ผมสูดลมหายใจเข้าปอดปิดเปลือกตาเบาๆ
และปล่อยใจไปกับเสียงของเธอ
จงผ่อนคลายๆๆๆๆ
เธอออกคำสั่งช้าๆเป็นเสียงโมโนโทน
นำจิตมาวางไว้ที่มือข้างขวา จากนั้นจิตนาการว่ามีลูกตุ้มเหล็ก
วางอยู่ตรงกลางฝ่ามือ และรู้สึกว่าหนักมาก
ตรึงมือไว้จนยกไม่ขึ้น
ผมทำตามที่เธอสั่งอย่างว่าง่าย รู้สึกไว้ใจไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลง
เธอบอกว่าหากผมรู้สึกไม่สบายใจ
สามารถยุติทุกสิ่งได้ตลอดเวลา
ก่อนที่จิตจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ ผมดึงจิตให้เพ่งไป
ที่มือของผมตามที่เธอสั่ง
ว่ามีลูกตุ้มเหล็กอันมหึมามาทับเอาไว้
ต่อจากนั้นค่อยๆประคองสติ ย้ายลูกตุ้ม
มาไว้ที่มือข้างซ้าย
รู้สึกถึงน้ำหนักของลูกตุ้มที่ทิ้งลงมา
เวลาผ่านไปเท่าใด เสียงของเธอยังสม่ำเสมอมิได้ขาด
จิตนาการว่ามีก้อนน้ำแข็งวางอยู่บนหน้าผาก
ผมรู้สึกถึงความเย็นของน้ำแข็ง และหยาดน้ำที่ละลายอาบหน้า
จินตนาการที่รู้สึกเสมือนจริง ตรึงผมให้นิ่งและรู้สึกสงบ
รวมกันเป็นหนึ่งเดียวจดจ่อทำตามที่เธอสั่ง
กระทั่งไม่ได้ยินสรรพเสียงสำเนียงใด
จนถึงขั้นตอนสุดท้าย ทุกอย่างคล้ายหยุดนิ่ง
จินตนาการว่า ขณะนี้คุณยืนหันหลัง
ให้กับขั้นบันไดขั้นที่ยี่สิบ
แล้วจงถอยหลังลงมาทีละก้าวอย่างช้าๆๆๆ
ในตอนนั้นความรู้สึกของผมคล้ายๆจะผงะหงายลงมา
จิตผมโงนเงนไปมา คล้ายว่าจะตีลังกากลับหลัง
เสียงสั่งเบาๆแต่หนักแน่นในความรู้สึก
ก่อนที่จิตจะกระเจิดกระเจิงไปไกล
สั่งจิตให้มาอยู่ที่เท้าขวาก้าวถอยหลังลงมา
แล้วตามด้วยเท้าซ้าย
20 19 18 17 ถอยลงมาทีละขั้นทีละชั้น อย่างช้าๆ
.5 4 3 2 1
.
ขณะนี้คุณมาหยุดยืนที่พื้นแล้ว จิตของคุณสงบนิ่ง
ปราศจากสิ่งขุ่นมัว
คล้ายน้ำใสๆลองมองย้อนกลับไปเมื่อวัยเด็ก
แล้วบอกฉันว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
ความทรงจำวิ่งถอยหลังกลับ
คล้ายรถที่วิ่งผ่านฉากสองข้างทางไปอย่างรวดเร็ว
ผมเห็นคนกลุ่มหนึ่งแบกของสิ่งหนึ่งมาวางไว้ที่ศาลาวัด
จากนั้นทุกคนก็เดินห่างออกไป ทิ้งไว้ไม่หันหลังกลับผมกลัวมาก
คล้ายได้ยินคนร้องเรียกให้รอ แต่คล้ายๆว่าไม่มีใครได้ยิน
ผมรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้ รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
คล้ายๆกับที่ผมเคยฝัน สะดุ้งตื่นขึ้นมาทีไร
เหงื่อชุ่มโชกไปหมดทั้งตัว
ตอนนี้คุณเห็นอะไรคะ
ผมเห็นความตาย ผมเห็นดินกำลังกลบทับหลุมศพ
คนในหลุมศพเป็นใคร
ผมเห็นหน้าเธอแล้ว เธอคือแม่ผมเอง
ผมตอบเธอได้แค่นั้น ต่อจากนั้นผมก็สะอื้นไห้คล้ายเด็กๆ
ร่างของแม่กำลังถูกกลบฝัง พ่อร้องไห้ปิ้มว่าจะขาดใจ
พ่ออุ้มผมไว้ในอ้อมแขน
ภาพสุดท้าย ทุกคนเดินจากมา ทิ้งแม่ผมไว้ที่วัด
ผมรู้สึกสงสารแม่จับใจ ภายในใจตื่นตระหนก และหวาดกลัว
ถอยหลังออกมาจากเหตุการณ์นั้น
มาช่วงที่คุณเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ
"ครับ"
คุณรู้สึกยังไงบ้าง
จิตผมคงผูกติดกับแม่ ตอนนั้นผมเพิ่งจะอายุสองขวบเศษ
มีคำถามมากมายว่าทำไมใครๆถึงทิ้งเธอไว้แบบนั้น
แม่จะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงเธอหรืเปล่า
หากว่าเธอตื่นขึ้นมาในหลุมที่ไม่มีอากาศหายใจ
แม่จะรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกไหม
ขณะนี้คุณเข้าใจหรือยังคะ ว่าทำไมคุณจึงกลัวที่แคบๆ
และทำไมจึงกลัวการพลัดพราก
ปล่อยแม่ไปเถอะนะ ท่านอยากให้คุณเติบโตและเดินต่อไป
ครับผมเข้าใจแล้ว
เราจะโตเป็นผู้ใหญ่เสียที
เธอกระซิบเบาๆแต่ในความสงบเงียบ
มันดังพอที่ผมจะได้ยินอย่างแจ่มชัด
บัดนี้สิ่งที่คั่งค้างอยู่ภายในใจ ได้รับการชำระล้าง
ผมเป็นผู้ใหญ่แล้วและจะไม่ฝันร้ายอีกต่อไป
ขอให้แม่หลับสบาย ผมได้พบกับอิสระของใจเสียที
ฉันจะนับหนึ่งถึงสามละนะ แล้วให้คุณขยับมือและเท้า
ต่อจากนั้นเมื่อฉันนับสี่ถึงหกให้คุณขยับร่างกายทั้งหมด
เมื่อฉันนับหกถึงเก้าให้คุณรู้สึกตัวทั่วพร้อม
ปลุกสติให้ตื่นขึ้นจากภวังค์
และ เมื่อฉันนับสิบให้คุณลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นนะคะ
สิ้นเสียงนับสิบ ผมลืมตาตื่น
เธอยืนยิ้มอยู่ข้างๆเราต่างยิ้มให้กัน
แอมอร
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่แต่คุณนายอุ้มก็คิดเช่นนั้น
อ่านแล้วแวะมาเจิมบอกค่ะพี่แอมอร