เหยียบแผ่นดินไทยวันแรก
ไม่ทราบว่าใครเป็นอย่างป้าโซบ้าง เมื่อเครื่องบินบินเข้าสู่น่านฟ้าเมืองไทย จะมีความรู้สึกวางใจ มั่นใจปนผยองยังไงชอบกล ถึงแม้ล้อจะยังไม่แตะพื้น..ยังคงไว้ซึ่งการลุ้น(ว่าจะรอดหรือไม่)อยู่ก็ตาม มันคงเป็นความรู้สึกที่ว่าเข้าสู่เขตพื้นที่ที่เราจะทำอะไรก็ได้ เป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของบ้านเราเองมังคะ..
ถึงแม้ว่าบ้านเราที่ไม่ว่ากี่สมัยกี่ยุคการเมืองจะเปลี่ยนไปยังไง แต่โดยรวมแล้วก็ยังคงความเป็นไทยแบบเดิมๆไว้อย่างครบถ้วน ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ รถติดก็ยังคงติดอยู่เช่นนั้น อาหารการกินก็สามารถซื้อหากินได้ตลอดยี่สิบสี่ชม. ความรู้สึกยามได้เข้ามาอยู่ในบ้านเมืองเราเอง หันไปทางไหนก็ได้ยินภาษาคุ้นหู มันเป็นความคุ้นเคย วางใจ อุ่นใจ สารพัด ถึงแม้จะต้องผจญกับอันตรายแบบคนเมืองบ้างก็ตามที
พอล้อเครื่องบินแตะพื้นแผ่นดินไทย ความรู้สึกมันวาบเข้ามาในใจ.. หุหุ ทีนี้แหละถิ่นข้าละ .. พวกต่างชาติทั้งหลายต้องลดตัวเป็นพลเมืองชั้นสองกันมั่ง ยิ่งไปถึงตม.พวกแถวคนไทยเดินผ่านไปฉลุยๆ หันมามองแถวพวกต่างชาติอย่างเย่อหยิ่งซะหน่อย ก่อนสะบัดหน้าไปรับกระเป๋าเดินทาง
อกเค้าอกเราค่ะ.. เวลาเราไปอยู่บ้านเค้า เราก็ต้องเป็นพลเมืองชั้นสอง ถึงแม้จะอยู่อย่างสบายตามกฏสังคมของเขาที่วางไว้อย่างดีเยี่ยมก็เถอะ แต่ยังไง้..ยังไงก็ยังรู้สึกเป็นลูกเมียน้อยอยู่ดี ตอนก้าวเข้ามาอยู่ที่นี่ช่วงแรกๆ ลุงก็เคยบอกไว้แล้วว่าจะรู้สึกยังไง เพราะลุงเองตอนไปอยู่เมืองไทยก็เคยรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน ลุงบอกว่าการเป็นคนต่างชาติที่เมืองไทยลำบากกว่า เพราะบางอย่างไม่สามารถกำหนดได้เป็นมาตรฐานตายตัว โดยเฉพาะการยืดหยุ่นได้โดยมีเงินเป็นปัจจัยหลัก
ไปถึงกรุงเทพฯตอนเย็นๆ หลังจากเข็นกระเป๋าเซกันแซ่ดๆสองคนแม่ลูกออกมาข้างนอก เจอคุณนายแม่กับลูกชายคุณนายยืนยิ้มแป้นรอรับอยู่ เจ้าตัวเล็กวางมาดคนมาจากเมืองนอกค่อยๆเดินนวยนาดโบกมือให้คุณยายอย่างเก๋ไก๋ ไม่ได้วิ่งไปกอดเหมือนอย่างเคย คงด้วยปีนี้โตขึ้นเยอะมาดเลยเยอะเป็นธรรมดา
และแล้ว .. การตามล่าอาหารไทยใส่กระเพาะก็ได้เริ่มขึ้น ณ มื้อเย็นนั้นเอง ประเดิมด้วยแกงส้มชะอมทอด ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ผัดคะน้าหมูกรอบ น้ำพริกกะปิ จบออเดิฟมื้อแรกไว้แค่นี้ก่อนค่ะ .. ไว้ตามล่าวันต่อๆไป
Create Date : 01 กันยายน 2552 |
|
16 comments |
Last Update : 1 กันยายน 2552 16:00:11 น. |
Counter : 1102 Pageviews. |
|
|
|
เที่ยวให้สนุกและกินให้ครบ ในสิ่งที่อยากทำนะคะ