BlogGang.com : : moonfleet : 0126. 30 เมษายน 2544 คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่องหนึ่งตำบล

0126. 30 เมษายน 2544 คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่องหนึ่งตำบล

คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่องหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2544 เวลา 09.50 น.

--------------------------------------------------------------------------------

ท่านรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย
ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย
ท่านผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่าน
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดโออิตะ มร.โมริฮิโกะ ฮิรามัทซึ

ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในการเปิดการสัมมนาเรื่องหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้กับท่านในวันนี้ และรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ มร.โมริฮิโกะ ฮิรามัทซึ ผู้ว่าราชการจังหวัดโออิตะจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกถึงการส่งเสริมให้ชุมชนของเขาเข้มแข็งโดยการมีอาชีพที่มั่นคงสามารถที่จะสร้างให้มีผลิตภัณฑ์ประจำตำบล จนทำให้ประชากรของเมืองที่จังหวัดโออิตะนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวที่ 27,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณเดือนละ 100,000 บาทโดยประมาณ ซึ่งผมบอกว่าผมไม่ฝันมาก ขอให้ชาวบ้านของเราได้แค่ 5 เปอร์เซ็นต์คือเดือนละ 5,000 บาท เราก็มีความสุขแล้ว เมื่อผมได้เห็นแผนที่ของจังหวัดโออิตะโดยการใส่ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวลงไป ผมเห็นแล้วผมมีความรู้สึกว่าถ้าแผนที่อย่างนั้นอยู่ในประเทศไทยผมคงมีความสุขมาก นั่นก็คือว่าประชาชนมีอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ แล้วจังหวัดไหนที่มีศักยภาพ สินค้าไหนที่มีศักยภาพ ขายได้ออกไปต่างประเทศด้วยก็ยิ่งมีส่วนช่วยทั้งประเทศไทยทั้งตัวเขาเองทั้งท้องถิ่น

ผมเห็นแล้วทำให้ผมนึกถึงว่านโยบายที่รัฐบาลได้วางไว้นั้น เป็นนโยบายที่เกื้อกูลกันเพื่อทำให้ประชาชนช่วยตัวเองได้ แต่ในเบื้องต้นพวกเราจะต้องผลักดันทุกอย่างเพื่อให้เขาเกิดความคิดร่วมกันทำร่วมกัน โดยที่เราไม่ไปครอบงำความคิดของเขา แต่อย่างน้อยคือกระตุ้นให้เกิดภาวะการรวมตัว ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ชาวบ้านเวลามีงานวัดงานบุญทั้งหลายเขารวมตัวกันไปทำงานอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเป็นธรรมชาติของเขาอยู่ แต่เพียงแต่ว่าถ้าหากเรามีจุดให้เขาเลือกให้เขาสนใจ เขาจะมีโอกาสที่จะรวมตัวกันแบบนั้นอีกในการที่จะสร้างเป็นอาชีพเป็นผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่น ซึ่งผมขอเรียนว่าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้หมายความว่าตำบลเดียวต้องมีหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือว่าหนึ่งผลิตภัณฑ์ต้องอยู่ในตำบลเดียว ซึ่งบางผลิตภัณฑ์อาจจะรวมกัน 2 ตำบล 3 ตำบล ใกล้เคียงกัน มันเป็นแต่เพียงชื่อเรียกแต่ไม่ได้ตายตัวอย่างนั้นนะครับ ซึ่งต้องให้เข้าใจกัน

นโยบายของรัฐบาลนั้นที่เกื้อกูลก็เพราะว่า นโยบายแรกคือเรารู้ว่าวันนี้ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรส่วนใหญ่ลำบากเพราะมีหนี้สิน ก็จึงเริ่มต้นที่การพักชำระหนี้เพื่อให้มีช่วงหายใจ มีจิตใจมีสมองที่จะคิดในการตั้งหลัก เพื่อที่จะสร้างชีวิตใหม่ของเขา ขั้นที่ 2 ก็เริ่มต้นด้วยการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านถ้าไม่มีแนวคิดที่จะทำให้เขากู้เงินไปทำอะไร ก็จะเสียหายอีก เพราะฉะนั้นหนึ่งผลิตภัณฑ์ต่อหนึ่งตำบลจึงเป็นแนวคิดที่จะทำให้เขาช่วยกันคิด แล้วก็สามารถที่จะกู้เงินไปประกอบอาชีพ ไปสร้างอาชีพของเขา ซึ่งอาจจะเป็นการรวมกันหรือแยกกันก็แล้วแต่ศักยภาพของแต่ละคนและครอบครัว พอหลังจากนั้นเมื่อเงินทุนตรงนี้ไม่พอก็ยังมีธนาคารประชาชนมารองรับ นอกนั้นยังไม่พอท่านคงจำได้ว่าเรากำลังจะเร่งทำเรื่องของอินเตอร์เน็ตตำบล ซึ่งก็จะเป็นช่องทางในการที่จะทำให้ประชาชนได้ขายสินค้าของเขาหรือว่าได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ของเขาผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งถ้ามีทุกตำบล 7,000 ตำบล ความเชื่อมโยงกันระหว่างความรู้ที่อยากรู้ อยากศึกษา หรือแม้กระทั่งเชื่อมโยงไปที่โออิตะ ก็สามารถที่จะสอบถามอาจารย์ใหญ่ที่โออิตะได้ว่าสิ่งที่ทำนี่ถูกไหม ให้อาจารย์ใหญ่ได้ตรวจข้อสอบได้ตลอดเวลา ซึ่งก็จะทำให้เราได้มีการพัฒนาที่ถูกทางอย่างต่อเนื่อง

นโยบายทุกนโยบายนั้นเป็นนโยบายที่กลับไปที่การสร้างชีวิตใหม่ให้กับประชาชนไทย ให้เขาพึ่งตนเองได้ ให้เขามีโอกาสสร้างความมั่งคั่งด้วยศักยภาพของเขาหลังจากที่เขาช่วยตัวเองรอดแล้ว แล้วก็จะไปเชื่อมโยงแนวของร้านค้าตัวอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ซึ่งท่านได้ตั้งร้านค้าตัวอย่างที่ได้เรียกว่า Golden Place หรือสุวรรณชาติ ขึ้นมา 4 – 5 แห่ง ร้านค้าตัวอย่างนี้เป็นร้านค้าที่ขายสินค้าของชาวบ้าน ซึ่งในอนาคตข้างหน้าเมื่อผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลต่อหนึ่งผลิตภัณฑ์ได้รุดหน้าขึ้นไป เราก็จะสามารถที่จะตั้งร้านค้าแบบนี้ ให้เป็นเครือข่ายที่จะขายสินค้าของชาวบ้านได้ตลอดไปตลอดทั้งประเทศ แล้วในอนาคตก็เชื่อมโยงกับโลกได้ เราก็ฝันว่าสิ่งเหล่านี้เราจะพยายามช่วยกันทำ

ท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้จะเป็นกลไกที่สำคัญ เป็นกลไกที่เป็นพี่เลี้ยงแต่อย่าเป็นกลไกที่ชี้นำและครอบงำให้เขา วิธีคิดวิธีปฏิบัติอาจจะต้องเปลี่ยนต้องปรับแล้วต้องทำความเข้าใจ ถ้าท่านทั้งหลายมีความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้อย่างถ่องแท้ เรื่องทุกเรื่องการตั้งต้นมันอยู่ที่การออกแบบ เราจะปลูกบ้านเราตั้งต้นที่แนวคิดว่าเราอยากได้บ้านแบบไหน เมื่อออกแบบมาแล้วเจ้าของบ้านต้องดูให้ดีให้มั่นใจว่าแบบนี้มันถูกตามที่ต้องการจริง ถ้าไม่เช่นนั้นเราก็จะสร้างบ้านบนแบบที่ผิด ถ้าหากว่าเราไม่ตรวจแบบให้ตรงกับปรัชญาหรือแนวคิดของเราก่อน

วันนี้หนึ่งตำบลต่อหนึ่งผลิตภัณฑ์นั้นผมต้องการให้ผู้ที่ประสบผลสำเร็จแล้วได้มาเล่าให้พวกเราฟัง แล้วขอความกรุณาบางคนอาจจะมีประสบการณ์ไปแล้ว ต้องทิ้งประสบการณ์เดิมของเรา ลองฟังเขาใหม่ ลองฟังแล้วหันไปดูประสบการณ์เดิมของเราว่าเราต้องปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ถ้าหากว่าเราเป็นน้ำเต็มแก้วแล้วเราจะไม่รับ พอนั่งฟังเขาบอกฟังทำไมผมทำมาแล้วผมสำเร็จ อย่าเพิ่งครับบางทีเราลองดูอาจจะมีอะไรที่ดีกว่านี้ แล้วลองเราปรับเปลี่ยน แล้วเราจะได้ช่วยให้ชาวบ้านของเรานั้นได้รอดพ้นจากความทุกข์ยาก แล้วจะเป็นความสุขของพวกเราทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้

ท่านที่เคารพครับ ผมอยากเห็นวิธีคิดในเชิงปรัชญาให้มีความมั่นคงในแนวคิดในเชิงปรัชญา ถ้าไม่เช่นนั้นมันจะคิดบนความรู้สึก เราจะคิดจากความมั่นใจในตัวเองซึ่งไม่มีใครถูก 100 เปอร์เซ็นต์และไม่มีใครผิด 100 เปอร์เซ็นต์ วันนี้ผมหวังว่าแนวคิดประสบการณ์ของท่านผู้ว่า ฯ โมริฮิโกะ ฮิรามัทซึ จากโออิตะ คงจะมาประยุกต์ให้ท่านฟัง แล้วท่านนำไปประยุกต์ปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมของคนไทยเรา และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมต้องขอเรียนว่า บางคนไม่มีประสบการณ์ทำงานกับชาวบ้านที่ประสบผลสำเร็จ เราคิดว่าชาวบ้านทำไม่ได้ แต่ว่ามีตัวอย่างของชาวบ้านที่ทำงานสำเร็จมาแล้วหลายที่ แล้วผมประทับใจมาก แล้วสิ่งเหล่านั้นบางที่บางครั้งไม่สามารถที่จะถ่ายทอดไปยังในจังหวัดหรือในตำบลที่ยังไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นพวกเราจะต้องช่วยกันนำสิ่งที่เร็จในที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง แต่ไม่ใช่เป็นการเลียนแบบผลิตภัณฑ์ มิฉะนั้นเราจะมีผลิตภัณฑ์ที่ซ้ำกันทั้งประเทศแล้วก็ขายไม่ได้

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ แล้วสิ่งที่เรากำลังทุ่มเทให้กับตรงนี้นั้น ผลสุดท้ายแล้วก็คือต้องขายได้ ถ้าขายไม่ได้ไม่มีประโยชน์ ทำเป็นแล้วขายไม่ได้ไม่มีประโยชน์ ทำเป็นแล้วต้องขายได้เพราะฉะนั้นจะขายได้อย่างไร ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านผมคงต้องขอให้ท่านมาเรียนวิชาการตลาด แล้วท่านเองจะต้องทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนของสินค้าของชาวบ้านร่วมกับผม ผมก็จะเป็นเซลล์แมนที่ขายสินค้าของชาวบ้านแต่ผมเป็นเซลล์แมนสาขาต่างประเทศ ท่านเป็นเซลล์แมนในประเทศก็แล้วกัน แล้วเราช่วยกันเพราะผมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำงานเหมือนกัน ทำงานแบบเดียวกันแต่ว่าบทบาทที่ต่างกันเท่านั้นเอง ผมจะต้องทำต่างประเทศท่านทำในประเทศ แล้วเราเชื่อมโยงกัน

ต่อไปนี้ผมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดอาจจะเข้าห้องเรียนด้วยกันบ่อยหน่อย เพราะว่าเรายังต้องเรียนรู้ตลอด เพราะถ้าเราไม่เรียนรู้ตลอดเราไม่สามารถปรับตัวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ท่านอย่าเพิ่งบอกว่าท่านแก่เกินเรียนแล้วนะครับ ผมยังอยากเรียนอยู่ เพราะฉะนั้นเราเรียนด้วยกันใหม่ เพื่อที่เราจะได้ช่วยชาวบ้านให้ถูกทางถูกวิธี ผมเชื่อว่าจิตใจท่านอยากช่วยนั้นมีอยู่แล้ว แต่บางครั้งการถูกทางถูกวิธีนั้นบางทีต้องยอมเรียนครับ ตอนก่อนที่ผมจะฟังผมเห็นโบชัวร์ของเขาครับ ผมเปิดโบชัวร์แล้วผมตื่นเต้นมาก ผมตื่นเต้นจริง ๆ ผมอยากเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศไทยในวงกว้าง ผมเห็นแผนที่จังหวัดเดียวของเขามีสินค้าแน่นไปหมด ผมบอกว่าของเราไม่ต้องแน่นขนาดนี้ก็ได้ ขอให้มีความหลายคล้ายอย่างนี้แล้วกระจายทั่วประเทศ ไม่ต้องแน่นอย่างนี้ผมก็ดีใจแล้ว

ผมก็ไม่ได้หวังมากไม่ได้ฝันทะเยอทะยานมาก แต่อย่างน้อย ๆ จุดเริ่มต้นต้องเกิด ที่เขาทำรายได้เดือนละ 100,000 บาทต่อคน ผมบอกขอ 5,000 ขอแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นหวังว่าด้วยความพยายามของทุก ๆ ท่าน เราคงจะช่วยกันได้เต็มที่ หวังว่าท่านคงจะพยายามทำความเข้าใจกับมัน แล้วเราจะทำงานด้วยกันครับ เพื่อประชาชนของเรา ลำพังผมเองผมมีแต่ความคิดผลักดัน ใช้อำนาจทางกฎหมายจัดสรรงบประมาณ แต่คนที่อยู่ใกล้ประชาชน ที่ปฏิบัติจริง ที่เห็นของจริงแล้วช่วยทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จริงนั้นคือพวกท่านทั้งหลาย ไม่ใช่ผม เพราะฉะนั้นผมเอาไม่อยู่หรอก ผมต้องขอท่านต้องจริงจังที่จะช่วยกันแล้วเข้าใจกับมันจริง ๆ แล้วพยายามเข้าใจปรัชญาจริง ๆ ก็ขอให้การสัมมนาครั้งนี้ทำให้ท่านได้มีโอกาสสร้างกุศล ช่วยคนไทยทั้งแผ่นดินได้พึ่งตนเองได้ ได้มีรายได้ที่ต่อเนื่องเพื่ออนาคตลูกหลานของเราจะได้มีเงินเรียนหนังสือ เราจะได้มีลูกหลานคนไทยที่มีการศึกษาดีขึ้นกว่านี้นะครับ ขอขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ

--------------------------------------------------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
วิมลมาส / ถอดเทป / พิมพ์

Resource:
//www.thaigov.go.th/webold/news/speech/thaksin/sp30apr44.htm

Create Date : 12 มีนาคม 2551

Last Update : 12 มีนาคม 2551 14:38:03 น.

0 comments

Counter : 645 Pageviews.