วย ผมต้องการส่งสัญญาณตรงนี้ ทางจีนเขาก็เต็มใจและจะให้ธนาคารแห่งประเทศของเรากับธนาคารกลางของจีนคุยกันต่อไป
จีนต้องการลงทุนปลูกป่ายูคาลิปตัสเพื่อตั้งโรงงานผลิตเยื่อกระดาษในไทย
เรื่องที่เขาสนใจและอยากให้เราพิจารณาคือ เขาอยากจะลงทุนประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 45,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนเพื่อที่จะปลูกป่ายูคาลิปตัสและตั้งโรงงานผลิตเยื่อกระดาษในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปขายที่จีนเพราะจีนใช้เยื่อกระดาษเยอะ ผมเลยบอกเขาว่าผมมีปัญหาอยู่ 2 ส่วนที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คือ ยังหาคำตอบว่ายูคาลิปตัสปลูกแล้วมีผลเสียต่อดินแค่ไหน อันที่สองคือโรงงานเยื่อกระดาษมีระบบกำจัดน้ำเสียดีแค่ไหน เพราะประเทศไทยเราไปเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีอยู่โรงงานหนึ่งปล่อย น้ำเสียลงแม่น้ำทำให้เดือดร้อนกัน เขาก็บอกว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีใหม่เครื่องจักรใหม่สามารถกำจัดน้ำเสียได้ น้ำไม่เสียเลย ผมก็บอกว่าต้องขอศึกษาอีกหน่อย เราไม่ผลีผลามที่จะรับ แต่ถ้าหากว่าไม่มีผลเสีย เขาจะมาลงทุนประมาณ 45,000 ล้านบาท และยินดีให้รัฐบาลไทยเข้าหุ้นถ้ารัฐบาลไทยอยากเข้าหุ้น ซึ่งมีตลาดแน่นอนคือจีนรับซื้อไป ท่านนายกฯ จีนเดินทางกลับไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน นอกจากเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกันแล้ว ผมกับท่านนายกฯ ก็พยายามจะให้เกิดความสนิทสนมกันส่วนตัวให้รัฐมนตรีต่อรัฐมนตรีได้พูดคุยกันสนิทกันมากขึ้น เพื่อการเจรจาต่อไปจะได้รวดเร็วขึ้นง่ายขึ้น
ความคืบหน้าโครงการธนาคารประชาชน
เรื่องที่อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนเรื่องที่สองคือ เรื่องความคืบหน้าของธนาคารประชาชน ผมได้เรียกกระทรวงการคลังและธนาคารออมสินมาคุยกัน ซึ่งเขาเตรียมการให้ผมไว้นานแล้ว ก็มารายงานความคืบหน้าเมื่อวันพฤหัสบดีที่รัฐสภา เขารายงานให้ฟังและประทับใจครับ เป็นวันที่ผมถือว่าผมมีความสุข วันหนึ่งของการทำงานในหน้าที่นายกรัฐมนตรี เขาเรียนว่าขณะนี้เขาพร้อมแล้วประมาณวันที่ 25 มิถุนายน ธนาคารออมสินทั้ง 578 สาขาจะเปลี่ยนสภาพเป็นธนาคารประชาชนเพื่อคนจน นั่นคือจะมีพนักงานสินเชื่อประจำอยู่ทุกสาขา และพนักงานสินเชื่อเหล่านี้จะออกไปให้บริการสินเชื่อกับพี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนคนยากคนจนสามารถกู้เงินได้ในครั้งแรกตอนที่ยังไม่มีประวัติการเป็นผู้กู้ที่ดีได้ถึง 15,000 บาทต่อคน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในขณะที่ดอกเบี้ยคิดรายเดือน ๆ ละ 1 เปอร์เซนต์หรือถ้าเป็นรายปีก็ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจจะดูสูงกว่าประเภทธุรกิจแต่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งถือว่าถูกมากถ้าเปรียบเทียบกับที่ พี่น้องไปกู้จากพ่อค้าในตลาด กู้ร้อยละ 20 ต่อเดือน พี่น้องที่เป็นหนี้เป็นสินอยู่ วันนี้ก็เตรียมที่จะยกเลิกหนี้นอกระบบ โดยการมากู้หนี้ธนาคารประชาชนแล้วเอาไปใช้หนี้นอกระบบ ท่านก็จะมีเงินเหลือทันที อันนี้ผมถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่จะมีโอกาสทำให้พี่น้องคนจนได้กู้เงินในดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นความฝันอันหนึ่งที่รัฐบาลได้พยายามที่จะศึกษาและให้เกิดความเป็นจริง ประชาชนก็จะผ่อนเงินกู้นี้เป็นเวลา 13 เดือน ก็ทำให้พี่น้องมีโอกาสหมดหนี้สินได้เร็วก็เป็นการกู้เพื่อประกอบอาชีพ พี่น้องจะได้มีงานทำจะได้มีต้นทุนที่ไม่สูงนักในการประกอบอาชีพ
เปิดประตูระบายน้ำ 8 บานที่เขื่อนปากมูลตามมติ ครม.
เรื่องที่สามที่อยากจะเรียนก็คือ เรื่องเขื่อนปากมูล เมื่อวานนี้ผมไปที่จังหวัดอุบลราชธานีไปดูปัญหาเรื่องเขื่อนปากมูล ผมต้องถือว่าเมื่อมีมติ ครม. แล้วจะต้องปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติรัฐบาลจะพูดกับประชาชนไม่ได้เลย ขณะนี้มีปัญหาอยู่ตรงที่พี่น้อง 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่อยู่ท้ายเขื่อน อีกส่วนหนึ่งอยู่เหนือเขื่อน ก็ทำให้มีความขัดแย้งกันบ้าง พี่น้องที่มาเรียกร้องคืออยากให้เปิดประตูระบายน้ำเพื่อศึกษาว่าจะมีปลาหลงเหลืออย่างไร การทำอาชีพประมงน้ำจืดในแถบนั้นจะทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งรัฐบาลได้มีมติ ครม.ไปแล้วว่าให้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 8 บานเพื่อศึกษาเป็นเวลา 4 เดือน แต่บังเอิญว่ามีพี่น้องอีก 50 ครอบครัวเดือดร้อนเลยไม่ยอม ผมก็ได้บอกกับพี่น้องที่เดือดร้อนว่า บางทีสิ่งที่คาดว่าเดือดร้อนอาจจะไม่เดือดร้อนจริงก็ได้ ลองเปิดดูศึกษาดูแต่ระหว่างที่เปิดนี้ถ้าพี่น้องได้รับผลกระทบ รัฐบาลจะบรรเทาความเดือดร้อนตรงนี้ให้ ผมไม่ต้องการจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อนน้อยที่สุด เมื่อคนส่วนน้อยเดือดร้อนจากการแก้ปัญหา เราก็ไปบรรเทาความเดือดร้อนให้คนส่วนน้อยตรงนั้นอีกทีก็จะแก้ปัญหาได้ ผมถือว่าพี่น้องคนไทยต้องรักสามัคคีกัน เราไม่เห็นแก่ตัวกันจนบ้านเมืองเสียหายนะครับ เหมือนกับสิ่งที่เราเคยเกิดมาในอดีต ก็เลยพูดจากับพี่น้องทั้งสองฝ่าย และขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ได้ให้ความร่วมมือและดูแลพี่น้องอย่างใกล้ชิดมอบหมายให้ ส.ส.พื้นที่ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลพี่น้องประชาชนด้วยเมตตาธรรมอย่างใกล้ชิด และต้องหาทางบรรเทาความเดือดร้อนเขาเพราะเขาเป็นคนจน เมื่อวานนี้ก็ไปมาเรียบร้อย เชื่อว่าวันสองวันนี้ประตูน้ำคงจะเปิดได้ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องที่ขัดขวางอีกข้างหนึ่ง แต่ผมได้พูดกับผู้นำด้วยตัวเองแล้วนะครับ
รัฐบาลออกกฎหมายแก้ปัญหายาเสพติด 4 ฉบับ
เรื่องที่สี่คือเรื่องปัญหายาเสพติด เป็นผลพวงจากการทำเวิร์กช็อปที่เชียงรายนะครับ ได้แก้กฎหมายยาเสพติด 4 ฉบับ คือ การที่จะทำให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยเพื่อที่จะนำผู้เสพไปบำบัดแทนที่จะนำไปเข้าคุก เกิดปัญหาการล้นคุกและมีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากคุก ทำให้เสียหายทั้งประชาชนและสังคม ผมเลยได้แก้กฎหมายทั้ง 4 ฉบับและส่งเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ก็เข้าใจว่าจะผ่านวาระ 1 ในสมัยประชุมนี้ และเปิดประชุมสมัยหน้าก็คงจะเสร็จ
รัฐบาลไม่ได้เข้าแทรกแซงการทำงานของ ธปท.
เรื่องต่อไปคือเรื่องการเร่งรัดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆ มีเรื่องดอกเบี้ยต่ำที่เป็นปัญหาเป็นเรื่องที่พูดจากัน บางทีพูดกันไปพูดกันมาก็เกิดการเข้าใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทยกับรัฐบาลขัดแย้งกัน ในความจริงไม่ใช่หรอกครับ ความจริงเป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากจะถามธนาคารแห่งประเทศไทยว่า การคงดอกเบี้ยต่ำไว้นานและเงินไหลออก ขณะเดียวกันก็มีสภาพคล่องล้นอยู่ในธนาคารเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือเปล่า ช่วยพิจารณาหน่อย ถ้าถูกต้องอยู่ช่วยตอบด้วยว่าถูกต้องเพราะอะไร ถ้าไม่ถูกต้องก็แก้ไขเสีย ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไปศึกษา แต่ผลการศึกษาออกมา ผมฟังแล้วก็มีเหตุผล แต่เพียงว่ายังมีข้อสงสัยอยู่ก็ให้ไปศึกษาเพิ่มเติม แต่ไม่ได้มีการไปสั่งไปแทรกแซง ซึ่งบางคนก็เข้าใจว่ารัฐบาลแทรกแซง ความจริงแล้วเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนโยบายการเงินกับนโยบายการคลัง รัฐบาลเองก็ต้องถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบในความสำเร็จและความ ล้มเหลวของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หลายครั้งที่นโยบายขัดกันและผิดพลาดขึ้น มันโทษใครไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ฉะนั้น รัฐบาลก็ต้องสอบถามเพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้อง อันนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ
เรื่องต่อไปเราได้เร่งรัดงบประมาณเพราะงบประมาณจ่ายช้า กลไกราชการจ่ายช้ากว่าประมาณการไว้ก็ได้เร่งรัดไปแล้วนะครับ
ตรวจสอบเงินกู้ต่างประเทศในโครงการต่าง ๆ
เรื่องต่อไปคือเรื่องเงินกู้ต่างประเทศ รัฐบาลที่แล้วได้ทำวงเงินกู้ต่างประเทศไว้เพื่อใช้จ่ายในหลายเรื่องในโครงการต่าง ๆ บ้าง ในการปรับโครงสร้างหนี้บ้าง ในการปรับโครงสร้างพื้นฐานบ้าง ก็ปรากฏว่าได้กู้มาประมาณ 12 พันล้านเหรียญสหรัฐก็ประมาณ 5 แสนล้านบาท ได้เบิกจ่ายมาแล้ว 5 พันกว่าล้านเหรียญ ยังเหลืออยู่ 7 พันกว่าล้านเหรียญ ก็ประมาณอีก 3 แสนล้านบาทยังไม่ได้เบิก เบิกมาแล้ว 2 แสนกว่าล้านบาท ก็ได้รับรายงานมาจากกระทรวงการคลัง ผมเลยบอกกับรัฐมนตรีไปว่าขอให้ตรวจสอบเงินกู้ในโครงการต่าง ๆ ที่เหลืออีก 7 พันกว่าล้านเหรียญนั้นว่าควรจะเบิกต่อหรือไม่เบิกต่อ ด้วยพื้นฐานในการมอง 4 อย่าง คือ 1.ดูว่าโครงการเหล่านั้นโปร่งใสหรือไม่ถ้าไม่โปร่งใสให้ยกเลิก 2.ให้ดูว่ามีความจำเป็นในการกู้เพื่อทำโครงการนั้นหรือไม่ คือโครงการนั้นมีประสิทธิภาพมีความจำเป็นหรือไม่ ถ้าไม่มีประสิทธิภาพไม่มีความจำเป็นก็ให้ยกเลิกเสีย 3.ถ้ามีความจำเป็นแต่ไม่มีประสิทธิภาพก็ทำให้มีประสิทธิภาพเสีย 4. ถ้ามีประสิทธิภาพและมีความจำเป็นก็ให้เร่งรัดเบิกจ่ายและทำโครงการนั้นเสียเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น เราดูเพียงแต่ขั้นตอน สุดท้ายว่าถ้ายังมีประสิทธิภาพแล้วถ้ามีความจำเป็นก็ถึงจะเบิกจ่าย เพื่อที่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่โปร่งใสอย่าทำ เพราะมันไปก่อหนี้ผูกพันทำให้คนรุ่นหลังต้องมานั่งใช้หนี้กัน อันนี้ก็ได้กำชับไป
มาตรการพัฒนาตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้
เรื่องต่อไปคือเรื่องนโยบายตลาดทุนที่เกิดจากผลพวงจากการทำเวิร์กช็อป เรื่องการพัฒนาตลาดทุนตลาดตราสารหนี้ที่โรงแรมรีเจ้นท์เมื่อสองเดือนที่แล้ว ก็ได้มีมาตรการออกจาก ครม.เรียบร้อยแล้วเพื่อเป็นการลดภาษีกระตุ้นให้บริษัทเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น โดยที่ลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25% ในบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในช่วง 3 ปีนี้และให้เพียงแค่ 5 รอบบัญชี เพราะฉะนั้นก็จะมีบริษัทที่สนใจเข้ามาสู่ตลาดหลักทรัพย์ ส่วนบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เราก็ต้องให้สิทธิ์ไม่เช่นนั้นพวกนี้ออกไปอีก เพียงแต่เรากำหนดวงเงินกำไรขั้นสูงไว้ต้องไม่เกิน 300 ล้านบาท ถ้าได้ประโยชน์ 5% คือได้ประโยชน์มากที่สุดไม่เกิน 15 ล้านเท่านั้น เพราะเราไม่ต้องการให้เสียภาษีเยอะ 15 ล้านนี้เราคิดว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการที่บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์นั้นจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าบริษัทที่อยู่ข้างนอก ส่วนบริษัทเล็ก ๆ ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ก็จะได้รับการลดภาษีจาก 30% เหลือ 20% ซึ่งบริษัทพวกนี้เป็นบริษัทขนาดเล็ก เรื่องตลาดตราสารหนี้เราได้มีการลดภาษี ไม่ใช่ลดภาษีครับเป็นการคิดภาษีที่เป็นธรรมเป็นภาษีที่เกิดจากภาษีสุทธิจริง ๆ ไม่ใช่ว่าขาดทุนบ้างกำไรบ้าง คิดแต่กำไรขาดทุนไม่เอามาหักให้ ซึ่งทำให้ตลาดตราสารหนี้ไม่เกิด ก็เป็นนโยบายที่ผมเคยพูดไว้ตอนระหว่างรณรงค์ว่าวันนี้เราจะต้องกระจายเศรษฐกิจไป 3 ส่วนคือ เงินต้องอยู่ในธนาคาร อยู่ในตลาดทุน อยู่ในตลาดตราสารหนี้ ถ้าเราเอาเงินไว้ในระบบธนาคารเพียงที่เดียว เมื่อมีปัญหาในระบบธนาคารอย่างที่ผ่านมาก็ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักนาน จึงต้องกระจายเงินของประเทศไปอยู่ในส่วนต่าง ๆ เมื่อมีส่วนใดส่วนหนึ่งเสียหายอีกส่วนหนึ่งก็ยังทำงานได้อีก
ขอให้ธนาคารรัฐปล่อยกู้โดยมองอนาคตของลูกค้า
ผมได้เรียกธนาคารของรัฐมาพูดคุยกันเมื่อวันพฤหัสบดี ก็บอกกับเขาถึงแนวคิดในการปล่อยกู้เพราะว่าเวลานี้ทุกคนก็ปลอดภัยไว้ก่อนไม่ปล่อยดีกว่า ผลสุดท้ายเศรษฐกิจก็เลยไม่เดิน ผมเลยสอนเขาว่า ในการปล่อยกู้นั้นต้องมองอนาคตว่าลูกค้ายังมีอนาคตหรือไม่ ถ้ามีอนาคตต้องส่งเสริมไม่ใช่มองแต่อดีตแล้วก็กลัว ถ้ามองอดีตแล้วกลัวก็คงปล่อยกู้ไม่ได้ ผมเลยยกตัวอย่างตัวผมเองเมื่อสมัยที่ผมลำบาก ผมก็เป็นหนี้เอ็นพีแอลเก่าในระบบธนาคารมา ผมเป็นเอ็นพีแอลผมขอกู้เพิ่มธนาคารไม่ยอม ผมก็พยายามเจรจากับธนาคารให้เห็นว่า ธนาคารไม่มีความเสี่ยงอะไรกับผมเลย แต่ถ้าธนาคารไม่ให้ผมกู้ก็รอผมล้มละลายเท่านั้นเอง ผมก็พัง ธนาคารก็พังไม่เกิดประโยชน์อะไร ธนาคารลองดูอนาคตผมสิ ถ้าผมมีอนาคตอย่างนี้ให้ผมกู้แล้วผมจะมีปัญญาใช้หนี้เก่าในอดีตธนาคารเห็นช่องทางและปล่อยกู้ผม ผมจึงมีวันนี้นี่คือวิธีที่ผมอธิบายกับธนาคารว่าต้องมองอนาคตอย่ามองแต่อดีต เพื่อที่จะให้คนไทยได้มีโอกาสตั้งหลักใหม่เสียที นั่นคือสิ่งที่ผมได้พูดกับบรรดาธนาคารที่รัฐได้ใช้เงินภาษีอากรของประชาชนไปอุ้มมาไปยึดมา นี่เป็นสิ่งที่ผมได้ทำไป
ร่างกฎหมายทีเอเอ็มซีจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อังคารที่จะถึงนี้
ส่วนอีกเรื่องที่ได้มีความก้าวหน้าคือ การตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (ทีเอเอ็มซี) ซึ่งเป็นผลจากการทำเวิร์กช็อป วันนี้กฎหมายเสร็จแล้วครับ วันอังคารนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจะพยายามออกมาใช้ให้ได้ประมาณต้นเดือนมิถุนายน เพื่อที่จะจัดตั้งทีเอเอ็มซีเอาหนี้เสียออกจากระบบธนาคารของรัฐ และหนี้เสียที่มีเจ้าหนี้มากกว่า 2 ราย จากธนาคารเอกชนออกมาบริหารเพื่อทำให้เกิดการคล่องตัวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและทำให้ธนาคารพร้อมจะปล่อยกู้หากเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
รัฐบาลยืนยันจะทำงานกันอย่างเต็มที่
ก็เรียนความก้าวหน้าให้พี่น้องประชาชนทราบว่า หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี่คือส่วนที่รัฐบาลได้
ทำในส่วนที่นายกรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังมีส่วนที่รัฐมนตรีทำที่นายกรัฐมนตรีไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องอีกมากมาย ก็ขอเรียนว่ารัฐบาลนี้ทำงานกันอย่างเต็มที่เพราะรู้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจยังไม่เป็นที่น่าไว้ใจ พี่น้องประชาชนยังลำบากอยู่ ก็ต้องเรียนว่างานข้างหน้านั้นค่อนข้างที่จะต้องเร่งทำกันครับ เพียงแต่ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีกำลังและให้ความไว้วางใจ รัฐบาลจะทำหน้าที่ให้เต็มที่ครับ ก็ขอขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับเวลาในเสาร์นี้ครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
--------------------------------------
ฝ่ายวิเคราะห์ข่าว สำนักโฆษก
จินตนา/ถอดเทป/พิมพ์
Resource: //www.thaigov.go.th/webold/news/speech/thaksin/sp26may44.htm
Create Date : 12 มีนาคม 2551 |
Last Update : 12 มีนาคม 2551 15:28:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 767 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|