อายุเป็นเพียงตัวเลข(จริง) รึเปล่า?


ซองขาวเบอร์ 9
Location :
นราธิวาส Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




เป็นคุณแม่ลูกสี่ ตอนนี้เป็นคุณยายหลานห้าแล้วค่ะ



สัมภาษณ์ซองขาวเบอร์ 9


New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
6 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ซองขาวเบอร์ 9's blog to your web]
Links
 

 
เปิดใจให้กว้าง


ลองฟังดูเรื่องเล่าต่อ


มีบริษัทหนึ่งประกาศรับสมัครพนักงานใหม่หนึ่งคน และมีคนมาสมัครมากมายหลายร้อย บริษัทนั้นให้ผู้สมัครทุกคนทำตอบคำถามหนึ่งข้อ ซึ่งคำถามมีอยู่ว่า

ในดึกคืนหนึ่งที่ฝนตกฟ้าคะนองขนาดหนักมากและคุณกำลังขับรถกลับบ้าน
ขณะที่ขับผ่านป้ายรถเมล์ป้ายหนึ่ง
คุณพบคนสามคนกำลังรอให้ฝนหยุดเพราะดึกเกินกว่าจะมีรถเมล์วิ่งแล้ว
คนสามคนนั้นคือ

1. หญิงชราที่กำลังป่วยและต้องการการรักษาด่วน มิฉะนั้นเธออาจจะตายได้

2. หมอซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตคุณไว้

3. ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของคุณและคุณรักเขามากขนาดจะแต่งงานกับเขาให้ได้

คำถามมีอยู่ว่า รถคุณเป็นแบบนั่งได้แค่สองคน ดังนั้นคุณจะรับคนไปด้วยได้อีกแค่คนเดียว คุณจะรับใครไปด้วย และให้เหตุผลที่ตัดสินใจอย่างนั้น

พวกเราก็ลองคิดดูสิว่าถ้าเราเป็นคนตอบคำถามข้อนี้ เราจะตอบว่ายังไง แล้วเทียบกับเหตุผลข้างล่าง

เอาล่ะ

ลองดูเหตุผลของคำตอบแต่ละแบบแล้วเทียบกับเหตุผลของคุณ เนื่องจากแต่ละข้อก็มีเหตุผลที่เหมาะสมในตัวของมันเอง

เหตุผลข้างล่างน ี้ เป็นเหตุผลของคนเกือบทุกคน

1. ถ้าคุณตอบว่ารับคนแก่ เหตุผลก็เพราะเขากำลังจะตาย ถ้าคุณรับไปก็เท่ากับช่วยชีวิตคนได้

2. ถ้าคุณตอบว่ารับหมอ เหตุผลก็เพราะเขามีบุญคุณกับคุณ และนี่คือเวลาที่จะตอบแทนได้บางส่วน

3. ถ้าคุณตอบว่ารับแฟนคุณ เหตุผลก็เพราะ เขาเป็นคนที่คุณรัก

คิดว่าตรงแค่ไหนล่ะ แต่ผู้ที่บริษัทนั้นรับเข้าทำงาน
เป็นผู้เดียวที่ตอบอีกแบบนึง...ให้คิดอีกที
คำตอบข้างล่าง

<b>เขาตอบว่า 'เขาจะให้กุญแจรถกับหมอ
ให้หมอพาคนแก่ไปโรงพยาบาล
และเขาก็จะอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น กับคนที่เขารัก'


เป็นไง ประหลาดใจกับคำตอบใช่ไหม
และคิดว่ามันเป็นคำตอบที่ดีมากใช่ไหม
ข้อคิดของเรื่องนี้คือ

คนเรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า (กุญแจรถ และการกลับบ้าน) ทำให้เรามองอะไร ด้วยมุมมองที่แคบลง จะเห็นว่าการมอบกุญแจรถให้หมอ นอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณ (หมอก็คงไม่ยึดรถไปเป็นของตัวเองหรอก ภายหลังก็เอามาคืน)

เรายังได้ช่วยชีวิตหญิงชรา แถมได้อยู่กับคนที่เรารัก
แบบสองต่อสอง เรียกได้ว่าเสียไปแค่ไม่ได้กลับบ้านในตอนนั้น! แต่เราบรรลุวัตถุประสงค์ใหญ่อีกหลายอย่างได้ คุณล่ะ คิดว่าคุณมีมุมมองที่กว้างหรือแคบและยึดติดกับผลประโยชน์ต่าง ๆ แค่ไหน


00000000000000000000000000000000000000



วันนี้เข้ามาเปิดบล๊อก ยังไม่มีอารมณ์ที่จะเขียนก็แค่เปิดไปดูบล๊อกเพื่อนๆแล้วก็ comment แต่บังเอิญนึกได้ว่า ยังไม่ได้เข้าไปเช็คเมล์ พอเข้าไปดู ลูกสาวคนโตส่งเมล์มา อ่านแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะให้เพื่อนๆได้อ่านบ้าง แต่เพื่อนทางอีเมล์ก็ไม่มี นอกจากลูกเท่านั้น คิดแล้วก็เลยเอามาเขียนให้อ่านในบล๊อกดีกว่า จะได้อ่านกันทั่วถึงหน่อย

ตอนที่ได้เข้าไปทำงานในอาชีพอิสระเมื่อสามสี่ปีก่อน (เดี๋ยวนี้ก็ยังทำอยู่แต่ทำน้อยลง) ก็ได้เข้าไปเรียนรู้บ้าง เขาสอนว่า ชีวิตคนเราเปรียบเหมือนโคมไฟสี่เหลี่ยม มีกระจกสี่ด้านและมีสี่สี ถ้าเรามองแต่ละด้านของโคมไฟทั้งสี่ด้านก็จะมีสีต่างกัน ทั้งที่เป็นโคมอันเดียวกัน ตามความเข้าใจของแม่ คิดว่าคนทุกคนมองต่างมุมกัน แล้วแต่ว่าคนนั้นมีต้นทุนแค่ไหน แต่ถ้ามองลึกเข้าไปถึงแสงไฟข้างในโคม มันจะมีแค่สีเดียว สีที่เราเห็นแต่ละด้านก็เป็นแค่รูปธรรมที่เราจะปรุงแต่งขึ้นมา สุดท้ายเราก็ไม่มีอะไรเลย

เรื่องที่นำมาให้อ่าน ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน สิ่งสุดท้ายก็คือผลประโยชน์ ถ้าเราคิดว่าไม่มีอะไรจริงๆในโลก เราก็จะไม่ยึดติดกับผลประโยชน์ แต่เรื่องนี้ทำได้ยากมาก แม้แต่คนที่เอาเรื่องนี้มาให้อ่าน (ก็คือซองขาวเบอร์ 9 เองแหละ)






Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2552 17:45:50 น. 20 comments
Counter : 690 Pageviews.

 
หนูตอบตอนที่ยังไม่ได้ดูคำตอบอ่ะค่ะ
ก็จะช่วยหมอ เพราะถ้าหมอรอด เค้าก้ยังไปช่วยรักษาชีวิตคนอื่นต่อไปได้
เรื่องสุดท้าย เห็นด้วยอย่างยิ่งจ้า
คือว่าพรุ่งนี้หนูจะกลับเมืองไทยค่ะ คงไม่ได้ทำกับข้าวนานเป็นเดือนเลย จะไปฝากท้องที่เมืองไทยแทน อดอยากมานาน ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ลาว ขอพักอาหารฝรั่งไปก่อน


โดย: currywurst วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:43:57 น.  

 
เรื่องนี้ดีมากๆค่ะแม่ อ่านแล้วได้คิด บางครั้งการที่เราคิดว่าเราทำดี มันก็ต้องมองลงลึกไปอีกว่า เราทำดีจริงหรือเปล่า เราทำไปเพื่ออะไร เรื่องคิดลึกๆแบบนี้น่าจะเอาไปให้คนคิดลึกแบบพ่ออ่านบ้าง


โดย: GlowPopJigglyJam วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:40:03 น.  

 
อึ้งกับคำตอบค่ะ ถ้าเป็นป้าบ๋วยคงรับหมอก่อน แต่เวลานั้นอาจจะตัดสินใจยากที่สุด


โดย: beuysliv วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:44:39 น.  

 
ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมที่บ้านน่ะครับ

มันก็จริงอย่างที่คุณพี่บอกน่ะครับว่า อย่าไปยึดติดกับผลประโยชน์ แต่มันก็อย่างที่คุณพี่บอกอีกน่ะครับ ว่ามันยากมากกกก

เรื่องทำทานก็ทำทุกทีที่มีโอกาสล่ะครับ สะดวกเมื่อไรทำได้เมื่อไรก็ทำทุกที ขอบคุณมากน่ะครับ


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:20:54 น.  

 
555+ คำตอบของหนูเป็นคำตอบแบบข้างล่างค่ะ แต่ถ้าเกิดกับตัวเองจริง แฟนหนูก็คงบีบคอแหงๆถ้าทำแบบนั้น

น่าคิดนะคะว่าเราน่าจะลองเบียดกันไป แต่ที่เมืองนอกคงโดนจับ และหมอก็คงขับรถไม่ได้เพราะไม่ได้ insure กับรถของหนู งงมั๊ยคะ เขียน้เองงงเอง

หนูกำลังมีสอบค่ะช่วงนี้เลยไม่ได้ถักเสื้อเลย เพราะถ้าเริ่มก็จะทำจนกว่าจะเสร็จ ช่วงนี้เลยต้องหักห้ามใจอ่านหนังสือก่อนทั้งที่ไม่ได้อยากเลย

คุณแม่รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: มารน้อยไร้สังกัด วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:36:34 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกค่ะ

บทความข้างบนอ่านแล้วดีจัง ได้ข้อคิดดีค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ


โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:44:03 น.  

 
ลูกเขยแม่เขาอยากตอบบ้าง

I would do in order:
1. Call the ambulance
2. ask the doctor to help the lady
3.Then I would take my darling and drive home

but...

Why didn`t the doctor call an ambulance or stop another car at the first place?


โดย: โทสเทน (ลูกเขยแม่เอง) (GlowPopJigglyJam ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:55:29 น.  

 
เราตอบว่ารับคนแก่ เพราะจะได้ช่วยชีวิตเค้าไว้ได้ อิ อิ พออ่านจบ ....ตกงานแน่ๆเลยเรา...


โดย: Suessapple วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:15:12 น.  

 
ได้อ่านจนจบค่ะ..เห็นว่าเรื่องการเปิดใจให้กว้างนี้ดีมากๆ การที่จะต้องตัดสินใจ..."เลือก..." ทำอะไรสักอย่าง ดิฉันเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะคิดถึง "ตัวเอง และทรัพย์สินของตัวเองก่อนเป็นหลัก" จากนั้นค่อยคิดถึง "คนอื่น" ...

กำลังคิดว่าจะหันไปถาม "สามี" ที่นั่งอยู่ข้างๆว่า "เค้าจะมีวิธีเลือกแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร" ระหว่าง หญิงชรา หมอผู้มีพระคุณ และคนรัก.......แต่พอได้มาอ่านคอมเม้นท์ของ คุณโทสเทน...เลยเปลี่ยนใจค่ะ คิดว่า ผู้ชาย ..โดยเฉพาะที่เยอรมัน..ไม่น่าจะคิดไกลกัน หรือแตกต่างกันมากนัก ... อิอิ ....

ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ


โดย: Flowerfun วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:30:38 น.  

 
เรื่องนี้เคยอ่านหลายรอบมากค่า
แต่ไม่รู้ทำไมลืมคำตอบทุกที

เพราะความคิดเรายังไม่เปิดกว้างหรือเปล่าหนอ
มองเห็นแต่มุมแคบๆทุกที่ทั้งๆที่เคยรู้เฉลยแล้ว โอ้ว

แต่ชอบมากเลยค่ะ


โดย: กล้วยหอมรสนม วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:4:07:26 น.  

 
คุณแม่หนูบิ๋งเหรอคะเนี่ย สวัสดีค่ะ

คุณแม่เปรี้ยวมาก มีบล็อกด้วย เรื่องก็แนวมากเลยค่ะ อิอิ

เรื่องที่เล่าข้างบน คำตอบฉลาดดีค่ะ นี่ก็กำลังจะไปเมืองไทย ไปสัมภาษณ์พนักงานระดับบริหารของบริษัท สงกะสัยต้องไปประลองเชาวน์ผู้สมัคร ด้วยคำถามนี้บ้างซะแล้วค่ะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:30:01 น.  

 
ชอบการเปรียบเทียบในเรื่องโคมจัง
เลยครับ





โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:09:35 น.  

 
ภาพทุกภาพในบล้อกผม
คุณแม่เอาไปใช้ได้เลยนะครับ
รวมทั้งงานและข้อความด้วยครับ

ลิขสิทธิ์เป็นของธรรมชาติครับ





ผมตื่นเช้าเพราะต้องรีบอัพบล้อกน่ะครับ 555
ช่วงตี 5 หกโมงเช้า
เป็นช่วงที่เงียบสงบดีครับ



โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:57:40 น.  

 
คุณแม่ครับ ข้อความของคุณแม่ดีมากๆเลย
ผมขอก็อปปี้เอาไปให้เพื่อนอ่านนะครับ
จะได้ช่วยเตือนสติคนนะครับ
จะได้เป็นบุญเป็นกุศลต่อไปนะคับ


โดย: น้องเหนือเมฆ วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:16:50 น.  

 
หลายครั้งรัชชี่ได้อะไรดี ๆ จาก forward mail เหมือนกันค่ะ



โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:18:40 น.  

 

 อินชอนแวะมาหาค๊า ขอให้มีความสุข ในวันพักผ่อนนะคะ
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

ขอบคุณมากๆนะคะคุณแม่ที่นำข้อความดีๆมาฝากกันทำให้ได้แง่คิดดีๆกลับไปค่ะและจะได้นำไปฝากเพื่อนๆด้วยค่ะ ขอให้คุณแม่มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: แม่ปูและน้องอินชอน (Incheon ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:22:54 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแม่ ... จูนแวะมาเยี่ยมค่ะ ... คุณแม่สบายดีนะคะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่คุณแม่นำมาฝากค่ะ ...

ขอให้คุณแม่มีความสุขมากๆ ... รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: จูน (June4 ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:31:33 น.  

 
ผมชอบเพลงครูจรัลเป็นพิเศษครับคุณแม่
เลยขอเพลงครูมาร้อง 8-9 เพลง
เอามาอัดในห้องอัดเสียงเล่นๆน่ะครับ
ผมเล่นกีตาร์ไม่เก่งเท่าไหร่ครับ
ไม่ใช่มืออาชีพครับ



โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:55:33 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ






โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:24:44 น.  

 
คำตอบนี้ดีจริงๆครับ

บางครั้งการที่เราคิดถึงตัวเองให้น้อยลง
แต่มันกลับให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆกับทุกคนรวมถึงตัวเราเองได้ด้วย

ขอบคุณครับ


โดย: Dr.Manta วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:03:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.