แอ่วแพร่ แลน่าน (2) @ ตามรอยปู่ม่านย่าม่าน กราบไหว้พระธาตุแช่แห้ง
ณ น่าน เช้านี้ อากาศดี เย็นสบาย สดชื่นมาก ดูสงบ ไม่วุ่นวายยามเช้า เป็นเมืองที่น่ารัก น่าอยู่ ชอบมากค่ะ
อาหารเช้าง่าย ๆ ที่ บ้านสวนเฮือนน่าน เป็นโจ๊กหมู ขนมปังปิ้ง กาแฟร้อน มีผลไม้ให้ล้างปากอีก เหมือนจะรองท้อง แต่ซัดไปเต็มที่ก็ทำเอาอิ่มสุด ๆ ได้เหมือนกัน
ก่อนไปตามรอย ปู่ม่านย่าม่าน ที่ วัดภูมินทร์ แวะกราบไหว้ พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิด ปีกระต่าย เป็นสิริมงคลก่อน
วันนี้ พ่อ แม่ พี่ชาย มากราบแทน น้องแต๊งค์ ก่อนละกันนะ ไว้โตมาอีกนิดแล้วค่อยมากันพร้อมหน้าพร้อมตาเนอะ^^
แดดเริ่มแรง แต่ไม่ทำให้ แรงพลังศรัทธา หดหาย แวะบูชาดอกไม้ธูปเทียนก่อนเข้าไปกราบไหว้พระธาตุกัน
ครั้งนี้เป็น คร้้งที่สอง ที่ได้มาที่นี่ ความทรงจำเก่า ๆ ลางเลือน น่าจะเปลี่ยนไปมากค่ะ เพราะนึกถึงความคุ้นตาสภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ออก
มีผู้คนมากราบไหว้พอสมควร พอ ๆ กับ พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ วันก่อน แต่ที่ พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน ดูสงบ เงียบกว่ามาก
มีแต่เสียงกริ่งระฆังกระทบกันยามลมพัด เสียงผู้คนเดินพูดกันเบา ๆ ได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง ชอบจังเลยแบบนี้
สองวันนี้ ปล่อยเวลาไหลเลื้อยค่ะ คนพามาใจดี บอกตามสบาย กราบไหว้พร้อมกันเสร็จ ต่างแยกย้าย เก็บภาพกันคนละมุม และนั่งชมพระธาตุเงียบ ๆ
น้องเต็นท์ เกาะติดพ่อตลอด เพราะชอบพ่อเล่าประวัตินั่นนี่ให้ฟัง ช่างซัก ช่างถาม อยากรู้อยากเห็น แต่เค้าจำนะคะ อะไรที่พ่อเค้าเล่าให้ฟังจำหมด ส่วนแม่มัน ได้ทีปลีกวิเวก ปล่อยให้สองพ่อลูกกระหนุงกระหนิงตามสบาย
กราบไหว้สองพระธาตุประจำปีเกิด ในครั้งนี้ โชคดี ตรงที่ไม่มีคนพลุกพล่าน เมื่อสถานที่เงียบ ใจก็สงบ ง่ายต่อการ ตั้งจิตภาวนาอธิษฐาน
ใช้เวลาในวัดพอสมควร ก่อนจะออกจากวัด ไม่ลืมที่จะกราบลาพระพุทธรูปที่พระวิหาร องค์ใหญ่สวยมากค่ะ
พระธาตุแช่แห้ง มีอาณาบริเวณกว้างขวางกว่า พระธาตุช่อแฮ องค์พระธาตุสวยงามแตกต่างกัน แต่ที่ พระธาตุแช่แห้ง บรรยากาศดูเงียบสงบกว่า
น้องเต็นท์ ร่าเริงมาก นี่ถ้า น้องแต๊งค์ โตพอจะเดินทาง นั่งรถเที่ยว สี่คน พ่อ แม่ ลูก ระยะทางไกล ๆ ลากยาวได้ พ่อกับแม่มันคงจะเหนื่อยกับการวิ่งจับ ลิงสองตัว น่าดู
ทริปนี้ เอา น้องหล่อของพ่อเต้ย มาค่ะ ปล่อย น้องฟ้าใส อยู่เฝ้าบ้าน เป็นทริปไกลครั้งแรกของน้องเซิป สูงใหญ่ นั่งสบาย และติดแก็สทำให้ประหยัดดี เวลาเดินทางไกล
มาถึงแล้ว พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน มาดู งาช้างดำ ของคู่บ้านคู่เมืองน่าน กัน
ร่มรื่นทีเดียว มีคนชมเยอะเหมือนกัน ..ในพิพิธภัณฑ์เป็น ของพื้นเมืองทางเหนือ กับ วัตถุโบราณ ไม่ค่อยจะตื่นหู ตื่นตา มากเท่าไหร่ เพราะเอกลักษณ์ ประเพณี วัฒนธรรม ชนเผ่า ทางเหนือ จะคล้าย ๆ กันค่ะ
งาช้างดำ เป็น วัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่าน และถือเป็น เอกลักษณ์ อย่างหนึ่ง ของ จังหวัดน่าน เป็น วัตถุโบราณที่หายาก และมี คุณค่าทางประวัติศาสตร์ อย่างมาก
งาช้างดำมีลักษณะเป็นงาปลียาว 97 เซนติเมตร วัดโดยรอบตรงส่วนใหญ่ที่สุด 47 เซนติเมตร โพรงตอนโคนลึก 14 เซนติเมตร สีออกน้ำตาลเข้มไม่ดำสนิท มีจารึกอักษรล้านนาภาษาไทยว่า “กิ่งนี้หนักหนึ่งหมื่นห้าพัน” หรือประมาณ 18 กิโลกรัม
สันนิษฐานว่าเป็นงาข้างซ้ายเพราะมีรอยเสียดสีกับงาชัดเจน ความเป็นมาของงาช้างดำนี้ไม่มีหลักฐานแน่ชัด (ที่มา : //atcloud.com/stories/46645)
จอดรถไว้ที่นี่ แล้วเดินเที่ยวทั้ง พิพิธภัณฑ์ และ วัดภูมินทร์ สะดวกกว่า ร้อนนิด แต่ลมโกรก เย็นสบาย เดินเที่ยวได้ ชิล ๆ ค่ะ
บริเวณริมรั้วด้านหน้าของ พิพิธภัณฑ์สถานน่าน มี ต้นจำปาสัก 100 ปี ปลูกเป็นแถว มีทางเดินด้านใน ไปถ่ายรูปแล้วสวยมาก กิ่งก้านใบ ปกคลุม ทำให้ทางเดิน สุดแสนจะโรแมนติก ว่ามััย..
แท่น แทน แท้นนนน.. มาถึงแล้ว ไฮไลท์ของทริปนี้ ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง "ภาพปู่ม่านย่าม่าน" ณ วัดภูมินทร์
แอบผิดหวังเล็กน้อย มีพระวิหารกำลังบูรณะซ่อมแซม มีวัดในอาณาบริเวณกลางเมืองหลายวัด ที่กำลังบูรณะซ่อมแซมเหมือนกัน
แต่ไม่เป็นไร ตั้งใจมาดู จิตรกรรมฝาผนังภายใน ส่วน ศิลปะภายนอก ไว้หาเรื่องมาชมอีกที คริ คริ
ตั้งใจเอา สังฆทานเป็นเวชภัณฑ์ มาถวายพระท่านด้วย รู้สึกดีมาก ตอนที่ น้องเต็นท์ กราบถวายสังฆทาน พระท่านสอน ให้กล่าวคำถวายและ อาราธนาศีล ก่อนที่จะรับและให้ศีลให้พรค่ะ
เสียดาย..พ่อเค้าถ่ายเป็น VDO เลยไม่มีภาพมาให้บันทึกในบล็อก
ในที่สุดก็เจอ "ปู่ม่าน ย่าม่าน" จิตรกรรมฝาผนัง หรือ ฮูปแต้ม อันเลืองชื่อ เอกลักษณ์ อย่างหนึ่งของ จังหวัดน่าน บนฝาผนังใกล้กับประตูทิศเหนือของพระวิหาร
“ปู่ม่านย่าม่าน” ภาพ กระซิบรักบันลือโลก กับ ภาพ "หญิงสูงศักดิ์"
จิตรกรรมฝาผนัง ภายใน วัดภูมินทร์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งทรงคุณค่า สุดยอดงานศิลป์เมืองน่าน ที่ถ่ายทอดเรื่องราว พุทธชาดก คำสอนต่างๆ รวมไปถึงภาพวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้น
ศิลปินผู้วาดภาพในวัดภูมินทร์สันนิษฐานว่าเป็น “หนานบัวผัน” ศิลปินพื้นเมือง ชาวไทลื้อ ค่ะ
บางภาพชัดเจน บางจุดลางเลือน แต่เป็นภาพวาดที่ร้อยเรียง ภาพเล่าเรื่องราว หลากหลายที่สุด เท่าที่เคยเห็นมาค่ะ
นึกเคืองตัวเองไม่หาย ที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกมาก่อน ไม่อย่างนั้นคงเก็บภาพมาทุกจุดเลยค่ะ มาย้อนคิดย้อนดู เสียดาย..
มา น่าน ครั้งนี้ด้วยใจที่อยากจะมา มาตามรอย ปู่ม่านย่าม่าน อย่างเดียวเลย แต่ไม่เป็นไร มีเหตุให้กลับมา เมืองน่าน อีกครั้งละ อิอิ
วัดภูมินทร์ ตั้งอยู่บน ถนนสุริยพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ตรงข้ามกับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลเมืองน่าน และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน
ชมพอหอมปากหอมคอ แล้วก็ไปทาน ข้าวซอย ที่ ร้านเฮือนฮอม อร่อยใช้ได้ค่ะ เพื่อนที่เคยมาแนะนำด้วย
บรรยากาศร้านก็น่านั่ง ในร้านติดว่า ร้านธงฟ้า แต่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ราคาแพงเกินไปสำหรับเมนูอาหารพื้นเมือง
ขากลับ ระหว่างเส้นทาง น่าน - แพร่ แวะ ถ้ำผานางคอย เป็นภาคบังคับให้ชมถ้ำ เพราะหัวหน้าใหญ่ของทริปคอนเฟิร์มว่า ถ้ำนี้สวยมาก ไม่แพ้ใครเลย
ไหน ๆ ก็มาแล้ว อยากให้แวะชมดู ..อะ เอาไงเอากัน แม้ใจมันหวิวชอบกล (แต่ก็สวยจริง ๆ ค่ะ แนะนำเพื่อน ๆ เลยนะคะ ถ้าผ่านเส้นทางนี้)
อาจเป็นเพราะสภาพอากาศ ฝนตกปรอย ๆ และบรรยากาศโดยรอบ ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย นอกจากเรา แต่ยังดีที่มีชาวบ้าน 2-3 คน อยู่ร้านขายของเล็ก ๆ บริเวณด้านหน้าถ้ำ
สองแม่ลูกกอดกันกลม กล้า ๆ กลัว ๆ เดินขึ้นถ้ำ ซักพัก มีชาวบ้านข้างล่างเปิดเครื่องปั่นไฟให้ มีน้ำตกจำลองตรงประตูถ้ำด้วยค่ะ ถึงแม้จะมีเสียงน้ำตก ก็ยังวังเวง วิเวก โหวงเหวง สไตล์ถ้ำ อยู่ดี
กวาดสายตา ชมความงามของถ้ำ พร้อม ๆ ต่อสู้กับ ความกลัวในใจ เข้าไปไม่ถึง 50 เมตร จากถ้ำลึก 150 เมตร ในที่สุด สองแม่ลูกพร้อมใจ ปฏิวัติหัวหน้าใหญ่ ..ไม่เอาแล้ว จะออกจากถ้ำแล้ว ฮือๆๆ
ปิดท้าย ปิดทริปอำลา "แอ่วแพร่ แลน่าน" ด้วยภาพพี่ชายสุดเท่ห์คนนี้ ณ สี่แยกไฟเขียวไฟแดงแห่งหนึ่ง ใน จ.ลำปาง ค่ะ^^
Create Date : 18 กรกฎาคม 2555 |
|
45 comments |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2555 19:47:51 น. |
Counter : 4904 Pageviews. |
|
|
|