ขณะที่โดโลเรสกำลังขับรถไปตามถนนชานเมือง เธอสังเกตเห็นรถคันหนึ่งขับตามเธอมาอย่างค่อนข้างกระชั้นชิด เธอแทบจะรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดของคนขับรถคันนั้นในขณะที่เธอขับรถไปอย่างระมัดระวังและค่อยๆ เลี้ยวไปตามถนนอันคดเคี้ยว
คนขับรถคันหลังนั้นไม่มีทางรู้ว่าโดโรเลสกำลังบรรทุกมันบดเกือบ 50 กิโลกรัม น้ำเกรวี่อีก 2 หม้อเต็มๆ และของกินอื่นๆ อีกมากมายพอที่จะเลี้ยงคนถึง 200 คนที่คริสตจักรในเย็นวันนั้น โดโลเรสรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดใจของคนขับรถคันหลัง ทำให้เธอคิดว่า หากเขารู้ว่าของที่ฉันบรรทุกมานั้นเปราะบางแค่ไหน เขาจะเข้าใจว่าทำไมฉันจึงขับรถแบบนี้
ทันใดนั้นเอง เธอก็เกิดคำถามขึ้นว่า มีกี่ครั้งที่ฉันหงุดหงิดกับคนอื่นโดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขาก็อาจจะกำลังแบกภาระอันเปราะบางอยู่
บ่อยครั้งแค่ไหนที่เราตัดสินคนอื่นโดยเหมาเอาว่าเรารู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น? แต่พระคำของพระเจ้านำเราไปในทิศทางของความเมตตาโดยการสอนให้เราปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตาปรานี ความถ่อมใจและความอดทน (คส.3:12) เราจะเป็นคนที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักมากยิ่งขึ้นเมื่อเรายอมทนและยกโทษให้แก่ผู้อื่น (คส.3:13)
ให้เราปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบที่เราอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา (ลก.6:31) และไม่ลืมว่าเราอาจจะไม่ได้รู้เสมอไปว่าคนอื่นกำลังแบกภาระอะไรอยู่ CHK