038. ร่วมจัดงาน ฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ร่วมจัดงาน ฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
Buddhajayanti : The Celebration of 2,600 Years of the Buddhas Enlightenment
ด้วยวันวิสาขบูชา ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้นับเป็นพุทธวาระวิสาขบูชามหามงคลวโรกาสที่พิเศษยิ่งในรอบหนึ่งพุทธศตวรรษที่ผ่านมา เพราะเป็นอภิลักขิตกาลอันเบิกบานแห่งอายุกาลพระพุทธศาสนาที่ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนมาครบกำหนดนับได้ ๒,๖๐๐ ปี โดยนับตั้งแต่พุทธกาลที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา ได้ตรัสรู้อริยสัจธรรมบรรลุรู้แจ้งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณสำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนพระจันทร์เต็มดวงแห่งเดือนวิสาขะ (วันเพ็ญเดือน ๖) เมื่อก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ดังนั้น ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ จึงนับเป็นศุภวารดิถีปีมหาอุดมมงคลอันนำมาซึ่งความปีติปราโมทย์โสมนัสกอปรด้วยจิตเคารพศรัทธาอันเปี่ยมล้นแรงกล้าของมวลมนุษย์พุทธศาสนิกชนผู้มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะสูงสุดและยึดหลักพุทธธรรมเป็นแนวนำชีวิตอยู่ ณ ภาคพื้นปฐพีของโลกปัจจุบันนี้ โดยนานาอารยประเทศที่มีประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาต่างตื่นตัวรู้ทั่วพร้อมในการเร่งระดมริเริ่มรณรงค์เตรียมการจัดงานเฉลิมฉลองพุทธวาระวิสาขบูชา อันเป็นพุทธวาระที่เวียนมาบรรจบครบรอบ ๒๖ พุทธศตวรรษ ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้ถวายเป็นพุทธบูชาอย่างยิ่งใหญ่เป็นกรณีพิเศษเพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าที่ทรงบำเพ็ญเป็นพุทธกิจอำนวยประโยชน์สุขแก่มวลมนุษยชาติ นับตั้งแต่พุทธกาลที่ตรัสรู้สืบมาจวบจนกาลปัจจุบันนี้ ภายใต้ชื่องานว่า งานฉลองพุทธชยันตี ดังเช่นที่เคยจัดงานฉลองพุทธชยันตี ครบรอบ ๒๕ พุทธศตวรรษ อันเป็นพุทธวาระกึ่งพุทธกาลมาแล้วเมื่อคราครั้งพุทธศักราช ๒๕๐๐ แต่ในคราครั้งนั้น กำหนดนับปีที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน หรือพุทธศักราช ๑ เป็นปฐมเหตุจุดเน้นแห่งการจัดงานฉลอง สำหรับในคราครั้งนี้ กำหนดนับปีที่ตรัสรู้สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือเมื่อก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี เป็นจุดเน้นแห่งการจัดงานฉลอง
โดยเหตุที่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นปีที่กำหนดครบ ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งนักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาต่างนิยมเรียกขานว่า ปีพุทธชยันตี ดังนั้น เราในฐานะพุทธศาสนิกชนผู้นับถือพระพุทธศาสนา จึงควรตระหนักรู้และเข้าใจความหมายและความสำคัญของคำว่า พุทธชยันตี เพื่อเป็นฐานข้อมูล ให้มีองค์ความรู้คู่ความมีศรัทธาในการที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในงานฉลองพุทธชยันตีได้อย่างเชื่อมั่นในพระปัญญาการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คำว่า พุทธชยันตี นั้นแปลตามศัพท์ว่า ความมีชัยชนะของพระพุทธเจ้า มีความหมายในเชิงอธิบายขยายความว่า การประสบชัยชนะที่มีต่อหมู่มารและสรรพกิเลสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนวันที่ตรัสรู้ กล่าวคือ ในยามค่ำคืนแห่งวันตรัสรู้นั้น พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อสู้กับหมู่มารและกิเลสในพระทัยทั้งปวงจนประสบชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สำเร็จเป็นพระอรหันต์ผู้มีพระทัยบริสุทธิ์ดับเพลิงทุกข์เพลิงกิเลสได้หมดสิ้น และสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งได้รับการเฉลิมพระนามเป็นพระผู้ทรงชนะมารกิเลส (มารวิชัย) ซึ่งเหตุการณ์อันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาตินี้ได้บังเกิดขึ้นในยามราตรีแห่งวันเพ็ญเดือนวิสาขะ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) ณ บัลลังก์ภายใต้ควงไม้อัสสัตถพฤกษ์ (ตรงกับไม้โพของไทย) ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ดินแดนชมพูทวีป เมื่อก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ซึ่งปัจจุบัน สถานที่ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้นี้มีพระมหาเจดีย์พุทธคยาและต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นสัญลักษณ์พุทธสังเวชนียสถานและเป็นศูนย์รวมชาวพุทธนานาชาติทั่วโลก ตั้งอยู่ ณ ตำบลคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย
นอกจากนี้ คำว่า พุทธชยันตี ยังหมายถึงวันที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก หรือวันเกิดของพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนาในคราวเดียวกันอีกด้วย กล่าวคือ การที่มหาบุรุษสิทธัตถะผู้เป็นอัจฉริยมนุษย์สามารถชนะหมู่มารและสรรพกิเลสตรัสรู้อริยสัจธรรมได้นั้นทำให้โลกมีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นเป็นพระบรมศาสดาผู้ก่อตั้งประดิษฐานพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาสำคัญสากลของโลกสืบมาจนปัจจุบัน จุดกำเนิดของพระพุทธศาสนาเริ่มนับเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ หรือการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าก็คือจุดปฐมบรมอุบัติของพระพุทธศาสนา คือ นับตั้งแต่ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อ ๒,๖๐๐ ปีมาแล้ว พระพุทธองค์ทรงจาริกเผยแผ่พระสัทธรรมคำสอนไปยังประชาชนทุกชั้นวรรณะในชมพูทวีป พระสัทธรรมคำสอนอันประเสริฐที่เกิดจากพระปัญญาการตรัสรู้ของพระพุทธองค์นั้นได้เป็นเครื่องช่วยนำพาบุคคลให้สามารถข้ามพ้นจากภาวะแห่งจิตของมนุษย์ปุถุชนที่เกลือกกลั้วมัวหมองระทมตรมทุกข์ด้วยความรักโลภ โกรธ หลง ขึ้นไปสู่ภาวะแห่งจิตของมนุษย์อริยชนที่ประเสริฐหมดสิ้นห่างไกลจากเพลิงทุกข์เพลิงกิเลส และได้รับการเผยแผ่สืบสานนำไปปฏิบัติเป็นแบบอย่างการดำรงชีวิตที่ประเสริฐ ของมวลมนุษย์ ภายใต้ชื่อว่า หลักพระพุทธศาสนา จนแพร่หลายขยายขจรขจายไปยังนานาประเทศกลายเป็นศาสนาที่เก่าศักดิ์สิทธิ์และสำคัญสากลของโลกในปัจจุบัน
ดังนั้น เมื่อพุทธวาระโอกาสที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปี เวียนมาบรรจบในวันวิสาขบูชาประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้ ชาวพุทธทั่วโลกจึงกำหนดจัดงานฉลองถวายเป็นพุทธบูชาน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณเป็นกรณีพิเศษ โดยประเทศที่มีประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาเข้มแข็ง เช่นประเทศศรีลังกาเป็นต้น ได้ประกาศให้มีการฉลองพุทธวาระอันสำคัญนี้เป็นเวลา ๓ ปี (๒๕๕๓๒๕๕๕) กล่าวสำหรับประเทศไทย ในฐานะที่เป็นประเทศซึ่งประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชีวิตสืบทอดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน อีกทั้งยังได้รับฉันทานุมัติจากที่ประชุมชาวพุทธนานาชาติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาโลก เมื่อพุทธวาระวิสาขบูชาอันสำคัญเวียนมาบรรจบ ณ กาลปัจจุบันนี้ หน่วยงานภาครัฐและองค์กรชาวพุทธไทยทุกภาคส่วน ต่างมีความปีติยินดีปรีดาศรัทธาปราโมทย์เป็นยิ่งนัก ที่จะได้มีส่วนร่วมรังสรรค์จัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาปฏิบัติและเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อสมโภชศุภวาระมหามงคลกาลแห่งพุทธชยันตีนี้อย่างยิ่งใหญ่
ในการนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจด้านการทำนุบำรุงอุปถัมภ์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ได้ตระหนักถึงความสำคัญแห่งศุภวาระพุทธชยันตีดังกล่าว จึงเสนอคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมและรัฐบาลกำหนดให้ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นปีแห่งการฉลองพุทธชยันตี โดยกำหนดจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นกรณีพิเศษ ให้วัดทุกวัดทั้งในและต่างประเทศจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งใช้ชื่อการจัดงานภาษาไทยว่า งานฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ภาษาอังกฤษว่า Buddhajayanti : The Celebration of 2,600 Years of the Buddhas Enlightenment โดยคณะสงฆ์และรัฐบาลร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ให้มีคณะกรรมการอำนวยการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในระดับชาติ และขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนองค์กรต่างๆ ร่วมเป็นภาคีขับเคลื่อนในการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งเชิญชวนแขกของรัฐบาล และผู้นำชาวพุทธนานาชาติเข้าร่วมงาน กำหนดสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนาคือที่ พุทธมณฑล พุทธานุสสรณียสถาน จังหวัดนครปฐม เป็นศูนย์กลางการจัดงาน โดยกำหนดแนวทางการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา การเผยแผ่ การปฏิบัติบูชา ด้านการสัมมนาวิชาการทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ และด้านกิจกรรมเกี่ยวกับพุทธศิลปวัฒนธรรม ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชาวพุทธนานาชาติรู้จักประเทศไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก และส่งเสริมให้ชาวพุทธในประเทศไทยเกิดความตื่นตัวตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของพระพุทธศาสนาที่มีคุณูปการต่อสังคมไทยมาอย่างยาวนานมากขึ้น โดยพร้อมที่จะเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเป็นเอกภาพพร้อมเพรียงกัน
ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะจัดงานฉลองพุทธชยันตีถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และพระพุทธศาสนาอุบัติขึ้นอำนวยประโยชน์สุขแก่มวลมนุษยชาติ ครบ ๒,๖๐๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ โดยกำหนดแนวทางจัดกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องใน วันวิสาขบูชาประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับหลักการปฏิบัติบูชาในพระพุทธศาสนา กล่าวคือ มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้รู้จัก เข้าใจ และเข้าถึงหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และตรัสสั่งสอนด้วยการปฏิบัติบูชาที่บูรณาการหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนที่พึงปฏิบัติตนต่อพระพุทธศาสนาทั้งในด้านการศึกษา การปฏิบัติ การเผยแผ่ และการส่งเสริมอุปถัมภ์ทำนุบำรุงให้เจริญรุ่งเรือง พร้อมทั้งกำหนดให้มีการวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกเพื่อเป็นการประกาศความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานเกี่ยวกับการเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกของประเทศไทย และจะได้ประสานการจัดกิจกรรมประชุมสัมมนาทางวิชาการเพื่อเป็นเวทีถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวพระพุทธศาสนาและเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ศึกษาเรียนรู้หลักพุทธธรรมและเรื่องราวสำคัญในพระพุทธศาสนามากขึ้น ในโอกาสเตรียมการจัดงานฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าครั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะได้มอบธงสัญลักษณ์พุทธชยันตี แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัด และวัดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำไปประดับสถานที่สำคัญต่างๆ ตลอดปี อันเป็นการประชาสัมพันธ์แสดงถึงการเริ่มต้นแห่งการเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้พร้อมกันทั้งประเทศ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอถือโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ เชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้ร่วมกันฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ด้วยการน้อมรำลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระพุทธเจ้าและน้อมนำหลักธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้และตรัสสั่งสอนมาเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ร่วมกันสร้างกุศลคุณงามความดีด้วยการละความชั่วทุกชนิด ทำความดีทุกประการ และทำจิตใจให้ผ่องแผ้วบริสุทธิ์ถวายเป็นพุทธบูชาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศ์ที่ทรงอุปถัมภ์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยการหมั่นเข้าวัดทำบุญ ถือศีลปฏิบัติธรรม ปฏิบัติตนตามมาตรฐานชีวิตชาวพุทธ และร่วมกิจกรรมบำเพ็ญบุญกุศลทุกวันธรรมสวนะหรือวันพระ อันจะทำให้ได้รับประโยชน์สุขจากการเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาและช่วยกันจรรโลงรักษาพระพุทธศาสนาให้ธำรงคงอยู่คู่ประเทศไทยตราบนานเท่านาน
(นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์) ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
Source: //www.dhammacyber.com
-------------------------------------------------------------------------
Re-reporter by Moonfleet
Create Date : 08 พฤษภาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2555 20:21:38 น. |
Counter : 4055 Pageviews. |
|
|
|