002. บทเรียน จากการแล่นเรือใบ : หนังสือ วาทะเด็ด ของ เท็ด เทอร์เนอร์

"ผู้คนที่เฝ้ารออยู่ ต่างคิดกันไปแล้วว่า
เทอร์เนอร์ คงจะหายสาบสูญไปในทะเลแล้ว
ทว่าทันใดนั้น เรือใบของเขาก็โผล่ออกมา
จากลมพายุ และ กระแสน้ำทะเลที่เชี่ยวกราก
พร้อมเสียงตะโกนโหวกเหวกดังลั่น
ตามแบบที่เขาเป็น"


เรือใบ
n.a sailboat,
a sailing ship,
a windjammer;
(S) a caltrop









"มันไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะเศร้าโศกเสียใจ
เพราะพระราชาได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว
ขอให้พระองค์ จงทรงพระเจริญ
มันจะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ว่าช้าหรือเร็ว
คุณควรจะต้องขอบคุณลมพายุเช่นนั้น
มิฉะนั้น พวกเราทั้งหมดคงจะต้องพูดภาษาสเปนไปแล้ว"









" คุณควรจะต้องมีเรือที่แข็งแกร่ง
พร้อมทั้งลูกเรือ และ อุปกรณ์ที่เตรียมพร้อมไว้ทุกสถานการณ์
ในตอนนั้น ผมมีความรู้สึกเหมือนตนเองเป็นโนอาห์ ซึ่งรู้ดีว่าจะเกิดน้ำท่วม
และ มีเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อม เพื่อจะฟันฝ่า สถานการณ์ นั้น ไปให้ได้"


" มันคงเหมือนกับประสบการณ์โดยทั่วไป
ที่เมื่อคุณรอดพ้นมาได้ คุณจะมีความรุ้สึกที่ดีขึ้น
เราคงจะไม่ไปพูดถึงบุคคลที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว
แต่การที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ เช่นนั้นและรอดชีวิตมาได้
เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ"

" การแล่นเรือใบ ในสภาวะอากาศที่ไม่ราบรื่น คือ แก่นแท้ของกีฬาประเภทนี้"









"ไม่ใช่ว่า ผมไม่มีความห่วงใยผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันที่จมน้ำไป
เพราะผมได้ไปร่วมพิธีไว้อาลัยให้พวกเขาด้วย
และ ร่วมร้องเพลงสวดของชาวเรือด้วยว่า :

โอ้พระผู้เป็นเจ้า ผู้เข้มแข็ง โปรดได้รับฟังเสียงร้องขอจากพวกเรา
เพื่อผู้ที่ได้รับเคราะห์กรรมจากภัยพิบัติทางทะเล"









"เออ.... มันคงเป็นการยากที่จะมีความสุขจริงๆ ในวันนี้
เพราะมีคนหลายคนต้องสังเวยชีวิตในการแข่งขันเรื่อที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
แต่อย่างน้อยที่สุด
พวกเขาคงจะไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับการต้องแล่นเรือใบท่ามกลางลมพายุอีกต่อไป
ซึ่งผมคงจะดีใจ หากโอกาสนั้นมาถึงผมบ้าง"










"มันคงจะทำให้คนให้ความสนใจ และ เอาใจใส่ในเรื่องนี้มากขึ้น
เพราะเราสร้างเรือที่ค่อนข้างบอบบาง คับแคบ
และ ไม่มีความพร้อมอย่างเพียงพอในการออกทะเล
ผมเคยคาดการณ์ไว้แล้วว่า
เหตุการณ์เช่นนี้คงจะเกิดขึ้นสักวัน
เหมือนดัง เช่น ประเทศตะวันตก
ที่ไม่เคยให้ความสนใจขณะที่ฮิตเลอร์กำลังเดินหน้าไป
และ เช่นที่ทุกคนพากันหัวเราะเยาะโนอาห์ในตอนที่เขาสร้างเรือขึ้นมา
มันต้องเกิดความหายนะนี้ขึ้นมาก่อน
คนจึงจะให้ความสนใจกับมัน"



















จงทำต่อไป
เทอร์เนอร์ เคยอธิบายว่า ทำอย่างไร จึงจะชนะการแข่งเรือใบ ว่า...


" คุณ ต้องทำต่อไป...."

"ใครๆ ก็คงจะทำเช่นนี้ได้ หากมีเงิน และ จินตนาการ
เราเริ่มต้นแล้วเราจะทำต่อไปเรื่อยๆ
เหมือนกับอเล็กซานเดอร์ ที่เขาเริ่มต้นจากการที่เอาชนะชาวเปอร์เซีย
และ ทำต่อไป จนเขาสามารถพิชิตได้ทั้งโลก"

















" ถ้าหาก คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส พูดออกสำเนียงชาวใต้ ผมก็คือ คนๆนั้น"









" ครั้งแรก ที่ผมเดินทางไปยุโรป (ในปี 1966)
ผมเดินทางโดยเรือใบขนาดความยาว 38 ฟุต พวกเราแทบจะไม่ได้นอนเลย เราใช้เวลาถึง 20 วัน 20 คืน ลูกเรือทั้งหมด 6 คน มี 2 คนต้องคอยเป็นยามสังเกตการณ์ เราไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางที่ยาวนานเช่นนัน
เราขาดทั้งเสบียงและไม่มีน้ำดื่ม ต้องใช้น้ำทะเลมาปรุงอาหารจากอาหารแห้งที่เรามีอยู่ มันค่อนข้างจะสมบุกสมบัน เรามีอาหารเพียงพอที่จะมีชีวิตรอดเท่านั้น ไม่ว่าใคร หากต้องแข่งเรือข้ามมหาสมุทรด้วยเรือลำเล็กๆ และ ระหว่างทางต้องหลบหลีก ทั้งก้อนน้ำแข็งในทะเลและปลาวาฬ
คุณคงรู้ว่า คุณต้องอยู่อย่างเพียงแค่ให้มีชีวิตอยู่รอดเท่านั้น มันยากที่จะทานอาหาร ตัวคุณเปียกอยู่ตลอดเวลา และ การที่จะไปเข้าห้องน้ำยังเป็นสิ่งที่ยุงยากลำบากเลย"











เทอร์เนอร์ได้ให้ ปรัชญาเรื่อง "จงทำต่อไป" ในการทำธุรกิจด้วย



"วิสัยทัศน์และความอดทนของเขา
ในการที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้นสำเร็จ เป็นตัวขับเคลื่อนกิจการของบริษัท"

ในปี 1986 เทอร์เนอร์ ได้ตั้งข้อสังเกต ไว้ว่า:

"ผมทำได้เกินกว่าเป้าหมายทั้งหมดที่มี แต่ไม่มีอะไรที่จะได้มาอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน หรือ ความสำเร็จส่วนตัวที่ผมตั้งไว้ ในช่วงแปดปีแรกของการแข่งเรือใบของผมนั้น ผมไม่เคยได้รับแม้แต่ชัยชนะในสโมสรของผมด้วยซ้ำ แต่ผมก็พยายามทำต่อไป และ ทำต่อไป และนั่นคือเคล็ดลับในความสำเร็จของผม เวลานี้ผมเป็นเหมือนนักวิ่งที่วิ่งไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งได้พบว่าตัวเองได้วิ่งแข่งในการวิ่งมาราธอนของบอสตัน ผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่เยี่ยมที่สุดอีกต่อไปแล้ว เพราะผมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทีม สิ่งที่ผมกำลังทำ คือ เพียงแต่ขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้นและกว้างขึ้น"










ต่อสู้เหมือนกับคนที่ตกเป็นรอง

ในการแข่งขัน อเมริกา คัพ ปี 1977 " เราจำเป็นที่จะต้องได้รับชัยชนะ เพราะพวกเราเป็นพวกเกียจคร้าน หากมีใครในที่นี้ที่มีเชื้อ "เจ้า" ขอให้ยกมือขึ้น ไม่มีก็ดีแล้ว ผมก็คิดว่าไม่มี และ มีใครบ้างที่มาจากโรงเรียนประถมที่หรูหราบ้าง ไม่มีก็ดีแล้ว เราอาจจะได้รับชัยชนะด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของคอมพิวเตอร์ได้ แต่มันก็ไม่ใช่วิธีการของเรา เพราะเราชอบที่จะต่อสู้ดิ้นรน คนอื่นๆที่ต่อสู้กับเราจะต้องสู้เหมือนนักเลงในแถบบร๊องซ์ และ ควีนส์"


หลังจากที่ได้รับชัยชนะ Southern Ocean Racing Circuit:SORC ในปี 1966 เขาได้อธิบายว่า

"มีปัจจัยหลายอย่างในการประสบความสำเร็จในการเล่นเรือใบ
แต่ทว่า :
คุณคงจะไม่สามารถได้รับชัยชนะ หากคุณไม่ทำงานหนัก มากกว่า คนอื่นๆ"


เรียกร้องในสิ่งที่ดีที่สุด และ ต้องได้รับมัน










" หากพวกเขาเคยนอนค้างคืนกับเทอร์เนอร์ที่กลางทะเล อยู่ในการแข่งขันที่ไม่สามารถจะมองเห็นเรือลำอื่นๆ ทำงานภายใต้การดุด่าว่ากล่าวของกัปตันไปรห์แล้ว พวกเขาคงจะไม่ต้องสงสัยอะไร เทอร์เนอร์เป็นผู้บริหารที่ดีเยี่ยมกลางทะเล เขาเป็นคนที่ให้ลูกเรือทำงานน้อยกว่าตัวเขาเอง และ เป็นคนที่ปราถนาการทำงานเป็นทีม และ เขาสามารถทำมันได้ พร้อมทั้งความแน่นยำ อันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะ"


"จุดเด่นของเทอร์เนอร์ มิใช่เป็นเพราะว่าความสามารถที่มีมาโดยกำเนิด หรือ ความเอาใจใส่ในรายละเอียดและการเตรียมพร้อม ...
แต่มันเป็นเพราะความกระตือรือร้นในการแข่งขัน และ ความสามรถในการเป็นผู้นำของเขาเอง
เขาพยายามผลักดันตัวเองและลูกเรือของเรา ให้เหยียดไปสุดขอบเท่าที่พวกเขาจะสามารถเหยียดได้"

ผมพูดกับตัวเองว่า : "เจ้าเด็กโง่เอ๋ย เจ้ายังเดินหน้าไปได้มากกว่านี้."

"คุณต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ และจะต้องทำในสิ่งที่คนอื่นคาดหวังจากคุณ
ไม่ว่าจะอยู่ในทะเล หรือ บนบก"

"เทอร์เนอร์จะชนะอยู่โดยตลอด เขาไม่เคยแพ้และเขาให้ความรู้สึก เช่นนี้ กับคนที่เดินเรืออยู่กับเขา หรือ ทำงานให้เขา"

"เป็นเพราะความภักดีที่เขามีต่อลูกเรือของเขา และ การที่เขาเป็นผู้ชนะก็มีสวนสำคัญ แต่ ความภักดีเป็นสาเหตุหลัก"

ในตอนที่เขาเตรียมการเข้าแข่งขัน อเมริกา คัพ ในปี 1977

"เท่าที่ผมรู้ ผมต้องได้ในสิ่งที่ผมต้องการ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าผมมีความต้องการสิ่งต่างๆ มากกว่าคนอื่นๆ เมื่อผมต้องการให้สถานีโทรทัศน์ของผมมีดาวเทียม ผมก็ได้มัน ผมต้องการที่จะได้รับชัยชนะในการแข่งขันอเมริกาคัพ และ มันก็ใกล้ที่จะเป็นจริงแล้ว ผมต้องการมีค่าตัว 50 ล้านเหรียญ และ ในอีกสองหรือสามปีค่าตัวนี้อาจจะเพิ่ม เป็นสองเท่า ผู้คนทุกหนทุกแห่งรักผม เขารักผมจริงๆ ผมสามารถสื่อสารได้กับคนทุกระดับ"


อย่ามีความหวาดกลัว










เทอร์นอร์บอกกับเพื่อนๆกลาสีของเขาว่า :

"ปัญหาของพวกคุณคือ คุณวิตกกังวลมากเกินไปว่าจะแพ้
ความพ่ายแพ้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าละอาย คนทุกคนจะต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งเป็นคราว ดังนั้น อย่าไปกังวลกับมัน."

"การเสี่ยงต่อความพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
หากใครไม่คาดคิดว่าจะพ่ายแพ้ เขาผู้นั้นไม่ได้ทำคุณให้กับตนเองคุณจะต้องเข้าไปในที่ๆ ต้องเผชิญกับสภาวะที่ดุเดือดเลือดพล่าน และ สภาวะที่ถูกตีกระหน่ำอย่างหนัก"

"ผมเป็นเหมือนหญ้าที่ถูกย่ำจนแบน แต่พอวันรุ่งขึ้นก็สามารถชูคอไสวได้เหมือนเดิม ผมเคยพ่ายแพ้มามากมาย จนกระทั่งความพ่ายแพ้อีกครั้งหนึ่ง จะไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไร ความพ่ายแพ้เป็นเพียงการเรียนรู้ในการที่จะมีชัยชนะ"


ครั้งหนึ่ง มีผู้ถามเทอร์เนอร์ว่า เขากลัวทะเลหรือไม่:

"กลัวทะเลหรือ ?
มีบางครั้งผมคิดว่าผมจะจมดิ่งลงไป แต่ผมคงจะไม่พูดว่าผมกลัวมัน ผมให้ความเคารพมันอย่างมาก สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณได้ก็คือ "คุณจะตาย" และ มันเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นกับพวกเราทุกคนอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีเหตุที่จะต้องเสียเวลา วิตกกังวลกับมัน
คนขี้ขลาดตายได้เป็นพันๆ ครั้ง แต่คน กล้าหาญตายครั้งเดียว"









เทอร์เนอร์ เคยกล่าวไว้ ในขณะที่แข่งขันเรือใบท่ามกลางกระแสลมที่รุนแรงว่า:

" ชักใบเรือที่เสาใหญ่ขึ้นไป และ ปล่อยให้พระผู้เป็นเจ้า เป็นผู้เอามันลง"

เทอร์เนอร์ ผู้ไม่ยอมปล่อยให้ความหวาดกลัวเข้าครอบงำชีวิตของเขา ไม่ว่า ชีวิตบนท้องทะเล หรือ ชีวิตในโลกธุรกิจของเขา :
ในระหว่างการสัมภาษณ์ นิตยสารสปอร์ต ในปี 1980
เทอร์เนอร์ถูกถามว่า : การเริ่มต้น CNN จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใด
เทอร์เนอร์ : "ห้าสิบล้าน แต่ผมตั้งใจว่ามันจะไม่ขาดทุน"

นิตยสารสปอร์ต : "เมื่อไหร่"

เทอร์เนอร์ : "ก่อนที่ผมจะหมดตัว"

นิตยาสารสปอร์ต :" แล้วเมื่อไหร่ จะถึงเวลานั้น "

เทอร์เนอร์ :
"หวังว่า ก่อนที่ผมจะหมดความสามารถที่จะระดมเงินทุนอีกก้อน หรือ สร้างรายได้จากซุปเปอร์สเตชั่น หรือ ด้วยการเล่นกลบางอย่างเหมือนกับที่ผมทำตอนแข่งขันเรือใบฟาสต์เน็ต เมื่อหมอกควันได้จางหายไป และ คลื่นลมสงบลง เราก็ปรากฏตัวขึ้น และ นั่นเป็นสิ่งที่ผมหวังว่าจะเกิดขึ้นกับผมเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง ถ้ามันไม่เป็นอย่างนั้น ผมคงจะถูกพัดหายไป"

นิตยาสารสปอร์ต: " คุณวิตกกังวลกับเรื่องนั้นหรือเปล่า"

เทอร์เนอร์ :
" ไม่ มีนิดหน่อย แต่ผมคงจะต้องถูกพัดหายไป ไม่ช้าก็เร็ว อย่างน้อยที่สุดผมก็กำลังทำสิ่งที่ผมพึงพอใจ และ คิดว่าถูกต้อง หาก CNN ไปไม่รอด ผมก็หมดตัว"

เทอร์เนอร์ เคยให้ความเห็นว่า อาจจะเป็นการดี หากเขาจะสูญเสียเงินทั้งหมดที่มี :

"อย่างน้อยที่สุด ผมจะไม่ต้องวิตกกังวลกับปัญหาต่างๆเหล่านี้ และ จะไม่มีใครมาขอสัมภาษณ์ผมอีก ถึงแม้ว่าจะไม่เงินหนึ่งล้านเหรียญ แต่ผมก็สามารถหาเงินได้เพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวผม ตอนที่ผมอยู่ในหน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง ผมมีรายได้เดือนละ 87 เหรียญ เขาให้ผมทำความสะอาดห้องน้ำทั้งหมด ผมทำได้ไม่เลวทีเดียว พวกเขาให้ผมพ้นจากหน้าที่อย่างมีเกียรติด้วย"


ต้องมีหัวใจอย่างนั้นแหละ

สำหรับเท็ดแล้ว








"แก้วน้ำไม่เคยเต็มเพียงครึ่งแก้ว หรือ พร่องไปครึ่งแก้ว มันจะเต็มอยู่ที่สามในสี่ส่วนเสมอ"


" อย่าหยุดนิ่ง เพียงเพราะคิดว่า "คุณด้อยกว่า" และ คุณมีความหวาดกลัว ซึ่งทำให้ดูเหมือนกับว่าคุณไม่มีโอกาส เพราะ แม้แต่กระต่ายยังสามารถวิ่งหนีจากการไล่ล่าของสุนัขจิ้งจอก เพียงแต่มันจะต้องใช้ขาหลังของมันดีดตัวให้กระโดดไปข้างหน้า"


" ผมชอบที่จะได้ยิน คนพูดว่า ผมไม่สามารถทำอะไร"บางอย่าง"ได้
ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมมีความรู้สึกที่ดีไปกว่านี้ เพราะตลอดชีวิตของผม มีแต่คนพูดว่า ผมจะไม่สามารถทำมันได้ "

มีคนเคยถาม เทอร์เนอร์ ว่า อะไรเป็นเคล็ดลับในทักษะการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเอง :

" มันเป็นท่าทีความคิด
คุณคงจะรู้ดีว่า มีข้อคิดหลายอย่าง เช่น หากคุณดูให้แน่ใจว่า คุณถูกต้องแล้ว ให้ก้าวไป คุณจะต้องเป็นผู้นำ หรือ ไม่ก็ผู้ตาม ไม่งั้นก็ต้องออกจาเส้นทางเสีย

- จัดการกับปัญหา - อย่าบ่น แล้ว ไม่ทำอะไร แต่ควรจะหยิบอะไรขึ้นมา และ ทำให้สำเร็จ"

ในปี 1978 เทอร์เนอร์ ได้กล่าวปราศรัย ในการประชุมใหญ่ของสถานี โทรทัศน์เคเบิล :

" คุณควรจะมีความกล้าหาญ
เพราะผมมีมันอยู่ มิฉะนั้น ผมคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ "







Brave New World


ให้ความสำคัญกับความพยายาม

" ความปรารถนาของผม คือ การพ้นจากสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ "















" ผมมีพลังดลใจมากกว่าคนอื่นๆ คนบางคนอาจจะเกิดมาพร้อมกับฝีเท้าที่ว่องไว และ เป็นนักวิ่งที่ยิ่งใหญ่ ตอนที่ผมได้เอาอุปนิสัยพื้นฐานออกมาใช้หมดแล้ว ผมรู้ดีว่าผมได้ต่อสู้แข่งขันอย่างเต็มที่ อันที่จริง มันอาจจะไม่ได้ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดคุณประโยชน์ก็ได้"

" ในขณะที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ดูไม่มีเหตุผลว่าในที่สุด ผมจะได้รับชัยชนะในการแข่งขันอเมริกาคัพมากกว่านักเล่นเรือคนอื่นๆ แต่ผมได้ออกไปทำงานและทำได้ถึงจุดสุดยอด ผมเข้าไปอยู่ในโลกที่จริงแท้ และ ทำงานอย่างจริงจัง ผมทำงานวันละ 18 ชั่วโมง ผมทำด้วยความรวดเร็ว ผมคิดแผนต่างๆ วางแผนงาน และ ทำสิ่งบ้าบิ่นหลายอย่าง... เมื่อคุณยังเป็นคนเล็กน้อยอยู่ คุณจะต้องทำอะไรที่ "บ้าบิ่น" เพราะคุณไม่สามารถเลียนแบบคนใหญ่คนโตได้ หากคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณจะต้องมี "ความคิดริเริ่ม" ที่ดี "

ซิด ไพด์ กล่าวว่า ... "เขา (เทอร์เนอร์) มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับชัยชนะ เขาไม่ชอบที่จะพ่ายแพ้ แต่ถึงแพ้ เขาก็เป็นหนึ่งในจำนวนคนน้อยคนที่ผมรู้จักที่สามารถได้ประโยชน์จากการพ่ายแพ้นั้น
เท็ดจะถามตัวเขาเองว่า "ผมแพ้ได้อย่างไร ?" ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมเขาจึงอยากจะชนะมากขนาดนั้น มันเป็นแรงผลักดันในตัวเขา"

....
" เพราะว่า เป็นเวลาหลายปีที่ผมต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองในการขยายแวดวงการเข้าแข่งขัน เหตุผลที่ผมต้องทำเช่นนี้ ก็เพราะปมด้อยที่ติดลึกอยู่ในตัวผม พูดจริงๆแล้ว ผมเริ่มจะคิดได้ว่ามันไม่ได้มีค่าอะไร"

" จริงๆ แล้ว ผมก็สงสัยว่าผมมุ่งเน้นความสำเร็จมากเกินควรหรือเปล่า ผมคิดว่าผมประเมินค่ามันสูงไป คนธรรมดาคงจะรู้ดีว่า มันไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะพยายามขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุด พวกเขาจะทำกันไปแบบง่ายๆ และ เพลิดเพลินเหมือนกับการเล่นซอฟต์บอล

หากคุณต้องการเป็นนักว่ายน้ำที่เข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก คุณจะต้องใช้เวลาฝึกซ้อมวันละ 8 ชั่วโมง เป็นเวลาถึง 15 ปี จากนั้นสิ่งที่คุณจะได้รับคืออะไรรู้มั้ย ? คุณจะมีผิวที่แห้งเหี่ยวจากการลงน้ำสระแล้วสระเล่า คุณหมดโอกาสที่จะไปมีนัดกับใคร หรือ ได้พบและรู้จักใครๆ มันเป็นเรื่องเสียสติแท้ๆ"

"ผมไม่คิดว่าชัยชนะ คือ ทุกสิงทุกอย่าง มันเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ถ้าหากคุณพูดเช่นนั้น ผมคิดว่าการ พยายามที่จะได้รับชัยชนะต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่สำคัญ"

"ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผมนั้น ผมต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความปวดร้าวที่ว่าผมอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ เพิ่งจะช่วงสี่ถึงห้าปีหลังๆ นี้เอง ที่ผมสามารถขจัดความรู้สึกที่หลอกหลอนนั้นไปได้ "









..." วายร้ายที่คุณรู้จักดี ย่อมดีกว่า วายร้ายที่คุณไม่รู้จัก "


"เมื่อย้อนกลับไปคิดว่า การเล่นเรือใบมีความหมายอะไรสำหรับผม ผมคิดว่า ผมคงเริ่มต้นจากความงดงามที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของท้องทะเล และ ผิวน้ำ เมฆ และ ลม นกนางนวล และ นกทะเลอื่นๆ ซึ่งความงดงามของสิ่งเหล่านี้ สร้งความเพลิดเพลินใจได้มากที่สุด"

"สิ่งต่อมาคงจะเป็นเพื่อนกลาสีเรื่อที่ดีเยี่ยม ทั้งสหายร่วมเดินทาง และ คู่แข่งจากทั่วโลก ซึ่งผมได้พบปะในช่วงระยะเวลานั้น พร้อมทั้งมิตรภาพที่เกิดขึ้น"

"จากนั้น คงจะเป็นความซาบซึ่งที่ได้รับจากการแข่งขัน และ ความพยายามที่เรได้ทุ่มเทลงไป และที่แน่นอน คือ มีความตื่นเต้นเร้าใจ ความตื่นเต้นในการต้องเผชิญกับลมพายุที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หรือ การที่ต้องร่อนเรือไปในเรือปลายอิ่ง ดัทว์แมน หรือ ร่อนไปในความเร็ว 20 น็อต ในเรือโฮบี้ แคต"

"ผมมีคำแนะนำอย่างหนึ่งให้กับพวกคุณ คือ ต้องใช้ยาทาป้องกันแดด และ สวมหมวกด้วย"


มีความสนุกสนาน

"ความสนุกสนานที่สุดที่คุณในฐานะที่เป็นผู้ชายที่จะมีได้ คือ ทำอะไรที่เป็นกิจกรรมของผู้ชาย กิจกรรมที่เป็นของผู้ชาย คือ การเอาผู้ชายมารวมกัน และ ออกไปพิชิตโลกนี้ ต่อสู้ในสงคราม เอาชนะในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ และ การรวบรวมทีมเบสบอล"

นักข่าวคนหนึ่งถามเขาว่า : "คุณจะทำอย่างไรในการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ?"
เทอร์เนอร์ตอบว่า : "ผมจะสนุกกับมัน และ ทำตัวให้ร่าเริง"

..." ทำตัวให้ร่าเริง และ สนุกสนาน ไม่ต้องกังวลใจกับทุกสิ่งทุกอย่าง"


"สำหรับผมแล้ว ธุรกิจ คือ การแข่งขัน

มันเหมือนกับการเล่นไพ่โป๊กเกอร์:

คุณเล่นเพื่อให้ได้เบี้ย
แต่สิ่งที่สนุกที่สุด คือ การแข่งขัน
ผมอาจจะมองดูเหมือนตัวตลกตีลังกาไปมาในระหว่างการแข่งขันเบสบอล แต่ ผมเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง และ พยายามจะทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จ
เพียงเพื่อที่จะได้รับความพึงพอใจที่ทำมันได้สำเร็จ
การดิ้นรนเพื่อที่จะทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จเป็นความสนุกของผม
ตลอดชีวิตของผม มีแต่การแข่งขัน ทุกสิ่งทุกอย่างคือการแข่งขัน และ แต้มที่คุณสะสมคือดอลลาร์
มันเหมือนกับว่ามีคะแนนสองรูปแบบ ผมมองว่าเงินเหมือนจำนวนครั้งที่ตีลูกได้ในการแข่งขันเบสบอล ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่จำนวนวิ่งเหมือนกับการประสบความสำเร็จ และ การได้รับความสุข"


"ผู้คนสนุกสนานที่สุด ก็ตอนที่พวกเขาต้องกระโดดโลดเต้น"









ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก //www.

Create Date : 26 มีนาคม 2551		6 comments
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2557 17:34:04 น.
Counter : 9033 Pageviews.
Share Tweet