" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
0091. IDEAS ARE FREE : 1 ใน 109 หนังสือควรอ่าน จาก นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร





เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดเชียงราย ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แนะนำหนังสือให้คณะรัฐมนตรีอ่าน 2 เล่ม เล่มแรกคือ
Idea are Free....


Create Date : 11 มีนาคม 2551
Last Update : 11 มีนาคม 2551 17:07:27 น. 4 comments
Counter : 958 Pageviews.

 
แนวคิด Ideas are Free หรือ ความคิดไร้ขีดจำกัด

Resource:ความคิดไร้ขีดจำกัด Idea are Free


โดย: แนวคิด Ideas are Free หรือ ความคิดไร้ขีดจำกัด (moonfleet ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:17:09:42 น.  

 
ความคิดไร้ขีดจำกัด ปฏิวัติความคิดเพื่อพลิกโฉมองค์กร

โดย ปานจิต จินดากุล
นักพัฒนาระบบราชการ 7

ความคิดไร้ขีดจำกัด ปฏิวัติความคิดเพื่อพลิกโฉมองค์กร
รูปแบบ file pdf.จำนวน 14 หน้า

Resource://www.forest.go.th/psdg/Ideas%20are%20Free.pdf


โดย: ความคิดไร้ขีดจำกัด ปฏิวัติความคิดเพื่อพลิกโฉมองค์กร (moonfleet ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:17:13:28 น.  

 
สุทธิชัย หยุ่น


'Ideas are Free' ...ในบริบทของระบอบทักษิณฟัง...แต่ไม่ได้ยิน
นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดถึงหนังสือ 'Ideas are Free' ของนักเขียนมะกันสองคนที่ชื่อ Alan G. Robinson กับ Dean M. Schroeder บ่อย แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจความหมายจริงๆ ของเรื่องหรือเปล่า?
เพราะถ้าเข้าใจจริงๆ ทักษิณก็จะไม่ดูถูกเหยียดหยามความเห็นของคนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯ อยู่เป็นอาจิณ

ประเด็นหลักของหนังสือเล่มนี้บอกว่า การฟังความเห็นของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน จะต่ำต้อยในองค์กรเพียงใด (เขายกตัวอย่างความเห็นของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง) ก็ย่อมจะมีความสำคัญ สามารถ 'ปลดแอก' คน และปรับเปลี่ยนองค์กรได้ด้วยซ้ำไป

ซึ่งก็ไม่ใช่แปลกใหม่อะไรหนักหนา เป็นเรื่องที่สังคมไทยได้รับรู้มานมนานแล้ว ต่างกันเพียงแต่ว่าใครฟังความเห็นของคนอื่นจริงๆ เพียงใด, ฟังแล้วเอาไปพิเคราะห์และหาทางแก้ปัญหาอย่างไร

ไม่มีใครไม่รู้ว่า ความคิดความอ่านของคนอื่น เป็นเรื่องน่าสนใจและสำคัญ เพราะคนไทยเองก็มีสุภาษิตว่า 'จิ้งจกทักยังต้องฟัง'

ทำไมทักษิณจึงอ้างชื่อหนังสือเล่มนี้บ่อยๆ ในช่วงหลัง?

วิเคราะห์ได้ว่า เพราะทักษิณถูกวิจารณ์ว่าไม่ยอมฟังความเห็นใคร บ่อยครั้งที่ผู้คนอยากรู้ว่าใครในแวดวงรอบๆ นายกฯ จะกล้าแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากเจ้าตัว

ข่าววงในบอกด้วยซ้ำไปว่า คนที่อยู่ 'วงใน' ที่ทักษิณ 'ใช้' งาน (โดยไม่จำเป็นว่าจะต้อง 'ฟัง' ความเห็น) เป็นหลักนั้น ค่อยๆ ลดจำนวนลงทุกที

คนที่เห็นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ นั้น ไม่ค่อยจะสามารถ 'เจาะ' เข้าชั้นในของนายกฯ ได้มานานแล้ว

ดังนั้น ที่ทักษิณบอกว่า ideas are free เพื่อเน้นว่าตัวเขาฟังความเห็นของทุกคนนั้น เห็นทีจะไม่จริง เพราะคนที่มีโอกาสใกล้ชิดเพื่อแสดงความเห็น โดยเฉพาะความเห็นที่ไม่ตรงกับของท่านผู้นำนั้นยิ่งนับวันก็ยิ่งหดตัวเหลือไม่กี่คน... และเป็นไม่กี่คนที่ 'ขอรับกระผม' เสียมากกว่า

เพราะทักษิณผ่านเพียงผิวเผิน (หรือเพียงมีใครมาเล่าให้ฟัง, ไม่ได้อ่านเอง) จึงพูดได้แต่เพียงว่าการฟังความคิดเห็นคนอื่น เป็นเรื่องสำคัญ (พูดให้คนอื่นทำ, แต่ทำเองหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง) เพราะความจริงเนื้อแท้ของหนังสือนั้นบอกว่า เพียงแต่ฟังความเห็นของคนในองค์กรนั้นไม่พอ

ที่สำคัญกว่าการฟัง คือการจัดให้เกิด 'วัฒนธรรมองค์กร' ที่จะต้องรับรู้ความเห็นต่างๆ เหล่านี้อย่างรวดเร็วและได้ผล จากนั้นก็จะต้องนำไปใช้เพื่อปรับปรุงองค์กรเองอย่างเป็นขั้นเป็นตอนที่แน่นอน

'ความเห็น' ของคนในองค์กร เป็นเพียง 'ตัวกระตุ้น' เพื่อการแก้ไขและปรับปรุงให้ทุกอย่างดีขึ้น มิใช่เป็น 'จุดหมายปลายทาง' ในตัวมันเอง

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ผู้นำที่อ้างเพียงว่า 'ฟังความเห็น' ของประชาชน แต่ไม่มีกระบวนการ, ไม่มีกลไก, และไม่มีความจริงใจที่จะไปนำใช้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาของประเทศชาติอย่างแท้จริงนั้น ย่อมไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

หนังสือเล่มนี้อ้างถึงการไปวิจัยองค์กรใหญ่ๆ ของโลกต่างๆ เช่น โตโยต้าของญี่ปุ่นที่สร้างวัฒนธรรมภายในเพื่อรับฟังความเห็นจากพนักงานทุกแผนกปีละ 1 ล้านความเห็น แล้วนำไปสร้างให้เกิดผลทางปฏิบัติอย่างแท้จริง

ท่านผู้นำคนนี้ ฟัง 'ideas' จากใครแค่ไหน? ที่ผ่านมา ยังไม่เคยได้ยินว่าท่านเอาความคิดความเห็นของลูกน้องคนไหนมาปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะส่วนใหญ่เราจะได้ยินว่าท่านผู้นำคิดเรื่องใหญ่ๆ สำคัญๆ ต่อบ้านเมืองเองเสียมากกว่า

หรือไม่เขาก็สั่งการลงไปให้ลูกน้องทำโน่นทำนี่

แต่ถ้าเป็นความเห็นที่มาจากคนที่ไม่เห็นพ้องกับเขา หรือวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหรือแนวทางที่ทำอยู่ จะได้ยินเสียงตอบโต้กลับมาอย่างรวดเร็วและกะทันหัน เผลอๆ อาจจะถูกกล่าวหาว่าไม่รักชาติหรือต้องการจะล้มล้างรัฐบาลด้วยซ้ำไป

ดังนั้น คำว่า ideas are free ที่ทักษิณเอามาพูดบ่อยๆ ในช่วงหลังนั้น เป็นเพียงการอ้างหนังสือฝรั่งให้ฟังดูขลังเท่านั้น แต่ไม่ได้มีความหมายอะไรที่จะทำให้เชื่อได้ว่าต่อแต่นี้ความเห็นของประชาชนจะมีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายของประเทศ

เพราะแนวทาง 'ประชานิยม' นั้น คือการที่ผู้นำแจกจ่ายเงินทองและข้าวของจนไม่รู้จักพึ่งพาตัวเอง และต้องฟังแต่เฉพาะความเห็นจากท่านผู้นำเท่านั้น

'ความเห็น' จากรากหญ้าเอาไว้เป็นเรื่องแสดงสร้างภาพผ่านทางสื่อของรัฐเพื่อเสริมฐานะของผู้นำเท่านั้นเอง

ไม่ได้มีส่วนช่วยแปรโฉมของประเทศอย่างที่ฝันลมๆ แล้งๆ ภายใต้บรรยากาศการเมืองวันนี้แต่ประการใดเลย

Resource:
//www.nationweekend.com/2006/02/17/NW11_113.php?NewsID=19942110


โดย: 'Ideas are Free' (moonfleet ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:17:14:43 น.  

 
โครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ (Self-Learning Tool kits)


สำนักงาน ก.พ.ร. โดยความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ได้จัดทำชุดเครื่องมือการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Learning Tool Kits) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนผู้สนใจทั่วไปได้มีความรู้ความเข้า ใจในเรื่องของการบริหารยุทธศาสตร์อย่างกว้างขวางมากขึ้นรวมทั้งสามารถนำไปใช้ ประโยชน์์ในการปฏิบัติงานจริงอีกทั้งเน้นให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจได้อย่างง่าย และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งในเบื้องต้นมุ่งเน้นใน 7 หัวข้อวิชา ได้แก่
แผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy Map)

การกำหนดตัวชี้วัดระดับบุคคล (Individual Scorecard)
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) คลิก Download File
การบริหารความเปลี่ยนแปลง (Change Management)
การจัดการความรู้ (Knowledge Management)
ความคิดไร้ขีดจำกัด (Ideas are Free)
คู่มือการปฏิบัติงาน ( Work Manual) คลิก Download File
เนื่องจากการจัดทำยุทธศาสตร์ใดๆมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับผิดชอบ ควรมีหลักการในการคิดที่สามารถเห็นความเชื่อมโยงของส่วนต่างๆที่จะนำพาให้ ยุทธศาสตร์ที่วางไว้ประสบผลสำเร็จได้การจัดทำ Strategy Map หรือ แผนที่ ยุทธศาสตร์ (1)นอกจากช่วยให้ผู้รับผิดชอบในการจัดทำยุทธศาสตร์มีการคิดอย่างเป็นระบบแล้วยังทำให้ สามารถวางยุทธศาสตร์ย่อยที่จะมาสนับสนุนการดำเนินงานของยุทธศาสตร์ใหญ่ให้สำเร็จ ได้ยิ่งไปกว่านั้น Strategy Map ยังเป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างผู้จัดทำยุทธศาสตร์ และผู้ที่ต้องปฏิบัติงานให้เห็นความสำคัญในการปฏิบัติงาน และการดำเนินงาน ของยุทธศาสตร์ แต่ละส่วนที่ต้องจัดทำให้สอดคล้องกัน และสนับสนุนซึ่งกันและกัน

ในการจัดทำให้ยุทธศาสตร์ประสบความสำเร็จนั้น Risk Management หรือการบริหารความเสี่ยง (2) เป็นเรื่องที่ผู้จัดทำยุทธศาสตร์จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเรียนรู้เพื่อทำการสำรวจปัจจัยต่างๆที่จะทำให้ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามยุทธศาสตร์ ที่วางไว้ ดังนั้นเรื่องการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่ผู้จัดทำยุทธศาสตร์จะต้องเรียนรู้ควบคู่กัน ไปในการจัดทำยุทธศาสตร์ในช่วงเริ่มต้น

หลังจากจัดทำยุทธศาสตร์เสร็จแล้วการดำเนินงานให้ยุทธศาสตร์เกิดสัมฤทธิ์ผลนั้น Change Management หรือ การบริหารความเปลี่ยนแปลง (3) เป็นเรื่องที่ผู้บริหาร จำเป็นต้องเรียนรู้ว่าจะจัดการกับระบบงานโครงสร้างการทำงานและบุคลากรที่ทำงานอยู่อย่างไร เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ยุทธศาสตร์ได้วางไว้ วัฒนธรรมองค์การและการมีส่วน ร่วมทางความคิดของผู้ที่มีส่วนได้เสียใน การเปลี่ยนแปลงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการเปลี่ยนแปลง หากผู้บริหารได้เรียนรู้แนวทาง การคิดแบบการกระตุ้นให้เกิดการคิดเพื่อ การเปลี่ยนแปลง “ความคิดไร้ขีดจำกัด” Ideas are Free (4) ซึ่งเป็นการทำให้เกิด การมีส่วนร่วมในการคิดทำการเปลี่ยนแปลงองค์การอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้บริหารในการ จัดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์การ และการบริหารความเปลี่ยนแปลง

ในขั้นตอนการดำเนินยุทธศาสตร์ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ การกำหนด ผู้รับผิดชอบหรือเจ้าภาพที่ชัดเจนพร้อมตัวชี้วัดเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งผู้บริหารยุทธศาสตร์ ควรได้รับความรู้ในการจัดทำ Individual Scorecard หรือ การกำหนดตัวชี้วัดระดับบุคคล (7) ผู้บริหารยุทธศาสตร์ควรมีความรูู้้และหลักการในการกำหนดผลงานระดับบุคคล และการกำหนดตัวชี้วัดผลงาน เพื่อให้งานในกำกับเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้

ส่วนการดำเนินงานเพื่อให้ยุทธศาสตร์มีความยั่งยืน และมีการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่องการจัดทำ Knowledge Management หรือการจัดการความรู้ (5) เป็นเรื่องที่จะทำให้ผู้บริหารยุทธศาสตร์มีความสามารถในการจัดการความรู้ที่มีอยู่ ทั้งในตัวบุคคล และในองค์การมาจัดทำให้เกิดการเรียนรู้ในการทำงานอย่างเป็นระบบ มีการจัดทำบันทึกความรู้ วางกระบวนการในการแลกเปลี่ยนความรู้ และบริหารความรู้ เพื่อให้บุคลากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สามารถนำความรู้มาใช้ต่อยอดความคิด ของตนจนเกิดเป็นนวัตกรรมได้ในอนาคต

ส่วนสุดท้ายที่จะทำให้การบริหารยุทธศาสตร์เกิดเป็นผลในทางปฏิบัติ และมี มาตรฐาน ในการทำงานการมีความรู้ในการจัดทำ Work Manual หรือคู่มือการ ปฏิบัติงาน (6) เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้บริหารยุทธศาสตร์ควรมีความรู้ในเรื่องนี้ เพื่อสามารถกำหนดและติดตามให้ผู้ปฏิบัติงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ มีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน อันจะทำให้เกิดเป็นมาตรฐานการทำงานที่ดี และเป็นไปตามกระบวนการได้ผลงานตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้


Resource://www.opdc.go.th/content.php?menu_id=5&content_id=637


โดย: โครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ (moonfleet ) วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:17:16:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.